
'สุทิน' เจ้าของฉายา นักข่าวสายโจร ..สาวไส้ แม้ว ปู้ยี่ปู้ยำ "บินไทย" ใช้เป็นเครื่องมือเอื้อธุรกิจส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทิน วรรณบวร นักข่าวการเมืองอาวุโส เจ้าของฉายา นักข่าวสายโจร โพสต์เฟซบุ๊ค "Sutin Wannabovorn" เปิดเผยถึงพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีตามหมายศาล ในสมัยที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าได้สร้างความหายะให้กับบริษัทการบินไทย และยังมีทัศนะคติด้านลบต่อการบินไทย อีกทั้งยังใช้สายการบินนี้เป็นเครื่องมือ ในการสร้างประโยชน์ทางธุรกิจของตนเองอีกด้วย
ข้อความที่ นายสุทิน โพสต์ในเฟซบุ๊คส่วนตัว
วันนี้จะไปเยี่ยมการบินไทยคณะกปปส นำโดยกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ก่อนไปอยากให้พี่น้องการบินไทยทราบว่า ประสบการณ์ที่ทำข่าวมาพบว่า ทักษิณ ชินวัตร คือความหายนะของสายการบินแห่ง
1. ตั้งวันแรกที่ทักษิณ จะขึ้นเครื่องการบินไทยในฐานะนายกรัฐมนตรี เครื่องบิน 747 ระเบิดไฟไหม้เสียหายทั้งลำก่อนทักษิณ ขึ้นเครื่องเพียงชั่วโมงเดียว ทักษิณ ออกมาโวยวายว่าเป็นการวางระเบิดหวังสังหารนายกรัฐมนตรี และที่ตัวเองปลอดภัยรอดมาได้ ก็เพราะลูกหัวแก้วหัวแหวนออกจากบ้านช้า เลยต้องรอลูกชายไม่ได้ขึ้นเครื่อง เวลานั้นชื่อเสียงของการบินไทยเสียหายมาก แต่ในที่สุดผลการสอบสวนก็ออกมาคลุมเครือ มาจากระบบปรับอากาศขัดข้องบ้าง เกิดจากเติมน้ำมันขณะเปิดแอร์บ้าง
2. ต่อมาไม่นานหลักจากนั้น เดโบรา ชาร์ล จากสำนักข่าวรอยเตอร์ถามทักษิณเรื่อง การบินไทยปรับปรุงที่นั่งชั้นหนึ่งใหม่ ว่ามีความเห็นอย่างไร ทักษิณ ตอบว่า Suck เขาใช้สายการบินไทยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น บริการของสายการบินแห่งชาติแย่ เพราะติดอยู่กับระบบผูกขาด ไม่มีคู่แข่งพูดเหมือนกับจะเปิดทางให้สายบิน แอร์เอเชีย เข้ามาบินในเส้นทางในประเทศ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริง
3. ปี 2547 เดินทางร่วมทำข่าว working tour ของคณะทักษิณ จากเชียงใหม่ไป จิตตะกอง บังกลาเทศ ทักษิณอ้างว่าเพื่อโปรโมทเส้นทางบินใหม่ เพื่อน้ำสินค้าเกษตร (ลำไย) จากเชียงใหม่ไปบังกลาเทศ แท้จริงแล้วทักษิณ ใช้เครื่องบินการบินไทยขนลำไยและผลไม้ไปบรรณาการ ผู้นำบังกลาเทศ เพื่อความสะดวกเรื่องธุกิจสื่อสารของบริษัทตัวเอง ในการเดินทางวันนั้นมีเจ้าที่ระดับสูงการบินไทยไปด้วย อ้างว่าเพื่อสำรวจความคุ้มค่าในการเปิดเส้นทางบิน เชียงใหม่ จิตตะกอง ซึ่งวางแผนจะบินอาทิตย์ละสามวัน จันทร์ พุทธ ศุกร์ ไปกลับอาทิตย์ละหกไฟท์ ได้สอบถามกับเจ้าที่ระสูงฝ่ายการตลาด ทราบว่าในเบื้องต้นบิน เชียงใหม่ จิตตะกอง จะขาดทุนวันละ 500,000 บาท คืออาทิตย์ละ 1.5 ล้านบาท เมื่อได้โอกาสถามทักษิณ ในเครื่องว่าถ้าต้องขาดทุนอาทิตย์ละล้านห้า อีกกี่ปีการบินไทยจะถึงจุดคุ้มทุนจากเส้นทางบิน เชียงใหม่ จิตตะกอง ทักษิณ แสดงอาการกระฟัดกระเฟียด ตลอดว่าคนไม่เข้าใจการตลาด จะมองแค่มุมเดียวแต่ผลประโยชน์ที่แฝงมาเส้นทางบินอีกมากมาย
ที่ตลกที่สุดคือเมื่อเครื่องการบินไทยเข้าน่านฟ้าบังกลาเทศ มีเครื่องรบของบังกลาเทศ 2 ลำบิน ขึ้นมาคุ้มกันจนถึงสนามบินจิตตะกอง ทักษิณ และ คณะใช้เวลาพูดคุยอยู่สองสามชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับซึ่งมีประธานาธิบดีบังกลาเทศ ร่วมเดินทางมาด้วยปรากฏครื่องบินจะเข้าน่านฟ้าไทยแล้ว พวกประจบสอพลอทักษิณ เพิ่งนึกได้ว่าขาไปมีเครื่องบินรบบังกลาเทศบินขึ้นคุ้มกัน เมื่อทักษิณ สั่งการให้เครื่องรบของไทยบินขึ้นมารับ เครื่องที่มีประธานาธิบดี บังบังกลาเทศ ร่วมเดินทางมาด้วย แต่ไม่ได้เตรียมการล่วง กว่าเครื่องรบของไทยจะขึ้นทันเครื่องบินการบินไทย ใกล้ถึงปลายทางจึงต้องสั่งให้บินวนรอเครื่องบินรบ เพื่อแสดงพลังให้บังกลาเทศเห็น
4. ในปี 2549 เครื่องบินของสายการบินแห่งชาติ ถูกใช้เป็นยานพาหนะในขนย้ายทรัพย์สินของทักษิณ ไปไว้ต่างประเทศจำนวนมากมายมหาศาล กล่าวคือในวันที่ทักษิณ และคณะร่วมทั้งสื่อมวลชนออกเดินทางไปประชุมยูเอ็น เมื่อเดือนกันยายน 2549 นั้นทักษิณ ออกเดินทางไปกับเครื่องบินประจำตำแหน่งนายกฯ ที่ชื่อ "ไทยคู่ฟ้า" ในเที่ยวบินนั้นทักษิณ มีกระเป๋าเดินทางขนาดยักษ์ไปกับเครื่อง 58 ใบ เครื่องไทยคู่ฟ้าไปจอดอยู่ที่สนามบินเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ประมาณวันที่ สี่ วันหลังจากนั้นทักษิณ เช่าเหมาะลำเครื่อง 747 ของสายการบินไทย ไปรับเขาจากฟินแลนด์เดินทางต่อไปนิวยอร์ก มีผู้โดยสารไปกับเครื่องเช่าเหมาลำเพียง 6 แต่มีกระเป๋าเดินทางขนาดยักษ์ไปกับเครื่องลำนั้น 73 ใบ เมื่อไปถึงฟินแลนด์ เครื่องที่เช่าเหมา จะไปโหลดกระเป๋าที่ไปกับเครื่องไทยคู่ฟ้า มารวมกับกระเป๋าชุดใหม่ก่อน เครื่องจะเดินทางต่อไปนิวยอร์ก ทิ้งเครื่องบินเปล่าไทยคู่ฟ้าไว้ที่สนามบินเฮลซิงกิในฟินแลนด์ เจ้าหน้าที่ศุลการกรฟินแลนด์บอกกับ หนังสือพิมพ์ เฮลซิงกิ ซาโนแมต ว่าไม่สามารถตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในกระเป๋า 125 ได้เพราะมากับนายกฯ ของไทย แต่สงสัยว่าจะเป็นของมีค่า จึงทำให้มีข้อสงสัยกันว่าทักษิณ ใช้เครื่องของการบินไทยขนทรัพย์สิน ออกไปต่างประเทศไทย ก่อนถูกปฏิวัติหรือเตรียมไปปฏิวัติตัวเอง ยังมีเรื่องที่พบเห็นมาเป็นส่วนตัวอีกมาก เอาไว้มีเวลาจะเล่าให้ฟังต่อ




รักคุณเท่าฟ้า แต่รักชาติมากกว่า...พนักงาน การบินไทย มารอต้อนรับ ขบวน กปปส. ที่นำโดย"กำนันสุเทพ"กันคึกคัก..#No-R..
Cr ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าว ไทยพีบีเอส
มารอรับแล้ว.. ตอนนี้ หน้า การบินไทย ... พนักงาน การบินไทย มารอต้อนรับ ขบวน กปปส. ที่นำโดย"สุเทพ" กันคึกคัก ที่กำลังเคลื่อนออกมาจาก สวนลุมฯ / ขึ้นป้ายผ้าขนาดใหญ่.. "..รักคุณเท่าฟ้า แต่รักชาติมากกว่า.."
Cr ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าว ไทยพีบีเอส
มารอรับแล้ว.. ตอนนี้ หน้า การบินไทย ... พนักงาน การบินไทย มารอต้อนรับ ขบวน กปปส. ที่นำโดย"สุเทพ" กันคึกคัก ที่กำลังเคลื่อนออกมาจาก สวนลุมฯ / ขึ้นป้ายผ้าขนาดใหญ่.. "..รักคุณเท่าฟ้า แต่รักชาติมากกว่า.."

24 เม.ย.57 เวลา 8.40 น....ขบวนการหมิ่นพระบรมเดช
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา

Cr Paisal Puechmongkol
วันนี้.. เวลา 13.00น. ทางทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ จะไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการสอบสวน เอาผิดต่อ ศอ.รส. หลังออกแถลงข่าวคุกคามการทำหน้าที่ ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะนำคำร้องและเอกสารเข้ายื่นต่อ ป.ป.ช.เพื่อเอาผิดกับทาง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายชัยเกษม นิติสิริ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ และ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ยกเว้นเหล่าทัพ เพราะการกระทำดังกล่าว มีความผิดขั้นเป็นกบฏ ล้มล้างการปกครอง ขัดต่อกฎหมายอาญา ถึงขั้นประหารชีวิต
วันนี้.. เวลา 13.00น. ทางทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัต

วันที่ 22เมษายน เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เดินทางมาหน้าสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) เพื่อให้กำลังใจ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.หลังเกิดเหตุคนร้ายยิงเอ็ม79 ใส่บ้านพัก ช่วงค่ำวันที่ 20เมษายนที่ผ่านมา
จากกรณีที่มีนักการเมืองบางคนออกมากล่าวหาผมต่างๆ นาๆ ว่า ผมวิ่งเต้นให้ได้ตำแหน่งปลัดกระทร...วงสาธารณสุข และไปสัญญากับใครแล้วกลับคำ เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง การแต่งตั้ง หรือโยกย้าย เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลทั้งสิ้น ดังนั้นผมขอยืนยันว่าไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อขอตำแหน่งจากใครเลย การที่ผมออกมา ทุกคนต่างรู้ดีว่าถึงเวลาแล้วที่ข้าราชการประจำจะตัดสินใจออกมาต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เราเป็นข้าราชการของรัฐไม่ใช่ข้าราชของนักการเมือง เราเป็นข้าราชของแผ่นดินไม่ใช่ลิ่วล้อของใครทั้งสิ้น และการออกมาแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างนั้น เพราะเลือกที่จะอยู่กับความถูกต้องเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่การออกมาแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกลับถูกข่มขู่
"ผมขอวิงวอน ปลัดกระทรวงฯ ทุกกระทรวง อธิบดี กระทรวงทบวงกรมทั้งหลาย ผู้บริหารต่างๆให้ออกมาเเสดงออกเพื่อประเทศไทย สิ่งที่ท่านจะตัดสินใจในวันนี้นั้นเพื่อบ้านเมือง ไม่เช่นนั้นท่านจะเป็นปลัดกระทรวงหรือผู้บริหารกันทำไมครับ ต้องกล้าและพร้อมที่จะออกมาต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ออกมาเป็นตัวอย่าง อะไรดี อะไรไม่ดี ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของแต่ละคนว่าสิ่งไหนถูกต้องควรทำ สิ่งไหนไม่ถูกต้องไม่ควรทำ" นพ.ณรงค์ กล่าว
หลังจาก นพ.ณรงค์ ได้กล่าวทิ้งท้ายกับ หมอ แพทย์ และพยาบาล ที่มาให้กำลังใจ ว่า "อย่ากลัวเมื่อเลือกที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง" โดยทุกคนต่างตบมือให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม พร้อมมอบช่อดอกไม้ และร่วมถ่ายรูปคู่กับ นพ.ณรงค์ ก่อนจะแยกย้ายกันเดินทางกลับโดยไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ย้ำ30เม.ย.ไม่ร่วมประชุมศอ.รส.
“เชื่อว่าข้าราชการทุกคนพร้อมแล้ว แต่รอหัวหน้าส่วนราชการตัดสินใจเท่านั้น จึงขอให้หัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหารออกมานำข้าราชการและส่งสัญญานว่า ประเทศควรไปทางใด เพื่อปกป้องแผ่นดินปกป้องระบบราชการและทำงานให้สมศักดิ์ศรีข้าราชการประจำ ส่วนที่วันนี้ยังมีการประชุมร่วมของพรรคการเมืองเรื่องเลือกตั้ง สส.นั้น ผมไม่เห็นด้วย เพราะเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นการปฏิรูปก่อน สิ่งที่อยากได้จากที่ประชุม คือ จะปฏิรูปประเทศอย่างไร ไม่ใช่ถกกันว่า จะเข้าสู่อำนาจ หรือจะเลือกตั้งอย่างไร ส่วนการประชุมของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.)ที่จะเรียกปลัดประชุมวันที่ 30เมษายน ยังยืนยันไม่เข้าร่วมเหมือนเดิม”นพ.ณรงค์ กล่าว
ข่าวแนวหน้า+กรุงเทพธุรกิจ...
จากกรณีที่มีนักการเมืองบาง
"ผมขอวิงวอน ปลัดกระทรวงฯ ทุกกระทรวง อธิบดี กระทรวงทบวงกรมทั้งหลาย ผู้บริหารต่างๆให้ออกมาเเสด
หลังจาก นพ.ณรงค์ ได้กล่าวทิ้งท้ายกับ หมอ แพทย์ และพยาบาล ที่มาให้กำลังใจ ว่า "อย่ากลัวเมื่อเลือกที่จะทำ
ย้ำ30เม.ย.ไม่ร่วมประชุมศอ.
“เชื่อว่าข้าราชการทุกคนพร้
ข่าวแนวหน้า+กรุงเทพธุรกิจ.
