GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557

เผย..ความคล้ายคลึงของ 3 รัชกาล และแฉตัวอมเงินม็อบแดง








เผย..ความคล้ายคลึงของ 3 รัชกาล และแฉตัวอมเงินม็อบแดง
Cr:แฉ..ความลับ @เสธ นํ้าเงิน
17 เม.ย.57 เผย..ความคล้ายคลึงของ 3 รัชกาล และแฉ ตัวอมเงินม็อบแดง

ในทุกตอนของเรื่อง จะพยายามใช้เนื้อที่ๆ มีจำกัด เล่าเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทรงมีคุณูปการกับราษฎรพระชาชนของพระองค์ ตอนนี้ได้ลองศึกษาประวัติศาสตร์ย้อนหลัง พบพระราชประวัติของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ ที่มีลักษณะบางประการคล้ายๆ กัน คือ

สมเด็จพระนเศวรมหาราช (สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2) ราชวงศ์สุโขทัย กษัตริย์องค์ที่ 18 ของกรุงศรีอยุธยา พระองค์ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนตั้งแต่มีพระชนม์มายุเพียง 9 พรรษา เสด็จไปอยู่ ณ เมืองหงสาวดี พม่า ทรงใช้เวลา 8 ปีเต็มในหงสาวดี ทรงศึกษายุทธศาสตร์ของพม่า วิชาศิลปศาสตร์ และวิชาพิชัยสงคราม ทรงนิยมในวิชาการรบทัพจับศึก มีโอกาสศึกษา ทั้งภายในราชสำนักไทย และราชสำนักพม่า มอญ และได้ทราบยุทธวิธีของชาวต่างชาติต่าง ๆ ที่มารวมกันอยู่ในกรุงหงสาวดีเป็นอย่างดี เช่น ชาวโปรตุเกส สเปน หรือชาวพม่าเอง ต่อมาเมื่อ “พระชนม์มายุ ราว 17 พรรษา “ พระองค์ได้เสด็จกลับมาถึงอโยธยา หลายปีต่อมาเมื่อพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ ได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมา ในการขยายอาณาเขต ของอาณาจักร และสร้างปึกแผ่นแก่แผ่นดิน

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ราชวงศ์จักรี กรุงรัตนโกสินทร์ ในขณะที่ทรงผนวชอยู่นั้น ได้เสด็จออกธุดงค์ “ไปยังหัวเมืองต่าง ๆ ทำให้ทรงคุ้นเคยกับสภาพความเป็นอยู่ของอาณาประชาราษฏร์ “ อย่างแท้จริง พระองค์ทรงพระราชอุตสาหะวิริยะเรียนภาษาอังกฤษจนทรงเขียนได้ ตรัสได้ “ทรงเป็นนักปราชญ์รอบรู้ ” ทำให้พระองค์ทรงมีความรอบรู้เท่าทันต่อเหตุการณ์ของโลกตะวันตกเป็นอย่างดี พระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ทำนุบำรุงด้านศิลปกวี พระราชนิพนธ์ส่วนใหญ่เป็นประเภทร้อยแก้ว มีบทพระราชนิพนธ์ที่สำคัญ จำนวนมาก ทรงริเริ่มให้มีการค้นคว้าศิลาจารึกในประเทศไทยขึ้นเป็นครั้งแรก คือ จารึกหลักที่ 1 ของพ่อขุนรามคำแหงและจารึกหลักที่ 4 ของพระยาลิไทย

ทรงฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และระเบียบแบบแผน พระองค์เป็นนักดาราศาสตร์ไทย ทรงการคำนวณการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงได้อย่างแม่นยำ ล่วงหน้าถึง 2 ปี นับเป็นเรื่องที่อัศจรรย์มากในสมัยนั้น พระองค์ยังพระปรีชาสามารถด้านวิทยาศาสตร์ ทำให้ได้รับการยกย่องเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสัตววิทยาสมาคมแห่งสหราชาอาณาจักรอีกด้วย และได้รับการยกย่องเป็นบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทยจนถึงปัจจุบัน

ในหลวง รัชกาลที่ 9 ราชวงศ์จักรี กรุงรัตนโกสินทร์ วัยพระเยาว์พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยพระบรมราชชนนีพระเชษฐภคินี และสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เพื่อการศึกษา ชั้นประถมศึกษา ทรงศึกษาวิชาภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษา ทรงได้รับประกาศนียบัตรทางอักษรศาสตร์ แล้วทรงเข้าศึกษาต่อ มหาวิทยาลัย แผนกวิทยาศาสตร์ พระองค์เสด็จนิวัตประเทศไทยครั้งที่สองเมื่อ “พระชมน์มายุราว 17 พรรษา”

