'ทีไอ'หนุน ป.ป.ช.เดินหน้าตรวจสอบคดี 'ปู' !!!!!
เดลินิวส์ออนไลน์
"องค์กรความโปร่งใสนานาชาติ" หนุน ป.ป.ช.เดินหน้าตรวจสอบคดี "นายกฯปู" จี้ฝ่ายหนุนรัฐบาล หยุดคุกคาม
เมื่อวันที่30 เม.ย. นายสรรเสริญ พลเจียกเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆ...ษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติหรือทีไอ ได้แสดงบทบาทอย่างเป็นทางการในการสนับสนุนการทำหน้าที่ขององค์กรตรวจสอบการทุจริตของประเทศไทยผ่านหน้าเว็บไซต์หลักของทีไอและเครือข่ายทีไอทั่วโลกเพื่อเรียกร้องให้กลุ่มสนับสนุนรัฐบาล และแนวร่วม หยุดการคุกคามการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาของคณะกรรมการป.ป.ช.ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ และมีหน้าที่หลักโดยตรง
นายสรรเสริญกล่าวว่า โดยทางองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ(ทีไอ) ระบุว่า ป.ป.ช.กำลังเผชิญแรงกดดันหนักขึ้นจากสถานการณ์ทางการเมืองอันเป็นผลมาจากการดำเนินการไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกรณีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธานอยู่นั้นถูกกล่าวหาว่ามีส่วนทำให้ประเทศไทยสูญเสียเงินภาษีราษฎรกว่า 4 แสนล้านบาท ในช่วงระยะเวลา2 ปีที่ผ่านมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องทำการปกป้องเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.จากเหตุลอบยิงระเบิด และได้ออกแถลงการณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลางอีกทั้งกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลอ้างว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลำเอียงและได้ทำการปิดล้อมสถานที่ทำการ
เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในปี 2553 สำนักงานป.ป.ช. และรัฐบาลไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมการต่อต้านการทุจริตนานาชาติ (InternationalAnti-Corruption Conference: IACC) ที่ กทม.
โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านต่อต้านการทุจริตกว่า 1,500คนจากทั่วโลกในการประชุมครั้งนั้น ประธานกรรมการ ป.ป.ช.ได้กล่าวชัดเจนถึงความท้าทายในการดำเนินการสืบสวนสอบสวนบุคคลสาธารณะและมีการลงนามในปฏิญญากรุงเทพฯ (BangkokDeclaration) จากการประชุมครั้งดังกล่าว ได้สรุปว่างานของหน่วยงานต่อต้านการทุจริตต้องถูกจัดให้มีความสำคัญระดับชาติ และต้องได้รับความคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายที่เหมาะสมเพื่อรักษาไว้ซึ่งความเป็นอิสระของหน่วยงาน
นายสรรเสริญกล่าวว่า ทั้งนี้องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ก่อตั้งเมื่อปี 2536ในประเทศเยอรมนีเป็นองค์กรที่ไม่มุ่งหวังผลกำไรซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมระดับโลก โดยมีเครือข่ายกว่า 120ประเทศทั่วโลกในไทยมีองค์กรเพื่อความโปร่งในประเทศไทยเป็นเครือข่ายซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543ทีไอเป็นผู้นำในการต่อสู้และต่อต้านการคอร์รัปชันโดยมีภารกิจที่สำคัญคือสร้างการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ให้โลกปราศจากการคอร์รัปชันมีสำนักงานเลขานุการอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน โดยจะสนับสนุนการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.อย่างต่อเนื่อง ผ่านทางโซเชียลมีเดียซึ่งมีเครือข่ายสมาชิกทั่วโลก. See More
เดลินิวส์ออนไลน์
"องค์กรความโปร่งใสนานาชาติ" หนุน ป.ป.ช.เดินหน้าตรวจสอบคดี "นายกฯปู" จี้ฝ่ายหนุนรัฐบาล หยุดคุกคาม
เมื่อวันที่30 เม.ย. นายสรรเสริญ พลเจียกเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆ...ษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติหรือทีไอ ได้แสดงบทบาทอย่างเป็นทางการในการสนับสนุนการทำหน้าที่ขององค์กรตรวจสอบการทุจริตของประเทศไทยผ่านหน้าเว็บไซต์หลักของทีไอและเครือข่ายทีไอทั่วโลกเพื่อเรียกร้องให้กลุ่มสนับสนุนรัฐบาล และแนวร่วม หยุดการคุกคามการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาของคณะกรรมการป.ป.ช.ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ และมีหน้าที่หลักโดยตรง
นายสรรเสริญกล่าวว่า โดยทางองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ(ทีไอ) ระบุว่า ป.ป.ช.กำลังเผชิญแรงกดดันหนักขึ้นจากสถานการณ์ทางการเมืองอันเป็นผลมาจากการดำเนินการไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกรณีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธานอยู่นั้นถูกกล่าวหาว่ามีส่วนทำให้ประเทศไทยสูญเสียเงินภาษีราษฎรกว่า 4 แสนล้านบาท ในช่วงระยะเวลา2 ปีที่ผ่านมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องทำการปกป้องเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.จากเหตุลอบยิงระเบิด และได้ออกแถลงการณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลางอีกทั้งกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลอ้างว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลำเอียงและได้ทำการปิดล้อมสถานที่ทำการ
เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในปี 2553 สำนักงานป.ป.ช. และรัฐบาลไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมการต่อต้านการทุจริตนานาชาติ (InternationalAnti-Corruption Conference: IACC) ที่ กทม.
โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านต่อต้านการทุจริตกว่า 1,500คนจากทั่วโลกในการประชุมครั้งนั้น ประธานกรรมการ ป.ป.ช.ได้กล่าวชัดเจนถึงความท้าทายในการดำเนินการสืบสวนสอบสวนบุคคลสาธารณะและมีการลงนามในปฏิญญากรุงเทพฯ (BangkokDeclaration) จากการประชุมครั้งดังกล่าว ได้สรุปว่างานของหน่วยงานต่อต้านการทุจริตต้องถูกจัดให้มีความสำคัญระดับชาติ และต้องได้รับความคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายที่เหมาะสมเพื่อรักษาไว้ซึ่งความเป็นอิสระของหน่วยงาน
นายสรรเสริญกล่าวว่า ทั้งนี้องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ก่อตั้งเมื่อปี 2536ในประเทศเยอรมนีเป็นองค์กรที่ไม่มุ่งหวังผลกำไรซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมระดับโลก โดยมีเครือข่ายกว่า 120ประเทศทั่วโลกในไทยมีองค์กรเพื่อความโปร่งในประเทศไทยเป็นเครือข่ายซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543ทีไอเป็นผู้นำในการต่อสู้และต่อต้านการคอร์รัปชันโดยมีภารกิจที่สำคัญคือสร้างการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ให้โลกปราศจากการคอร์รัปชันมีสำนักงานเลขานุการอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน โดยจะสนับสนุนการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.อย่างต่อเนื่อง ผ่านทางโซเชียลมีเดียซึ่งมีเครือข่ายสมาชิกทั่วโลก. See More
สื่อนอกตีแผ่จุดอ่อนไทย รัฐบาล-คอร์รัปชั่น-แรงงานท ักษะต่ำ ดูมุมมองของชนต่างประเทศเขา มอง และชี้ปัญหาให้ เพื่อจะได้นำกลับไปแก้ไข ข้อบกพร่อง ให้ดีขึ้นต่อไป
อินเวสไวน์ เว็บไซต์ข้อมูลข่าวสารความเ คลื่อนไหวด้านการเงิน การลงทุนและไลฟ์สไตล์ในอาเซ ียน เปิดเผยบทความกึ่งวิเคราะห์ ตีแผ่ "จุดอ่อน" ของประเทศไทย 10 ประการ ซึ่งเป็นตัวการฉุดรั้งขีดคว ามสามารถการแข่งขันของไทยใน เวทีประชาคมอาเซียน (เออีซี) ที่จะเกิดขึ้นใ...นปี 2558 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จุดอ่อนประการแรกของไทย คือ "ความอ่อนแอของรัฐบาล" โดยรายงานระบุว่า การดำเนินงานของพรรคเพื่อไท ยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตร ียิ่งลักษณ์ ชินวัตรนับตั้งแต่ปี 2554 สะท้อนให้เห็นว่า แท้ที่จริงแล้วรัฐบาลไทยชุด ปัจจุบันคือรัฐบาล ‘หุ่นเชิด’ ของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่คอยสั่งการอยู่เบื้องหลั งจากต่างประเทศ
“นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ไม่ สามารถสร้างความน่าเชื่อถือ ต่อประชาชนได้ และไม่กล้าตัดสินใจในเรื่อง สำคัญ อีกทั้งยังไร้ความสามารถในก ารแก้ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งถือเป็นประเด็นที่กระทบ ต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนต่ างชาติโดยตรง” อินเวสไวน์ระบุ
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยชุดปัจจุบัน ยังมีการโยกย้ายเปลี่ยนตำแห น่งคณะรัฐมนตรีกันอย่างต่อเ นื่องเป็นครั้งที่ 5 แล้วนับตั้งแต่ขึ้นบริหารปร ะเทศในปี 2554 เพื่อเปิดทางให้กลุ่มคนที่จ งรักภักดีต่อทักษิณขึ้นมามี อำนาจมากขึ้นตามใบสั่งของทั กษิณ ทำให้คณะรัฐมนตรีที่ขึ้นมาบ ริหารงานเพียงวาระสั้นๆ ยังไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเพื ่อชาติได้เลย และความอ่อนแอของรัฐบาล ก็นำมาซึ่งจุดอ่อนประการที่ 2 "การเมืองไร้เสถียรภาพ"
อินเวสไวน์ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ในปีน ี้ อาจเกิดเหตุปะทะกันระหว่างก ลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง 2 ขั้วที่ต่างฝ่ายต่างระดมพลอ อกมาแสดงความต่อต้านซึ่งกัน และกัน จนกลายเป็นแรงกดดันให้อาจเก ิดการรัฐประหารขึ้นมาอีกครั ้ง
นอกจากนี้ ประเทศไทย ยังเผชิญอยู่กับ ‘ปัญหาคอรัปชั่น’ ที่ปรากฏอยู่ในทุกภาคส่วนขอ งประเทศ ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลอ กลวงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไปจนถึงการเลือกปฏิบัติต่อบ ุคคลที่มีฐานะและมีอิทธิพลใ นสังคม
“โครงการพัฒนาและลงทุนใดๆจะ มีความคืบหน้าต่อเมื่อมีการ ติดสินบน และที่น่าแปลกใจว่านั้นคือ จากผลสำรวจพบว่า ประชาชนมองว่าการติดสินบนเป ็นเรื่องที่รับได้” อินเวสไวน์ระบุ
นอกเหนือจากประเด็นการเมือง จุดอ่อนของไทยที่ปรากฏอย่าง เด่นชัด ก็คือ "ปัญหาด้านแรงงานที่มีทักษะ ต่ำ"
รายงานอ้างคำวิพากษ์วิจารณ์ ของบรรดานักลงทุนต่างชาติ ทั้งภาคอุตสาหกรรม การเงินและภาคบริการ ที่ต่างระบุว่า แรงงานไทยมีทักษะความสามารถ ต่ำ ไล่ตั้งแต่การขาดความรู้ด้า นคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงไร้ความสามารถด้านกา รจัดการ อันเป็นผลจากระบบการศึกษาขอ งไทยที่ไม่ได้มาตรฐาน และรัฐบาลไม่ได้ส่งเสริมให้ มีการอบรมเพิ่มขีดศักยภาพแร งงานไทยอย่างเพียงพอ
เช่นเดียวกับ "ทักษะภาษาอังกฤษ" ของแรงงานไทย ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางด้านธ ุรกิจและการท่องเที่ยวของไท ย ทว่ารัฐบาลยังคงนิ่งเฉยในกา รแก้ปัญหาดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ความสามารถการแข่งขันและผลิ ตภาพของอุตสาหกรรมไทย ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ ควรจะเป็น
“ไทยควรยกระดับสถานะจากการเ ป็นแหล่งผลิตและประกอบสินค้ าคุณภาพต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับ อัตราแรงงานขั้นต่ำขึ้นเมื่ อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยการส่งเสริมศักยภาพแรงง านให้มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อรับมือกับสภาวะการแข่ง ขันทางธุรกิจที่สูงขึ้นจากก ารเปิดประชาคมอาเซียน” รายงานระบุ
ไม่เพียงเท่านี้ “ระบบจัดการภาคการเงินของรั ฐบาลไทยเข้าข่ายไร้คุณภาพ” พิสูจน์ได้จากความขัดแย้งระ หว่างกระทรวงการคลังและธนาค ารแห่งประเทศไทย ในการออกนโยบายทางการเงินแล ะการคลัง สะท้อนถึงความไร้เสถียรภาพท างการเงินของชาติ ที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่น ของนักลงทุนต่างชาติโดยตรง
นอกจากนี้ อินเวสไวน์ ยังมองอีกว่า ไทยพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวม ากเกินไป เห็นได้จากการเปิดประเทศให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าม าท่องเที่ยวอย่างไร้ข้อจำกั ด
ความเคลื่อนไหวนี้ ส่งผลให้คุณภาพของการท่องเท ี่ยวต่ำลง นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน มากถูกเอารัดเอาเปรียบจากกา รโก่งค่าบริการ ตลอดจนเป็นเหยื่อของความรุน แรง ซึ่งจะสร้างความเสื่อมเสียช ื่อเสียงให้กับประเทศในระยะ ยาว
และจุดอ่อนประการสุดท้ายของ ไทย คือ การที่คนไทยส่วนใหญ่ มัก "เมินเฉยต่อโลกภายนอก"
รายงานดังกล่าว ระบุว่า อาจเป็นเพราะไทย ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของต่ างชาติ จึงส่งผลให้ไทย ไม่เคยเรียนรู้ที่จะปรับตัว เพื่อรับมือกับวัฒนธรรมต่าง ชาติ ส่งผลให้คนไทยส่วนใหญ่ขาดคว ามรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวั ฒนธรรมอื่นๆ ซึ่งกลายเป็นผลเสียต่อการเข ้าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอ าเซียนในที่สุด
องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ป้องป.ป.ช. ถูกคุกคาม หลังไต่สวนคดี “ยิ่งลักษณ์” ปมจำนำข้าว “ภักดี” เผย โลกจับตาคดีนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. ที่โรงแรมเดอะรอยัลริเวอร์ นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ....... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1fUHvCOอินเวสไวน์ เว็บไซต์ข้อมูลข่าวสารความเ
จุดอ่อนประการแรกของไทย คือ "ความอ่อนแอของรัฐบาล" โดยรายงานระบุว่า การดำเนินงานของพรรคเพื่อไท
“นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ไม่
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยชุดปัจจุบัน ยังมีการโยกย้ายเปลี่ยนตำแห
อินเวสไวน์ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ในปีน
นอกจากนี้ ประเทศไทย ยังเผชิญอยู่กับ ‘ปัญหาคอรัปชั่น’ ที่ปรากฏอยู่ในทุกภาคส่วนขอ
“โครงการพัฒนาและลงทุนใดๆจะ
นอกเหนือจากประเด็นการเมือง
รายงานอ้างคำวิพากษ์วิจารณ์
เช่นเดียวกับ "ทักษะภาษาอังกฤษ" ของแรงงานไทย ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์
ขณะเดียวกัน ความสามารถการแข่งขันและผลิ
“ไทยควรยกระดับสถานะจากการเ
ไม่เพียงเท่านี้ “ระบบจัดการภาคการเงินของรั
นอกจากนี้ อินเวสไวน์ ยังมองอีกว่า ไทยพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวม
ความเคลื่อนไหวนี้ ส่งผลให้คุณภาพของการท่องเท
และจุดอ่อนประการสุดท้ายของ
รายงานดังกล่าว ระบุว่า อาจเป็นเพราะไทย ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของต่
แนะ'ปู-ปึ้ง'อย่าใช้เวทีอาเซียนหาประโยชน์ใส่ตัว !!!!!
เดลินิวส์ออนไลน์
ปชป.แนะ "ปู-ปึ้ง" อย่าใช้เวทีอาเซียนหาประโยชน์ใส่ตน ทำคนไทยอับอาย
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกร...ณีที่นายสรุพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ พยายามจะให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐนตรี และรมว.กลาโหม ไปร่วมประชุมอาเซียนซัมมิท ที่ประเทศพม่า ในวันที่ 11 พ.ค.นี้
ว่าที่ผ่านมานายสุรพงษ์ เป็นตัวตลกของประชาคมอาเซียนมาตลอด จากที่ตนได้พบกับนักการทูต ผู้แทนรัฐบาลหลายคน ล้วนมีความขบขันกับพฤติกรรมของนายสุรพงษ์ เพราะกำลังเอาเวทีอาเซียนซัมมิท ไปสู่กระบวนการสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเองหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเพื่อนบ้านรู้ดีถึงปัญหาของประเทศไทย
จึงขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายสุรพงษ์ แยกแยะบทบาทหน้าที่ เพราะเวทีประชุมอาเซียนซัมมิท มีความสำคัญต่อประเทศไทยและประชาคมอาเซียนเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเดียวกันในปีหน้า
“การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินหน้าเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างแท้จริง ขออย่าสร้างรอยแผล หรือรอยด่างให้ประชาคมอาเซียนด้วยการเอาเรื่องเท็จไปพูดในที่ประชุม เพราะแค่นี้คนไทยก็อับอายอย่างมากแล้ว อย่าเอาความต้องการส่วนตัว ไปขายประเทศไทยในเวทีที่เขาสร้างไว้เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับมวลมหาประชาชนคนอาเซียน
หากนายสุรพงษ์ อยากมีบทบาทก็ให้อยู่ใน ศอ.รส. อย่าเอาความต้องการของตัวเอง ไปทำให้ประเทศไทยอับอายขายหน้ามากไปกว่านี้ แต่ถ้าอยากไปพูดอะไรบนเวทีอาเซียน ขอให้ไปพูดว่า 2 ปีที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ ปล่อยให้มีการโกง ปล่อยให้มีการหมิ่น ใช้คนเสื้อแดงข่มขู่คุกคามคนอื่นมาตลอด และปฏิเสธกระบวนยุติธรรมมาตลอดจะเป็นประโยชน์กับคนไทยมากกว่า” นายชวนนท์ กล่าว. See More
ปชป.แนะ "ปู-ปึ้ง" อย่าใช้เวทีอาเซียนหาประโยชน์ใส่ตน ทำคนไทยอับอาย
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกร...ณีที่นายสรุพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ พยายามจะให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐนตรี และรมว.กลาโหม ไปร่วมประชุมอาเซียนซัมมิท ที่ประเทศพม่า ในวันที่ 11 พ.ค.นี้
ว่าที่ผ่านมานายสุรพงษ์ เป็นตัวตลกของประชาคมอาเซียนมาตลอด จากที่ตนได้พบกับนักการทูต ผู้แทนรัฐบาลหลายคน ล้วนมีความขบขันกับพฤติกรรมของนายสุรพงษ์ เพราะกำลังเอาเวทีอาเซียนซัมมิท ไปสู่กระบวนการสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเองหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเพื่อนบ้านรู้ดีถึงปัญหาของประเทศไทย
จึงขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายสุรพงษ์ แยกแยะบทบาทหน้าที่ เพราะเวทีประชุมอาเซียนซัมมิท มีความสำคัญต่อประเทศไทยและประชาคมอาเซียนเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเดียวกันในปีหน้า
“การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินหน้าเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างแท้จริง ขออย่าสร้างรอยแผล หรือรอยด่างให้ประชาคมอาเซียนด้วยการเอาเรื่องเท็จไปพูดในที่ประชุม เพราะแค่นี้คนไทยก็อับอายอย่างมากแล้ว อย่าเอาความต้องการส่วนตัว ไปขายประเทศไทยในเวทีที่เขาสร้างไว้เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับมวลมหาประชาชนคนอาเซียน
หากนายสุรพงษ์ อยากมีบทบาทก็ให้อยู่ใน ศอ.รส. อย่าเอาความต้องการของตัวเอง ไปทำให้ประเทศไทยอับอายขายหน้ามากไปกว่านี้ แต่ถ้าอยากไปพูดอะไรบนเวทีอาเซียน ขอให้ไปพูดว่า 2 ปีที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ ปล่อยให้มีการโกง ปล่อยให้มีการหมิ่น ใช้คนเสื้อแดงข่มขู่คุกคามคนอื่นมาตลอด และปฏิเสธกระบวนยุติธรรมมาตลอดจะเป็นประโยชน์กับคนไทยมากกว่า” นายชวนนท์ กล่าว. See More
3พ.ค.57เวลา2000กำนันผญบ.จะเดินทางเข้ากทม.เพื่อท้วงคืนกระทรวงมหาดไทย
จว.อ.ด.มียอด2000คนรถบัส40คัน ,จว.น.ค.มียอด450คนรถบัส9คัน ตัวแทนกลุ่มกำนัน,ผญบ.จว.น.ภ.จะลงไปร่วมกับกลุ่มกำนัน,ผญบ.ทั่วประเทศกรณี ทวงคืน มท.ในวันที่ 4 พ.ค.57 โดย จว.น.ภ.จัดผู้แทนกำนัน,ผญบ.อำเภอละ50คนรวม6อำเภอจำนวน 300 คน โดยให้แต่ละอำเภอจัดรถโดยสารปรับอากาศอำเภอละ1คันจะเดินทางในวัน ที่ 032000 พ.ค.57 รถจะมารวมกันที่ศาลพระนเรศวร ทั้งนี้แต่ละอำเภอให้การสนับสนุนรถ และเบี้ยเลี้ยงคนละ500บาทผลการประชุมหารือวิทยาลัยการปกครองมีข้อสรุป ดังนี้
1. ให้กลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านทุกจังหวัด เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในช่วงเย็นของวันที่ 3 พ.ค.57
2. ใน 4 พ.ค.57 เวลา 10.00 น. นัดพบหน้า กระทรวงกลาโหม (สนามหลวง ด้านประตูสวัสดิโสภา) จากนั้นเดินไปกระทรวงมหาดไทย อ่านแถลงการณ์ขอคืนกระทรวงมหาดไทย
3. เวลา 14.00 น. รอรับเสด็จฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ที่จะเสด็จ พระราชดำเนิน ผ่านมาทางนั้น ทุกคนแต่งกายเครื่องแบบทั้งหมด
4.ให้ ผู้ว่าราชการจังหวัด และ นายอำเภอ ร่วมกิจกรรมกับกำนัน ผญบ.ในครั้งนี้ด้วย
การเคลื่อนไหวของกลุ่มกำนัน,ผญบ.จว.น.ภ.ดังนี้ เมื่อ 021300 พ.ค.57 ได้ทราบจากแหล่งข่าวว่า ตัวแทนกลุ่มกำนัน,ผญบ.จว.น.ภ.จะลงไปร่วมกับกลุ่มกำนัน,ผญบ.ทั่วประเทศกรณี ทวงคืน มท.ในวันที่ 4 พ.ค.57 โดย จว.น.ภ.จัดผู้แทนกำนัน,ผญบ.อำเภอละ50คนรวม6อำเภอจำนวน 300 คน โดยให้แต่ละอำเภอจัดรถโดยสารปรับอากาศอำเภอละ1คันจะเดินทางในวัน ที่ 032000 พ.ค.57 รถจะมารวมกันที่ศาลพระนเรศวร ทั้งนี้แต่ละอำเภอให้การสนับสนุนรถ และเบี้ยเลี้ยงคนละ500บาท
เบี้ยเลี้ยงคนละ500บาท งานนี้ มันให้ ผู้ว่าราชการจังหวัด และ นายอำเภอ( โดยเฉพาะ นายอำเภอหนองวัวซอ จว.อุดรธานี ลูกรักของพ่อมัน ที่อยู่ ดูไบ ) ร่วมกิจกรรมกับกำนัน ผญบ.ในครั้งนี้