GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2557

สมชาย โพสต์เฟซบุ๊ก ฉะ "อัมสเตอร์ดัม" อย่าหลอกคนไทย/ อะไรจะเกิดขึ้นถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า “ยิ่งลักษณ์” ผิด?



เห็นฝรั่งอย่างนายอัมสเตอร์ดัมล้อบบี้ยิสต์ที่รับจ้างทักษิณ โฟนอินหลอกคนเสื้อแดง ระหว่างการชุมนุมรวมพลนปชที่ถนนอักษะ แล้วทนไม่ไหว ทนไม่ได้ที่เห็นคนต่างด้าวเห็นแก่เงินพวกนี้ มาโกหกหลอกลวงคนไทย แม้พวกผู้ชุมนุมเค้าจะไชโยโห่ร้องด้วยสำคัญผิดหรือเชื่อคำโกหกพกลม ฝรั่งขี้นกคนนี้ก็ตาม
แต่ข้อเท็จจริงที่ต้องให้พี่น้องคนไทยทุกคนรู้คือ สิ่งที่หมอนี่พูดนั้นโกหกครับ 1)นายอัมเสตอร์ดัมรับจ้างล้อบบี้พาอดีตสสหญิงบางคนไปเจนีวาจริงเมื่อวันที่25มีคที่ผ่านมา เพื่อยื่นหนังสือให้กับนายแอนเดอร์สจอห์นสัน เลขาธิการองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศIPUจริง แต่เป็นการไปยื่นหนังสือเฉยๆ ไม่ได้มีการพบปะพูดคุยกับตัวแทนชาติสมาชิกรัสภาประเทศต่างๆแต่อย่างใด อาจเนื่องจากพวกเขาจงใจหรืออาจได้รับการปฏิเสธให้เข้าร่วมประชุมIPU. ที่มีการประชุมในระหว่างห้วงวันที่15-19มีนาคม พูดง่ายๆคือไปยื่นวันที่25-26มีนาคมซึ่งการประชุมจบไปตั้งเกือบสัปดาห์แล้ว จึงไปยื่นหนังสือ ไม่มีการหยิบยกเข้าที่ประชุมรัฐสภาระหว่างประเทศตามที่มาโฆษณาโกหกคนไทยแต่อย่างใดเลย 2)การยื่นหลังจากการประชุมIPUปีนี้จบไปแล้ว ทั้งๆที่บุคคลเหล่านี้รู้อยู่แก่ใจว่า มีการประชุมวันไหน นั่นคือรู้อยู่แก่ใจว่าถ้าเสนอเข้าที่ประชุมจริงก็จะไม่ได้รับความสนใจและอาจถูกโจมตีเรื่องการปลอมรัฐธรรมนูญ การโกงคะเเนนโดยเสียบบัตรแทนกัน รวมถึงการเสี้ยมให้ฮาร์ดคอร์ข่มขู่ศาล ปปช องค์กรอิสระ และการปล่อยให้ใช้ระเบิดและเอ็ม79ยิงใส่ประชาชนที่มาชุมนุม ซึ่งผมได้มอบเทปข้อมลต่างๆไว้ให้กับIPUทั้งหมดแล้ว 3)การยื่นกับเลขาธิการแอนเดอร์สที่กำลังจะหมดเทอมในอีกไม่กี่วัน เพราะมีการเลือกเลขาธิการใหม่นายมาร์ตินชาวคาเมรูนที่เราได้ช่วยเลือกและยินดีกันในที่ประชุมIPUกันนั้นแสดงถึงความไม่เอาไหนของนายอัมเสตอร์ดัม ล้อบบี้ยิสต์ที่ไม่มีข้อมูลพอจะรู้ช่องทางจริง แถมเลขาธิการคนเก่าเค้าบอกรับแค่ว่าจะตอบรับจดหมายที่ยื่นมา ดันไปโกหกทักษิณและผู้ชุมนุมว่าเค้าตอบรับและตำหนิศาลองค์กรอิสระของไทย โกหกครับ เรื่องจริงเค้าแค่ตอบรับว่าได้รับหนังสือเท่านั้น ไม่สามารถมาประนามหรือออกความเห็นตามที่พวกนี้โม้ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่เลขาธิการ ต้องเป็นมติที่ประชุมเท่านั้น อีกปีหนึ่งมั้งถึงจะเอาเรื่องเข้า ถ้าเค้าสนใจนะ
ขอร้องเถอะนายอัมสเตอร์ดัม นายจะหากินหลอกเงินคุณทักษิณได้บ้างไม่ได้บ้าง ทะเลาะกันอย่างที่เป็นข่าวเบี้ยวเงินกันบ้าง ผมไม่สนใจคุณเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่นายมาหลอกคนไทย แม้จะมีความเห็นทางการเมืองอาจแตกต่างบางเรื่องกับผม แต่เค้าก็เป็นคนไทยเชื้อสายเดียวกับผม ซึ่งผมยอมไม่ได้ที่ให้ฝรั่งขี้นกอย่างนายมาโกหกหลอกลวงเช่นนี้. ขอให้เลิกซะ พูดความจริงและขอโทษคนไทย ขอโทษประเทศไทยที่นายบังอาจทำสิ่งที่ไม่ดีครั้งนี้
 
ยันสหภาพรัฐสภาโลก แค่รับหนังสือเฉยๆ ไม่ได้ตอบรับจะตำหนิองค์กรอิสระของไทย วันที่ 7 เม.ย.นายสมชาย แสวงการ สว.สรรหา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า เห็นฝรั่งอย่างนายอัมสเตอร์ดัมล็อบบี้ยิสต์ที่รับจ้าง....... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1kBdoDt
 
คลิป "ทนายฝรั่งของแม้ว" มองกปปส. เป็นภัยตัวฉกาจเทียบ "ตาลีบัน" - แนะปฏิรูปกองทัพ


 
“โรเบิร์ต อัมเตอร์ดัม” ซัด “สุเทพ” ประกาศรัฏฐาธิปัตย์ผิดหลักนิติธรรม !!!!!
เดลินิวส์ออนไลน์

“โรเบิร์ต อัมเตอร์ดัม” ซัด “สุเทพ” ประกาศรัฏฐาธิปัตย์ผิดหลักนิติธรรม เตือนทั่วโลกจับจ้อง ชี้ผู้มีส่วนร่วมเจอฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ

เมื่อเวลา 18.05 น. วันที่ 6 เม.ย.นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ฝ่ายกฎหมายของนปช. สไกป์เข้ามายังเวทีการชุมนุมนปช. ถนนอักษะ จังหวัดนครปฐม ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ทั้งโลกกำลังมองมาที่ประเทศไทย และกำลังมองเห็นว่าอะไรเกิดขึ้น เราจะต้องยืนยันว่าขณะนี้คนที่เป็นเจ้าของประเทศคือประชาชน และเราจะต้องไม่ยอมให้เครือข่ายของพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาริดรอนอำนาจของประชาชน

 เราไม่สามารถให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ใช้คำว่าปฏิรูปได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใช้คำว่าประชาธิปไตยได้ รวมถึงตุลาการที่ออกมาเรียกตัวเองว่าเป็นศาล และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ออกมาพูดคำว่าสันติภาพ คนของเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยต่างหากที่จะต้องเป็นคนพูดคำว่าปฏิรูป 

และสิ่งแรกที่พวกเราจะต้องทำ คือ การดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) เพราะสิ่งที่นายสุเทพประกาศเป็นรัฏฐาธิปัตย์ถือเป็นการกระทำที่ขัดหลักนิติธรรม

 จึงขอเตือนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องระวังเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ เราจะส่งรายชื่อบุคคลทั้งหมดไปฟ้องรัฐสภาโลก เพื่อจะระงับการการดำเนินงานทางการเมืองในต่างประเทศของบุคคลเหล่านี้ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ที่จะเดินทางไปลอนดอนคงจะไม่ได้ไป.

"โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม" ยิงสัญญาณผ่านเวทีแดง  เป่าลมหูแดงที่คู่ควรปฏิรูปมากกว่ากปปส. ยันปฏิรูปกองทัพ ให้ "บิ๊กตู่" รับอำนาจหัวหน้ารบ.  ยันกลุ่มกปปส.เลวร้ายเทียบเท่าตาลีบันของไทย   
วันนี้ ( 6 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ถนนอุทยาน (อักษะ) เวทีชุมนุมคนเสื้อแดง นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความต่างประเทศ นปช. สไกป์มาเวทีเสื้อแดง โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า เรื่องแรกที่อยากจะบอกคือ ขณะนี้ทั้งโลกกำลังเห็นความเป็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้น มีแสงส่องมาที่ประเทศไทยโดยเฉพาะที่พรรคประชาธิปัตย์ เราต้องยืนยันว่าขณะนี้คนที่เป็นเจ้าของประเทศคือประชาชน เราไม่ยอมให้พรรคประชาธิปัตย์และเครือข่าย เข้ามาริดรอนอำนาจของประชาชน เราไม่สามารถให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ใช้คำว่าปฏิรูปได้ เราไม่อนุญาตให้ใช้คำว่าประชาธิปไตย ไม่อนุญาตให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ใช้คำว่าปราบปรามคอรัปชั่น หรือให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มายึดการเลือกตั้ง เราไม่สามารถให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาเรียกตัวเองว่าเป็น ศาล ไม่สามารถให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พูดคำว่าสันติภาพได้ ไม่สามารถให้คณะกรรมการสิทธิ์มนุษยชน จำกัดนิยามสิทธิมนุษยชนของชาวโลก เราจดชื่อไว้หมดแล้วใครเป็นเครือข่ายของประชาธิปัตย์ ที่มาต่อต้านประชาธิปไตย
 
          คนเสื้อแดงต่างหากที่จะเป็นคนนิยามคำว่าปฏิรูป สิ่งแรกที่ต้องทำยอมรับศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ อาจไม่เข้าใจประเด็นไอซีซี ซึ่งสามารถโทรมาหาตนได้ จะอธิบายให้ฟัง ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะหยุดรอคอยในสิ่งที่เป็นไปได้ เพราะฉะนั้นจงลงนามตั้งแต่วันนี้
 
          นายโรเบิร์ต กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือรัฐประหาร ซึ่งเป็นไปอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 52-53 ทุกประเทศ ต่างชาติ เห็นถึงความยากลำบากในการสมานฉันท์ ก็เพราะยังมีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ถ้าปราศจากการปฏิรูปมาตรานี้ พรรคประชาธิปัตย์จะใช้มาตรานี้ จัดการศัตรูทางการเมืองตลอดไป ต้องแน่ใจว่ามาตรานี้ไม่ก่อให้เกิดการข่มขู่ คุกคามประชาชน โดยเฉพาะกรณีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข หรือคนอื่นๆ ที่โดนมาตรานี้เล่นงาน สิ่งที่ปฏิรูปคือต้องย้อนกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ไม่มีหนทางอื่น
           เราต้องปฏิรูปกองทัพด้วย เป็นไปได้อย่างไรที่พล.อ.ประยุทธ์ มายืนอธิบายเรื่องประชาธิปไตยให้เราฟัง มีคนเสื้อแดงสักคนไหม ที่จะให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกไปจากประเทศนี้ ซึ่งเขาต้องฟังหัวหน้ารัฐบาลคือนายกรัฐมนตรี สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องปฏิรูปหลักนิติธรรมในประเทศไทย ไม่ใช่เสื้อแดงจะพูดเรื่องนี้เรื่องเดียว ทุกพรรคการเมืองต้องร่วมมือกันปฏิรูปหลักนิติธรรม เราแต่ละคนอาจมีวิธีแตกต่างกันในวิธีปฏิรูปประเทศไทย มีวิธีง่ายมากคือ หยุดดื่มเบียร์ เพียงแค่บอยคอตธุรกิจที่สนับสนุน กปปส.เท่านั้น เสื้อแดงก็ชนะแล้ว
           "เราต้องไปยืนถามคนสองคน คือ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ที่มีข้อกล่าวหาสังหารประชาชน ว่าคนเหล่านี้หรือจะมานำการปฏิรูป จะมีคนไทยคนไหนยอม คนที่มีข้อหาฆาตกรรมขัดขวางคนบริสุทธิ์ไม่ให้ไปเลือกตั้ง เราควรเรียก กปปส.ในชื่อที่แท้จริงคือ ตาลีบันหรือผู้ก่อการร้ายของอัฟานิสถาน แท้จริงแล้ว ตาลีบันของประเทศไทย เลวร้ายกว่าตาลีบันที่พวกตะวันตกรู้จักเสียอีก" นายโรเบิร์ต กล่าว
 
            เรายังต้องต่อสู้ในต่างประเทศต่อไป เราประสบความสำเร็จที่สหภาพรัฐสภาฯโลก (ไอพียู) มีจดหมายประนามศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสิทธิ์นักการเมืองกว่า 200 คน เราคงจำได้ว่า ไอพียู ส่งผู้สังเกตุการณ์การถอนประกันนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และไอพียู มีความตั้งใจอย่างมุ่งมั่น ที่จะมาดูการทำงานของ ศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช. การแทรกแซงหรือเข้ามาตรวจสอบ เป็นเพียงหนทางเริ่มต้นเท่านั้นเอง เนื่องจากเห็นพฤติกรรมตาลีบันประเทศไทย ว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังทำอะไรอยู่ โลกตะวันตกคงยอมรับไม่ได้อีกแล้ว เราจะดำเนินการต่อสู้บนหนทางสันติวิธี ที่อยู่ในสายตาชาวโลกต่อไปอย่างไม่ลดละ
             "รู้ดีคนที่ออกมาต่างอึดอัดกระบวนการยุติธรรม ขณะนี้สิ่งที่เป็นแขนของเราคือ การแทรกแซงหรือนำชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แต่ละคนขึ้นสู่เวทีโลก ว่าคนเหล่านี้ต้องถูกประนามและต่อต้าน การที่จะประนามชื่อคนเหล่านี้ ให้ชาวโลกปฏิเสธ คนเหล่านี้อาจใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีก็ตาม เราจะส่งรายชื่อเหล่านี้ไปนานาประเทศ โดยเฉพาะองค์กรที่ดูแลประชาธิปไตยในประเทศไทย และจะส่งรายชื่อไปยังรัฐบาลต่างๆ เพื่อระงับการติดต่อทางเศรษฐกิจและเส้นทางการเงิน เพราะฉะนั้นนายอภิสิทธิ์ อาจจะไม่ได้เดินทางไปลอนดอนได้ง่ายๆ อีกแล้ว ขอให้รู้ไว้ว่า เราไม่โดดเดี่ยว เหงาหงอยอีกต่อไป วีรชนเสื้อแดงที่เสียชีวิตไปโดยไม่เปล่าประโยชน์ แต่เพื่อป่าวประกาศว่านายอภิสิทธิ์ และพวกพ้องได้ทำอะไรกับประเทศไทย" นายโรเบิร์ต กล่าว
คลิปจากเพจ "เสมา ขุนศึกรักสถาบัน" .... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1kBdoDt
 


อัมสเตอร์ดัมโกหกข้ามชาติ !!!!!
คมชัดลึกออนไลน์

อัมสเตอร์ดัมโกหกข้ามชาติ!  กระดานความคิดโดยจอกอ
...
บทบาทในการคัดกรองและส่งสารของสื่อในยุคคอนเวอร์เจนท์ กำลังอยู่ในภาวะถดถอย สวนทางกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสื่อสาร ความเร็วมากขึ้น ความถูกต้องน้อยลง นี่ยังไม่ต้องพูดถึงความกล้าหาญทางจริยธรรม ที่แทบจะหายากยิ่ง เมื่อมีการกระทำความผิด ในมหาสมุทรของข้อมูล ข่าวสารวันนี้ ความฉาบฉวย กลายเป็นปรากฏการณ์ร่วมในการทำงานของสื่อ โดยเฉพาะสื่อกระแสหลัก ดังนั้น ภาพที่เห็น เสียงที่ได้ยิน จึงอาจไม่ใช่เรื่องจริง

เราถกเถียงกันเรื่อง “คนรุ่นเก่า” กับ “คนรุ่นใหม่” มีคนพยายามอธิบายว่า คนรุ่นใหม่ไฟแรง มีความกระตือรือร้น และความคิดที่กว้างไกลยิ่งกว่าคนรุ่นเก่า ถ้อยคำนี้ เป็นจริงอยู่บ้าง แต่ไม่ได้แปลว่าคนรุ่นเก่า ที่ทำงานกันมาตั้งแต่ยุคห้องข่าวเดี่ยว เขียนข่าวด้วยลายมือ จนกระทั่งสามารถฝ่ากำแพงเทคโนโลยี ข้ามภพมาสู่ยุคคอนเวอร์เจนท์ได้ จะเป็นเสมือนตะเกียงที่ไร้น้ำมัน เพราะคนรุ่นนี้เอง ที่ผ่านประสบการณ์งานข่าวมาอย่างยาวนาน เรียนรู้และเข้าใจวิธีการปล่อยข่าวลือ ข่าวลวง และอาจบอกได้ทันทีถึงความน่าเชื่อถือของข่าว คล้ายคนร่อนทอง สามารถแยกแร่ทองออกจากก้อนหิน

หลายวันก่อนที่ถนนอักษะ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายต่างด้าวของทักษิณ ชินวัตร โฟนอินมายังคนเสื้อแดงว่า เขาได้นำอดีต ส.ส.หญิง พรรคเพื่อไทย คนหนึ่งไปพบ แอนเดอร์ส จอห์นสัน เลขาธิการองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ (ไอพียู) และมีการประณามศาล และกระบวนการยุติธรรมของไทย ทั้งที่เป็นเพียงการไปยื่นหนังสือ หลังการประชุมที่เจนีวา ราว 1 สัปดาห์ และไม่ได้มีการพูดคุยเจรจากันอย่างใด แน่นอนว่า ผู้ชุมนุมย่อมต้องโห่ร้องยินดีกับข่าวใหม่ที่สอดคล้องกับความเชื่อของเขา และสื่อจำนวนไม่น้อยก็กระโดดตะครุบข่าวนี้ โดยไม่ลังเลเลยว่า กำลังถูก อัมสเตอร์ดัม ลูกจ้างทักษิณ ปล่อยกระต่ายให้วิ่งตามอีกครั้ง

อัมสเตอร์ดัม ก็เป็นเช่นเดียวกับทีมทนายทั้งหลายของทักษิณ ที่เขามีไว้ทำหน้าที่สารพัด ทั้งว่าความ ทั้งลืมทิ้งถุงขนมใส่เงิน 2 ล้าน และทั้งเป็นโฆษกส่วนตัว เช่น กรณีนายนพดล ปัทมะ แต่ที่แตกต่าง คือ อัมสเตอร์ดัม ทำหน้าที่ล็อบบี้ยิสต์ และเดินสายทำลายภาพลักษณ์ประเทศไทยตามคำสั่งของนายด้วย

ทักษิณ ใช้เงินเป็นร้อยล้านในการจ้างทนาย ต่อสู้คดีความของเขา แน่นอนว่า บางคดีเขาชนะ หลายคดีแพ้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ เพราะศาลพิจารณาคดีไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ มีบางเรื่องที่ผมแพ้คดีทักษิณ เพราะศาลฟังว่า เราทำให้เขาเสียหายจริง แต่ทุกครั้งที่ทักษิณชนะคดี ตั้งแต่ชนะคดีซุกหุ้นในศาลรัฐธรรมนูญ และคดีหมิ่นประมาทบางเรื่องที่เขาตั้งตัวแทนเป็นโจทก์ฟ้อง แต่ผลคดีเหล่านี้ไม่ถูกนำมาพิจารณาเลยเมื่อทักษิณและลิ่วล้อของเขา ซึ่งรวมทั้ง อัมสเตอร์ดัม มุ่งโจมตีศาล และกระบวนการยุติธรรมของไทย

กล่าวเฉพาะกรณีอัมสเตอร์ดัม เอเชียอัพเดทเคยเสนอข่าวคำปราศรัยของเขาบนเวทีเสื้อแดง ราชประสงค์ ว่า กองทัพบกได้ซื้ออาวุธจากสหรัฐเพื่อมาเข่นฆ่าประชาชน นอกจากนั้นรัฐบาลอเมริกายังส่งสไนเปอร์มาสอนสไนเปอร์ไทยให้ยิงประชาชน ซึ่งกองทัพบกได้ดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทกับนายอัมสเตอร์ดัมแล้ว นี่เป็นเพียงเรื่องหนึ่งในหลายร้อยเรื่อง ที่ อัมสเตอร์ดัม โกหกข้ามชาติ ทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศไทย

เราจะเชื่อสื่อได้อย่างไร ในสถานการณ์ที่ความจริงเสมือนถูกปล่อยออกมาไม่เว้นแต่ละวัน นั่นหมายถึงว่า สื่อต้องทำงานหนักมากขึ้น ตรวจสอบมากขึ้น ใช้ความเป็นมนุษย์ที่มีเหตุผล คัดกรองข่าวสารมากขึ้น

มิฉะนั้น เราก็จะถูกพัดพาไปกับคลื่นของความโกหกต่อไป
See More


สมชาย แสวงการ
 
คำถามยอดฮิตที่ผมได้รับเป็นประจำ ว่าจะจบเมื่อไหร่ จบอย่างไร จะชนะมั้ย ผมเรียนได้เลยครับว่า ธรรมะที่เดินหน้าสู้ด้วยเเรงสนับสนุนของมหาประชาชนชนะเเน่นอนร้อยเปอร์เซนต์ ประเทศชาติชนะและมีทางออกแน่ ผู้ที่คิดร้ายต่อแผ่นดินย่อมพ่ายแพ้ ส่วนคำตอบว่าเมื่อไหร่นั้น ตอบว่าไม่นานครับ นับจากวันขึ้นปีใหม่ไทยไปอีกไม่นาน. กรรมที่พวกเขาก่อขึ้นต่อประเทศชาติเริ่มทะยอยลงทัณท์ไปเรื่อยๆอาจใช้เวลา1-2เดือน จากนั้นทุกอย่างก็แจ่มใสเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปประเทศครับ
คำตอบที่คุณสริอัญญาเขียนลงในคอลัมน์แนวหน้านั้น เป็นข้อสนับสนุนทางกฏหมายที่ตรงกับใจมากที่สุดและเป็นเช่นนั้นจริงที่ใครก็มิอาจแถเป็นอย่างอื่นได้ต่อไปครับ  อะไรจะเกิดขึ้นถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า “ยิ่งลักษณ์” ผิด?
โดย สิริอัญญา
วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน 2557

ในขณะนี้สายตาของประชาชนไทยทั้งประเทศกำลังจับจ้องติดตามการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีที่นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดรัฐธรรมนูญ ในกรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เพื่อนำพลตำรวจเอก เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป?

ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื่องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้วเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2557 และมีคำสั่งให้นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยื่นคำคัดค้านแก้คดีภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของศาล ซึ่งคาดว่าจะครบกำหนดราววันที่ 20 เมษายน 2557

แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่เป็นเรื่องเดียวกันกับคดีที่นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ฟ้องนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อศาลปกครองและศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง และคดีถึงที่สุดแล้วว่าการที่นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีคำสั่งย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี นั้นเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ

ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เป็นการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการโดยไม่ชอบ เพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้อง เพราะเป็นการย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เพื่อที่จะให้มีตำแหน่งว่างลง แล้วย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาครองตำแหน่งแทน เพื่อให้ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่างลง แล้วแต่งตั้งพลตำรวจเอก เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นพี่ภริยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแทน

การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้มีคำวินิจฉัยข้อเท็จจริงเสร็จเด็ดขาดเป็นที่สุดแล้ว แล้วโดยทางผลของกฎหมาย เมื่อนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผู้ถูกร้องหรือเป็นคู่ความในคดีดังกล่าว ผลของคำพิพากษานั้นทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายย่อมผูกพันนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีอื่นด้วย

ดังนั้นเมื่อกระบวนการที่นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยื่นคำคัดค้านเสร็จสิ้นลง ศาลรัฐธรรมนูญจึงอาจมีคำสั่งงดไต่สวนพยาน แล้วฟังพยานหลักฐาน อันเป็นที่สุดแล้วตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งมีความชัดเจนว่ามีการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ

กรณีจึงไม่ต้องสืบพยานตามวิธีพิจารณาความในศาลรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญสามารถที่จะประชุมปรึกษาคดีได้ทันที จากนั้นก็จะได้มีคำวินิจฉัย และถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากระทำความผิด ความเป็นรัฐมนตรีของนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะสิ้นสุดลงตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ

รัฐธรรมนูญมาตรา 182 บัญญัติว่า ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว เมื่อมีกรณีต่าง ๆ เกิดขึ้นหลายกรณี โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คือ ได้กระทำการอันต้องห้ามตามมาตรา 267, มาตรา 268 และมาตรา 269

การแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการอันเป็นความผิดรัฐธรรมนูญก็คือการกระทำอันต้องห้ามตามมาตรา 268 ประกอบมาตรา 266 (2) ดังนั้นความเป็นรัฐมนตรีของนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงสิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว

คำว่า “ความเป็นรัฐมนตรี” นั้น หมายถึงรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีด้วย และเมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิ้นสุดลง กรณีก็จะต้องด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 180 ที่บัญญัติว่าคณะรัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งเมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 182

คนทั้งหลายจึงรู้จึงเข้าใจอย่างเดียวกันว่า เมื่อใดที่นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีทั้งหมดก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งด้วย

ปรากฏว่าเริ่มมีเสียงแย้มออกมาจากทีมงานของพรรคเพื่อไทยว่า ถึงแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเช่นนั้น ทั้งนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และผู้ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีทั้งคณะก็ยังจะต้องทำหน้าที่ต่อไป เพราะทั้งหมดนั้นได้พ้นจากตำแหน่งไปแล้วตั้งแต่วันยุบสภา ที่ยังอยู่นี้ก็เพราะต้องทำหน้าที่ต่อไปตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ ในมาตรา 181

เป็นการตั้งแง่ไม่ยอมรับปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าหากว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้มิต้องคำนึงถึงคุณธรรม หรือจริยธรรม หรือหลักนิติธรรมใด ๆ กันอีกต่อไปแล้ว แล้วประชาชนจะมองเรื่องนี้ด้วยความรู้ความเข้าใจอย่างไร?

ประการแรก จะต้องทำความรู้ความเข้าใจให้แจ่มแจ้งว่า รัฐธรรมนูญบัญญัติกรณีเรื่องนี้ไว้ด้วยถ้อยคำสองคำที่มีความหมายต่างกัน คือคำว่า “สิ้นสุด” กับคำว่า “พ้นจากตำแหน่ง” โดยคำว่า “พ้นจากตำแหน่ง” นั้นอาจต้องทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติได้ แต่คำว่า “สิ้นสุด” นั้นเป็นอันสิ้นสุดลงทั้งตำแหน่งและหน้าที่ นี่คือความแตกต่างที่เป็นนัยยะและสาระสำคัญของเรื่องนี้

ประการที่สอง เมื่อมีการยุบสภาหรือเมื่อวาระของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง รัฐธรรมนูญบัญญัติว่าคณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 181 บัญญัติว่า “คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง” ต้อง “อยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” ซึ่งมีความชัดเจนว่าให้อยู่ใน “ตำแหน่ง” และ “เพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” นี่เป็นกรณีสำหรับการพ้นตำแหน่ง

ประการที่สาม ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ซึ่งเป็นผลให้ความเป็นรัฐมนตรีของนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร “สิ้นสุดลง” จึงเป็นการพ้นทั้ง “ตำแหน่ง” และพ้นทั้ง “ตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” ด้วย

ประการที่สี่ เมื่อนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องพ้นทั้งจากตำแหน่งและต้องพ้นทั้งจากตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปแล้ว ก็เป็นผลให้บรรดารัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเช่นเดียวกันด้วย

นี่คือความหมายที่แท้จริงตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้อย่างชัดแจ้งแล้ว ดังนั้นหากจะมีการแถว่าไม่พ้นจากตำแหน่ง ไม่พ้นจากตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จึงเป็นการแถข้าง ๆ คู ๆ ที่ไม่มีผลใด ๆ ตามกฎหมาย และฐานะการดำรงตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ย่อมเป็นอันสิ้นสุดลงทั้งคณะในพลันที่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากระทำความผิด

และนับแต่เวลานั้นจะสั่งราชการ จะปฏิบัติหน้าที่ราชการ จะใช้ทรัพยากรหรืองบประมาณแผ่นดินใด ๆ ไม่ได้เด็ดขาด ส่วนราชการและข้าราชการทั้งหมดไม่มีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามอีกต่อไป แต่ถ้ายังดึงดันและมีใครร่วมคบคิดเพื่อให้มีอำนาจต่อไป นั่นก็หมายความว่าได้ก่อเกิดการกบฏเพื่อยึดอำนาจหรือรัฐประหารตัวเองเกิดขึ้นแล้ว!

นั่นจะเป็นจุดชนวนวิกฤตใหญ่ในประเทศ เพราะเมื่อผู้ที่พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ได้ยึดอำนาจรัฐ ก็เป็นการกระทำกบฏต่อแผ่นดินชัดเจน ย่อมเป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจหน้าที่ทั้งหลายในการกำราบปราบปรามและจัดการกับการก่อกบฏนั้น

ณ เวลานั้นนั่นแหละ บทบาทของกองทัพไทยและผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหลายว่าจะสนับสนุนผู้ก่อกบฏ หรือจะจัดการกับผู้ก่อกบฏ ก็คงจะได้เห็นกัน!

ถ้าหากกองทัพและผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมด้วยกับผู้ก่อกบฏ ก็จะเป็นการกระทำการปฏิวัติโดยนักการเมืองที่พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งนับเป็นการปฏิวัติตนเองโดยนักการเมือง และมีกองทัพและผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วม ณ บัดนั้นก็จะเป็นอันสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน ระบอบทักษิณก็จะยึดประเทศไทยในรูปของการปฏิวัติตัวเอง

ถ้าหากเกิดสถานการณ์เช่นนั้น มวลมหาประชาชนไม่ว่าที่มีองค์กรใดเป็นองค์กรนำ จะทำกันอย่างไร รวมทั้งบรรดานายทหารทั้งหลายของทุกเหล่าทัพที่ไม่ยอมตามผู้บัญชาการเหล่าทัพ และไม่ยอมเข้าร่วมการก่อกบฏ จะตัดสินใจอย่างไรและจะทำกันอย่างไร
ก็ต้องคิดอ่านกัน เพราะวันเวลานั้นใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว มันจะเกิดขึ้นในยามที่พระอาทิตย์โคจรสถิตในราศีเมษ ทรงพลานุภาพแกร่งกล้า มีดาวพฤหัสผู้ทรงคุณธรรมโยกอยู่ข้างหน้า มีดาวพระเสาร์


MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY