GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

อภินิหารของหลวงปู่




หลวงปู่ดู่ช่วยชีวิต...

เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นประมาณปี พ.ศ. ๒๕๔๘ (หลวงปู่ดู่ มรณภาพล่วงไปแล้ว ๑๕ ปี) เป็นเรื่องที่ช่วยให้เห็นถึงความเมตตาของครูบาอาจารย์ รวมทั้งยืนยันว่าท่านสามารถช่วยเหลือลูกศิษย์ได้แม้ท่านจะละสังขารไปแล้วก็ ตาม น่าเสียดายที่ไม่อาจติดตามสอบถามชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่ถึงกระนั้นก็ยังอยากจะนำมาเรียบเรียงบันทึกไว้เล่าสู่กันฟัง

เหตุการณ์ นี้เริ่มต้นที่ลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงปู่ขับรถ...ยนต์ไปชนเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง จนบาดเจ็บอาการสาหัสมาก เป็นตายเท่ากัน ลูกศิษย์ผู้นี้ก็กลุ้มใจมาก เพราะเกิดมาไม่ประสงค์จะทำบาปทำกรรมกับใคร อีกทั้งไม่อยากมีบาปกรรมอันเกิดจากปาณาติบาต เขาจึงมาบนหลวงปู่ดู่ที่วัดสะแก ร้องขอให้ท่านช่วยเหลือให้เด็กหนุ่มผู้นี้อย่าให้ถึงขั้นต้องเสียชีวิตเลย

เด็ก หนุ่มนั้น ครั้งแรกก็เข้ารับการรักษาที่ห้อง ICU โรงพยาบาลในอยุธยา แต่เมื่อหมอเอาไม่อยู่ จึงถูกส่งเข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ภายหลังจู่ ๆ อาการกลับฟื้นดีขึ้นอย่างอัศจรรย์ แล้วก็ได้มีโอกาสตามเพื่อนมาทำบุญที่วัดสะแก โดยที่ไม่รู้จักหลวงปู่มาก่อน

เด็ก หนุ่มผู้นี้ มาทำบุญถวายสังฆทานที่กุฏิพระสายหยุด ครั้นเมื่อท่านได้ฟังเรื่องราวของชายผู้นี้แล้ว จึงสามารถปะติดปะต่อและเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้เป็นอย่างดี เพราะท่านเองก็ได้ยินเรื่องราวทางฝั่งลูกศิษย์หลวงปู่ผู้ที่เป็นคนขับรถยนต์ ชนเด็กหนุ่มผู้นี้มาก่อนหน้านี้แล้ว

เด็กหนุ่มผู้นี้ เมื่อถวายสังฆทานเสร็จก็เหลือบเห็นรูปหลวงปู่ดู่ ที่ผนังกุฏิของพระสายหยุด เขาตกใจตื่นเต้นอุทานว่าหลวงปู่องค์นี้แหล่ะที่ช่วยชีวิตเขาไว้ หลวงปู่องค์นี้เป็นคนพาดวงวิญญาณของเขากลับเข้าร่าง

เขาเล่าว่าภาย หลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ที่กรุงเทพฯ ไม่นาน เขาก็เสียชีวิต แต่ขณะที่วิญญาณของเขาออกจากร่างมา ก็มีผู้ชายนุ่งโจงกระเบนด้วยผ้าสีแดง จะมาเอาตัวเขาไป ทันใดก็มีหลวงปู่องค์หนึ่งมาขวางไว้ หลวงปู่ถามเขาว่ารู้จักชายที่นุ่งจูงกระเบนผู้นั้นไหม เขาตอบว่าไม่รู้จัก แล้วก็บอกว่าหลวงปู่ช่วยด้วย ๆ หลวงปู่ทำท่าโบกมือไล่ครั้งเดียว ชายผู้นั้นก็หายไป

หลวงปู่ถามเขาอีกว่า ไหนล่ะร่างแก เขาพยายามมอง แต่ก็จำไม่ได้ว่าอยู่เตียงไหน หลวงปู่จึงพาเขาไปดูที่เตียงๆ หนึ่ง แล้วถามว่า นั่นใช่แกไหมล่ะ เขาเห็นแล้วก็จำได้ กราบเรียนท่านว่า ใช่ครับ จากนั้นท่านก็พาเขาเข้ายังร่างที่นอนหมดลมอยู่บนเตียง หลังจากฟื้นขึ้นมา เขาก็อาการดีขึ้นตามลำดับ แต่ทว่าเขาต้องสูญเสียขาไปข้างหนึ่ง พอกลับมาบ้านก็มีเพื่อนพามาทำบุญที่วัดสะแก จึงได้มารู้ว่าที่แท้หลวงปู่องค์ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ก็คือหลวงปู่ดู่ วัดสะแก นั่นเอง

พระสายหยุดเล่าว่า เสียดายที่ไม่รู้รายละเอียดของเด็กหนุ่มผู้นั้น ทราบเพียงคร่าว ๆ ว่าเขาเป็นคนอำเภอภาชี ประกอบกับท่านก็ยังไม่ได้พบกับลูกศิษย์หลวงปู่ผู้ที่เป็นคนขับรถชนเด็กหนุ่ม นั้นอีก แต่ก็แปลกที่เรื่องราวของทั้ง ๒ ฝ่ายกลับมาเชื่อมต่อเป็นเรื่องเดียวกันที่กุฏิของท่าน

พระสายหยุด เล่าเรื่องนี้ด้วยความปลื้มปีติในพลังเมตตาบารมีของหลวงปู่ที่แม้ท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่ก็ยังคงรับทราบและช่วยปัดเป่าความทุกข์ของบรรดาลูกศิษย์และสัตว์โลกที่ ประสบทุกข์ทั้งหลาย

เรื่องนี้เป็นเรื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงบารมีของพระรัตนตรัยและโลกวิญญาณว่าเป็นธรรมชาติที่มีอยู่จริง..

 Photo

รัตนะ รัด-ตะ-นะ ผมก็เคยเหมือนกันครับ วันที่ 29 ธ.ค 2556 เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำงานต่างจังหวัด จะเดินทางกลับบ้าน ที่ขอนแก่น เหตุเกิดที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ที่ผ่านมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์รถคู่กรณีหักมาชนด้านข้างฝั่งที่ผมขับแบบที่ผมไม่สามารถที่จะหลบได้ เขาหักมาชนด้านข้างทำให้รถยกขึ้นกระแทกพื้น ล้อด้านหน้าแตก เสียหลักบังคับไม่อยู่ ทันใดนั้นเหมือนคนมาช่วยหักพวงมาลัยรถเข้าหารถที่มาชน ล้อหน้ารถคันนั้นล็อกเข้ากับล้อหลังของรถผมทำให้ไม่ไถลหรือเสียหลักพุ่งชนรถคันข้างหน้าหรือชนต้นไม้ข้างทาง ซึ่งอาจเกิด การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ เหตุการณ์นี้เป็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น แว็บแรกที่รถหยุดนิ่งผมนึกถึงหลวงปู่ดู่ ขนลุกทั้งตัว มีคนโดยสารไปด้วย 6คน นั่งกระบะหลักสามคน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ วิ่งด้วยความเร็ว100กม./ชม คิดดูละกันครับว่าจะเป็นยังไง บารมีหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ช่วยไว้ครับ สาธุ สาธุ สาธุ. เล่าสู่กันฟัง ปัจจัตตังเวทิตัพโพ


สมัยที่หลวงปู่ทิม วัดช้างไห้ ปัตตานีสร้างหลวงปู่ทวดรุ่นแรกทำให้ชื่อเสียงหลวงปู่ทวดโด่งดังมาก เพราะปาฏิหาริย์และประสบการณ์มากมาย เป็นสมัยเดียวกันกับท่านอ.ทวีก็ได้สร้างสำนักของท่านชื่อ”อาศรมชีปะขาว” และท่าน อ.ทวี ประสงค์จะสร้างรูปหล่อหลวงปู่ทวดไว้ที่สำนักโดยสร้างเท่าองค์จริง และได้ขอให้อาจารย์จิตร บัวบุศย์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเพาะช่างสมัยนั้นเป็นผู้ปั้น

อาจารย์จิตรบอกว่าไม่เคยเห็นหน้าองค์หลวงปู่ทวดจึง ปั้นไม่ได้ (สมัยนั้นหากล้องถ่ายรูปยาก และคนยังไม่รู้จักหลวงปู่ทวด ภาพหลวงปู่ก็ไม่แพร่หลายเหมือนสมัยนี้) ท่านอ.ทวีจึงได้ติดต่อกับหลวงปู่ทวดทางสมาธิจิตและได้ทำพิธีอัญเชิญหลวงปู่ทวดให้มาปรากฏให้ผอ.จิตร บัวบุศย์ได้เห็น และท่านอ.ทวีจึงได้ใช้สมาธิเพ่งไปที่เล็บนิ้วหัวแม่มือของอาจารย์จิตรจนเป็นรูปหลวงปู่ทวดขึ้นอย่างในภาพที่เห็นปรากฏบนเล็บนานถึง7วันจนปั้นแบบเสร็จ ภาพหลวงปู่จึงจางหายไป

ปัจจุบันรูปหล่อหลวงปู่ทวดที่ ผอ.จิตร์ บัวบุศย์ สร้างตามภาพที่ปรากฏบนเล็บ ตอนนี้ประดิษฐานอยู่ที่ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ (อาคารศูนย์การแพทย์)
See More



 
 
วัดม่วงค่ะ จ.อ่างทอง
 


"พระคาถาพระพุทธเจ้าชนะมาร"

พระคาถานี้เป็นคาถาที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ใช้ภาวนาเป็นประจำมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก พุทธานุภาพ ครอบจักวาล

ปัญจะมาเรชิโนนาโถ ปัตโตสัมโพธิมุตตะมัง ...
(ข้าพเจ้าขอนอบน้อมบูชาพระพุทธองค์
ผู้ทรงชนะมารทั้งห้า ผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาวิมุติ)

จตุสัจจังปกาเสสิ ธัมมจักกังปวัตตะยิ
(ผู้ทรงประกาศอริยสัจสี่ ผู้ยังให้พระธัมมจักรให้หมุนไป)

เอเตนะสัจจะวัชเชนะ โหตุเมชยมังคะลัง
(ด้วยการกล่าวสัจจวาจานี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้าเทอญ)




ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่นอน
ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืน
ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู
ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่
ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเท่านั้น

พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต


เรื่องหมอดูหมอเดาอะไรต่าง ๆ นี้ เรื่องหวยเรื่องเบอร์ มันจะถูกแต่ตอนแรก ๆ ภายหลังมันจะโกหก หลวงพ่อทดสอบมามากแล้ว ดูสิว่า เขาเป็นอาจารย์ใบ้หวยกันอย่างไร เราภาวนามาแทบเป็นแทบตาย ไม่เห็นให้หวยอย่างเขาได้ เอ้า ! พออธิษฐานจิตเข้าไปแล้ว หวยมันก็ไล่กันมาเป็นแถว ๆ เลย บางที ๔ งวด ๕ งวด บางที ๗ งวด บางทีนั่งอยู่เฉย ๆ มันก็รู้ ถ้ารู้แล้วเราก็เฉย ๆ ไป แต่บางทีก็ทดลองเขียนเอาไว้ว่ามันจะออกตามนี้ไหม เอาทิ้งเอาไ...ว้ มันออกหมดทุกตัว ทีนี้พอภายหลังมานึกว่า เออ ! จะโปรดญาติโยมบ้างละ พอไปนึกเข้ามันก็ไล่เข้ามาเป็นแถวเหมือนกัน มากกว่าเก่า เสร็จแล้วบอกใบ้ตัวไหนจมไปทุกตัว หลังจากนั้นมาก็เลยเข็ดหลาบ เรื่องของจิตนี้มันตลกเก่ง มันหลอกเก่ง เพราะฉะนั้น เราภาวนาแล้วเราอย่าไปอยากรู้อยากเห็น ให้มั่นใจในการประกอบกิจในปัจจุบันนี้ ภาวนาอยู่ในปัจจุบันนี้ อย่าไปอยากรู้โน่นรู้นี่ ถ้าเราตั้งใจอยากจะรู้โน่นรู้นี่ มันจะหลอกทันที

... หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ...
See More
 
เวลาเกิดความโกรธขึ้น อย่าพูด
ให้นิ่งอยู่เสียก่อน คอยให้มันได้สติเสียก่อน
พอได้สติแล้ว มันก็ถอนออก ถอนออก
ถ้าปล่อยมันโกรธ ใจนั่นหละมันเดือดร้อน
มันเป็นบาป อกุสลาธรรมเมา

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

เขาเอาของเราไป ก็ให้ถือว่าให้ทานเขาไป
ไม่อย่างนั้นจะไม่รู้จักหมดเวรหมดกรรมสักที
เขาเอาของเรา ดีกว่าเราเอาของเขา

ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก


" อย่าไปไขว่คว้าอะไร ให้มันมากมายนัก
ให้กำหนดสติรู้จิต เพียงอย่างเดียว
บาปมันเกิดที่จิต บุญมันเกิดที่จิต ดีชั่วเกิดที่จิต
สวรรค์นิพพานเกิดที่จิต มันไม่ได้เกิดที่อื่น.."

ลวงปู่แหวน สุจิณโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่



พระพุทธศาสนาสอนให้ละชั่วทำดี
เมื่อเราเห็นจิตอยู่อย่างนั้นแล้ว
คิดนึกอะไรต่าง ๆ รู้สึกอยู่ ตลอดเวลา
จิตมันละอายละคราวนี้ มันค่อยวางค่อยทิ้งไป

ที่เราวุ่นวี่วุ่นวายอยู่นี่ก็เรื่องไม่เห็นจิตนั่นเอง
คิดดู ความโกรธ เราไม่รู้จักความโกรธ
มันโกรธแล้วจึงค่อยรู้จัก
รู้จักแต่โกรธ ไม่รู้จักตัวโกรธ
รู้จักแต่คำว่าโกรธ ไม่รู้จักผู้โกรธ คือจิตนั่นเอง
ถ้าเข้าไปรู้จักตัวผู้โกรธนั่นแหละหายทันที อย่างนี้ เป็นต้น

จึงให้พิจารณาให้เห็นจิต
เมื่อพิจารณาควบคุมจิตได้อยู่อย่างนี้
เรื่องการฝึกหัดปฏิบัติไม่ต้อง เอาที่อื่น
เอาสติควบคุมจิตไว้ตลอดเวลาก็พอ

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

 



การภาวนา “พุธโธ” ไม่ใช่งานหนัก ไม่ใช่งานยาก แต่มีคุณค่ามหาศาล เกินกว่าจะมีผู้ใดบอกได้ถูก ผู้ใดทำ ผู้นั้นจะได้เข้าใจด้วยตนเอ

สมเด็จพระญาณสังวร

Photo: หลงคิดชิวิตนี้ว่าโลกวุ่น  ทำให้ขุ่นใจหมองมีมากหลาย  ดูแต่โลกภายนอกเลยวุ่นวาย  หันดูกายย้ายจิตคิดดูตน  ดูจริงจริงนิ่งอยู่จึงรู้คิด  ว่าเป็นจิตคิดไปมีหลายหน  คิดฟุ้งซ่านผลาญจิตจนมืดมน  พอได้ค้นว่าจิดพร่องต้องปล่อยวาง(วันนี้รักษาศิลภาวนาฟังธรรม อนุโมทนาบุญร่วมนะทุกๆท่าน ราตรีสวัสดิ์หลับเป็นสุขทุกๆท่าน)

มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก
คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ...
ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน
ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า
คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน
โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้งงงและเสียใจมาก
ร้องไห้ไม่กินไม่นอน ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใ

เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ
ไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น
มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา
เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน
แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู
เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า เป็นพระ
จึงบอกว่า " ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า"

หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า "อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต ในบ้านมีคนป่วยใช่มั๊ย อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อยไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว"
เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่า ตัดสินใจเองไม่ได้ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่า
"อยากเข้ามา ก็เข้ามา!"

เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า
ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง สีหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่า "อาการหนักเลยนะ"

ชายคนนั้น นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า
"โทรมมากเลยนะ" ชายคนนั้นไม่สนใจ
หลวงตาบอกว่า "ไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกสิ"
ชายคนนั้นไม่สนใจ

แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน
เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น
ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป
กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล

ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา
ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น เขาพบว่า มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด

เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ
แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา
เขามองเห็นศพนั้น
เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุม
ร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป

พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา
เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู
เมื่อพบว่า เป็นศพ ด้วยใจสงสาร
จึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด
เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆ
กอบทรายขึ้นมา เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ
จนเย็น พอได้หลุมใหญ่พอสมควร
จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป

จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพ
ของศพหญิงคนนั้น และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ
พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2
แล้วก็ค่อยๆจางหายไป เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจ

ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า "ทีนี้เข้าใจรึยัง ศพนั้นคือคู่รักของโยม ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน"

เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา
เด็กรับใช้ตกใจมาก
หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า "โยมรอดแล้ว
เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว"

ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชติดตามหลวงตาองค์นั้นในที่สุด

คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง ,
ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย
เมื่อมีวาสนา ไม่ต้องเรียกร้อง ถึงเวลาก็มาเจอกัน
เมื่อสิ้นวาสนา ก็ต้องจากกัน รั้งยังไงก็ไม่อยู่

ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้
คุณทำได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยัง
เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน
ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้า
ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้
ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ว่า
เราจะต้องจากกันเมื่อไหร่

ทุกๆวจีกรรม กายกรรม และมโนกรรม ที่เรานึกคิด
พูดล้วนเป็นกรรมหมด อยู่ที่เจตนาเป็นบุญหรือบาป ล้วนส่งผลต่อปัจจุบันและอนาคตทั้งนั้น...ธรรมะสาธุ



MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY