



เสวนาผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจ
เสวนาผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00น. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิ...น จัดสัมมนา เรื่อง "ผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจรเพื
โดยนพ.เกษม กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวปัญห
ด้านนายศรีราชา กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้สังคมไทยป่วยอาการหนั

25เม.ย.2557 ดร. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวอภิปรายในหัวข้อ การปฏิรูปการเมืองภายใต้หลักนิติธรรม โอกาสครบรอบ 16 ปีของการสถาปนาศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีประเด็นน่าสนใจ ดังนี้
ขณะนี้ในประเทศไทยมีการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ ทั้งฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาล คือ กลุ่ม กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ...และตัวรัฐบาลเอง ก่อนหน้านี้เคยพยายามตั้งสภาปฏิรูป ซึ่งตลอด 20 ปีที่ผ่านมา กระแสปฏิรูปในโลกมีความรุนแรงขึ้น สิ่งสำคัญของการปฏิรูปมีจุดหมายเดียวกัน คือ เพื่อเพิ่มอำนาจความทรงธรรม และกำจัดอำนาจเสียงข้างมากให้อ่อนลง ถ้าหากพิจารณาประชาธิปไตย พัฒนาการประชาธิปไตยเคียงคู่กับหลักนิติธรรมตลอด การปฏิรูปประชาธิปไตยคือการปฏิรูปนิติธรรม ที่ผ่านมายังมีปัญหาและมีการหาทางออกมาโดยตลอด
การตั้งศาลรัฐธรรมนูญขึ้น เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ควบคุมการตรารัฐธรรมนูญ ไม่ให้ขัดกับรัฐธรรมนูญ พร้อมกำหนดให้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายผูกพันทุกองค์กร ทั้งรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2540 และปี 2550 ได้บัญญัติไว้ แสดงให้เห็นว่าการยกสถานะศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เท่าเทียมกับรัฐสภา เพื่อพิทักษ์กฎหมาย ควบคุมกฎหมาย เพื่อไม่ให้ขัดรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงการควบคุมการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐสภาด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเป็นการป้องกันเผด็จการรัฐสภา เพื่อไม่ให้องค์กรที่รัฐธรรมนูญตั้งขึ้นมานั้นทำลายรัฐธรรมนูญเสียเอง
คิดว่าประเทศไทยควรจะปฏิรูปด้านความเป็นธรรม คือ
1.ปฏิรูปรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายทรงธรรม เหนือองค์กรทุกองค์กรที่รัฐธรรมนูญตั้งขึ้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญในแต่ละครั้งต้องมีการลงประชามติจากประชาชน และพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยทุกครั้ง หากประชาชนไม่เห็นชอบและพระมหากษัตริย์ไม่ลงพระปรมาภิไธย ให้ถือว่าร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอันตกไป
นอกจากนั้น ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภาทุกครั้งโดยอัตโนมัติ ก่อนการลงประชามติของประชาชน ถึงแม้ในขณะนี้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ต้องมีผู้ยื่นเรื่องเข้ามาถึงจะตรวจสอบได้
2.เห็นว่าการปฏิรูปต้องไม่ทำตามอำเภอใจของทุกองค์กร ทั้งที่ก่อนหน้านี้แม้แต่ระบอบราชาธิปไตย นิติธรรมก็ยังอยู่เหนือพระมหากษัตริย์ ยิ่งในระบอบประชาธิปไตย จึงมิอาจปฏิเสธหลักนิติธรรมได้ แต่หลักนิติธรรมไม่ใช่ลายลักษณ์อักษร หากเป็นแนวทางในการปกครองที่มาจากหลักนิติธรรมตามธรรมชาติ ปราศจากอคติมาแอบแฝง ซึ่งทุกองค์กรต้องยึดในแนวทางปฏิบัติ ดังนั้น หลักนิติธรรมจึงอยู่เหนือกฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่จะออกมาเพื่อขัดรัฐธรรมนูญไม่ได้
3.การปฏิรูปใหม่จะต้องจัดการผลประโยชน์ ยกเลิกประชานิยม เปลี่ยนเป็นรัฐสวัสดิการ รัฐธรรมนูญ ปี 2540 และปี 2550 ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าถึงทรัพยากร เป็นช่องว่างให้พรรคการเมืองนักการเมืองฉวยโอกาสหาเสียงนโยบายประชานิยม ดังนั้น การปฏิรูปการเมือง ต้องยกเลิกประชานิยม
4.ควรปฏิรูปการแบ่งแยกอำนาจจากพรรค การเมือง และกลุ่มอาชีพต่างๆ โดยให้สภาผู้แทนฯมาจากพรรคการเมือง ส่วนวุฒิสภามาจากผู้เชี่ยวชาญจากสาขาอาชีพต่างๆ เพื่อคานอำนาจกัน และในสภาผู้แทนฯต้องยกเลิกให้ผู้สมัคร ส.ส.ต้องสังกัดพรรค เพื่อให้อิสระในการทำงาน พร้อมกันนี้ต้องมีการคุ้มครองฝ่ายเสียงข้างน้อยทางการเมือง โดยเฉพาะเฉลี่ยเวลาการออกสื่อ ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลให้เท่าเทียมกัน นอกจากนั้นให้ข้าราชการตั้งสหภาพแรงงานได้ เพื่อตรวจสอบการทำงานฝ่ายบริหาร และจัดให้มีการประเมินเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รัฐสภา ได้ตลอดเวลา
5.ต้องปฏิรูปสื่อ ต้องให้สื่อเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซงจากรัฐและนายทุน ถึงแม้วันนี้จะมีสื่อที่ไม่ถูกแทรกแซงการทำงานจากรัฐ แต่สื่อก็ต้องตกอยู่ภายใต้นายทุน ทำให้ไม่เป็นอิสระในการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้ ต้องยุติสื่อที่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง สื่อเลือกข้าง ไม่ว่าจะเป็นสื่อสีแดง สีน้ำเงิน สีเหลือง 6.ต้องออกกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ และ 7.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรมต้นทาง คือ ตำรวจ ต้องปฏิรูปทุกระดับ
ที่ผ่านมารัฐธรรมนูญ ปี 2550 วางรากฐานไว้ดีแล้ว แต่ยังต้องช่วยกันใส่เครื่องมือลงไป ฝ่ายบริหารต้องเคารพกฎหมาย ไม่หลีกเลี่ยงกฎหมาย ต้องเคารพคำวินิจฉัย หากฝ่ายบริหารไม่เคารพกฎหมาย หลักนิติธรรมจะล่มสลาย รัฐจะล้มเหลว ไม่อาจเป็นรัฐได้ ปัญหาต่างๆ จะเกิดขึ้นกับสังคมโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
คงไม่มีใครอยากเห็นคนไทยทุกคน ต้องตั้งกองกำลังของตนเอง ถ้ากฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่จำเป็นตั้งกองกำลัง ถ้ารัฐเป็นผู้พิทักษ์กฎหมายเสียเอง
ขณะนี้ในประเทศไทยมีการเรีย
การตั้งศาลรัฐธรรมนูญขึ้น เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผ
คิดว่าประเทศไทยควรจะปฏิรูป
1.ปฏิรูปรัฐธรรมนูญเป็นกฎหม
นอกจากนั้น ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอ
2.เห็นว่าการปฏิรูปต้องไม่ท
3.การปฏิรูปใหม่จะต้องจัดกา
4.ควรปฏิรูปการแบ่งแยกอำนาจ
5.ต้องปฏิรูปสื่อ ต้องให้สื่อเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซงจากรัฐและ
ที่ผ่านมารัฐธรรมนูญ ปี 2550 วางรากฐานไว้ดีแล้ว แต่ยังต้องช่วยกันใส่เครื่อ
คงไม่มีใครอยากเห็นคนไทยทุก

ทนายวันชัย สอนศิริ
มันร้าวลึก... มันแตกแยก... มันสับสนอลหม่าน... มันทุกข์ทรมาน... ประหวั่นพรั่นพรึง... หนักอกหนักใจ... เมื่อไรมันจะจบสักทีว้าาา... ประชาชนคนไทยอยากสงบ...อยากทำมาหากิน...อยากอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขเหมือนเก่าเหมือนเดิม ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง... การเมืองก็เป็นเรื่องของการเมือง ว่ากันไปทำกันไป...ชาวบ้านก็สนับสนุนก็เชียร์กันไป ไม่ถึงขั้นต้องมาแบ่งฝักแบ่งฝ่าย สู้รบปรบมือให้กับนักการเม...ือง... ใครจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็นรัฐบาล ประชาชนเขาก็ไม่ทะเลาะกันนะ...
ตั้งแต่มีระบอบทักษิณ...มันร้าวลึก มันแตกแยก มันลากชาวบ้านมาทะเลาะกับนักการเมือง มาทะเลาะกันเอง ล่อกันเละเทะไปหมด... ไอ้ตั่วเฮียตัวนี้มันร้ายมาก... เพราะมันตัวเดียวเล่นเสียประเทศเละเทะเป็นสิบปีแล้ว... มันยังไม่รู้สึก ไม่สำนึกว่ามันเป็นตัวปัญหาของบ้านของเมือง... แล้วก็มีคนเห็นดีเห็นงามกับเงินและอำนาจของมัน ก็ช่วยกันกระพือโหมความขัดแย้งให้แตกแยกกันไปใหญ่... เมื่อไหร่นะ มันจะสำนึก มันจะคิดได้ มันจะเห็นแก่ประเทศชาติและประชาชน... จะให้มันคิดเองหรือจะรอให้มันใกล้ตายแล้วค่อยสำนึกด้วยตัวของมันเอง... เราจะรอกันไหวมั้ยล่ะ... ประเทศจะเละกันก่อนรึเปล่า... และเราก็ไม่รู้ว่ามันจะตายเมื่อไหร่... เฮ้ออออ~ จะตายหรือไม่ตายไม่ใช่เรื่องสำคัญ... สู้กับมันอย่าได้ถอย... ชนะแน่... ชนะตอนที่มันยังไม่ตายนี่แหละ มันจะได้ตรอมใจตาย.....
มันร้าวลึก... มันแตกแยก... มันสับสนอลหม่าน... มันทุกข์ทรมาน... ประหวั่นพรั่นพรึง... หนักอกหนักใจ... เมื่อไรมันจะจบสักทีว้าาา..
ตั้งแต่มีระบอบทักษิณ...มัน



