ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ได้กล่าวกับบรรดาผู้นำธุรกิจในที่ประชุมอินเตอร์เนชั่นแนล อีโคโนมิค ฟอรัม ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) โดยประกาศว่าระเบียบโลกที่นำโดยสหรัฐนั้นล้มเหลว พร้อมตำหนิการคว่ำบาตรของสหรัฐ และปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของยูเครน
ปูตินกล่าวว่าในปีนี้มีผู้บริหารจากชาติตะวันตกมาเข้าร่วมน้อยเพราะทำเนียบขาวไปโน้มน้าวว่าอย่าเข้าร่วมเพราะรัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบามากำลังหาทางโดดเดี่ยวรัสเซียเพราะเรื่องยูเครน และไครเมียอยู่ ซึ่งผู้นำรัสเซียได้เรียกร้องให้นักลงทุนอย่ายอมแพ้ต่อแรงกดดัน และการแบล็คเมล์จากชาติตะวันตกที่กำลังพยายามโดดเดี่ยวรัสเซียอยู่
เมื่อมีผู้ถามว่าโอบามาได้กล่าวหาผู้นำรัสเซียว่าโกหกเรื่องที่บอกว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ปูตินได้ตอบกลับมาว่าใครให้โอบามาเป็นผู้พิพากษา สำหรับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับรัสเซียนั้น ปูตินได้โทษว่าเป็นเพราะมีการรีเซ็ตความสัมพันธใหม่โดยความเคลื่อนไหวเพียงฝ่ายเดียวของรัฐบาลโอบามา ส่วนเรื่องยูเครน ปูตินกล่าวว่ายูเครนกำลังตกอยู่ระหว่างสงครามกลางเมือง สิ่งที่ทำลงไปไม่ใช่การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่เป็นการรัฐประหารยึดอำนาจจากนายวิกเตอร์ ยานูโควิช อดีตประธานาธิบดียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ต่างหาก
ทภ.2 รวบ 21 การ์ด อพปช.ขณะสุมหัววางแผนก่อการร้าย ยึดระเบิด-กระสุนปืนหลายร้อยนัด
ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ทหารบุกรวบ 21 อพปช.คาอพาร์ตเมนต์ดังใน ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น พร้อมยึดอาวุธครบมือ ทั้งลูกระเบิด กระสุนปืนและเสื้อการ์ด อพปช.เพียบ เผยเช่าพักแบบเหมาชั้นไว้นัดซ่องสุมวางแผนก่อเหตุร้าย ทั้งในขอนแก่นและจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน ชี้ 1 ใน 21 ผู้ต้องหาเป็นยามรักษาความปลอดภัยสำนักงานแบงก์ชาติภาคอีสาน จับตา 4 จังหวัดหลัก ขอนแก่น โคราช อุดรฯและกาฬสินธุ์หวั่นก่อการร้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้( 24 พ.ค.) ที่กองบังคับการทหารราบที่ 8 (ร.8) พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง รองแม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.ศักดา เปรุนาวิน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3ได้เข้าทำการสอบปากคำกลุ่มการ์ดกลุ่มคนเสื้อแดงหรือ อาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตย(อพปช.) โดยกลุ่มการ์ดเสื้อแดงกลุ่มนี้ถูกชุดเฉพาะกิจ ร.8 สนธิกำลังร่วม สภ.เมืองขอนแก่น เข้าทำการตรวจค้นจับกุมได้ที่ชลพฤกษ์ อพาร์ทเมนท์ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขณะที่กำลังนั่งประชุมเพื่อเตรียมวางแผนก่อเหตุร้ายในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง รองแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า กำลังทหารและตำรวจกว่า 200 นายได้เข้าทำการตรวจค้นอพาร์ตเมนทต์ดังกล่าวเมื่อค่ำวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีและข้อมูลทางการข่าวทหารก็ได้รายงานว่ากลุ่ม อพปช.มีการนัดประชุมร่วมกันเพื่อวางแผนเตรียมก่อเหตุร้ายในเขต จ.ขอนแก่น และหลายจังหวัดของภาคอีสาน
ในระหว่างการตรวจค้นตามหลักยุทธวิธีพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 21คนได้แยกการประชุมออกเป็น 2 กลุ่ม 3 ห้อง คือที่ห้องพักเลขที่ 406 จำนวน 10 คน ห้อง 407 จำนวน 9 คนและห้อง 411 รวม 2 คน รวมผู้ต้องหาเป็นชาย 20 คน หญิง 1 คน จึงได้ทำการควบคุมตัวพร้อมยึดของกลางทั้งหมด
ของกลางที่ยึดได้ ประกอบด้วยลูกระเบิดขว้าง 3 ลูก ระเบิดควัน 1 ลูก กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 202 นัด กระสูนปืน 11 มม. จำนวน 154 นัด ถังแก๊ส 2 ใบ รวมไปถึงมีดสปาต้า วิทยุสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ กระสูนปืนลูกซอง กระดาษวางแผนการทำงานของกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งผ้าพันคอสัญลักษณ์ของ อพปช.จำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจยึดรถยนต์รวม 10 คันซึ่งเป็นพาหนะที่เตรียมไว้ใช้ในการก่อเหตุ
พล.ต.ธวัช ระบุอีกว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกควบคุมตัวไว้ที่ค่าย ร. 8 สีหราชเดโชไชย ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตามหลักยุทธวิธีและเป็นไปตามรูปแบบทางทหารในแบบสากล ท่ามกลางการคุมเข้มของทางกองกำลังทหารอย่างใกล้ชิด โดยได้มีการจัดชุดสอบสวนทำการสอบปากคำเพื่อขยายผลเชื่อมโยงไปกลุ่มต่างๆซึ่งทั้งหมดได้ให้ความร่วมมือและซัดทอดผู้ที่สั่งการอยู่เบื้องหลังจนได้ข้อมูลที่แน่ชัดในการปฎิบัติการดังกล่าว
“แนวทางการทำงานของทหารจะต้องเข้มข้นและรัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะข้อมูลด้านการข่าวของกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ เพราะการชุมนุมวางแผนก่อเหตุร้ายครั้งนี้เป็นการดำเนินงานไปในรูปแบบขอนแก่นโมเดล”
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ธวัช กล่าวย้ำว่า กองทัพภาพที่ 2 ยังเฝ้าจับตาพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวใน 4 จังหวัดของภาคอีสาน ประกอบด้วย ขอนแก่น,อุดรธานี,นครราชสีมาและกาฬสินธุ์
รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การวางกำลังเพื่อเฝ้าระวังและประจำการตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ยังตรึงกำลังตามสถานที่สำคัญต่างๆโดยเฉพาะสถานที่ราชการ ระบบสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ รวมไปถึงสนามบินและถนนเส้นทางสายๆเพื่อรักษาความปลอดภัยและรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้การดำเนินชีวิตของชาวขอนแก่นและทุกจังหวัดของภาคอีสานไม่ได้รับผลกระทบใดใด และปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศเคอร์ฟิวของ คสช.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การจับกุมกลุ่มแกนนำ อพปช.ตามยุทธศาสตร์ขอนแก่นโมเดล ของกำลังทหารในครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแกนนำคนสำคัญได้ เช่นนายมีชัย ม่วงมนตรี แกนนำกองทัพปราบกบฎ นายประธิน จันเกศ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในระดับพื้นที่
โดยกลุ่มแกนนำเสื้อแดงเหล่านี้ได้ทำการเช่าห้องพักที่ ชลพฤกษ์อพาร์ทเมนท์ ใน ต.บ้านเป็ด แบบเหมาทั้งชั้น เพื่อนัดรวมตัววางแผนก่อความไม่สงบในพื้นที่มาได้ในระยะหนึ่งแล้ว