หลังครองราชฯ พระองค์ได้ทรงอุทิศพระวรกาย และพระราชทรัพย์ ไปในโครงการพัฒนาประเทศไทยหลายต่อหลายโครงการ โดยเฉพาะในทางเกษตรกรรม สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข การส่งเสริมอาชีพ ทรัพยากรน้ำ สวัสดิการทางคมนาคม และสวัสดิการสาธารณะ พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้รับถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ จาก UN พระองค์ยังทรงเป็นเจ้าของสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ งานพระราชนิพนธ์ และงานดนตรีจำนวนมากด้วย

น่าแปลกที่พระราชประวัติของกษัตริย์ทั้ง 3 พระองค์มีส่วนพ้องใกล้เคียงกัน เหมือนถูกฟ้าลิขิตมาให้ทุกพระองค์ทรงมีความเฉลียวฉลาดด้านภาษา และวิทยาการจากต่างประเทศ , สนพระทัยในการค้นคว้าหาความรู้ในศาสตร์แขนงต่างๆ , เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ , กวีนิพนธ์ , ดนตรี , ทรงยึดมั่นในทศพิธราชธรรม , ทำนุบำรุงศาสนา , สมถะเรียบง่าย , สนพระทัยในการเสด็จออกไปยังหัวเมืองต่าง ๆ เพื่อพัฒนาสภาพความเป็นอยู่ของอาณาประชาราษฏร์ และทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของราษฎร์แต่ละยุคสมัย ได้อย่างน่าประหลาดน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก

นายช่างสมภพ แห่งร้านยูไลย เทเลอร์ ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากในหลวง ให้ถวายงานในการตัดเย็บฉลองพระองค์ ให้แก่พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ยามที่เขาเข้าเฝ้าในหลวง เวลาที่ไปเข้าเฝ้าวัดพระวรกาย เพื่อนำมาตัดชุดฉลองพระองค์ จะทรงรับสั่งให้จดรายละเอียดให้สมบูรณ์ จะได้ไม่ต้องวัดบ่อยมาก เนื่องจากพระองค์ไม่มีเวลามากนัก ต้องทรงงานโดยตลอด พระองค์ท่านมิทรงโปรดที่จะลองฉลองพระองค์บ่อยๆ จะทำให้เสียเวลาในการทำงาน

สิ่งที่พระองค์ตรัสให้ฟัง มักจะทรงเล่าเรื่องคุณทองแดง เมื่อพระองค์ได้ตรัสถึงคุณทองแดงทีไร พระองค์ท่านมักจะทรงพระสรวลทุกที “ฉลองพระองค์บางองค์ พระองค์ท่านสวมใส่มาแล้ว 8-9 ปี บางองค์ที่พระองค์ทรงโปรดมาก ก็ใช้นานถึง 12 ปี ชุดที่พระองค์โปรดที่สุด ก็คือชุดลำลองที่พระองค์ทรงสวมเพื่อเล่นกับคุณทองแดง ใช้มาหลายปี ก็จะเป็นรอยขีดข่วนและฉีกขาด พระองค์ท่านไม่ทิ้ง ก็จะส่งให้เรานำกลับมาปะชุนบ่อยครั้ง”

แล้วทุกคนที่อ่านเนื้อหาถึงตอนนี้ ลองนึกถึงตัวท่านเอง ว่าท่านเคยใส่เสื้อผ้าชุดโปรดเดิมนานมากกว่า 12 ปีไหม? ใครก็ตามให้ร้ายพระองค์ว่าฟุ่มเฟือย ร่ำรวย หรือใช้เครื่องประดับราคาแพง จึงเป็นการให้ร้ายพระองค์อย่างไม่เป็นธรรม “พระเจ้าอยู่หัวของพวกเราถูกรังแก” ท่านไม่มีโอกาสเลยตลอดพระชมน์มายุของท่าน ที่จะได้แก้ตัวในเรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่ประสูติ – พระเยาว์ – เจริญวัย – ครองราชย์ – จนถึงปัจจุบัน พระชมน์มายุ 87 พรรษาแล้ว ยังมีราษฎรที่ไม่ดีของพระองค์ไม่หยุดที่กล่าวให้ร้าย ทั้งที่พระองค์และราชวงศ์ ไม่ได้เป็นดังคำที่ถูกให้ร้ายใดๆ เลย

พระองค์มีแต่ทำให้ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุข ปัดเป่าทุกข์ภัย เป็นที่พึ่งยามยาก ฝนจะแล้งก็มีฝนหลวงพระราชทาน น้ำจะท่วมก็ทรงมีพระราชดำริแนะนำ ให้สร้างเขื่อนป้องกัน และกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามน้ำน้อย ค่อยๆ ปล่อยน้ำผ่านระบบชลประทานเพื่อทำการเกษตร ทุกคนที่กำลังนินทาให้ร้ายพระองค์ และราชวงศ์อยู่ตอนนี้ ก็กินเมล็ดข้าวที่เกิดจากน้ำในเขื่อนที่พระองค์แนะนำให้สร้างไว้นั่นแหละ เขื่อนก็ได้ใช้ผลพลอยได้ผลิตไฟฟ้า ให้ราษฏรได้ใช้ไฟฟ้าสว่างไสวยามค่ำคืน แม่แต่คอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์พกพา ที่จ้องอ่านข้อความนี้ในประเทสไทย ก็ต้องชาร์ตไฟฟ้าส่วนหนึ่งจากเขื่อน

ถ้าอยู่ในประเทศไทย ลองหันไปมองรอบตัว ข้าวของ เครื่องใช้ ที่อำนวยความสุขสบาย ก็ล้วนแต่ได้มาจากการทำประโยชน์ ทำมาหากินในแผ่นดินของบรรพกษัตริย์ ที่ปกปักรักษา ขยายอาณาเขตประเทศมามากกว่า 800 ปี ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ก็ล้วนสืบทอดมรดกมาจากคนรุ่นเก่าที่มาอาศัยร่มโพธิสมภารกษัตย์ของไทยทั้งนั้น คนพวกนี้ยังจะมาเนรคุณให้ร้ายพระองค์อีก คนพวกนี้ระวังจะเจอดีและไม่มีใครเขายอมพวกมันอีกแล้ว ต่อไปนี้จะเจอแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน จะหาว่าไม่เตือน !!

บางคนชอบกล่าวร้ายแหนบแหนมเรื่องเพชรซาอุ ทั้งที่ตนเองแม้สักแวบตา ก็ยังไม่เคยเห็นของจริงชิ้นนี้เลย แต่มีหน้ามากล่าวร้าย ลากผูกเรื่องมั่วไปหมด คนขโมยเพชรจากวังกษัตริย์ซาอุนี้ เขาเป็นคนคนอำเภอเถิน ลำปาง ที่ไปทำงานในวังซาอุ ต่อมาก็ขโมยเพชรเดินทางกลับมาไทย ไปขายให้พ่อค้าร้านเพชรแห่งหนึ่ง จากนั้นมาเขาถูกชายชุดดำจับกุม เขารับสารภาพ และบอกที่ซ่อนเพชรที่เหลือ แล้วก็ติดคุกรับโทษไป ปัจจุบันพ้นโทษ เขา และครอบครัวก็ย้ายไปแล้ว ที่นี้ก็มั่วกันไปหมด มีชายชุดดำบางคน อมเพชรของกลาง และสับเปลี่ยนเอาของเก๊แทนของจริง บางคนติดคุกยาวเลยจนอายุกว่า 70 ปีจึงพ้นโทษ และหายไปจากสังคม

ช่วงนั้นก็ฆ่าชิงเพชรกันเองเป็นว่าเล่น คนนี้เอาไป คนนี้ซื้อขาย ตามวิสัยสันดานดิบ โจรปล้นโจรนั่นแหละ พอได้มาก็โอ้อวดกันโดยไม่ฉุกคิดว่าตัวเองเป็นสามัญ แต่ไปใส่ของสูง ท้ายๆ ก็ไปเจอในตัวของพวกคุณหญิง คุณนาย ของชายชุดดำตำแหน่งใหญ่สมัยนั้น ก็เกิดการจับตา และติฉินกัน พวกนี้ก็เลยต้องเก็บของเข้ากรุ ไม่กล้าเอามาประดับตัว แทบทุกคนมีอันเป็นไปต่างๆ นาๆ ถูกฆ่าตายบ้าง อุบัติเหตุบ้าง ติดคุกติดตารางบ้าง เหมือนช่วงปฏิวัติ 2475 สมัย ร.7 นั่นแหละ ที่พวกปฏิวัติต่างบุกเข้าไปในวัง แล้วขนข้าวของมีค่าลงเรือ เอากลับไปบ้านตนเอง สุดท้ายทุกคนก็ตายแปลกๆ หมด ไม่เหลือหรอ ครอบครัวก็ลำบาก ระหกระเกิน ไม่มีใครรอดดีสักคน

พอเห็นช่องคนสนใจตรงนี้ พวกแดงล้มเจ้าก็เต้าเรื่องกัน สร้างนิทานหลอกทุยโง่ก่อนนอน ใส่ร้ายเบื้องสูงโยนบาปให้ราชวงศ์ โถ..ไอ้คนขโมยเพชรมา มันยังไม่รู้เลย ว่าเพชรที่ตามหากันนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร หน้าเหลี่ยมหรือเปล่า นับประสาอะไรกับพวกให้ร้ายนินทา ที่ยังไม่เคยเห็นของจริงแม้ระยะไกล ยังมีหน้ามารู้อีกว่าอยู่ที่นั่นที่นี่ ถ้าใครพูดให้ร้ายเบื้องสูงเรื่องนี้ ถามมันคำเดียว “เคยเห็นของจริงไหม ?? “ ถ้าตอบว่าไม่เคย หรือเห็นแค่ภาพตัดต่อ ก็ไล่มันไปขวิดต้นมะขามซะให้หายโง่ ทำโทษที่โดนแดงล้มเจ้าหลอกมาซะหลายปี

ข่าวลือก็คือข่าวลือ ก่อนจะเชื่อก็พิจารณาดูให้ดีก่อน ทุกคนก็เคยมีประสบการณ์ที่โดนข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง และข่าวนั้นก็ไม่เป็นความจริง เราโดนใส่ร้าย แต่เราก็มาแก้ตัวได้ แต่พระองค์ท่านไม่สามารถที่จะมาแก้ตัวได้แม้สักคำเดียวด้วยซ้ำ พระองค์จึงน่าสงสาร ถ้าพระองค์ต้องการจริงๆ แค่เพชรแค่นี้ ท่านจะซื้อเองก็ได้ เพชรไทยสวยๆ เลอค่าเอาให้ดีกว่าเพชรซาอุได้เป็นสิบเท่า ไม่เห็นต้องไปทำอะไรแบบนั้นเลย คิดแค่นี้ก็ตาสว่างแล้ว

มันเอาทุกเรื่องแหละ แก้เรื่องนั้น มันก็เต้าเรื่องนี้ พวกนี้เลวอินฟินิตี้..คิดง่ายๆ พระพุทธองค์ ยังโดนพระเทวทัตกลั่นแกล้ง รังเก พอท่านปรินิพพานไป 2557 ปี แล้ว ป่านนี้ยังมีคนเต้าเรื่อง บิดเบือนคำสอน ท่านแปลกๆ ประหลาด ไปดูวัดจานบินซิ เปรียบเทียบง่ายๆ แบบนี้แหละ..ใครๆ ก็พูดมั่วได้ เช่น เพชรทั้งหมด ตอนนี้ไปอยู่ในบ้านจันทร์ส่องหมา จรัล ของหญิงกระบังลมแล้ว ซุกในหีบเซพใบใหญ่ใต้บันได ทางขึ้นชั้นบน..สมาชิกเพจนี้ 2.9 แสน พูดต่อกันไปสัก 10 คน แค่นี้ก็เป็นข่าวซุบซิบไป 2.9 ล้านคนใน 1 นาทีแล้ว นี่คนที่รับข้อมูลไป ก็พูดต่อๆ กันดาวรายขายตรงอีก มันจะลุกลามขนาดไหน พวกทุยแดนก็กินปลาซาดีนซะบ้าง ตรงหัวมันน่ะ วิตามินเยอะ แดกแต่จำนำข้าว มันถึงฉลาดน้อย เป็นเหยื่อให้เขาหลอกต้มตุ๋นทุกวัน ไม่อายบ้างหรือไง !!

ดูผลกรรมทุยแดงล้มเจ้า ที่หมิ่นเบื้องสูงซะบ้าง เมื่อคณะอักษรฯ จุฬา ไม่จ้าง " อ.หวาน " ของเสื้อแดง นปช. สอนต่อ เพราะประเมินผลแล้ว ได้คะแนนแค่ปานกลาง ไม่ผ่านต่อสัญญาจ้าง ถ้าเป็นคนดีๆ ก็จะต้องฉุกคิด หาเหตุ และปรับตัว แต่แทนที่นางจะทบทวนตัวเอง กลับโทษรัฐประหาร..อ้าว..นางโทษว่ากฎหมายที่ให้มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ เกิดในสมัยรัฐบาลนายกฯ ฤษี ซึ่งคณะรัฐประหารตั้ง..เฮ้อ..เข้าใจและ สมองอย่างนี้แหละ ที่จุฬาฯ เขาถึงไม่จ้างต่อ..ดีนะที่ไม่โทษว่าเพราะปฏิวัติ 2475 ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่งั้นจะให้เอาคอเทียมแอกไม้ไผ่ ไปลากไถนาซะให้เข็ด

ส่วนอีกคนก็ "โรส" ช่างทำผมที่เปลี่ยนสัญชาติเป็นเมืองผู้ดี ถ่ายคลิปพาดพิง หมิ่นเบื้องสูง ส่งผลให้การชีวิตของพ่อแม่ต้องตกระกำลำบาก มีคนไปป้วนเปี้ยนลับๆ ล่อๆ หน้าบ้านตลอด 24 ชม. เสียวสันหลังวาบๆ พ่อแม่สุดทนแจ้งกองปราบจับโรส ลูกตัวเอง..เออ ไหมนั่น..ทำให้ชายชุดดำต้องประสานทนายแผ่นดิน เพื่อขอส่งตัวโรสกลับมาดำเนินคดี เพราะแม้ว่าเป็นความผิด เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร แต่ถือว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายไทย เพราะมีการเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต..แว่วว่า คนไทยทางเมืองผู้ดีเตรียมจัดหนักโรสแล้ว ระวังเดินออกจากร้าน เจอประเคนดนตรีไทยที่แข็งๆ แน่..เกลือต้องจิ้มเกลือซะบ้าง แต่ปากแบบนี้จะกินเกลือไม่ได้ เพราะแสบไปหลายวัน !!

นี่ยังมีอีก ศอ.รส.(ศูนย์อำนวยการรักษาศิวลึงค์) ของเป็ดเหลิม ปากพล่อยไม่เว้นแต่ละวัน แถลงว่า หากศาลไคฟงรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยปูเน่าผิด กรณีการโยกย้ายถวิล ถือว่าวินิจฉัยเกินอำนาจ..(เออ อำนาจบริหารข้ามมาทะลึ่งอะไร กับอำนาจตุลาการเขา) ครม.ก็จะทูลเกล้าฯ ขอพระบรมราชวินิจฉัยว่า ครม.ต้องพ้นจากการอยู่ในตำแหน่งตามที่ศาลฯ วินิจฉัยหรือไม่ โดยระหว่างทูลเกล้าฯ ครม. จะคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป..มันบ้ากันไปแล้ว ก็ศาลไคฟงเขาวินิจว่าผิด ก็ต้องผิด จะยกตัวเองขึ้นให้เสมอเบื้องสูงได้อย่างไร เพราะท่านใช้อำนาจผ่านทางนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ ที่ถ่วงดุลกันแล้ว..ขืนทำแบบนี้เจอดีแน่ๆ พวกธาติไฟแตกเมื่อรู้ว่าแพ้ !!

ตอนคราชุมนุมถนนอักษะ วันที่ 5-7 เมษา 57 นั่นก็คราวหนึ่งและ เป็ดเหลิม คางคกตู่ ใส้เดือนเต้น หน้าแหกจนต้องเอาปิ๊บคลุมหัว หายเงียบไปนาน เมื่อคุยโวว่ามา 5 แสน แต่ทุยแดงมาแค่ 1.5 หมื่นรวมการ์ด วันประกาศเลิกชุมนุมคางคกตู่ ถึงกับยางตก คุยโวว่านัดครั้งต่อไป 18 เม.ย.จะขนทุยแดงมากินหญ้า 4 ล้านเขา..โถ..พ่อคางคกอัปลักษณ์ ขยะของเดิมยังไม่รับผิดชอบเก็บทิ้งเลย ต้องให้น้องนักศึกษามหิดลจิตอาสาเขามาช่วยกัน คิดจะมาทำสกปรกโสมมอีก

หลังจากนั้นแก๊งค์เลวแล้วรวย ก็ถูกจับตา ประกบตามจากหน่วยงานความมั่นคงแบบตาไม่กระพริบ แทบจะเป็นเส้นขนก็ไม่ปาน การข่าวหลังการชุมนุมอักษะ 1-2 วัน ขุนพลสายลับอีสานรายงานว่า ชุมนุมหลังสงกรานต์นี้ ชายดูไบไม่ยอมแพ้ และให้ทุยแดงมุดลงไต้ดิน (เพราะมีผู้นำเป็นคากคก กับใส้เดือน) สั่งให้ทุกสายบูรณาการแผน
- ในบริษัทไทย , แดง นปช. , ซ้ายจัด , แดงอิสระ , กองกำลังในพื้นที่เหนือและอีสาน
- ทุกสาย ชาย ดูไบ สั่งให้ส่งแผน และประมาณ ไปให้ท่านเขาด่วน
- ชาย ดูไบ เขามีแผนหลักของตนเองอยู่แล้ว จึงจะบูรณาการแผน และยุทธวิธี ของทุกฝ่ายให้เข้ากับแผนการหลักของตนเองเพื่อทำศึกใหญ่เฮือกสุดท้าย.เผด็จศึกวันพิพากษาปูเน่า

โดยเขาเพ้อเจ้อหนัก ให้แบ่งการเคลื่อนไหวออกเป็น 7 ทัพ
- ทัพที่ 1 ให้ นปช. นำมวลชนประมาณ 50,000 คน เคลื่อนเข้ามาจัดชุมนุมก่อเหตุจลาจลในเขตกรุงเทพ โดยกลุ่มมวลชนฮาร์ดคอร์หลายๆ กลุ่ม
- ทัพที่ 2 ให้แรมบ้า นำมวลชนประมาณ 20,000 คน ปิดเส้นทางเข้าออกภาคอีสานสาน 2 จุดๆละหนึ่งหมื่นคน (สีคิ้ว , โนนแดง)
- ทัพที่ 3 ให้ด่างเกยชัย ใช้กำลังมวลชน 10,000 คน ปิดเส้นทางขึ้นภาคเหนือที่นครสวรรค์
- ทัพที่ 4 ให้กี้ร์อมฮอลล์ นำกำลังมวลชน 5,000 คน ยึดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณศรีสะเกษและสุรินทร์
- ทัพที่ 5 ให้หมอแคนขอนแก่น, หัวหนัง, วิสุทธิ์ิ์, สงวน และทีมงานอดีต ส.ส.ในพื้นที่ สั่งการให้มวลชนแดงในเหนือและอีสาน เคลื่อนขบวนยึดสถานที่ราชการในจังหวัดต่างๆ
- ทัพที่ 6 ให้แดงอิสระ เช่น กปว., แดงปทุมเรดการ์ด, เคลื่อนขบวนเข้าโจมตีองค์กรอิสระ ปปช.และศาลรัฐธรรมนูญ เป้าหมายทั้งตัวบุคคล และสถานที่ให้ใช้ความป่าเถื่อนเต็มรูปแบบ
- ทัพที่ 7 กองโจรกองกำลังชุดดำ ให้ใช้กำลังอาวุธ เช่น ปืน, ระเบิดมือ, m 79, ระเบิดแสวงเครื่อง โจมตีบุคคล และสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพ ให้หนักขึ้นรุนแรงขึ้นทั้ง กลางวันและกลางคืน และในวันที่ศาลพิพากษาปูเน่า ให้โจมตีอย่างหนักหน่วงที่สุด โดยเฉพาะที่ตั้งทางชาย 3 สี

ชายดูไบ ถึงกับพูดหลุดว่า " ชอบฆ่าคนใช่ไหม เดี๋ยวจะขนคนมาให้ฆ่า"

ต่อมาราวก่อนสงกรานต์เล็กน้อย เมื่อสายลับอีสานส่งสายลับไปฝังตัวในเสื้อแดง ร่วมลงพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อจัดตั้งและจัดหามวลชน มาร่วมชุมนุมกับแก๊งค์แบ่งแยกดินแดนแดง นปช. พื้นที่ปฏิบัติการภาคอีสานตอนกลาง (สารคาม, กาฬสินธุ์, ขอนแก่น) เกิดเหตุประหลาดขึ้น คือ

1. กระแสเสื้อแดงตกต่ำมากๆๆ ถึงมากที่สุดแบบไม่เคยเป็นมาก่อน มวลชนไร้ความรู้สึก ไร้อารมณ์ร่วม เบื่อหน่าย และบ่นเรื่องปากท้อง ข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน ไม่มีเงิน แค่กราบขอร้องให้ทุยเอาเสื้อแดงมาใส่อีกครั้ง ยังไม่มีใครเอาด้วยเลย

2.แกนนำย่อยทุยแดงในพื้นที่เสียขวัญมาก เมื่อ อดีต ส.ส.อยู่เฉย ไม่มีใครสนใจยอมออกหน้า จะให้ขนทุยแดงมาชุมนุมอีก ขอชุมนุมในพื้นที่ และต้องมีเงินมาก่อน ถึงจะออกไปหาคนมาให้ แต่ถ้าให้ไปชุมนุมที่กรุงเทพ ไม่มีใครไป เหตุผลเพราะ “กลัวไปแล้วไม่ได้กลับ -ไปแล้วไปลับ - หลับไม่ตื่นฟื้นไม่มี “..ฮา เสียของที่แกนนำเตรียมบอมบ์ทุยแดง บูดหมดเบย !!

3.ทั้งแกนนำทุยแดงในพื้นที่อีสาน กลาง และรากหญ้า คิดเหมือนๆ กันว่า ปูเน่าไม่มีทางรอด รัฐแดงแพ้แน่ๆ 100% ที่เชื่ออย่างนั้น ทุกคนพูดเสียงเดียวกันว่า ก็เห็นๆ อยู่ ทำยังไงๆ ก็แพ้ ทำอะไรๆ ก็แพ้เขา..(ฮา..ทุยแดงฉลาดแร้ววว)

ดังนั้น แผนหลอกมวลชนทุยแดงมาเป็นโล่มนุษย์ตายแทนแกนนำ เหมือนปี 53 ก็เลยล่มด้วยประการฉะนี้ ทำให้ฝ่ายความมั่นคงรู้มานานก่อนสงกรานต์แล้ว ว่าเจ๊งแน่ๆ ทำได้ก็เพียงการก่อวินาศกรรม และลอบทำร้ายประชาชน เท่านั้น ถ้าป้องกันดีๆ ก็ไม่ระคายผิว..แต่แกล้งอุบข่าวไว้ รอให้มันปล่อยไก่ จะได้ฮาให้เยี่ยวเล็ด จั๋งหนับ

พอช่วงสงกรานต์ วันที่ 13 เม.ย. ใส้เดือนเต้น เดินทางไปพักที่ บัญดาราภูแล เชียงราย ใกล้ๆ ม.แม่ฟ้าหลวง ห่างจากอำเภอแม่จัน 7 กม.นัดพบกับยุทธ ตู้เย็น หารือช่วยขนมวลชนทุยแดง ที่ตอนนั้นก็ยังหาไม่ได้เลย ดึกๆ ก็มีการพาผู้หญิงไปเฉาะกัน , ต่อมา ชายดูไบ ใด้สไกป์คุยกับเจ้ ด.แดกข้าว บอกว่ารัฐบาลเทียมพร้อมที่จะเจรจา..(อ้าว 7 ทัพเจ๊งไปแล้ว.)..แล้วมันเป็นนักโทษหนีคดี มีสิทธิ์อะไรมาพูดแทนรัฐบาลเทียม กลับมาติดคุกซะดีกว่า อย่ามาทำเห่าหอนไม่เป็นที่เป็นทาง..รำคาญหว่ะ

พอหลังสงกรานต์เอาล่ะซิ..แฉ กันแหลกลาญ เมื่อบรรดา ส.ส.บริษัทเผาไทย ต่างดาหน้ากันมาฟ้องสายลับว่า การชุมนุมของ นปช.ที่ถนนอักษะที่ผ่านมา มวลชนที่มาไม่เข้าเป้า น้อยมากๆ จนน่าใจหาย จากหลายเหตุผล เช่น การอมเงินเอาดื้อๆ ของบรรดาแกนนำแก๊งค์อมเงินหัวคิว ที่จ่ายเงินไม่เต็มจำนวนค่าหัวให้ถึงทุยแดง คนเสื้อแดงขณะนี้มีอารมณ์ร่วมน้อยมาก ไม่เหมือนปี 52 - 53 เนื่องมาจากปัญหาปากท้อง เพราะส่วนใหญ่เป็นคนจน ปากท้องไม่ดีทำให้ไม่มีอารมณ์

อีกเหตุผลที่สำคัญ คือ การชุมนุมถูกบริหารจัดการโดยแกนนำแก๊งค์อมเงินหัวคิวเอง ไม่ยอมให้ ส.ส.เข้าไปช่วย เพราะการบริหารจัดการต้องผ่านระบบหัวคะแนน ที่เป็นเครือข่าย ส.ส.ทั้งนั้น ในเมื่อไม่มี ส.ส.ช่วย ทำให้หัวคะแนนไม่มั่นใจที่จะพาคนไปร่วม

ต่อมาเกิดเหตุช๊อค คนเสื้อแดงทั้งประเทศขึ้น เมื่อราว 17 เม.ย.57 เวลาบ่ายๆ แกนนนำแก๊งค์อมเงินหัวคิว ประกาศถอยแบบเอาปิ๊บคลุมหัวไม่พอ ต้องใช้โอ่งคลุมพอไหว สั่งเลื่อนการชุมนุมวันที่ 18 เมษายน ออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ละคนหน้าเจี๋ยมเจี้ยม อับอายแทบแทรกมุดลงรูในดินสัก 100 โยชน์ แพ้ราบคาบ แพ้สนิท แพ้หลุดหลุ่ย แพ้หมดรูป ที่คุยโวไว้ก่อนหน้าเสียหายยับเยิน เบื้องหลังการ Super แพ้ ครั้งนี้ที่รายงานจากขุนพลสายลับอีสาน คือ

1. การเกณฑ์มวลชนทุยแดง มาร่วมชุมนุม เกิดความล้มเหลวหลุดลุ่ย มวลชนทุยแดงที่ถูกหลอกมาตามกระแส มีจำนวนไม่ถึง 1 หมื่นราย ส่วนมวลชนจัดตั้งของอดีต ส.ส.ไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิดแม้แต่เขตเลือกตั้งเดียว เพราะอดีต ส.ส.โมโหแกนนำเลวแล้วรวย ที่คราวก่อน อมเงินไปแบ่งเฉพาะพวกตัวเอง ส.ส.พวกนี้จึงรุมกันฟ้องชายดูไบ กันจ้าละหวั่น..ว่า ”หมูทำนา แต่หมากินข้าว”..ว่างั้นเถอะ ..ฮา

2. ท่อน้ำเลี้ยงที่ชายดูไบ ปล่อยมา ให้แกนนำแก๊งค์อมเงินหัวคิว จึงถูกปิดก๊อกแบบไม่มีกำหนด เขาแจ้งแกนนำแก๊งค์อมเงินหัวคิวว่า ขอประชุมกับพวก ส.ส.วันหยุดนี้ก่อนจึงจะตอบได้ว่า จะเปิดท่อน้ำเลี้ยงเมื่อไหร่ และจะสั่งให้เดินแผนยังไง

เมื่อคากคกตู่ ใส้เดือนเต้น ได้รับคำตอบจากชายดูไบ ก็เรียกประชุมด่วนทันที ในที่ประชุมต่าง วิพากษ์วิจารณ์ ชายดูไบ, ปูเน่า, คนสนิทของตระกูลชิน อย่างเสียๆหายๆ เช่น
- ไอ้ขี้ขลาด....บ้างล่ะ (ฮา)
- อ่อนหัด บ้างล่ะ  ไม่สู้จริง บ้างล่ะ
- กลัวชายชุดเขียวเกินไป บ้างล่ะ
- เชื่อแต่พวกชอบเลีย บ้างล่ะ  ไม่เชื่อพวกนักรบ (จอม อมเงิน) อย่างพวกมันบ้างล่ะ
- หลอกใช้พวกมันอีกแล้วบ้างล่ะ
..โถๆ หัวล้านแล้วน้อยใจ..ที อมเงินหัวคิว ส.ส.เขามาได้เงียบกริบเชียว อมมาหลายพันล้านบาทเลยนะนั่น !!

แต่หนักที่สุด คือ คำพูดของคางคกตู่ ที่ห้าวด่านายว่าว่า "หลงเข้าใจผิด คิดว่าเขาจะเป็นนักสู้อย่างพวกเรา แต่เขาเป็นได้เพียงพ่อค้าเท่านั้น”..เอ้า..พอเขาไม่เติมเงินม็อบมาก็งอน..จากนั้นแกนนำแก๊งค์อมเงินหัวคิวก็วิเคราะห์กันว่า ชายดูไบ อาจแอบจับมือกับพวกชนชนสูง ยอมคายอำนาจทางการเมือง และใช้แกนนำแก๊งค์อมเงินหัวคิว เป็นเครื่องสังเวยทางการเมือง ชายดูไบ อาจสั่งให้น้องเขย จัดการลงโทษแกนนำแดงในวันที่ 18 เม.ย. เป็นต้นไป (โห้..รู้ทันป๊าด)

เมื่อในวงวิเคราะห์เช่นนี้ทำให้ ทั้งคากคกตู่ ใส้เดือนเต้น ถึงกับหน้าถอดสี ตาเหลือกถลน เข่าอ่อน หนาวเหน็บเดือนเมษา เยี่ยวพาลปริบซืมไหลย้อย ออกมาที่ขากางเกง แกล้งพาลพาโล จะหลอกศาลไคฟงว่าป่วยเอาซะงั้น..เอาซิวะ ระหว่างชายดูไบ , ปูเน่า กับ แกนนำแก๊งค์อมเงินหัวคิว ใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะยิงใครก่อน ใครลงมือก่อนก็รอดล่ะวะ งานนี้ 2 ตัวสัตว์เลื้อยคลานนี่ตายสถานเดียว ขอบอก เสือกไปอมเงินเขาซะขนาดนั้น ฆ่าคางคก กับใส้เดือน ไม่ถือเป็นบาปมากด้วย เพราะมันคือ สัตว์เดรัจฉาน !!

ดูท่า นอกจากปูเน่า จะอุบาทภัย ดิน น้ำ ลม ไฟ ต่างๆ ที่เคยเล่าแล้ว ต่อไปจะเจอ อุบาท บาทาของสุจริตชนเข้า โทษฐานดื้อไม่เข้าเรื่อง ส่วนใส้เดือนเต้น ก็ปลาหมอตายเพราะปาก เคยสาบานหน้าเวทีขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพยานว่า “ ถ้าพวกมันเกี่ยวข้องทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง สั่งการเผาที่ราชประสงค์...ถ้าเกี่ยวข้อง “แม้แต่นิดเดียว” ขอให้พินาศล่มจมในวันนี้ พรุ่งนี้.." เอ..

เสธ ฝากกรมคุก ช่วยล้างคุกห้องเล็กๆ มืดๆ เตรียมไว้สัก 2 ห้องนะ..และช่วยจัดนักโทษล้ำๆ บึกๆ ตัวใหญ่ที่สุดไว้ให้สัก 2 โหล..เอาแบบพวกดำๆ ทมึนๆ กลัดมัน หื่นๆ น้ำลายไหลฟูมปากย้อย และซาดิสโครตๆ น่ะ

ช่วงวันที่ 18 เม.ย. เป็นต้นไปเผื่อศาลไคฟง ท่านจะส่งนักโทษน้องใหม่ไปให้สัก 2-3 คน..ให้นักโทษขาใหญ่ อัดตูดกันให้เพลินขาถ่าง สว่างคาตาไปเลย..ฮา

“ หมายเหตุ มีบางเพจนำข้อความส่วนหนึ่งส่วนใดของเนื้อหา ของเพจ แฉ ความลับ ไปโพสต่อ หรือแก้ไขดัดแปลง แจ้งล่วงหน้าว่าข้อมูลนั้นๆ อาจไม่เป็นปัจจุบันตรงกับต้นฉบับจริง ที่มีการแก้ไขข้อความในภายหลังได้ ตามข้อมูลเพิ่มเติม หรือคำแนะนำที่สร้างสรรค์หลังการโพส การตัดลอกข้อความไป อาจเกิดความสับสนเข้าใจผิดในเนื้อหาต่อสาธารณะ จึงแนะนำว่าหากสนใจ ควรกดแชร์จากเพจต้นฉบับ หากคัดลอก แนะนำอ้างอิง เพจ แฉ..ความลับ @เสธ น้ำเงิน พร้อมลิ้งด้านล่าง เพื่อประโยชนสาธารณะมาเช็คดูข้อความต้นฉบับ เทียบกับที่คัดลอกไป"

@เสธ น้ำเงิน
ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai



MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY