หัวหน้าคสช.ชี้แจงทูตต่างชาติ ตั้งสภาปฎิรูป ฯพร้อมสภานิติบัญญัติ

*ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เผย หัวหน้าคสช.ชี้แจงทูตต่างชาติ ตั้งสภาปฎิรูป ฯพร้อมสภานิติบัญญัติ*

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงให้คณะทูตและผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศทราบว่าเหตุใดจึงตัดสินใจทำการยึดอำนาจ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าเป็นการดำเนินการด้วยความจำเป็น เนื่องจากตอนนี้ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ และประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ซึ่งการเข้า...มาดำเนินการดังกล่าวก็เพื่อพยายามขับเคลื่อนการบริหารประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญ อาทิ โครงการรับจำนำข้าว

ขณะที่ส่วนตัวได้ชี้แจงว่า คสช.ทำหน้าที่เสมือนรัฐบาล และไม่ได้ตั้งใจที่จะอยู่นาน แต่เหตุที่เข้ามาเพื่อยุติความขัดแย้ง และจะมีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ส่วนคสช.จะอยู่นานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยความขัดแย้งทั้งหลายจะคลี่คลายลงเมื่อใด

ส่วนทูตต่างประเทศส่วนใหญ่สอบถามว่าคสช.จะอยู่ถึงเมื่อใด ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าขณะนี้คงไม่มีใครตอบได้ เพราะต้องทำเรื่องทั้งหลายให้เรียบร้อยเสียก่อน แต่พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ย้ำว่าการทำความตกลงต่างๆกับประเทศที่มีการเจรจาอยู่ รวมถึงพันธกรณีระหว่างประเทศก็ยังดำเนินต่อไป และไทยยังยึดมั่น

นอกจากนี้ยังมีการสอบถามว่าการปฏิรูปจะเกิดเมื่อใดนั้น พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าจะมีการตั้งสภาปฏิรูปขึ้นพร้อมๆ กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ย้ำว่าคสช.อยู่เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ด้านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้สอบถามถึงการจะมีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชั่วคราว แต่คสช.จะทำหน้าที่เป็นรัฐบาลเสียเอง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า คสช.ต้องทำหน้าที่นี้ไปก่อน และต้องให้สถานการณ์พร้อมเสียก่อน

ส่วนเรื่องรัฐบาลชั่วคราวเป็นสิ่งที่ต้องว่ากันในภายหลัง แต่ทั้งหมดจะนำไปสู่การเลือกตั้ง นอกจากนี้ คณะทูตต่างประเทศได้ฝากให้คสช.ดูแลความปลอดภัยของชาวต่างประเทศที่อยู่ในไทยด้วย ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าจะดูแลชาวต่างประเทศเป็นอย่างดีเท่ากับที่ดูแลคนไทย
23.5.57 21.30 น.

หวัง “บิ๊กตู่” ทูลเกล้าฯประธาน-รองประธานวุฒิฯหลังกฤษฎีกาใหญ่ชี้เลือกได้ !!!!! เดลินิวส์ออนไลน์

“ พีระศักดิ์ ” หวัง “บิ๊กตู่” ทูลเกล้าฯประธาน-รองประธานวุฒิฯหลังกฤษฎีกาใหญ่ชี้เลือกได้

เมื่อวันที่ 23 พ.ค. นายพีระศักดิ์ พอจิต ส.ว.อุตรดิตถ์ ว่าที่รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 กล่าวว่า ขณะนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีอำนาจเต็มจะร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเองเพื่อใช้ชั่วคราวก่อนก็ได้ จะตั้งนายกรัฐมนตรีตั้ง...ใครก็ได้ ถ้าเห็นว่า วุฒิสภาไม่มีประโยชน์ก็อาจจะยกเลิกก็ได้นาทีนี้เป็นไปได้ทั้งนั้น

เราต้องรอคำสั่งของคสช.เพราะรัฐธรรมนูญ 2550 ถูกพักใช้ไปแล้ว ซึ่งทิศทางของวุฒิสภาหลังจากนี้คงไม่มีใครเดาได้แต่วุฒิสภาอยากจะทำเรื่องถอดถอนที่ค้างอยู่ข้อมูลที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลมา ข้อเท็จจริงมีความชัดเจนขนาดไหนจะได้ดูวุฒิภาวะการทำหน้าที่ของวุฒิสภาว่าจะทำได้หรือไม่

และเป็นบทบาทของส.ว.ซึ่งเราอยากทำบทบาทที่มีตามรัฐธรรมนูญเดิมอย่างไรก็ตาม ที่ประชุมใหญ่กรรมการกฤษฎีกาก็มีมติว่าเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาได้ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. มีเวลาก็คงจะทูลเกล้าฯประธานและรองประธานวุฒิสภา เพราะเขาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีแล้ว

 

 

นำประเทศไปสูความสมานฉันท์อย่างยั่งยืน !!!!!
คมชัดลึกออนไลน์   ผบ.ทบ.เผยในที่ประชุมข้าราชการเตรียมแก้ปัญหาเงินจำนำข้าวเรื่องแรก คาด15วันเริ่มจ่ายหนี้ชาวนาได้ ส่วนจีทูจีให้งดไปก่อน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชี้แจงกับหัวหน้่าส่วนราชการ ตอนหนึ่งว่า ขอบคุณทุกคนที่มากันวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศภายใต้สถานการณ์กดดันทั้งใน และนอกประเทศ ซึ่งตนจะนำประเทศไปสูความสมานฉันท์อย่างยั่งยืน จึงถือเป็นความจำเป็นที่ต้องใช้อำนาจทางด้านความมั่นคงมาแก้ไขปัญหา เหตุผลความจำเป็นในด้านต่างๆ ความเดือดร้อน และความจำเป็นของคนระด...ับล่าง โดยเฉพาะเกษตรกรและชาวนาต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและเร็วที่สุด เพราะ1.ต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะเราถูกโจมตีเรื่องการทำรัฐประหาร 2. แข่งกับความหวังของประชาชน เพราะเขาคาดหวังกับเราว่าเข้ามาแล้วจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น 3. แก้ไขปัญหาเรื่องข้าว

"ปัญหาโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทางสำนักงบ ประมาณบอกผมว่า มีงบกลางอยู่ 4 หมื่นล้านบาทเพื่อจ่ายชาวนา และมีคนเสนอให้กู้อีก 5 หมื่นล้าน ซึ่งมีเพียงพอที่จะจ่ายให้ชาวนาทั้งหมดคาดว่าน่าจะใช้เวลาเบิกจ่ายเงินให้ชาวนาได้ภายใน 20 - 25 วัน ส่วนเรื่องคดีทุจริตโครงการจำนำข้าวข้าวที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) จะปล่อยให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป เราไม่เข้าไปยุ่ง" หัวหน้า คสช.กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านเศรษฐกิจไปหามาตราการ ลดปัญหาค่าครองชีพให้กับประชาชน ทั้งเรื่องการเพิ่มรายได้ และสร้างอาชีพ ส่วนแผนพัฒนาประเทศแบบบูรณาที่จะดำเนินการในอนาคต คือ โครงการถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อบริหารจัดการน้ำ และแก้ไขปัญหาจราจรอย่างเป็นระบบ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาเราไม่เข้าข้างใคร แต่จะแก้ไขปัญหาให้เกิดความรักความสามัคคี ในตอนแรกที่ประกาศกฎอัยการศึก เราทำภายใต้รัฐธรรมนูญ มีการแจ้งให้รัฐบาลได้รับทราบ ทูลเกล้าถวายรายงานให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้รับทราบแล้ว แต่สถานการณ์หลังจากนั้นก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด แต่ละฝ่ายยังยืนกรานแนวทางของตัวเอง

"ไม่มีใครสั่ง ไม่มีสถาบันหรือพระบรมวงศานุวงศ์ ท่านใดมาสั่ง อย่าไปลือกัน คนที่สั่งคือประชาชนที่เดือดร้อน ส่วนการดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดกรณีหมิ่นสถาบันต่อไปนี้ ผมจะดำเนินการจนถึงที่สุด ที่ผ่านมาต้องผ่านคณะกรรมการตลอด สุดท้ายต้องนิรโทษกรรม แต่วันนี้ผมใช้กฎอัยการศึก ใช้อำนาจเด็ดขาดไม่มีการนิรโทษกรรมอีกต่อไป " หัวหน้า คสช.กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่ออีกว่า ขอให้ข้าราชการ ร่วมกันบริหารประเทศแบบบูรณาการ ลดปัญหาความขัดแย้งในสังคมทุกภาคส่วน และเร่งทำงานพัฒนาประเทศเพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยจะใช้ระบบสั่งการแบบทหาร ตั้งเป้าให้เห็นผลการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ไม่มีความขัดแย้ง และเมื่อบ้านเมืองกลับสู่ปกติสุข ประเทศไทยก็จะกลับสู่ประชาธิปไตย

"ผมขอเวลาในการทำงานเพื่อปฎิรูปประเทศทุกด้าน ทั้งกลไกและกติกา สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และทุกฝ่ายต้องเห็นชอบร่วมกันก่อนถึงจะจัดให้มีการเลือกตั้ง " หัวหน้า คสช.กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนจะดูแลข้าราชการทุกคนเป็นอย่างดีจนกว่าจะทำหน้าที่แก้ไขปัญหาของชาติ พร้อมจะดูแลปกป้องศักดิ์ศรีของข้าราชการทุกคนไว้ให้ได้ มีอะไรก็ขอให้บอก ตนจะทำทุกทางเพื่อป้องกันไม่ให้มีการครอบงำเพื่อไม่ให้กระทบกับข้าราชการ อยากให้เห็นเจตนารมณ์ของเรา และให้รอดูว่าเราจะทำอะไร การกระทำและตัดสินใจเช่นนี้ คนอาจจะมองว่าใช้อำนาจมาก แต่เมื่อมีอำนาจยิ่งมาก เราก็ต้องทำตัวให้เล็กลง ขอให้ทุกคนมองให้ไกลเพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมือง รู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีแต่เป็นทางออกเดียวที่ข้าราชการจะได้กลับมาทำงานเพื่อประเทศชาติ ใช้งบประมาณได้ เศรษฐกิจ เดินหน้า ส่วนตำแหน่งนายกฯ ตนยังทำหน้าที่นี้อยู่ See More

 

ประยุทธ์ ลั่นปฎิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง !!!!!
โพสต์ทูเดย์ออนไลน์

ประยุทธ์แจงทูตคสช.ทำหน้าที่เหมือนรัฐบาลไม่อยู่นานแก้จำนำข้าวพาประเทศไปสู่การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
...
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้มีคำสั่งเรียกคณะทูตานุทูตต่างประเทศและผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศที่ประจำการในประเทศไทย เข้ารับฟังคำชี้แจงกรณีที่กองทัพไทยประกาศยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลชั่วคราว เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา

โดยมีคณะทูตานุทูตเดินทางมาร่วมรับฟัง 87 คน 58 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มีระดับเอกอัครราชทูต 21 คน และมีผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ จำนวน 22 คนภายหลังการชี้แจงนาน 2 ชั่วโมง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงให้คณะทูตและผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศทราบว่าเหตุใดจึงตัดสินใจทำการยึดอำนาจ

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าเป็นการดำเนินการด้วยความจำเป็น เนื่องจากตอนนี้ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ และประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ซึ่งการเข้ามาดำเนินการดังกล่าวก็เพื่อพยายามขับเคลื่อนการบริหารประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญ อาทิ โครงการรับจำนำข้าว

ทั้งนี้ ตนได้แจ้งว่าคสช.ทำหน้าที่เสมือนรัฐบาล และไม่ได้ตั้งใจที่จะอยู่นาน แต่เหตุที่เข้ามาเพื่อยุติความขัดแย้ง และจะมีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ส่วนคสช.จะอยู่นานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยความขัดแย้งทั้งหลายจะคลี่คลายลงเมื่อใด

นายสีหศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทูตต่างประเทศส่วนใหญ่สอบถามว่าคสช.จะอยู่ถึงเมื่อใด ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าขณะนี้คงไม่มีใครตอบได้ เพราะต้องทำเรื่องทั้งหลายให้เรียบร้อยเสียก่อน แต่พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ย้ำว่าการทำความตกลงต่างๆกับประเทศที่มีการเจรจาอยู่ รวมถึงพันธกรณีระหว่างประเทศก็ยังดำเนินต่อไป และไทยยังยึดมั่น

นอกจากนี้ยังมีการสอบถามว่าการปฏิรูปจะเกิดเมื่อใดนั้น พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าจะมีการตั้งสภาปฏิรูปขึ้นพร้อมๆกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ย้ำว่าคสช.อยู่เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้สอบถามถึงการจะมีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชั่วคราว แต่คสช.จะทำหน้าที่เป็นรัฐบาลเสียเอง

ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า คสช.ต้องทำหน้าที่นี้ไปก่อน และต้องให้สถานการณ์พร้อมเสียก่อน ส่วนเรื่องรัฐบาลชั่วคราวเป็นสิ่งที่ต้องว่ากันในภายหลัง แต่ทั้งหมดจะนำไปสู่การเลือกตั้ง

นอกจากนี้ คณะทูตต่างประเทศได้ฝากให้คสช.ดูแลความปลอดภัยของชาวต่างประเทศที่อยู่ในไทยด้วย ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าจะดูแลชาวต่างประเทศเป็นอย่างดีเท่ากับที่ดูแลคนไทย

 

 

"ประยุทธ์"สั่งลุยปฏิรูปทุกด้าน-เร่งจ่ายหนี้ชาวนา !!!!!
โพสต์ทูเดย์ออนไลน์

ผบ.ทบ.ย้ำยึดประโยชน์ประเทศ ลุยปฏิรูปทุกด้านก่อนเลือกตั้ง เร่งจ่ายหนี้ชาวนาใน15-20วัน พร้อมแบ่งงาน 6 กลุ่มย่อยแก้ปัญหาประเทศ

เวลา 13.00 น. วันที่ 23 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมด้วยพล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาปกรณ์ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง และพล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ชี้แจงถึงการปฏิบัติตนและการทำงานในสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต่อหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าขึ้นไป ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าหน่วยงานอิสระ สหภาพ สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคาร และหอการค้า ที่มีที่ตั้งสำนักงานในพื้นที่ภาคกลาง ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี รังสิต นานประมาณ 2 ชั่วโมง

โดย 1ในผู้ที่ถูกเชิญให้เข้ารายงานตัว กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงต่อหน่วยงานต่างๆ ถึงสาเหตุที่ต้องเข้ายึดอำนาจการปกครอง เนื่องจากคู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย ไม่สามารถตกลงหาทางออกให้กับประเทศไม่ได้ จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการเพราะหากปล่อยไปจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ สังคมของประเทศอยากมากมาย รวมทั้งส่งผลทำให้ปีงบประมาณ2558 จะไม่มีเงินเดือนจ่ายข้าราชการ ดังนั้นจึงต้องตัดสินใจแก้ปัญหาเพื่อประเทศ และไม่มีใครทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

ขณะเดียวกัน หัวหน้าคณะคสช. ได้ขอให้ข้าราชการ ร่วมกันบริหารประเทศแบบบูรณาการลดปัญหาความขัดแย้งในสังคมทุกภาคส่วน และ เร่งทำงานพัฒนาประเทศเพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยจะใช้ระบบสั่งการแบบทหาร ตั้งเป้าให้เห็นผลการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ไม่มีความขัดแย้ง และเมื่อบ้านเมืองกลับสู่ปกติสุข ประเทศไทยก็จะกลับสู่ประชาธิปไตย

ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ ย้ำว่าต้องปฏิรูปทุกด้านทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ก่อนมีการเลือกตั้ง รวมถึงทุกฝ่ายต้องเห็นชอบร่วมกัน

โดยหัวหน้าคณะคสช. ได้จัดแบ่งโครงสร้างการบริหารประเทศในขณะนี้ออกเป็น 5 ฝ่าย และอีก 1 หน่วยขึ้นตรง ประกอบด้วย

1.  ฝ่ายความมั่นคง คือ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ICT และกระทรวงต่างประเทศ มอบหมายให้พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ดูแล

2.  ฝ่ายเศรษฐกิจ คือ กระทรวงคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงคมนาคม มอบหมายให้ พล.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ดูแล

3.  ฝ่ายสังคมและจิตวิทยา คือกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบหมายให้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ดูแล

4.  ฝ่ายกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม อัยการสูงสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มอบหมายให้ พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ดูแล

5.  ฝ่ายกิจการพิเศษ คือ หน่วยงานในสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีทั้งหมด ยกเว้นสำนักงบประมาณ มอบหมายให้พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแล

สำหรับหน่วยขึ้นตรง คือ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. สำนักข่าวกรอง สำนักงบประมาณ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้าคณะคสช. จะเป็นผู้กำกับดูแลเองทั้งหมด

ขณะที่ยังได้มีการแบ่งกลุ่มงานรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งขึ้นตรงกับคณะคสช. โดยมอบหมายให้แม่ทัพภาค ของแต่ละภาค เป็นผู้ดูแล

สำหรับประเด็นสำคัญที่หัวหน้าคณะคสช. ย้ำต่อข้าราชการ และผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด คือ ต้องไม่ปล่อยให้มีขบวนการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยให้ถือเป็นนโยบายหลัก หากพบมีการกระทำผิดจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่มีการละเว้น

ส่วนเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขในขณะนี้ คือ ปัญหาโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีการจัดงบประมาณสำหรับแก้ไขปัญหาได้แล้วส่วนหนึ่ง และเชื่อว่าภายใน 15-20วัน จะสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาได้ทั้งหมดนอกจากนี้หัวหน้าคณะคสช. ยังได้ยกตัวอย่างแผนพัฒนาประเทศแบบบูรณาที่จะดำเนินการในอนาคต คือ โครงการถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง2ฝ่าย เพื่อบริหารจัดการน้ำ และแก้ไขปัญหาจราจรอย่างเป็นระบบ See More

 

 

‘อุเทน’ แนะ คสช.หาคนเก่ง-ดีบริหารประเทศ !!!!!
โพสต์ทูเดย์ออนไลน์

‘อุเทน’ แนะ คสช.หาคนเก่ง-ดี บริหารบ้านเมือง วอน ประกาศ คุมราคาสินค้า กันพ่อค้าฉวยโอกาส
...
นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย ทำจดหมายเปิดผนึกเสนอแนะต่อคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช) เนื้อหาสำคัญระบุ เมื่อท่านมีอำนาจแล้ว ขอโปรดใช้ความกล้าหาญทั้งมวล หาคนเก่ง และนำคนดีมาช่วยกันบริหารบ้านเมือง หยุดใช้กลุ่มนักวิชาการทั้งสองฝ่าย

หยุดใช้นักวิชาการกลุ่มเดิม ควรยกเลิกรัฐธรรมนูญและร่างใหม่ รวมถึงยุบองค์กรต่างๆที่กำหนดไว้ ในรัฐธรรมนูญ ควรยุบวุฒิสภา รวมถึงการยุบพรรคการเมืองและจำกัดสิทธินักการเมืองจนถึงเหล่าบริวาร ไม่ให้ยุ่งกับการเมืองอย่างน้อย10 ปี นอกจากนี้ควรเพิ่มโทษในประมวลกฎหมายอาญา เพื่อให้ประชาชนและผู้รักษากฎหมายเกิดความเกรงกลัว ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และปรับปรุงระบบการศึกษา

ในจดหมายระบุอีกว่า ควรประกาศควบคุมราคาสินค้า อุปโภค และบริโภคทันที ส่งเสริมนโยบายลดต้นทุนครัวเรือน และลดต้นทุนการผลิตของทุกภาคส่วน ปรับปรุงระบบการเกษตร ส่งเสริมระบบการเกษตรเชิงซ้อน แทนระบบการเกษตรเชิงเดี่ยว

รวมทั้งออกพรบ.การมีและครอบครองที่ดิน ที่ดินจะมีราคาถูก ราคาลดลง ประชาชนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ออก พรบ.ภาษีการได้มาซึ่งมรดก ยิ่งมีมากต้องยิ่งเสียภาษีมาก ข้าราชการทุกคนต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ตั้งแต่เริ่มเข้ารับราชการ ควบคุม ดูแลการใช้พลังงานตามความเป็นจริง เลิกการพยุงราคาทุกชนิด และเลื่อนระยะเวลาการเข้าร่วม AEC อีก 2 – 3 ปี เนื่องจากความไม่พร้อมในหลายภาคส่วน

 

 

สมเกียรติ อ่อนวิมล นักวิชาการด้านสื่อมวลชน โพสต์ความเห็นตอบโต้ จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ หลังออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังต่อกองทัพไทย ที่ประกาศทำรัฐประหาร โดยมีเนื้อความเป็นภาษาอังกฤษระบุว่า
"การตัดความช่วยเหลือทางการเงินมูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐมีความหมายเพียงเล็กน้อยต่อประเทศไทย ระบอบทักษิณได้นำงบประมาณประเทศไปใช้ในทางที่ผิดมากกว่า 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าสหรัฐยินดีและภาคภูมิใจที่จะให้การสนับสนุนระบอบทักษิณ ก็คงต้องให้ปล่อยให้เป็นไปเช่นนั้น สักวันหนึ่งสหรัฐจะตื่นขึ้นมาและตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างระบอบทักษิณภายใต้สิ่งที่พวกเขากล่าวอ้างว่าเป็นประชาธิปไตย กับระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงที่อเล็กซิส เดอ ท็อกเกอร์วิลล์ อธิบายเอาไว้เมื่อ 180 ปีก่อน พวกเราในประเทศไทย กำลังต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง และจะไม่ยอมรับสิ่งที่ด้อยกว่านั้น"
นอกจากนี้ ยังได้มีการตอบโต้ถึงสำนักข่าวบีบีซีและซีเอ็นเอ็นของสหรัฐ หลังมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการรัฐประหารของไทย โดยระบุว่า "วิกฤตในประเทศไทย คงเกินกว่าความเข้าใจของพวกคุณ เวลาและการศึกษาเพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มความเข้าใจที่มีต่อไทยได้"