ทั้งนี้ภายหลังการตรวจค้นอพาร์ทเมนท์ดังกล่าวเพื่อจับกุมผู้ต้องหากลุ่มนี้เสร็จแล้ว กำลังทหารส่วนหนึ่งยังคงประจำอยู่ในพื้นที่เพื่อตรวจค้นหาของกลางอื่นๆเพิ่มเติมโดยเฉพาะอาวุธปืนและเอกสารต่างๆที่อาจจะเชื่อมโยงขยายผลไปยังกลุ่มเครือข่ายต่างๆเพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ทหารบุกรวบ 21 อพปช.คาอพาร์ตเมนต์ดังใน ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น พร้อมยึดอาวุธครบมือ ทั้งลูกระเบิด กระสุนปืนและเสื้อการ์ด อพปช.เพียบ เผยเช่าพักแบบเหมาชั้นไว้นัดซ่องสุมวางแผนก่อเหตุร้าย ทั้งในขอนแก่นและจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน ชี้ 1 ใน 21 ผู้ต้องหาเป็นยามรักษาความปลอดภัยสำนักงานแบงก์ชาติภาคอีสาน จับตา 4 จังหวัดหลัก ขอนแก่น โคราช อุดรฯและกาฬสินธุ์หวั่นก่อการร้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้( 24 พ.ค.) ที่กองบังคับการทหารราบที่ 8 (ร.8) พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง รองแม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.ศักดา เปรุนาวิน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3ได้เข้าทำการสอบปากคำกลุ่มการ์ดกลุ่มคนเสื้อแดงหรือ อาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตย(อพปช.) โดยกลุ่มการ์ดเสื้อแดงกลุ่มนี้ถูกชุดเฉพาะกิจ ร.8 สนธิกำลังร่วม สภ.เมืองขอนแก่น เข้าทำการตรวจค้นจับกุมได้ที่ชลพฤกษ์ อพาร์ทเมนท์ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขณะที่กำลังนั่งประชุมเพื่อเตรียมวางแผนก่อเหตุร้ายในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง รองแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า กำลังทหารและตำรวจกว่า 200 นายได้เข้าทำการตรวจค้นอพาร์ตเมนทต์ดังกล่าวเมื่อค่ำวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีและข้อมูลทางการข่าวทหารก็ได้รายงานว่ากลุ่ม อพปช.มีการนัดประชุมร่วมกันเพื่อวางแผนเตรียมก่อเหตุร้ายในเขต จ.ขอนแก่น และหลายจังหวัดของภาคอีสาน
ในระหว่างการตรวจค้นตามหลักยุทธวิธีพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 21คนได้แยกการประชุมออกเป็น 2 กลุ่ม 3 ห้อง คือที่ห้องพักเลขที่ 406 จำนวน 10 คน ห้อง 407 จำนวน 9 คนและห้อง 411 รวม 2 คน รวมผู้ต้องหาเป็นชาย 20 คน หญิง 1 คน จึงได้ทำการควบคุมตัวพร้อมยึดของกลางทั้งหมด
ของกลางที่ยึดได้ ประกอบด้วยลูกระเบิดขว้าง 3 ลูก ระเบิดควัน 1 ลูก กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 202 นัด กระสูนปืน 11 มม. จำนวน 154 นัด ถังแก๊ส 2 ใบ รวมไปถึงมีดสปาต้า วิทยุสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ กระสูนปืนลูกซอง กระดาษวางแผนการทำงานของกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งผ้าพันคอสัญลักษณ์ของ อพปช.จำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจยึดรถยนต์รวม 10 คันซึ่งเป็นพาหนะที่เตรียมไว้ใช้ในการก่อเหตุ
พล.ต.ธวัช ระบุอีกว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกควบคุมตัวไว้ที่ค่าย ร. 8 สีหราชเดโชไชย ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตามหลักยุทธวิธีและเป็นไปตามรูปแบบทางทหารในแบบสากล ท่ามกลางการคุมเข้มของทางกองกำลังทหารอย่างใกล้ชิด โดยได้มีการจัดชุดสอบสวนทำการสอบปากคำเพื่อขยายผลเชื่อมโยงไปกลุ่มต่างๆซึ่งทั้งหมดได้ให้ความร่วมมือและซัดทอดผู้ที่สั่งการอยู่เบื้องหลังจนได้ข้อมูลที่แน่ชัดในการปฎิบัติการดังกล่าว
