พระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชน
"จะมีการต่อตีกันกลางเมือง ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วห
นอกจากนี้ความเดิมในนิทานชา
"เมื่อพระมหาชนกเสด็จประพาส
พระมหาชนกเสวยไปผลหนึ่ง รสหอมหวาน อร่อยมาก ตั้งพระทัยว่าเดี๋ยวจะกลับม
พอพระมหาชนกเสด็จกลับออกมา ตั้งใจจะเสวยมะม่วงเพิ่มอีก
พระมหาชนกทรงอธิษฐานจิตมั่น
นั่นคือความเดิม ซึ่งจากตรงนี้ในหลวงทรงได้ป
"ทรงแนะ ๙ วิธี ฟื้นฟูต้นมะม่วง ให้กับอุทิจจพราหมณ์มหาศาลก
ชีวาณูสงเคราะห์ ก็คือวิธีเพาะเนื้อเยื่อ เมื่อทรงแนะวิธีฟื้นฟูต้นมะ
นั่นคือตัวอย่างบางตอนของพร
พระชฎามหากฐิน เป็นเครื่องราชศิราภรณ์ สร้างในรัชกาลที่ 1 สำหรับพระมหากษัตริย์ทรงแทน พระมหาพิชัยมงกุฎในบางโอกาส เช่น ในการเสด็จกระบวนพยุหยาตราไ ปถวายผ้าพระกฐิน เป็นต้น
องค์พระชฎาเป็นทองคำลงยาราช าวดีประดับเพชรทั้งองค์ น้ำหนัก 3,000 กรัม
หนึ่งในภาพหายากของหนังสือช ุดพระมหากษัตริย์ในพระบรมรา ชจักรีวงศ์ ๙ รัชกาล เป็นชุดหนังสือที่ทรงคุณค่า น่าอ่านน่าสะสม หนึ่งในหนังสือชุดบันทึก ๒ แผ่นดิน
"ปริศนา ธูป 1 ดอก ..."
งานบำเพ็ญกุศลผู้วายชนม์ที่วัดชลประทาน การสวดพระอภิธรรมของวัดชลประทานสมัยนี้ ยังคงเป็นเหมือนกับ
สมัยที่หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ มีชีวิต... นั่นคือ งานสวดพระอภิธรรมต้องมีเทศนาธรรมแขกเหรื่อที่มาร่วมงานศพ ต้องสวดมนต์รับศีล ฟังเทศน์ ก่อนจะฟังสวดพระอภิธรรม พระท่านเทศน์ด้วยคำถามว่า รู้ไหมว่าทำไม...ต้องจุดธูป 3 ดอกหน้าพระพุทธ หลายคนคงบอกว่าเพื่อบูชา
พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์......ผิดค่ะ
ความจริงแล้วธูปทั้ง 3 ดอก จุดเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า หรือ พระพุทธเพียงอย่างเดียว เพียงแต่ 3 ดอก ที่จุดขึ้นนั้นก็เพื่อบูชาพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิกุลหรือพระวิสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิการของพระพุทธเจ้า= บูชาพระปัญญาคุณ เพราะพระพุทธองค์ทรงรู้แจ้งเห็นจริงด้วยพระองค์เอง= บูชาพระบริสุทธิคุณ เพราะหมดจดสิ้นโลภ โกรธ หลง= บูชาพระมหากรุณาธิคุณ เพราะมีเมตตาสั่งสอนให้ผู้อื่นรู้แจ้งเห็นจริง
แล้วธูป 1 ดอกที่จุดหน้าศพล่ะ?......ไม่ต้องรอคำตอบ
พระท่านได้เฉลยว่า ธูป 1 ดอก หมายความถึง...ชีวิตของคน...แต่ละคนมี 1 ชีวิตเท่ากัน ธูปส่วนที่ถูกเผา หมายถึง ...ช่วงเวลาที่...ดำเนินชีวิตมาแล้ว
ส่วนธูปที่เหลือคือ....ช่วงเวลาที่เหลืออยู่พระท่านยังว่า เมื่ออยู่หน้าศพ ก็ให้ระลึกไว้ 3 อย่าง หนึ่งคือ เอวัง ภาวี หมายถึง ต่อไปเราก็ต้องเป็นแบบนี้
หนึ่งคือ เอวัง ธัมโม สิ่งนี้คือธรรมชาติ และ อีกหนึ่งคือ เอวัง อะนาติโต ทุกชีวิตไม่สามารถหนีสิ่งนี้พ้นพระท่านบอกว่า งานสวดศพเขาเรียกว่างานบำเพ็ญ
กุศล ไม่ใช่...งานบุญ เพราะ การทำบุญนั้น พอทำแล้วใจพองโต เช่น ทำดีได้บุญ ใจเป็นสุข แต่ทำกุศลนั้น ทำแล้วได้ปัญญา
ท่านพุทธทาสสอนความแตกต่างระหว่าง "บุญ" กับ "กุศล" เอาไว้
สรุปว่า = บุญ คือ การพอใจ = ส่วนกุศล คือ ความฉลาดที่จะไม่ติดยึดกับความพอใจ การจัดงานศพจึงเป็นงานบำเพ็ญกุศล คือ สร้างเสริมปัญญา...ให้แก่ผู้มาร่วมงาน ทำให้รู้ว่าชีวิต...มีเท่านี้ ช่วงชีวิต...ก็แค่นี้ และ สุดท้ายของชีวิต....ก็แบบนี้ ดังนั้นใครที่โกรธกัน ใครที่เกลียดกัน ใครที่มัวแต่คิดจะฆ่าฟันทำลายล้าง น่าจะลองทบทวนใหม่ ใครที่ซึมเศร้า ใครกำลังคิดสั้น ใครท้อแท้-หดหู่ ก็น่าจะทบทวนตัวเองอีกครั้ง ทบทวนหวนนึกถึง...ธูป 1 ดอก ที่หมายถึงชีวิต 1 ชีวิตทบทวนถึง...ธูปที่เผาไหม้ อันหมายถึงเวลา....ที่ชีวิตใช้ไปทุกเมื่อเชื่อวัน ทบทวนแล้วน่าจะแลเห็นว่า...ชีวิตนั้น....แสนสั้น
การอยู่ร่วมกันของคนแต่ละคน...ก็แสนสั้น หากมัวแต่เกลียดกัน โกรธกัน ฆ่าฟันทำลายล้างกัน ทำให้จิตใจมัวหมอง เท่ากับว่า...กำลังทำให้ชีวิต...เสียโอกาส เสียโอกาสที่จะได้....ทำบุญ คือ ทำแล้วฟูใจ พอใจ สบายใจ และเสียโอกาสที่จะได้.....กุศล คือ ได้วิชา ได้ความรู้ ได้ปัญญา....เวลาของชีวิตเรา เหลือไม่เยอะนัก เหมือน " ธูป ส่วนที่เหลือ "
องค์พระชฎาเป็นทองคำลงยาราช
หนึ่งในภาพหายากของหนังสือช
"ปริศนา ธูป 1 ดอก ..."
งานบำเพ็ญกุศลผู้วายชนม์ที่วัดชลประทาน การสวดพระอภิธรรมของวัดชลประทานสมัยนี้ ยังคงเป็นเหมือนกับ
สมัยที่หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ มีชีวิต... นั่นคือ งานสวดพระอภิธรรมต้องมีเทศนาธรรมแขกเหรื่อที่มาร่วมงานศพ ต้องสวดมนต์รับศีล ฟังเทศน์ ก่อนจะฟังสวดพระอภิธรรม พระท่านเทศน์ด้วยคำถามว่า รู้ไหมว่าทำไม...ต้องจุดธูป 3 ดอกหน้าพระพุทธ หลายคนคงบอกว่าเพื่อบูชา
พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์......ผิดค่ะ
ความจริงแล้วธูปทั้ง 3 ดอก จุดเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า หรือ พระพุทธเพียงอย่างเดียว เพียงแต่ 3 ดอก ที่จุดขึ้นนั้นก็เพื่อบูชาพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิกุลหรือพระวิสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิการของพระพุทธเจ้า= บูชาพระปัญญาคุณ เพราะพระพุทธองค์ทรงรู้แจ้งเห็นจริงด้วยพระองค์เอง= บูชาพระบริสุทธิคุณ เพราะหมดจดสิ้นโลภ โกรธ หลง= บูชาพระมหากรุณาธิคุณ เพราะมีเมตตาสั่งสอนให้ผู้อื่นรู้แจ้งเห็นจริง
แล้วธูป 1 ดอกที่จุดหน้าศพล่ะ?......ไม่ต้องรอคำตอบ
พระท่านได้เฉลยว่า ธูป 1 ดอก หมายความถึง...ชีวิตของคน...แต่ละคนมี 1 ชีวิตเท่ากัน ธูปส่วนที่ถูกเผา หมายถึง ...ช่วงเวลาที่...ดำเนินชีวิตมาแล้ว
ส่วนธูปที่เหลือคือ....ช่วงเวลาที่เหลืออยู่พระท่านยังว่า เมื่ออยู่หน้าศพ ก็ให้ระลึกไว้ 3 อย่าง หนึ่งคือ เอวัง ภาวี หมายถึง ต่อไปเราก็ต้องเป็นแบบนี้
หนึ่งคือ เอวัง ธัมโม สิ่งนี้คือธรรมชาติ และ อีกหนึ่งคือ เอวัง อะนาติโต ทุกชีวิตไม่สามารถหนีสิ่งนี้พ้นพระท่านบอกว่า งานสวดศพเขาเรียกว่างานบำเพ็ญ
กุศล ไม่ใช่...งานบุญ เพราะ การทำบุญนั้น พอทำแล้วใจพองโต เช่น ทำดีได้บุญ ใจเป็นสุข แต่ทำกุศลนั้น ทำแล้วได้ปัญญา
ท่านพุทธทาสสอนความแตกต่างระหว่าง "บุญ" กับ "กุศล" เอาไว้
สรุปว่า = บุญ คือ การพอใจ = ส่วนกุศล คือ ความฉลาดที่จะไม่ติดยึดกับความพอใจ การจัดงานศพจึงเป็นงานบำเพ็ญกุศล คือ สร้างเสริมปัญญา...ให้แก่ผู้มาร่วมงาน ทำให้รู้ว่าชีวิต...มีเท่านี้ ช่วงชีวิต...ก็แค่นี้ และ สุดท้ายของชีวิต....ก็แบบนี้ ดังนั้นใครที่โกรธกัน ใครที่เกลียดกัน ใครที่มัวแต่คิดจะฆ่าฟันทำลายล้าง น่าจะลองทบทวนใหม่ ใครที่ซึมเศร้า ใครกำลังคิดสั้น ใครท้อแท้-หดหู่ ก็น่าจะทบทวนตัวเองอีกครั้ง ทบทวนหวนนึกถึง...ธูป 1 ดอก ที่หมายถึงชีวิต 1 ชีวิตทบทวนถึง...ธูปที่เผาไหม้ อันหมายถึงเวลา....ที่ชีวิตใช้ไปทุกเมื่อเชื่อวัน ทบทวนแล้วน่าจะแลเห็นว่า...ชีวิตนั้น....แสนสั้น
การอยู่ร่วมกันของคนแต่ละคน...ก็แสนสั้น หากมัวแต่เกลียดกัน โกรธกัน ฆ่าฟันทำลายล้างกัน ทำให้จิตใจมัวหมอง เท่ากับว่า...กำลังทำให้ชีวิต...เสียโอกาส เสียโอกาสที่จะได้....ทำบุญ คือ ทำแล้วฟูใจ พอใจ สบายใจ และเสียโอกาสที่จะได้.....กุศล คือ ได้วิชา ได้ความรู้ ได้ปัญญา....เวลาของชีวิตเรา เหลือไม่เยอะนัก เหมือน " ธูป ส่วนที่เหลือ "