กระดูกเสื่อมหายจริงๆๆ !!
เก็บตกจากวัดเขาพุทธโคดมคอร ์สก่อน ....
“หมอเพชร” หรือ ดร.กฤษณา รัตนชาลี ศัลยแพทย์ด้านหัวใจวัย 60 ต้นๆ เรียนจบแพทย์จากอังกฤษและทำ งานประจำอยู่ที่ต่างประเทศ เพิ่งบินกลับมาปฏิบัติธรรมท ี่วัดเขาฯ เป็นครั้งแรก เล่าให้ฟังถึงเพื่อนหมอซึ่ง ไปตรวจที่ รพ.ศิริราช พบว่าเป็นโรคกระดูกเสื่อมเฉ ียบพลัน รพ.ให้ยามากินมากมาย ...
หมอเพชรบอกเพื่อนเอายาทิ้งไ ปและลองกินน้ำกระชาย ซึ่งตามสูตรธรรมชาติบำบัดเป ๊ะยิ่งกว่าท่าน อ.สุทธิวัสส์ ซะอีก คือห้ามเพื่อนใช้เครื่องปั่ นไฟฟ้าให้ใช้ครกหินอ่างศิลา ตำๆ พอกระชายแหลกก็เอามากรองด้ว ย “กระชอนไม้” ปูรองด้วยผ้าขาวบาง จนได้หัวเชื้อมาผสมกับน้ำผึ ้งและน้ำมะนาว
กินอยู่ประมาณ ๑ เดือนไปตรวจใหม่ หมอที่ศิริราชตกก๊ะใจสงสัยว ่าไปทำอะไรมามวลกระดูกถึงแน ่นปึ้กขนาดนี้! คนไข้ก็ไม่กล้าบอก หมอถามต่ออีกว่าแล้วยาที่ให ้ไปกินหมดรึยัง? ... ยังค่ะ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเพื่อน หมอเพชรคนนี้ก็กินน้ำกระชาย เป็นเครื่องดื่มประจำตัวประ จำบ้าน แล้วไม่เคยป่วยด้วยโรคกระดู กเสื่อมอีกเลย...
เก็บตกจากวัดเขาพุทธโคดมคอร
“หมอเพชร” หรือ ดร.กฤษณา รัตนชาลี ศัลยแพทย์ด้านหัวใจวัย 60 ต้นๆ เรียนจบแพทย์จากอังกฤษและทำ
หมอเพชรบอกเพื่อนเอายาทิ้งไ
กินอยู่ประมาณ ๑ เดือนไปตรวจใหม่ หมอที่ศิริราชตกก๊ะใจสงสัยว
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเพื่อน
อ่านเจอแล้วนำมาฝากรู้สึกดี
รักษา 9 โรคด้วยการกดข้อนิ้ว
วันนี้ขอนำเสนอเสนอวิธีการก
1. โรคตับ กดคลึงข้อทั้ง 2 ของหัวแม่มือขวา
2. หูอื้อ กดคลึงข้อทั้ง 3 ของนิ้วนางทั้ง 2 ข้าง
3. ปวดเข่า กดคลึงด้านข้างทั้ง 3 ของนิ้วก้อยมือซ้าย
4. เบาหวาน กดคลึงข้อทั้ง 2 ของหัวมือมือซ้าย
5. ความดันโลหิตสูง กดคลึงโคนนิ้วก้อยมือซ้าย
6. หัวใจ กดคลึงข้อทั้ง 3 ของนิ้วก้อยมือซ้าย
7. ปวดประจำเดือน กดคลึงข้อทั้ง 3 ของนิ้วชี้ทั้ง 2 ข้าง
8. ตาเมื่อย กดคลึงข้อทั้ง 3 ของนิ้วกลางมือขวา
9. เสริมพลังแก่ร่างกาย กดคลึงข้อทั้ง 3 ของนิ้วกลางมือซ้าย
แต่ละจุดให้กดคลึงครั้งละ 3 นาที ทำวันละ 1-2 ครั้ง แต่ถ้ามีไข้หรือนิ้วมีบาดแผ
ขอขอบคุณความรู้ดีดีจากหนัง
การถนอมรักษาสายตา ด้วยตนเองโดยวิธีนวด
การถนอมรักษาสายตามีมากมายหลายวิธีดังที่เคยเรียนมาตั้งแต่เด็กๆ และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เช่น
1. ไม่มองของสีขาวกลางแดดหรือมองแสงสว่างจ้านานๆ เช่น ดวงอาทิตย์ แสงจากการเชื่อมโลหะ เป็นต้น
2. ไม่อ่านหนังสือตัวเล็กเกินไปเป็นเวลานานๆ รวมทั้งไม่อ่านหนังสือในรถ เรือ ที่มีความสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลาด้วย
3 ไม่อ่านหนังสือในที่สลัวๆ หรือมีแสงมากเกินควร ต้องให้มีความเข้มของแสงพอเหมาะ ส่องมาจากข้างหลังหรือด้านซ้ายมือ
4. ไม่อ่านหนังสือ (หรือมองวัตถุ) ชิดใบหน้า ควรวางหนังสือให้ห่างจากตาประมาณ 1 ฟุต
5. ไม่เอามือหรือผ้าสกปรกเช็ดหรือขยี้ตา
6. ระวังไม่ให้มีการกระทบกระเทือนกะโหลกศีรษะบริเวณเบ้าตา เช่น ชกต่อย อุบัติเหตุ ยิงหนังสติ๊กถูกตา ถูกไอสารเคมี หรือน้ำยาที่ระคายต่อตา
7. ไม่ไว้ผมยาวปรกหน้าและมาบังตา ทำให้มองไม่ถนัด และเป็นช่องทางให้ควาบสกปรกจากผมเข้าเบ้าตาได้
8. ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว หรือผ้าขาวม้าร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยเป็นโรคตา เป็นต้น
9. เมื่อเป็นโรคตาต้องรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที ไม่ควรใช้ยาตา (หยอด, ป้าย) เอง
10. เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา แว่นตา ควรไปปรึกษาแพทย์เรื่องการใส่แว่นและเรื่องการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม
การฝึกนวดตนเอง 7 ท่า
ท่าที่ 1 ท่าเสยผม
ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง กดขอบกระบอกตาบนให้แน่นพอควร ทำทั้ง 2 ข้างพร้อมๆ กัน ค่อยๆ ดันนิ้วทั้ง 3 นิ้วเรื่อยขึ้นไปบนศีรษะจนถึงท้ายทอยแบบเสยผม ทำ 10-20 ครั้ง
ท่าที่ 2 ท่าประแป้ง
ใช้นิ้วกลางทั้งสอง กดตรงหัวตา (โดนสันจมูก) แน่นพอควรดันนิ้วขึ้นไปจนถึงหน้าผาก แล้วใช้นิ้วทั้งหมด (เว้นนิ้วหัวแม่มือ) แตะหน้าผากโดยให้ปลายนิ้วมือจรดกัน แล้วลูบลงไปข้างแก้มแบบแนบสนิทมายังคาง ทำ 10-20 ครั้ง
ท่าที่ 3 ท่าเช็ดปาก
ใช้ฝ่ามือขวาทาบบนปากลากมือไปทางขวาให้สุด ให้ฝ่ามือกดแน่นกับปากพอสมควร เปลี่ยนใช้มือซ้ายทาบปากแล้วทำแบบเดียวกันนับเป็น 1 ครั้ง ทำ 10-20 ครั้ง
ท่าที่ 4 ท่าเช็ดคาง
ใช้หลังมือขวาทาบใต้คาง แล้วลากมือจากทางซ้ายไปขวาให้หลังมือกดแน่นกับใต้คางพอควร เปลี่ยนใช้มือซ้ายทำแบบเดียวกัน นับเป็น 1 ครั้ง ทำ 10-20 ครั้ง
ท่าที่ 5 ท่ากดใต้คาง
ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 ข้างกดใต้คาง โดยให้ปลายนิ้วตั้งฉากกับคาง ใช้แรงกดพอควรและกดนานพอควร (นาน 10 วินาที หรือนับ 1-10 อย่างช้าๆ) เลื่อนจุดกดให้ทั่วใต้คางเฉพาะทางด้านหน้า ทำ 5-10 ครั้ง
ท่าที่ 6 ท่าถูหน้าและหลังหู
ใช้มือแต่ละข้างคีบหู โดยกางนิ้วกลางและนิ้วชี้คีบอย่างหลวมๆ วางมือให้แนบสนิทกับแก้ม ถูขึ้นลงแรงๆ นับเป็น 1 ครั้ง ทำ 20-30 ครั้ง
ท่าที่ 7 ท่าตบท้ายทอย
ใช้ฝ่ามือปิดหู (มือซ้ายปิดหูซ้าย มือขวาปิดหูขวา) ใช้นิ้วทั้งหมดอยู่ตรงท้ายทอย และปลายนิ้วกลางจรดกัน กระดิกนิ้วให้มากที่สุด แล้วตบที่ท้ายทอยพร้อมกันทั้ง 2 มือด้วยความแรงพอสมควร ทำ 20-30 ครั้ง
* สำหรับท่าตบท้ายทอย ต้องไม่ยกฝ่ามือออกจากหู เพราะทำให้การตบแรงเกินควรซึ่งจะกลับให้ผลเสียได้
เมื่อท่านทำครบทั้ง 7 ท่าแล้ว จะรู้สึกหัวโปร่ง เบาสบาย ตาสว่าง หายง่วงนอน รู้สึกสดชื่น ถ้าเป็นไปได้ควรทำวันละ 2 ครั้ง คือ ตอนเช้า ตอนเย็น
ลองทำกันดูนะครับ และเขียนเล่าอาการก่อนและหลังนวดมาแลกเปลี่ยนกับผู้เขียน ส่งไปที่นิตยสาร “หมอชาวบ้าน”
ข้อพึงสังเกตเกี่ยวกับการนวดตนเองเพื่อช่วยสายตา
- ต้องตัดเล็บให้สั้น เพื่อมิให้ไปขีดข่วนใบหน้า
- ไม่ใส่แหวนและต่างหูเพราะอาจจะบูดใบหน้าทำให้เกิดบาดแผลได้
- ต้องล้างมือและหน้าให้สะอาด เช็ดให้แห้งก่อนการนวด
- งดการนวดเมื่อมีไข้ ใบหน้าเป็นสิว ฝี หรือมีโรคผิวหนัง
- เริ่มนวลแต่เพียงน้อยครั้ง เช่น 5-10 ครั้ง แล้วค่อยเพิ่มทีละน้อย
- ตั้งใจนวด มิใช่ทำให้เสร็จๆ ไป หรือทำลวกๆ ถ้าเป้นไปได้ควรทำสมาธิไปพร้อมๆ กันด้วย
- การนวดต้องทำประจำจึงจะได้ผล ไม่ทำๆ หยุดๆ