“แนวทางการทำงานของทหารจะต้องเข้มข้นและรัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะข้อมูลด้านการข่าวของกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ เพราะการชุมนุมวางแผนก่อเหตุร้ายครั้งนี้เป็นการดำเนินงานไปในรูปแบบขอนแก่นโมเดล”
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ธวัช กล่าวย้ำว่า กองทัพภาพที่ 2 ยังเฝ้าจับตาพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวใน 4 จังหวัดของภาคอีสาน ประกอบด้วย ขอนแก่น,อุดรธานี,นครราชสีมาและกาฬสินธุ์
รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การวางกำลังเพื่อเฝ้าระวังและประจำการตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ยังตรึงกำลังตามสถานที่สำคัญต่างๆโดยเฉพาะสถานที่ราชการ ระบบสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ รวมไปถึงสนามบินและถนนเส้นทางสายๆเพื่อรักษาความปลอดภัยและรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้การดำเนินชีวิตของชาวขอนแก่นและทุกจังหวัดของภาคอีสานไม่ได้รับผลกระทบใดใด และปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศเคอร์ฟิวของ คสช.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การจับกุมกลุ่มแกนนำ อพปช.ตามยุทธศาสตร์ขอนแก่นโมเดล ของกำลังทหารในครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแกนนำคนสำคัญได้ เช่นนายมีชัย ม่วงมนตรี แกนนำกองทัพปราบกบฎ นายประธิน จันเกศ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในระดับพื้นที่
โดยกลุ่มแกนนำเสื้อแดงเหล่านี้ได้ทำการเช่าห้องพักที่ ชลพฤกษ์อพาร์ทเมนท์ ใน ต.บ้านเป็ด แบบเหมาทั้งชั้น เพื่อนัดรวมตัววางแผนก่อความไม่สงบในพื้นที่มาได้ในระยะหนึ่งแล้ว
ทั้งนี้ภายหลังการตรวจค้นอพาร์ทเมนท์ดังกล่าวเพื่อจับกุมผู้ต้องหากลุ่มนี้เสร็จแล้ว กำลังทหารส่วนหนึ่งยังคงประจำอยู่ในพื้นที่เพื่อตรวจค้นหาของกลางอื่นๆเพิ่มเติมโดยเฉพาะอาวุธปืนและเอกสารต่างๆที่อาจจะเชื่อมโยงขยายผลไปยังกลุ่มเครือข่ายต่างๆเพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคม 2557 ได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ถนนอุทยาน หรือ ถนนอักษะ ภายหลังจากที่ทหารได้เข้าบุกยึดเวทีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ในช่วงเย็นวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา
พบว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) กำลังควบคุมดูแลการสูบน้ำออกจากคูที่อยู่บริเวณกลางถนนอักษะ ด้านหน้าเวทีปราศรัยใหญ่ของนปช. ออกมาทิ้งไว้ตรงบริเวณพื้นถนนด้านข้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ กทม.รายหนึ่ง ได้รับการยืนยันว่า ผู้บริหารกทม.ได้สั่งการให้นำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกจากคูบริเวณกลางถนนอักษะ ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่แจ้งประสานงานเข้ามาในช่วงเย็นวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา
"คสช.ขอความร่วมมือมายัง กทม. ให้สูบน้ำออกจากคูถนนอักษะออกให้หมด เพื่อดูว่ามีอาวุธ และอุปกรณ์พิเศษอะไรถูกทิ้งไว้บ้างหรือไม่"
"ผมได้รับแจ้งจากผู้บริหารให้นำเครื่องสูบเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้แล้ว (24 พ.ค.) คาดว่าในช่วงเย็นนี้น่าจะสามารถสูบน้ำออกมาได้หมด"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ทหารรายหนึ่ง ที่ควบคุมการสูบน้ำของกทม.อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ได้รับการยืนยันคำตอบเดียวกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พบสิ่งผิดปกติอะไรแล้วบ้างหรือไม่ เจ้าหน้าที่ทหารรายนี้ ตอบว่า "ยังบอกอะไรไม่ได้ ต้องรอให้สูบน้ำออกมาให้หมดก่อน คาดว่าน่าจะเป็นช่วงเย็นวันนี้"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนอักษะ ถูกใช้เป็นจุดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช. ในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกทหารบุกยึด และสลายการชุมนุมในช่วงเย็นวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา และมีการควบคุมตัวแกนนำ นปช. บางรายไปสอบสวน อาทิ นพ.เหวง โตจิราการ เป็นต้น
พบว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) กำลังควบคุมดูแลการสูบน้ำออกจากคูที่อยู่บริเวณกลางถนนอักษะ ด้านหน้าเวทีปราศรัยใหญ่ของนปช. ออกมาทิ้งไว้ตรงบริเวณพื้นถนนด้านข้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ กทม.รายหนึ่ง ได้รับการยืนยันว่า ผู้บริหารกทม.ได้สั่งการให้นำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกจากคูบริเวณกลางถนนอักษะ ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่แจ้งประสานงานเข้ามาในช่วงเย็นวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา
"คสช.ขอความร่วมมือมายัง กทม. ให้สูบน้ำออกจากคูถนนอักษะออกให้หมด เพื่อดูว่ามีอาวุธ และอุปกรณ์พิเศษอะไรถูกทิ้งไว้บ้างหรือไม่"
"ผมได้รับแจ้งจากผู้บริหารให้นำเครื่องสูบเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้แล้ว (24 พ.ค.) คาดว่าในช่วงเย็นนี้น่าจะสามารถสูบน้ำออกมาได้หมด"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ทหารรายหนึ่ง ที่ควบคุมการสูบน้ำของกทม.อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ได้รับการยืนยันคำตอบเดียวกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พบสิ่งผิดปกติอะไรแล้วบ้างหรือไม่ เจ้าหน้าที่ทหารรายนี้ ตอบว่า "ยังบอกอะไรไม่ได้ ต้องรอให้สูบน้ำออกมาให้หมดก่อน คาดว่าน่าจะเป็นช่วงเย็นวันนี้"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนอักษะ ถูกใช้เป็นจุดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช. ในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกทหารบุกยึด และสลายการชุมนุมในช่วงเย็นวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา และมีการควบคุมตัวแกนนำ นปช. บางรายไปสอบสวน อาทิ นพ.เหวง โตจิราการ เป็นต้น
ชาวนาภาคเหนือเฮ!เตรียมรับเ งินจำนำข้าว
'ชาวนาภาคเหนือ' เฮ! หลังบิ๊กตู่ 'หน.คสช..' ประกาศเร่งจ่ายเงินจำนำข้าว
24 พ.ค.57 นายกิตติศักดิ์ รัตนะวราหะ ประธานเครือข่ายชาวนาภาคเหน ือ กล่าวว่า เครือข่ายชาวนาต่อสู้เรียกร ้องเงินจำนำข้าวมาตลอดจนต้อ งยกระดับมาขับไล่รัฐบาลรักษ าการที่ไม่มีอำนาจเต็มในการ บริหารประเทศ รัฐบาลรักษาการจึงไม่สามารถ หาเงินมาให้ชาวนาในโครงการร ับจำนำข้าวได้ อีกทั้งเค...รือข่ายชาวนาเรียกร้องมาตลอ ดให้มีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจ เต็ม ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะเป็นใคร แต่เห็นว่าอย่างไรก็มีอำนาจ เต็มเข้ามาบริหารประเทศ สามารถกู้เงินและหาเงินมาช่ วยเหลือชาวนาทั่วประเทศได้ท ุกคนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ด ีสำหรับชาวนาทั้งนั้น
“ชาวนาอย่างพวกเราพอใจมากถึ งมากที่สุดและเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์จะนำเงินมาจ่า ยคืนให้ชาวนาในโครงการรับจำ นำข้าวที่ค้างจ่ายให้ชาวนาท ั่วประเทศกว่า 1 แสนล้านบาทได้ภายในเวลาที่ก ำหนดไว้ เพราะที่ผ่านมาทราบมาว่าเงิ นจำนำข้าวที่ค้างจ่าย 1 แสนล้านบาทไม่ใช่ปัญหา ถ้ารัฐบาลมีอำนาจเต็ม แต่รัฐบาลรักษาการไม่สามารถ ขอกู้เงินมาได้เพราะติดขัดเ รื่องกฎหมาย แต่วันนี้อำนาจนายกฯเป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจเต็มในการบริหารจึงเ ชื่อมั่นว่าสามารถหาเงินและ กู้เงินมาจ่ายให้กับชาวนาทั ่วประเทศได้อย่างแน่นอน” นายกิตติศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ถึงแม้ว่าชาวนาทุกคน จะดีใจที่จะได้เงินรับจำนำข ้าวของตนเองคืนมา แต่ก็มีเรื่องที่น่ากังวลต่ อไป คือ เงินจำนำข้าวที่ชาวนาแต่ละค นจะได้รับคืนอาจจะไม่เพียงพ อต่อหนี้สินที่เกิดขึ้นในช่ วง 7-8 เดือนที่รัฐบาลก่อนไม่จ่ายเ งินให้ชาวนา เพราะอย่าลืมว่าช่วงเวลาดัง กล่าวชาวนาต้องกินต้องใช้ ต้องลงทุนทำนาและจ่ายหนี้สิ นทั้งค่าปุ๋ยค่ายาค่าแมลง เป็นต้น ช่วงที่ไม่ได้เงินจำนำข้าวก ็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพิ่มเ ติมอีก ดังนั้นตนเองเห็นว่าชาวนาร้ อยละ 90 ที่จะได้รับเงินจำนำข้าวคงจ ะได้เงินไม่พอจ่ายหนี้สินที ่เกิดขึ้น อีกทั้งเงินที่จะโอนมาต้องผ ่าน ธ.ก.ส.ซึ่งมีหน้าที่จ่ายเงิ นให้ชาวนาทั่วประเทศ และเมื่อชาวนาเป็นหนี้ ธ.ก.ส.อยู่แล้วทาง ธ.ก.ส.ก็อาจจะหักเงินที่ชาว นาเป็นหนี้ไว้ก็เป็นได้หรือ อาจจะช่วยเหลือปล่อยกู้เพิ่ มเติม
นายชาตรี อ่ำพูล แกนนำชาวนา จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ชาวนาในพื้นที่ดีใจมากที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญก ับความเดือดร้อนของชาวนาและ ได้ประกาศจะจ่ายเงินให้ชาวน าในเร็วๆนี้ เพราะที่ผ่านมาชาวนาในพื้นท ี่รอคอยเงินจำนำข้าวมานาน 7 เดือนแล้ว ส่วนตนเองค่อนข้างเชื่อมั่น ว่ารัฐบาลใหม่ไม่ว่าจะเป็นใ ครก็แล้วแต่น่าจะหาเงินมาจ่ ายให้ชาวนาทั่วประเทศได้ครบ ทุกคน แต่ชาวนาส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็ นหนี้อยู่ถึงแม้จะได้รับเงิ นจำนำข้าวของตนเองคืน เพราะช่วงที่ผ่านมาเมื่อไม่ ได้เงินจำนำข้าวก็ต้องไปกู้ ธนาคาร บางคนต้องกู้นอกระบบมาส่งลู กเรียน มาซื้อปุ๋ยซื้อยาฆ่าแมลงทำน าจ้างรถเกี่ยวข้าว ทำให้เงินจำนำข้าวคงไม่พอสำ หรับใช้หนี้ที่เกิดขึ้นในช่ วงที่ไม่ได้เงิน ทั้งนี้รัฐบาลก่อนก็ต้องรับ ผิดชอบจ่ายดอกเบี้ยที่ชาวนา กู้ยืมเงินในช่วงที่รัฐบาลไ ม่จ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนา ด้วย
'ชาวนาภาคเหนือ' เฮ! หลังบิ๊กตู่ 'หน.คสช..' ประกาศเร่งจ่ายเงินจำนำข้าว
24 พ.ค.57 นายกิตติศักดิ์ รัตนะวราหะ ประธานเครือข่ายชาวนาภาคเหน
“ชาวนาอย่างพวกเราพอใจมากถึ
ทั้งนี้ถึงแม้ว่าชาวนาทุกคน
นายชาตรี อ่ำพูล แกนนำชาวนา จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ชาวนาในพื้นที่ดีใจมากที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญก