คณะรัฐบุคคลเดินหน้า “ขอพึ่งพระบารมี” ผ่าน ผบ.เหล่าทัพ !!!!!
เดลินิวส์ออนไลน์
คณะรัฐบุคคลเดินหน้า “ขอพึ่งพระบารมี” เตรียมเดินสายผ่าน ผบ.เหล่าทัพ 12 พ.ค. นี้ หวังแก้วิกฤติชาติ
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ปฏิเสธที่จะเดินหน้าตามคำร้ องขอของ พล.อ.สายหยุด เกิดผล และคณะรัฐบุคคล เพื่อแสวงหาทางออกให้กับประ เทศไทยด้วยการพึ่งพระบารมีพ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล่าสุด พล.อ.สายหยุด ได้ร่วมประชุมกับคณะรัฐบุคค ล
อาทิ พล.อ.วิมล วงศ์วานิช อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ อดีต
ผบ.ทอ. พล.ร.อ. วิเชษฐ การุณยวนิช อดีต ผบ.ทร. พล.ร.อ. สุรวุฒิ มหารมณ์
อดีต เสธ.ทร. พล.อ.อ. เทอดศักดิ์ สัจจะรักษ์ อดีต เสธ. ทอ.
โดยมีนายเกรียงศักดิ์ เหล็กกล้า เป็นผู้ประสานงาน โดยสรุปคณะรัฐบุคคลจะเดินหน ้าในการแสวงหาทางออกให้กับป ระเทศไทยอีกครั้งด้วยการพึ่ งพระบารมีของพระบาทสมเด็จพร ะเจ้าอยู่
โดย พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผบ.สส. และประธานคณะรัฐบุคคลให้สัม ภาษณ์ว่า ที่ประชุมคณะรัฐบุคคลได้สรุ ปว่าจะเดินหน้าขอพึ่งพระบาร มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ โดยผ่านทางผบ.เหล่าทัพ เพราะเห็นว่าแนวทางดังกล่าว ดีที่สุดกับสถานการณ์ในปัจจ ุบันโดยในวันจันทร์ที่ 12 พ.ค.นี้ ทางคณะรัฐบุคคล ได้มอบหมายให้นายเกรียงศักด ิ์ นำหนังสือไปยื่นต่อ ผบ.เหล่าทัพ เพื่อร่วมกันหาทางออกแก้ไขป ัญหาวิกฤตของชาติภายใต้แนวท างหลักคือ การขอพึ่งพระบารมี
โดยกำหนดเวลา 09.30 น.จะเดินทางไปพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ เวลา 11:15 น. จะเข้าพบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ในเวลา 13.30 น.จะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่กองบัญชาการกองทัพบกและ ในเวลา 15.00 น.จะเข้าพบ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ
“ ผบ.เหล่าทัพ ได้ตอบรับทั้งหมดแล้ว ส่วนจะทันกับสถานการณ์ในปัจ จุบันหรือไม่ก็คงจะต้องติดต ามแต่ผมมั่นใจว่าการพึ่งพระ บารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัวเป็นแนวทางที่ดีที่ สุดเพื่อหยุดปัญหาความขัดแย ้งของคนที่คิดต่างในเวลานี้ ” พล.อ.สายหยุดกล่าว
คณะรัฐบุคคลเดินหน้า “ขอพึ่งพระบารมี” เตรียมเดินสายผ่าน ผบ.เหล่าทัพ 12 พ.ค. นี้ หวังแก้วิกฤติชาติ
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ปฏิเสธที่จะเดินหน้าตามคำร้
โดยมีนายเกรียงศักดิ์ เหล็กกล้า เป็นผู้ประสานงาน โดยสรุปคณะรัฐบุคคลจะเดินหน
โดย พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผบ.สส. และประธานคณะรัฐบุคคลให้สัม
โดยกำหนดเวลา 09.30 น.จะเดินทางไปพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ เวลา 11:15 น. จะเข้าพบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ในเวลา 13.30 น.จะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่กองบัญชาการกองทัพบกและ ในเวลา 15.00 น.จะเข้าพบ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ
“ ผบ.เหล่าทัพ ได้ตอบรับทั้งหมดแล้ว ส่วนจะทันกับสถานการณ์ในปัจ
โลกเรียกร้องให้ยิ่งลักษณ์เคารพศาล นสพ. เมียนม่าไทม์
ลงข่าวโฆษกประจำทำเนียบ ปธ. เต็งเส่ง
เรียกร้องให้นายกยิ่งลักษณ์เคารพคำสั่งศาล ขณะเดียวกัน นายบัน คีมูน เลขาฯ
UN.เรียกร้องให้ไทยแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี
และให้นายกปูเคารพคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ
ขณะที่ฑูตต่างๆแสดงความห่วงใยสถานการณ์ในประเทศไทย
และเรียกร้องให้ทุกคนเคารพศาล ทางด้านนายสม รังสี
ผู้นำฝ่ายค้านเขมรเรียกร้องให้รัฐบาลฮุนเซ็นยุติสนับสนุนทักษิณ
ทางด้านสำนักข่าวแห่งชาติมาเลเซียรายงานว่า
หลังจากพบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
ไทยสูญเสียเงินกว่าสี่แสนล้านกับโครงการที่เอื้อต่อการทุจริตในทุกระดับของ
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และ ปปช และหน่วยงานอื่นๆที่เป็นกลางพบว่า
มีการทุจริตมากมายในโครงการดังกล่าว จนต่อมา ปปช ชี้มูลความผิดกับ
นายกยิ่งลักษณ์
และก่อนหน้านี้นายกยิ่งลักษณ์ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมีความผิดกรณีย้ายนาย
ถวิล และให้พ้นสภาพนายก รมต. ทางด้านข่าว CNN และ CBS.
รายงานตรงกันว่าความวุ่นวาย เหตุลอบยิง
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเกิดจาก อดีตนายก รมต ทักษิณ
อยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น
หลวงปู่พุทธะอิสระ อาการหนัก หลัง ศอ.รส.ฉีดน้ำผสมสารเคมี
และระดมยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ แพทย์ต้องเอกซเรย์ปอด เช็กคลื่นหัวใจ
ให้ออกซิเจน และยาขยายหลอดลม ก่อนบุก สน.ทุ่งสองห้อง แจ้งความเอาผิด ตร.พยายามฆ่า ทำร้ายประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 พ.ค.) เฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ
(Buddha Isara) ระบุว่า หลังจากเหตุการณ์ที่ ศอ.รส. ฉีดน้ำผสมสารเคมี
และระดมยิงแก๊สน้ำตาใส่หลวงปู่พุทธะอิสระ และพี่น้องมวลชน วานนี้ (9 พ.ค.)
ทำให้หลวงปู่ฯ มีการอาพาธ และอ่อนเพลียมาก
ทีมแพทย์พยาบาลเร่งเข้าตรวจร่างกายเช้านี้ (10 พ.ค.) โดยการ เอกซเรย์ปอด
เช็กคลื่นหัวใจ ตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า ให้ออกซิเจน ให้ยาขยายหลอดลม
ยาลดการบวมของระบบทางเดินหายใจ และยาแก้แพ้
ต่อมา เมื่อเวลา 10.30 น. หลังจากรักษาอาการอาพาธจากการถูก ศอ.รส.ฉีดน้ำผสมสารเคมี และยิ่งแก๊สน้ำตาเข้าใส่แล้ว หลวงปู่พุทธอิสระ แกนนำ กปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ พร้อมมวลชนเดินทางมาแจ้งความยัง สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ดำเนินการต่อ ศอ.รส. หลังจากโดนเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาที่หน้าสโมสรตำรวจวานนี้ (9 พ.ค.) ใน 4 ข้อหาคือ 1.พยายามฆ่า 2.ทำร้ายร่ายการประชาชน 3.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และ 4.ปิดกั้นกระบวนการการเข้าถึงระบบยุติธรรมของประชาชน ที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้นำตัวคนผิดมาลงโทษ
ต่อมา เมื่อเวลา 10.30 น. หลังจากรักษาอาการอาพาธจากการถูก ศอ.รส.ฉีดน้ำผสมสารเคมี และยิ่งแก๊สน้ำตาเข้าใส่แล้ว หลวงปู่พุทธอิสระ แกนนำ กปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ พร้อมมวลชนเดินทางมาแจ้งความยัง สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ดำเนินการต่อ ศอ.รส. หลังจากโดนเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาที่หน้าสโมสรตำรวจวานนี้ (9 พ.ค.) ใน 4 ข้อหาคือ 1.พยายามฆ่า 2.ทำร้ายร่ายการประชาชน 3.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และ 4.ปิดกั้นกระบวนการการเข้าถึงระบบยุติธรรมของประชาชน ที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้นำตัวคนผิดมาลงโทษ
มวลมหาประชาชน...ขอเรียกร้อ ง...
ประธานศาลฎีกา...
ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
ประธานศาลปกครองสูงสุด
ประธานวุฒิสภาและ
ประธานกกต...
กรุณาร่วมกันพิจารณาหาบุคคล ที่เหมาะสม...ขึ้นมาดำรงตำแ หน่งนายกรัฐมนตรี...โดยอาศั ยมาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญ...ให้แล้วเสร ็จภายใน...วันจันทร์นี้...! !!
**** พ้นจากนี้...มวลมหาประชาชน. ..จะขอทำเอง... **** !!!
ประธานศาลฎีกา...
ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
ประธานศาลปกครองสูงสุด
ประธานวุฒิสภาและ
ประธานกกต...
กรุณาร่วมกันพิจารณาหาบุคคล
**** พ้นจากนี้...มวลมหาประชาชน.
ถ้าสองม็อบเผชิญหน้า ก็ได้เวลากองทัพ !!!!!
คมชัดลึกออนไลน์
ถ้าสองม็อบเผชิญหน้า ก็ได้เวลากองทัพ : โดย...ทีมข่าวความมั่นคง
แผนล่าสุดของ กปปส.ที่กระจายไปยังสื่อต่า งๆ พร้อมประกาศว่าจะปักหลักอยู ่ 2-3 วันนั้น ทำให้เกิดคำถามว่า นี่ใช่แผนที่จะนำไปสู่เป้าห มายสูงสุดหรือไม่
เป้าหมายของ กปปส.ในก่อนหน้านี้ เรียกร้องให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตร ี เพื่อเปิดทางให้มีนายกฯ คนกลาง และตั้งสภาปฏิรูป
แต่เมื่อเหตุปัจจัยไม่ได้เด ินไปตามที่มุ่งหวัง เพราะที่เกิดขึ้นเป็นไปตามก ำหนด ตามกรอบของศาล และองค์กรอิสระ ทำให้สุดท้ายแล้วสิ่งที่ กปปส.ทำได้สำเร็จก็คือ การบีบให้ ยิ่งลักษณ์ ยุบสภาเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นการลาออกจากตำแ หน่งนายกฯ การเปิดให้มีนายกฯ คนกลาง หรือการตั้งสภาปฏิรูปโดย กปปส.นั้นยังไม่อาจเกิดขึ้น ได้
แม้ว่าจะมีศาลรัฐธรรมนูญที่ วินิจฉัยให้ ยิ่งลักษณ์ พ้นจากตำแหน่ง ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ไปแล้ว
แม้ว่า ป.ป.ช.จะมีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ส่งเรื่องให้วุฒิสภาถอดถอนย ิ่งลักษณ์ กรณีปล่อยให้โครงการรับจำนำ ข้าวเกิดการทุจริตเสียหายไป ร่วม 3 แสนล้านบาท
แต่ทั้งสองกรณีก็ส่งผลเพียง แค่ ไม่มียิ่งลักษณ์ใน ครม.รักษาการ เท่านั้น
การเคลื่อนไหวของ กปปส.เพื่อมาบำเพ็ญเพียรอย่ างที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ระบุ จึงดูเหมือนเป็นเพียงการเคล ื่อนไหวเพื่อมาปกป้องการประ ชุมวุฒิสภา ที่มีกำหนดนัดพิจารณารับรอง การตั้ง กรรมการ ป.ป.ช.คนใหม่ และอีกวาระซึ่งเป็นวาระสำคั ญก็คือ การโหวตเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2
ในภาวะที่ไม่มีสภาผู้แทนราษ ฎร แต่มีวุฒิสภา ตำแหน่งประธานวุฒิสภาถือเป็ นประธานรัฐสภาด้วย โดยแผนของกลุ่ม 40 ส.ว.ในก่อนหน้านี้ จะผ่าทางตันด้วยการให้ประธา นรัฐสภาเป็นผู้นำรายชื่อผู้ ที่เหมาะสมขึ้นรับตำแหน่งนา ยกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดยมีประธานรัฐสภาเป็นผู้รั บสนองพระบรมราชโองการ
ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลนั้น แม้จะอยู่ในฐานะรักษาการ แต่ก็ยืนกรานว่า แม้จะทำหน้าที่ปฏิบัติหน้าท ี่แทนนายกรัฐมนตรี แต่ก็เชื่อมั่นว่าสามารถทูล เกล้าฯ ถวาย ได้ แม้รวมทั้งการทูลเกล้าฯ ถวายพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเ ลือกตั้ง
ทั้งหมดนั้นเป็นจังหวะเดียว กันกับกลุ่ม นปช.ที่นัดหมายการชุมนุมในว ันที่ 10 พฤษภาคม แต่บางส่วนเดินทางมาล่วงหน้ า การชิงเข้าพื้นที่ก่อนจึงเป ็นยุทธวิธีของ กปปส. ถึงแม้จะรู้ดีว่า ไม่ว่าวิธีการใด หรือแรงกดดันใดๆ จากม็อบ ก็ไม่อาจทำอะไรกับรัฐบาล ซึ่งอยู่ในสภาพง่อยเปลี้ยเส ียขานี้ได้
โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็รู้ดีว ่า หากเกิดเหตุรุนแรงอันเนื่อง จากการเผชิญหน้าของคนทั้งสอ งกลุ่มเมื่อใด อำนาจนอกรัฐธรรมนูญจะออกมาแ ทรกแซงทันที ถึงแม้ฝ่ายหนึ่งอาจจะยินดีต ่อการออกมาของกองทัพ แต่สำหรับอีกฝ่าย แม้จะไม่ยินดีนัก แต่ก็สร้างภาพให้เห็นว่า พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับกองท ัพ พร้อมที่จะใช้การเผชิญหน้าเ พื่อล้มทุกกระดาน หลังจากฝึกกองกำลังที่ภาคอี สานพร้อมรับมือมาหลายเดือนแ ล้ว
ก่อนหน้านี้บทบาทของกองทัพพ ยายามรักษาบทบาทเป็น "กรรมการ" ดูแลให้คู่ขัดแย้งอยู่ในกรอ บ และเคารพกฎกติกาที่มีอยู่ ดังที่เคยออกมาย้ำหลายครั้ง ว่า ให้ทุกฝ่ายยอมรับคำตัดสินขอ งศาล หากทุกฝ่ายนำทุกอย่างมาเป็น เกมการเมืองทั้งหมด โดยไม่คำนึงความถูกผิดบ้านเ มืองคงอยู่ไม่ได้
นอกจากบทบาท "กรรมการ" แล้ว ยังนำกำลังทหารถึง 57 กองร้อย โดยจัดจากสำนักงานปลัดกระทร วง
กลาโหม 1 กองร้อย กองบัญชาการกองทัพไทย 1 กองร้อย กองทัพบก 46 กองร้อย
กองทัพเรือ 7 กองร้อย และกองทัพอากาศ 2 กองร้อย มาร่วมกับกำลังของตำรวจที่จ ัดกำลังรักษาความสงบอีก 112 กองร้อย
สำหรับการรักษาความสงบหรือก ารป้องกันการเผชิญหน้ากันขอ งสองม็อบการเมืองนั้น คงไม่เท่าไหร่ ปัญหาก็คือ "กำลังทหาร" ที่เข้ามา บางฝ่ายมองว่า น่าจะมากกว่าช่วงที่มีการยึ ดอำนาจเสียด้วยซ้ำไป
นั่นก็หมายความว่า กำลังที่มีอยู่ในขณะนี้มากพ อที่จะทำการปฏิวัติ !
ยิ่งสภาพของ ศอ.รส.ในขณะนี้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสุญญาก าศไปแล้ว อำนาจสั่งการขาดเอกภาพ เพราะส่วนหัวถูกศาลรัฐธรรมน ูญสั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที ่ ก็ยิ่งทำให้ฝ่ายที่จำเป็นต้ องสั่งการกองทัพ อดหวั่นไหวไม่ได้
เพราะต่างก็รู้ดีว่า สถานการณ์มาถึงวันนี้ อยู่ในภาวะที่ เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้ แต่ประเทศต้องไปได้ แม้จะด้วยวิธี "ถอยหลัง" เพื่อยืนให้มั่นคง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าก็ต าม
ปัญหาก็คือ วิธีการที่ว่านั้น ทำให้เกิดคำถามว่า จะยอมรับกันได้หรือไม่ ทั้งภาพลักษณ์ประเทศ ทั้งความสูญเสียที่ไม่อาจปร ะเมินได้
แต่ที่แน่ๆ สถานการณ์เช่นนี้นับว่าใกล้ เข้ามาทุกทีแล้ว
คมชัดลึกออนไลน์
ถ้าสองม็อบเผชิญหน้า ก็ได้เวลากองทัพ : โดย...ทีมข่าวความมั่นคง
แผนล่าสุดของ กปปส.ที่กระจายไปยังสื่อต่า
เป้าหมายของ กปปส.ในก่อนหน้านี้ เรียกร้องให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตร
แต่เมื่อเหตุปัจจัยไม่ได้เด
ไม่ว่าจะเป็นการลาออกจากตำแ
แม้ว่าจะมีศาลรัฐธรรมนูญที่
แม้ว่า ป.ป.ช.จะมีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ส่งเรื่องให้วุฒิสภาถอดถอนย
แต่ทั้งสองกรณีก็ส่งผลเพียง
การเคลื่อนไหวของ กปปส.เพื่อมาบำเพ็ญเพียรอย่
ในภาวะที่ไม่มีสภาผู้แทนราษ
ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลนั้น แม้จะอยู่ในฐานะรักษาการ แต่ก็ยืนกรานว่า แม้จะทำหน้าที่ปฏิบัติหน้าท
ทั้งหมดนั้นเป็นจังหวะเดียว
โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็รู้ดีว
ก่อนหน้านี้บทบาทของกองทัพพ
นอกจากบทบาท "กรรมการ" แล้ว ยังนำกำลังทหารถึง 57 กองร้อย โดยจัดจากสำนักงานปลัดกระทร
สำหรับการรักษาความสงบหรือก
นั่นก็หมายความว่า กำลังที่มีอยู่ในขณะนี้มากพ
ยิ่งสภาพของ ศอ.รส.ในขณะนี้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสุญญาก
เพราะต่างก็รู้ดีว่า สถานการณ์มาถึงวันนี้ อยู่ในภาวะที่ เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้ แต่ประเทศต้องไปได้ แม้จะด้วยวิธี "ถอยหลัง" เพื่อยืนให้มั่นคง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าก็ต
ปัญหาก็คือ วิธีการที่ว่านั้น ทำให้เกิดคำถามว่า จะยอมรับกันได้หรือไม่ ทั้งภาพลักษณ์ประเทศ ทั้งความสูญเสียที่ไม่อาจปร
แต่ที่แน่ๆ สถานการณ์เช่นนี้นับว่าใกล้