GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วันฉัตรมงคล 5 พ.ค. "ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน"




สารคดีชุด 'กษัตริย์ของประชาชน' พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช



















 





ระหว่างรอทำพิธีถวายพระพร
ในวันมหามงคล"วันฉัตรมงคล"
เกิดเหตุดังคำทำนายพร้อมๆกัน
"ฟ้าสีทองผ่องอำไพ กับ แผ่นดินไหวในสยาม"
ณ.ท้องสนามหลวงเกิด
"ฟ้าสีทอง งามศิวิไลซ์ "
และภาคเหนือเกิดเหตุแผ่นดินไหว











จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล








สุเทพนำกปปส.ถวายพระพรในหลวง-ตั้งสัตยาธิษฐานขจัดระบอบทักษิณ-ปฏิรูปประเทศ ก่อนการเลือกตั้ง ลั่นไม่เลิกต่อสู้ไม่ว่าจะใช้เวลานานเพียงใด เมื่อวันที่ 5 พ.ค. เวลาประมาณ 16.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส........ อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1g2uXcA



ตั้งสัตยาธิษฐาน


1. การตั้งสัตยาธิษฐาน เพื่อเป็นการตั้งมั่นไม่ละความเพียรที่จะมุ่งมั่น มุมานะเพื่อให้สำเร็จในเป้าหมาย การที่เรามวลมหาประชาชนได้ต่อสู้เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน....

เราจึงต้องตั้งสัตยาธิษฐาน เราตั้งเอาความสัตย์เป็นเป็นสาระนะ เป็นการตั้งจิตเพื่ออธิษฐาน เพื่อให้ประเทศเรารุ่งเรือง ประชาชนได้เป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง....

เราจึงต้องเลือกสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ เวลาที่ศักดิ์สิทธิ์ เราจึงเลือกวันฉัตรมงคลนั้น ถือเป็นวันที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วสำหรับคนไทย.... สถานที่ในพระบรมมหาราชวังนั้นด้วยประดิษฐานองค์พระสยามเทวธิราช ซึ่งเป็นเทพยดา และตรงนั้นอยู่หน้าศาลหลักเมือง

ผมได้ยินเสียงประกาศสัตยาธิษฐานที่ก้องไปทั่วบริเวณนั้นแล้ว ผมเชื่อมั่นว่า บรรดาพี่น้องมวลมหาประชาชนทั้งหลาย จะร่วมมือกันบำเพ็ญเพียรให้สำเร็จให้จงได้ในครั้งนี้ (จากคำต่อคำของ ลุงกำนัน)

2. ในวันที่ 5 พค. 2557 เวลาพลบค่ำ ตรงกับวันฉัตรมงคล “ลุงกำนัน” นำมวลมหาประชาชน “อธิษฐานตั้งสัตยาธิษฐาน” เสียงกึกก้องของมวลมหาประชาชน ณ.สถานที่และเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ ความเป็นหนึ่งเดียวของการตั้งสัตยาธิษฐานอันกึกก้องครั้งนี้..... เป้าหมายคือ การโค่นล้มระบอบทักษิณ การต่อสู้อันยิ่งใหญ่ชองมวลมหาประชาชน ไม่เคยมีมาก่อนในแผ่นดินนี้ กำลังสำแดงฤทธิ์เดชให้เห็นกันชัดๆและจะยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น.... ในวันนัดหมายที่จะมาถึงเร็วๆนี้.....

3. ไม่มีการต่อสู้ใดๆ จะประสบความสำเร็จได้โดยบังเอิญ ย่อมต้องอาบเหงื่อ หลั่งเลือดของพวกเรา.... ต้องไม่หวั่นไหว ชัยชนะต้องเป็นของประชาชนอย่างแน่นอน

ขอให้ "คำสัตยาธิษฐานจงปรากฏเป็นจริง"...!

สันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย












สร้างชัยชนะ....ด้วยอำนาจประชาชน

1. อำนาจประชาชน คือ อำนาจของผู้สร้างการผลิตให้กับสังคม เมื่อเราทบทวนให้ดี โดยเฉพาะประเด็น “ใครสร้างใครเลี้ยงสังคมไทย” ผู้ใช้แรงงานของสังคม คือ ผู้สร้าง ผู้เลี้ยง สังคม ผู้ใช้แรงงานเป็นผู้ “ค้ำจุนประเทศ ค้ำจุนโลก” สิ่งเหล่านี้คือ “สัจธรรมของประเทศและโลก”

2. วันนี้ผู้ใช้แรงงานทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร “สหภาพชีวิตแร้นแค้นไม่พออยู่พอกิน” ผู้ใช้แรงงานและประชาชน “ถูกกดขี่ ขูดรีด ถูกปล้นสะดม ด้วยขบวนการที่สลับซับซ้อนยิ่งขึ้น” โดยเฉพาะกลไกของระบอบทุนสามานย์ อาศัยอำนาจเผด็จการ “ ฉ้อฉลคดโกง ปล้นชิง กดขี่ ขูดรีด ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมอย่างโหดร้าย หน้าด้านไม่เคยมีมาก่อน” จากนี้ไปต้องโค่นระบอบทุนสามานย์ เผด็จการทักษิณให้ได้

3. การลุกขึ้นสู้ เป็นวิธีสุดท้ายในการ “พิทักษ์อำนาจประชาชน” การนัดหยุดงานเป็นวิธีสุดท้ายในการพิทักษ์อำนาจของผู้ใช้แรงงาน “การลุกขึ้นสู้ของประชาชน และมาตรการนัดหยุดงานทั่วประเทศ” คือวิธีกรสุดท้ายที่จะสามารถเผชิญหน้าและสามารถโค่นล้มระบอบเผด็จการทุกชนิดได้ การสถาปนาอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชน ต้องสถาปนาขึ้นมา “ด้วยสองมือของผู้ใช้แรงงาน” และผู้รักชาติรักความเป็นธรรม ผนึกกำลังร่วมมือกัน

4. มาตรการนัดหยุดงานทั่วประเทศ คือมาตรการสำคัญ ของการปฏิวัติประชาชนโดยสันติ และปราศจากอาวุธ จะต้องประสบชัยชนะอย่างแน่นอน “ต้องเชื่อมั่น แน่วแน่ ไม่หวั่น ไม่โลเล การใช้อำนาจสูงสุดของประชาชน คือ การลุกขึ้นสู้ ผนึกกำลังรวมตัวกันเป็นพลังมวลมหาประชาชน และร่วมมือกับผู้ใช้แรงงาน ดำเนินมาตราการนัดหยุดงานควบคู่กัน “แผ่นดินจะสั่นสะเทือนด้วยอำนาจที่เป็นธรรม เผด็จการจะพินาศล่มจมแน่นอนที่สุด”

5. เส้นทางแห่งชัยชนะของประชาชน....จะฝากความหวังไว้กับผู้อื่นไม่ได้อย่างเด็ดขาด ความหวังทั้งหมดอยู่ในมือของประชาชนด้วยกันทั้งนั้น ผนึกกำลังกันให้แน่นหนา ช่วงชิงความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เป็นไปได้ อานุภาพพลังประชาชนจะสำแดงฤทธิ์เดช พังทลายระบอบเผด็จการให้พังพินาศอย่างแน่นอน เมื่อพวกเราลุกขึ้นความร่วมมือจากทุกฝ่ายจะตามมา

6. “จงยึดมั่น แนวทางสันติ โดยสงบปราศจากอาวุธ” ต้องสำนึกเสมอว่า พลังของประชาชนจะยิ่งใหญ่ สง่างาม และสำแดงฤทธิ์เดชได้ ภายใต้แนวทางสันติ โดยสงบ และปราศจากอาวุธ อย่าปล่อยให้พวกวู่วาม ใจร้อน นำอาวุธเข้ามาในขบวนของประชาชน “และจะต้องระวังให้จงหนัก” อย่าปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามส่งคนแอบแฝงตัวเข้ามาใช้อาวุธ หรือแอบนำอาวุธเข้ามาในขบวนของประชาชน และใช้อาวุธก่อนความรุนแรง ทำลายความชอบธรรมของขบวนการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน เปิดช่องให้ฝ่ายตรงกันข้ามเอาไปอ้างเพื่อใช้กำลังอาวุธเข้าปราบปราม เข่นฆ่าประชาชนอย่างเหี้ยมโหด ขอให้พี่น้องประชาชนจงช่วยกันระมัดระวัง เป็นหูเป็นตาให้กับประชาชน ให้กับขบวนของมวลมหาประชาชน หาทางป้องกันให้ได้

7. วันแห่งการเผด็จศึกของมวลมหาประชาชนที่นำโดย “ลุงกำนัน” บัดนี้เสียงกลองศึกลุกขึ้นสู้ส่งเสียงที่รัวกระชั้นเข้ามาทุกที วันเวลาแห่งการประกาศ “พลังมวลมหาประชาชน” กำลังจะมาถึงในไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว....

ขอให้พวกเราเตรียมตัวให้พร้อมลุกขึ้นเดินหน้าไปด้วยกัน....!

สันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย
 
 
 

เสียงประชาชน...คืออำนาจสูงสุด

1. ในระบอบประชาธิปไตยที่ทุกฝ่ายเรียก ร้อง โดยเฉพาะ “พวกเผด็จการ จะตะโกนเสียงประชาธิปไตย” วันละ 5 เวลา ตั้งแต่ตื่นนอน ก่อนอาหาร 3 มื้อ และก่อนนอน พวกมันหากิน ปลิ้นป้อน โดยอาศัย “เสื้อคลุมประชาธิปไตย” พวกมันใส่เสื้อคลุมประชาธิปไตย แต่เดินแบบเผด็จการ

2. พวกมันไม่เคยยอมรับและเคารพ “อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน” และประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพอย่างพอเพียง และด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์อย่างจริงใจ... สังคมไทยกำลังเดินเข้าสู่การเรียนรู้ “ความเป็นประชาธิปไตยของประเทศ” ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แม้การเรียนรู้ครั้งนี้ จะต้องสำแดงพลังกันบนท้องถนน ต้องอาบเหงื่อ หลั่งเลือด ต้องต่อสู้อย่างสุดชีวิต เพื่อความหลุดพ้น “จากการครอบงำของระบอบทุนสามานย์ เผด็จการทักษิณ”

3. บทพิสูจน์ อำนาจสูงสุดของประชาชน ก็คือ ประชามติ ของมวลมหาประชาชนชาวไทย... ขอพี่น้องผู้รักชาติ รักความเป็นธรรม จงร่วมกันก่อพลังของมวลมหาประชาชนให้กว้างใหญ่ไพศาล เราจะได้เห็นปาฏิหาริย์แห่งพลังของมวลมหาประชาชน... และในวันนั้น... และแผ่นดินที่ผาสุก ร่มเย็นอย่างแท้จริง ต้องสร้างด้วยพลังของมวลมหาประชาชน

4. หลังวันที่ 30 เมษายนนี้... ประเทศของเรา ประชาชนของเรา กำลังก้าวเข้าสู่สนามรบของประชาชน ยุคสมัยแห่งการต่อสู้เพื่อความดีงามร่วมกันเริ่มต้นแล้ว “คบเพลิงแห่งการโค่นล้ม” ระบอบทุนสามานย์เผด็จการทักษิณ “ได้รับการเชิดชูขึ้นสูงเด่นแล้ว” ด้วยความคึกคัก ฮึกเหิม ห้าวหาญ... “เขาจะฟาด เขาจะฟัน พวกเราไม่หวั่น พวกเราสู้ตาย”.... บทเพลงแห่งการต่อสู้ของประชาชน ถูกขับออกมาสุดกำลัง...!

5. กองทัพแห่งมวลมหาประชาชน นำทัพโดย “ลุงกำนัน” เดินสง่าสวยงาม อนุภาพแห่งพลังประชาชน กำลังสำแดงฤทธิ์เดชของมันออกมาอย่างมหัศจรรย์จากนี้ไป “พวกเราจะได้เห็นดีกันระหว่างพลังประชาชนกับระบอบเผด็จการทักษิณ

6. ขอให้การต่อสู้ของประชาชน...ก้าวรุดหน้าต่อไป...!

ขอให้การต่อสู้ของมวลมหาประชาชน... ยิ่งใหญ่... เข้มแข็ง... กว้างใหญ่ไพศาล...!

ขอให้อนุภาพฤทธิ์เดชแห่งพลังมวลมหาประชาชน... ล้มล้างเผด็จการทักษิณพินาศ...!

สันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย
 
วิถีแห่งมวลมหาประชาชน...!


คือ วิถีแห่งการปฏิวัติประชาชน....หรือปฏิวัติประชาธิปไตยประชาชน...!

คือ วิถีแห่งการต่อสู้ทวงคืน... “อำนาจอธิปไตยของปวงชน”...!

คือ วิถีแห่งการผนึกกำลังกันของ กรรมกร ลูกจ้าง พนักงาน กับเกษตรกรทุกสาขาอาชีพ และผู้รักชาติรักความเป็นธรรม.... ผนึกกำลังกันลุกขึ้นสู้... กับระบอบทุนสามานย์เผด็จการทักษิณ

อย่าใจร้อน... อย่าหลงทาง... ไม่ต้องว้าวุ่นสับสน ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ “รวมขบวนกับมวลมหาประชาชน” ผนึกกำลังกันลุกขึ้นสู้ครั้งสุดท้ายกับลุงกำนัน... “รวมพลังทำลายเหล่าศัตรู พวกเราสู้เพื่อความยุติธรรม

ภารกิจการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน เป็นภารกิจที่ชอบธรรม “กองทัพแห่งชาติ จะต้องสนับสนุนภารกิจการต่อสู้ที่ชอบธรรมของประชาชนอย่างแน่นอน”

รอวันฟ้าสางอีกครั้ง
เพื่อการต่อสู้ครั้งใหม่
พลิกแผ่นดินให้กลับมาเป็นของประชาชน
พืชพันธุ์แห่งความดีงามจะเบ่งบานบนแผ่นดินของประชาชน

สันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย

 

ชัยชนะ...ต้องยิ่งใหญ่...!
แม้ต้องเสียสละ... เลือดเนื้อชาติเชื้อไทย...!

1. “ระฆังสั่งขึ้นไกปืน” เตรียมพร้อมสูงสุดของฝ่ายระบอบทักษิณ “หลังการตัดสินของ ปปช. และการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ” ทุกแหล่งข่าวชี้ประเด็นตรงกัน “เลือดเดือด” แสดงอาการไม่ยอมแพ้ยอมก่อสงคราม เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลและพวกพ้องบริวาร พิสูจน์ธาตุแท้ของ “พวกอำนาจนิยม ผลประโยชน์พวกพ้อง และประชาธิปไตยเสื้อคลุมเผด็จการอย่างชัดเจน”

2. แม้เงื่อนไขการเจรจาจะถูกผลักดันออกมาหลายประเด็น หลายช่องทาง “แต่เส้นทางของอำนาจและผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม” เดินสวนทางและเป็นปฏิปักษ์กับเส้นทางของประชาชน อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว... “คำสั่งขึ้นไกปืนเตรียมพร้อมเต็มที่” เป็นทั้งคำขู่เพื่อผลการเจรจา และเป็นการเตรียมพร้อมนำสถานการณ์เข้าสู่ “การก่อจลาจล” เพื่อหวังต่อรองและหวังชัยชนะในอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตระกูลและพวกพ้องอย่างถึงที่สุ

3. หน่ออ่อนของความรุนแรง “ถูกเพาะตัวซ่อนเร้นอยู่ในสังคมของเรามานานนับสิบปี” บัดนี้ฤทธิ์ของมัน กำลังสำแดงตัวออกมาเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในบ้านเรา

4. ปรากฏการณ์รุกร้าวสถาบันสูงสุดของประเทศ ข่มขู่ ดูหมิ่น ปปช. และศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งคุกคาม มุ่งร้าย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ไม่ยอมสยบก้มหัวให้กับระบอบทักษิณ แม้จะเป็นปรากฏการณ์ชั่วร้ายของ “ระบอบทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์” อีกด้านหนึ่งกลับยิ่งปลุกให้ผู้รักชาติ รักความเป็นธรรม ยิ่งลุกกันขึ้นมามากขึ้น ปรากฏการณ์ “ผู้ไม่ยอมจะลุกขึ้นมาเต็มแผ่นดิน” เราจะได้เห็นกันในยุคนี้แหล

5. สันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ประสงค์จะเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่อยากเห็นบ้านเมืองเกิดจลาจล ไม่ต้องการเห็นเลือดและการเสียชีวิตของผู้คนไม่ว่าจะฝ่ายไหน“จึงพยายามทำข่าวการเตรียมการเพื่อก่อความรุนแรง โดยเฉพาะฝ่าย “ระบอบทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์” มาแจงข่าวให้เพื่อนสมาชิกได้ร่วมวิเคราะห์ วิจารณ์ เพื่อร่วมต่อต้านความรุนแรงใดๆทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ ซึ่งสันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย ต่อต้านการก่อความรุนแรงมาโดยตลอด “แม้จะเป็นวิถีของคนปิดทองหลังพระ แม้มีความเสี่ยงหลายประการ และเพื่อต่อต้านความรุนแรงและความสูญเสีย ไม่ให้เกิดกับประชาชน เราจะทำสุดความสามารถจะทำได้ และนี่คือวิถีทางของสันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย”

6. ในโอกาสนี้... ขอเรียกร้องมายังพี่น้องประชาชน ด้วยความเคารพรักอีกครั้งว่า.... การผนึกกำลังประชาชนทุกสัดส่วนให้กว้างใหญ่ไพศาล จงร่วมกันลุกขึ้นมาทำภารกิจสำคัญของยุคสมัยร่วมกัน... จงร่วมกันลุกขึ้นสู้ด้วยพลังของมวลมหาประชาชน ถ้าทำได้อย่างนี้ ความเสี่ยงต่อพวกต้องการก่อความรุนแรง ก็จะลดน้อยไป หรือไม่มีในที่สุด “การต่อสู้โดยสันติ ปราศจากอาวุธ เป็นวิถีของมวลมหาประชาชนเท่านั้น ที่จะสามารถสยบความรุนแรง และระบอบเผด็จการทักษิณลงไปได้”

สันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย

MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY