"พระพุทธศาสนา แสดงวิธีสำหรับแก้ความรู้สึ
1. ให้คิดถึงพระบรมศาสดาสัมมาส
ด้วยการคิดถึงพระพุทธคุณว่า
2. ระลึกในพระธรรมคุณ
วิธีแก้ความหวาดกลัวอีกวิธี
ดังที่คิดคือสวดในใจ หรือสวดออกเสียงกันอยู่ว่า "สวากขาโต ภควา ธมโม อกาลิโก โอปนยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ"
3. ระลึกถึงพระสังฆคุณ
วิธีแก้ความหวาดกลัวอีกวิธี
# ความระลึกถึงพระบรมศาสดา เป็นสิริมงคลอันสูงสุดแก่จิ
*ธรรมนี้มีไว้เพื่อพิจารณาต
ภาพธรรมทาน = วัดพระบาทน้ำพุ
"ท่าน" (พระพุทธเจ้า) ก่อนจะทรงห่างไกลพ้นถ่านไฟร
ต่อเมื่อทรงหนีไกลได้พ้นจาก
ทรงพบความเย็นสนิท ความเป็นบรมสุข ทรงมีความเย็นสนิทในพระองค์
"ก่อนพูด" เราต้องคิดแล้วว่า...เมื่อเ
เรา...ก็อย่าไปพูดอะไรเลยเส
เราฝึกใจเราฝึกปากเราฝึกวา
"หากว่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
คนอื่น...อาจจะเข้าใจผิดเรา
ซุบซิบนินทาไปบ้าง...
ให้คิดเสียว่า...
เรา...ก็อาจจะไปเข้าใจคนอื่
ให้เรา..."วาง" แล้วทำตัวเราให้ "ว่าง"
ใจเรา...นี่และที่จะเบาสบาย
@ วิสาขา ตามรอยหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตSee More
จะต้องละขันธ์ห้าว่าของกู
เอาขันธ์ห้าเรียนรู้กูอยู่ไ
เห็นขันธ์ห้าจริงๆแล้วทิ้งไ
กูหรือใครก็ตั้งสร้างขึ้นเอ
อยากจะบอกจริงๆทิ้งกายใจ...
มันไม่เป็นของใครจริงๆหนา
เกิดเพราะกรรมนำชี้จึงมีมา
อย่าหลงบ้ากอดประคองว่าของก
"บุญเท่านั้นที่เป็นที่พึ่ง
การที่เราจะพึ่งใครสักคนหนึ
มันก็พึ่งได้ไม่เท่าไหร่...
แล้วถ้าเราไปอยู่กับเขาไม่ก
เขาก็อยากจะไล่หนีเราแล้ว
เพราะฉะนั้น "บุญ" เท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่ง
เราจะไปเกิดในชาติใดภพใดบุญ
เหมือนกันกับเงาตามตัวเราฉั
พระธรรมมงคลญาณ
(หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)
เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล
ฝ่ายธรรมยุต
กรุงเทพมหานคร
"เมื่อ "สติ" ตั้งลงที่ตรงไหน ย่อมเป็นธรรมขึ้นมาที่ตรงนั
พระธรรมวิสุทธิมงคล...
(บัว ญาณสฺมปนฺโน)
หลวงตาบัว ญาณสมฺปนฺโน
วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด)
อ.เมือง จ.อุดรธานี
"ทำความดีเข้าไว้ใคร ว่าก็ช่างเขา เราปฏิบัติตามกำลังของ ๆ เรา
ใครจะว่าช่างหัวเขาเราทำไป
ไม่ได้ปฏิบัติธรรมเพื่อโอ้อ
แต่จำตรวจตราใจเท่านั้นหนา
พิจารณาให้ลึกถึงที่มา
ที่นำพาตัวฉันพึ่งพระธรรม
ใครจะทำตามฉัน..ฉันไม่ว่า
แต่ให้พาตัวเองปฏิบัติหนา
นั่นแหละสิ่งที่ฉันให้กัลยา
ทำเข้าหนาความดีมีกำลัง"
รักษาตนให้ดีมีธรรมจงหมั่นล
เอาชนะ รัก โลภ โกรธ หรือ หลง
รักผู้อื่น...มีเมตตาอย่างม
เจตจำนงด้วยจิตคิดเอ็นดู เพราะในทางพุทธศาสนาคือหลุด
หาใช่มุ่งหลุ่มหลงนอกศาสนา
ให้นำพาหัวใจเราพิจารณา
นอกนั้นหนาพุทธองค์...ทรงบอ
จิตที่คิดดี คือจิตที่พัฒนาแล้ว จิตที่พัฒนาแล้วคือจิตที่ปร
๑. สติ (รู้ตัวว่ากำลังคิดอะไร และจะทำอะไร)
๒ฺ ปัญญา (คิดอย่างมีเหตุมีผล) ...
จึงเป็นจิตที่สมบูรณ์ มีคุณค่ากับชีวิตมาก ดังพุทธภาษิตที่ว่า "อปฺปมาณํ หิตํ จิตฺตํ ปริปุณฺณํ สุภาวิตํ แปลว่า จิตที่อบรมบริบูรณ์ดีแล้ว เป็นจิตที่หาค่ามิได้"
สติและปัญญา ๒ อย่างนี้ เปรียบเสมือนเกราะป้องกันไม
อนุโมทนาสาธุ
เมื่อเราเชื่อว่าจิตของเราเ
รูปร่างกายเราต่างหากที่แตก
เมื่อเราเชื่อว่าโอวาทคำสอน
เราก็ขวนขวายสร้างคุณงามควา
เป็นอริยทรัพย์อริยบารมีฝัง
จนกว่าจะถึงพระนิพพาน
ถ้าเราไม่เชื่อโอวาท ไม่เชื่อกรรมดีกรรมชั่ว
จิตใจก็หวั่นไหวเป็นลูกคลื่
สู้คลื่นแรง ที่ซัดโถมมาไม่ไหวก็อาจจะจม
หลวงปู่ชอบ ฐานสโมSee More
"ให้นั่งภาวนา พุทโธ ๆ ไม่ต้องร้องให้มันแรงดอก
ให้มันอยู่ในใจซื่อ ๆ ดอก
การภาวนาก็เป็นอริยทรัพย์ภา ยใน ...
มันจะติดตามไปทุกภพทุกชาติ ติดไปสวรรค์ ลงมามนุษย์
มาตกอยู่ในที่มั่งคั่งสมบูร ณ์บริบูรณ์ ไม่ยากไม่จน
ทรัพย์อันนี้ติดตามไป บ่มีสูญหายดอก ตามไปจนสิ้นภพสิ้นชาติ.."
หลวงปู่ขาว อนาลโยSee More
ให้มันอยู่ในใจซื่อ ๆ ดอก
การภาวนาก็เป็นอริยทรัพย์ภา
มันจะติดตามไปทุกภพทุกชาติ ติดไปสวรรค์ ลงมามนุษย์
มาตกอยู่ในที่มั่งคั่งสมบูร
ทรัพย์อันนี้ติดตามไป บ่มีสูญหายดอก ตามไปจนสิ้นภพสิ้นชาติ.."
หลวงปู่ขาว อนาลโยSee More