หลวงปู่ดู่ช่วยชีวิต...
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นประมาณปี พ.ศ. ๒๕๔๘ (หลวงปู่ดู่ มรณภาพล่วงไปแล้ว ๑๕ ปี) เป็นเรื่องที่ช่วยให้เห็นถึ
เหตุการณ์ นี้เริ่มต้นที่ลูกศิษย์ท่าน
เด็ก หนุ่มนั้น ครั้งแรกก็เข้ารับการรักษาท
เด็ก หนุ่มผู้นี้ มาทำบุญถวายสังฆทานที่กุฏิพ
เด็กหนุ่มผู้นี้ เมื่อถวายสังฆทานเสร็จก็เหล
เขาเล่าว่าภาย หลังเข้ารับการรักษาตัวที่โ
หลวงปู่ถามเขาอีกว่า ไหนล่ะร่างแก เขาพยายามมอง แต่ก็จำไม่ได้ว่าอยู่เตียงไ
พระสายหยุดเล่าว่า เสียดายที่ไม่รู้รายละเอียด
พระสายหยุด เล่าเรื่องนี้ด้วยความปลื้ม
เรื่องนี้เป็นเรื่องยืนยันไ
รัตนะ รัด-ตะ-นะ ผมก็เคยเหมือนกันครับ วันที่ 29 ธ.ค 2556 เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำงานต่างจังหวัด จะเดินทางกลับบ้าน ที่ขอนแก่น เหตุเกิดที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ที่ผ่านมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์รถคู่กรณีหักมาชนด้านข้างฝั่งที่ผมขับแบบที่ผมไม่สามารถที่จะหลบได้ เขาหักมาชนด้านข้างทำให้รถยกขึ้นกระแทกพื้น ล้อด้านหน้าแตก เสียหลักบังคับไม่อยู่ ทันใดนั้นเหมือนคนมาช่วยหักพวงมาลัยรถเข้าหารถที่มาชน ล้อหน้ารถคันนั้นล็อกเข้ากับล้อหลังของรถผมทำให้ไม่ไถลหรือเสียหลักพุ่งชนรถคันข้างหน้าหรือชนต้นไม้ข้างทาง ซึ่งอาจเกิด การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ เหตุการณ์นี้เป็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น แว็บแรกที่รถหยุดนิ่งผมนึกถึงหลวงปู่ดู่ ขนลุกทั้งตัว มีคนโดยสารไปด้วย 6คน นั่งกระบะหลักสามคน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ วิ่งด้วยความเร็ว100กม./ชม คิดดูละกันครับว่าจะเป็นยังไง บารมีหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ช่วยไว้ครับ สาธุ สาธุ สาธุ. เล่าสู่กันฟัง ปัจจัตตังเวทิตัพโพ
สมัยที่หลวงปู่ทิม วัดช้างไห้ ปัตตานีสร้างหลวงปู่ทวดรุ่น แรกทำให้ชื่อเสียงหลวงปู่ทว ดโด่งดังมาก เพราะปาฏิหาริย์และประสบการ ณ์มากมาย เป็นสมัยเดียวกันกับท่านอ.ท วีก็ได้สร้างสำนักของท่านชื ่อ”อาศรมชีปะขาว” และท่าน อ.ทวี ประสงค์จะสร้างรูปหล่อ หลวงปู่ทวดไว้ที่สำนักโดยสร ้างเท่าองค์จริง และได้ขอให้อาจารย์จิตร บัวบุศย์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรีย นเพาะช่างสมัยนั้นเป็นผู้ปั ้น
อาจารย์จิตรบอกว่าไม่เคยเห็ นหน้าองค์หลวงปู่ทวดจึง ปั้นไม่ได้ (สมัยนั้นหากล้อง ถ่ายรูปยาก และคนยังไม่รู้จักหลวงปู่ทว ด ภาพหลวงปู่ก็ไม่แพร่หลายเหม ือนสมัยนี้) ท่านอ.ทวีจึงได้ติดต่อกับหล วงปู่ทวดทางสมาธิจิตและได้ท ำพิธีอัญเชิญหลวงปู่ทวดให้ม าปรากฏให้ผอ.จิตร บัวบุศย์ได้เห็น และท่านอ.ทวีจึงได้ใช้สมาธิ เพ่งไปที่เล็บนิ้วหัวแม่มือ ของอาจารย์จิตรจนเป็นรูปหลว งปู่ทวดขึ้นอย่างในภาพที่เห ็นปรากฏบนเล็บนานถึง7วันจนป ั้นแบบเสร็จ ภาพหลวงปู่จึงจางหายไป
ปัจจุบันรูปหล่อหลวงปู่ทวดท ี่ ผอ.จิตร์ บัวบุศย์ สร้างตามภาพที่ปรากฏบนเล็บ ตอนนี้ประดิษฐานอยู่ที่ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ (อาคารศูนย์การแพทย์) See More
"พระคาถาพระพุทธเจ้าชนะมาร"
พระคาถานี้เป็นคาถาที่หลวงป ู่มั่น ภูริทัตโต ใช้ภาวนาเป็นประจำมีความศัก ดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก พุทธานุภาพ ครอบจักวาล
ปัญจะมาเรชิโนนาโถ ปัตโตสัมโพธิมุตตะมัง ...
(ข้าพเจ้าขอนอบน้อมบูชาพระพ ุทธองค์
ผู้ทรงชนะมารทั้งห้า ผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาวิมุติ )
จตุสัจจังปกาเสสิ ธัมมจักกังปวัตตะยิ
(ผู้ทรงประกาศอริยสัจสี่ ผู้ยังให้พระธัมมจักรให้หมุ นไป)
เอเตนะสัจจะวัชเชนะ โหตุเมชยมังคะลัง
(ด้วยการกล่าวสัจจวาจานี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้าเท อญ)
ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่น อน
ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืน
ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู
ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่
ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเท่า นั้น
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
เขาเอาของเราไป ก็ให้ถือว่าให้ทานเขาไป
ไม่อย่างนั้นจะไม่รู้จักหมด เวรหมดกรรมสักที
เขาเอาของเรา ดีกว่าเราเอาของเขา
ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก
" อย่าไปไขว่คว้าอะไร ให้มันมากมายนัก
ให้กำหนดสติรู้จิต เพียงอย่างเดียว
บาปมันเกิดที่จิต บุญมันเกิดที่จิต ดีชั่วเกิดที่จิต
สวรรค์นิพพานเกิดที่จิต มันไม่ได้เกิดที่อื่น.."
ลวงปู่แหวน สุจิณโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
สมัยที่หลวงปู่ทิม วัดช้างไห้ ปัตตานีสร้างหลวงปู่ทวดรุ่น
อาจารย์จิตรบอกว่าไม่เคยเห็
ปัจจุบันรูปหล่อหลวงปู่ทวดท
วัดม่วงค่ะ จ.อ่างทอง
"พระคาถาพระพุทธเจ้าชนะมาร"
พระคาถานี้เป็นคาถาที่หลวงป
ปัญจะมาเรชิโนนาโถ ปัตโตสัมโพธิมุตตะมัง ...
(ข้าพเจ้าขอนอบน้อมบูชาพระพ
ผู้ทรงชนะมารทั้งห้า ผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาวิมุติ
จตุสัจจังปกาเสสิ ธัมมจักกังปวัตตะยิ
(ผู้ทรงประกาศอริยสัจสี่ ผู้ยังให้พระธัมมจักรให้หมุ
เอเตนะสัจจะวัชเชนะ โหตุเมชยมังคะลัง
(ด้วยการกล่าวสัจจวาจานี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้าเท
ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่น
ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืน
ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู
ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่
ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเท่า
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
เรื่องหมอดูหมอเดาอะไรต่าง ๆ นี้ เรื่องหวยเรื่องเบอร์ มันจะถูกแต่ตอนแรก ๆ ภายหลังมันจะโกหก หลวงพ่อทดสอบมามากแล้ว ดูสิว่า เขาเป็นอาจารย์ใบ้หวยกันอย่ างไร เราภาวนามาแทบเป็นแทบตาย ไม่เห็นให้หวยอย่างเขาได้ เอ้า ! พออธิษฐานจิตเข้าไปแล้ว หวยมันก็ไล่กันมาเป็นแถว ๆ เลย บางที ๔ งวด ๕ งวด บางที ๗ งวด บางทีนั่งอยู่เฉย ๆ มันก็รู้ ถ้ารู้แล้วเราก็เฉย ๆ ไป แต่บางทีก็ทดลองเขียนเอาไว้ ว่ามันจะออกตามนี้ไหม เอาทิ้งเอาไ...ว้ มันออกหมดทุกตัว ทีนี้พอภายหลังมานึกว่า เออ ! จะโปรดญาติโยมบ้างละ พอไปนึกเข้ามันก็ไล่เข้ามาเ ป็นแถวเหมือนกัน มากกว่าเก่า เสร็จแล้วบอกใบ้ตัวไหนจมไปท ุกตัว หลังจากนั้นมาก็เลยเข็ดหลาบ เรื่องของจิตนี้มันตลกเก่ง มันหลอกเก่ง เพราะฉะนั้น เราภาวนาแล้วเราอย่าไปอยากร ู้อยากเห็น ให้มั่นใจในการประกอบกิจในป ัจจุบันนี้ ภาวนาอยู่ในปัจจุบันนี้ อย่าไปอยากรู้โน่นรู้นี่ ถ้าเราตั้งใจอยากจะรู้โน่นร ู้นี่ มันจะหลอกทันที
... หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ... See More
... หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ... See More
เวลาเกิดความโกรธขึ้น อย่าพูด
ให้นิ่งอยู่เสียก่อน คอยให้มันได้สติเสียก่อน
พอได้สติแล้ว มันก็ถอนออก ถอนออก
ถ้าปล่อยมันโกรธ ใจนั่นหละมันเดือดร้อน
มันเป็นบาป อกุสลาธรรมเมา
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
ให้นิ่งอยู่เสียก่อน คอยให้มันได้สติเสียก่อน
พอได้สติแล้ว มันก็ถอนออก ถอนออก
ถ้าปล่อยมันโกรธ ใจนั่นหละมันเดือดร้อน
มันเป็นบาป อกุสลาธรรมเมา
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
เขาเอาของเราไป ก็ให้ถือว่าให้ทานเขาไป
ไม่อย่างนั้นจะไม่รู้จักหมด
เขาเอาของเรา ดีกว่าเราเอาของเขา
ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก
" อย่าไปไขว่คว้าอะไร ให้มันมากมายนัก
ให้กำหนดสติรู้จิต เพียงอย่างเดียว
บาปมันเกิดที่จิต บุญมันเกิดที่จิต ดีชั่วเกิดที่จิต
สวรรค์นิพพานเกิดที่จิต มันไม่ได้เกิดที่อื่น.."
ลวงปู่แหวน สุจิณโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
พระพุทธศาสนาสอนให้ละชั่วทำ
เมื่อเราเห็นจิตอยู่อย่างนั
คิดนึกอะไรต่าง ๆ รู้สึกอยู่ ตลอดเวลา
จิตมันละอายละคราวนี้ มันค่อยวางค่อยทิ้งไป
ที่เราวุ่นวี่วุ่นวายอยู่นี
คิดดู ความโกรธ เราไม่รู้จักความโกรธ
มันโกรธแล้วจึงค่อยรู้จัก
รู้จักแต่โกรธ ไม่รู้จักตัวโกรธ
รู้จักแต่คำว่าโกรธ ไม่รู้จักผู้โกรธ คือจิตนั่นเอง
ถ้าเข้าไปรู้จักตัวผู้โกรธน
จึงให้พิจารณาให้เห็นจิต
เมื่อพิจารณาควบคุมจิตได้อย
เรื่องการฝึกหัดปฏิบัติไม่ต
เอาสติควบคุมจิตไว้ตลอดเวลา
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
การภาวนา “พุธโธ” ไม่ใช่งานหนัก ไม่ใช่งานยาก แต่มีคุณค่ามหาศาล เกินกว่าจะมีผู้ใดบอกได้ถูก
สมเด็จพระญาณสังวร
มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก
คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ...
ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแ
ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว
คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่
โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้งงงและเสียใจมาก
ร้องไห้ไม่กินไม่นอน ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใ
เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ
ไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น
มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา
เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที
แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะ
เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบ
จึงบอกว่า " ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า"
หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้ว
เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก
"อยากเข้ามา ก็เข้ามา!"
เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้อง
ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอา
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่า "อาการหนักเลยนะ"
ชายคนนั้น นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่ห
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า
"โทรมมากเลยนะ" ชายคนนั้นไม่สนใจ
หลวงตาบอกว่า "ไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกสิ"
ชายคนนั้นไม่สนใจ
แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจ
เขามองเห็นภาพของคนที่รักอย
ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจา
กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล
ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ
ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น มองภาพในกระจกด้วยความสนใจน
เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วย
แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่
เขามองเห็นศพนั้น
เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกม
ร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา
เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู
เมื่อพบว่า เป็นศพ ด้วยใจสงสาร
จึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด
เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆ
กอบทรายขึ้นมา เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ
จนเย็น พอได้หลุมใหญ่พอสมควร
จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเร
จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยน
ของศพหญิงคนนั้น และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพขอ
พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2
แล้วก็ค่อยๆจางหายไป เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจ
ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า "ทีนี้เข้าใจรึยัง ศพนั้นคือคู่รักของโยม ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา
เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอั
เด็กรับใช้ตกใจมาก
หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า "โยมรอดแล้ว
เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเ
ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้อ
คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง ,
ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย
เมื่อมีวาสนา ไม่ต้องเรียกร้อง ถึงเวลาก็มาเจอกัน
เมื่อสิ้นวาสนา ก็ต้องจากกัน รั้งยังไงก็ไม่อยู่
ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้
คุณทำได้ทำดีต่อคนของคุณหรื
เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน
ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจ
ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้
ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ว่า
เราจะต้องจากกันเมื่อไหร่
ทุกๆวจีกรรม กายกรรม และมโนกรรม ที่เรานึกคิด
พูดล้วนเป็นกรรมหมด อยู่ที่เจตนาเป็นบุญหรือบาป