GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ระบอบทักษิณลับลวงพรางแผนแกล้งแพ้รอโอกาสคืนชีพ?/ทักษิณ” แค่พักยก

ระบอบทักษิณลับลวงพรางแผนแกล้งแพ้รอโอกาสคืนชีพ?

 หลายคนตั้งข้อสังเกตุถึงความเคลื่อนไหวที่เงียบผิดปกติวิสัยของนักโทษชายแม้วและเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่ยกธงขาวดื้อๆอย่างง่ายดายและพร้อมที่จะเข้าร่วมขบวนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)โดยเฉพาะนายจตุพร หรพมพันธุ์ ประธานเสื้อแดง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ อดีตรมช.พาณิชย์ เลขาธิการคนเสื้อแดง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ(อพปช.) นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร หรือแม้แต่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์และล่าสุดนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่

               ก่อนหน้าเกิดการรัฐประหารโดยคสช.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงนำโดยนายจตุพร รวมทั้งแกนนำพรรคเพื่อไทยต่างประกาศแข้งกร้าวว่าหากมีการรัฐประหารสาวกระบอบทักษิณทั่วประเทศพร้อมลุกฮือออกมาต่อสู้ขั้นแตกหักทันที ถึงกับขู่จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธที่จะออกมาต้านการรัฐประหาร รวมทั้งแนวคิดการแยกภาคอีสานและภาคเหนือเป็นรัฐอิสระ หรือคิดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น

              แต่พอเกิดรัฐประหารคสช.ได้ควบคุมตัวแกนนำเสื้อแดงหลายคนไปสงบสติอารมย์และหลังได้รับการปล่อยตัวบรรดาแกนนำเสื้อแดงกลับยอมแพ้อย่างง่ายดายผิดปกติโดยขอยุติบทบาททางการเมืองช่วงนี้และถึงกับยอมร่วมขบวนการสมานฉันท์ตามนโยบายคสช.

             แม้ล่าสุดจะมีข่าวที่ถูกปล่อยออกมาว่า นักโทษชายแม้ว สั่งให้เหล่าทาสรับใช้ในพรรคเพื่อไทยยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงนี้เพราะเกรงจะกระทบต่อธุรกิจและคนในตระกูลชินวัตร

             แต่ก็มีข่าวอีกกระแสหนึ่งจากแกนนำในพรรคเพื่อไทยบางคนระบุว่า นักโทษชายแม้ว สั่งให้บรรดาสมุนบริวารระบอบทักษิณทั้งหลายให้ยอมกลืนเลือดทำตัวลู่ตามลมยอมตามอำนาจ คสช.ไปก่อนเพื่อรอโอกาสฟื้นระบอบทักษิณกลับมายึดครองประเทศอีกครั้งโดยเป้าหมายอยู่ที่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในอีกราว 15 เดือนข้างหน้า

             แผนลับลวงพลางยอมกลืนเลือดชั่วคราวของระบอบทักษิณก็ด้วยความหวังว่า ถึงอย่างไรคสช.ก็ต้องพ้นจากอำนาจและมีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะเป็นโอกาสให้พรรคระบอบทักษิณรถเอาชนะการเลือกตั้งจนสามารถกลับมาเป็นรัฐบาลอย่างถูกต้องชอบธรรมอีกครั้งด้วยปัจจัยหลายประการคือ

            1. อาศัยการชูประเด็นสร้างกระแสประชาธิปไตยต้านรัฐประหารเป็นจุดขายในการหาเสียงเพื่อสร้างเรียกคะแนนอย่างถล่มทลาย

  2. อาศัยซากเดนระบอบทักษิณที่ยังหลงเหลืออยู่อีกไม่น้อยที่ฝังตัวในหน่วยราชการต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรสีกากี และกระทรวงมหาดไทยช่วยให้พรรคระบอบทักษิณชนะเลือกตั้ง

  3. อาศัยเงินที่มีอยู่มหาศาลซื้อพรรคการเมือง  กลุ่มอดีต ส.ส.ที่มีคะแนนเสียงดีให้ได้ได้มากที่สุดเพื่อเป็นหลักประกันในชัยชนะ

   4. อาศัยฐานคะแนนของระบอบทักษิณและเครือข่ายคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินที่เชื่อว่ายังเหนียวแน่นในภาคอีสานและภาคเหนือ รวมทั้งหลายจังหวัดภาคเกลาง

              เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้คือโอกาสสำคัญสำหรับระบอบทักษิณที่จะกลับมายึดครองประเทศอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่คสช.และประชาชนทั้งประเทศต้องรู้จักสรุปบทเรียนว่า หากระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์อันชั่วร้ายกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ในที่สุดก็หนีไม่พ้นชนวนนำไปสู่วงจรอุบาทว์ซ้ำซากนั่นคือการลุกฮือขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณจนกลายเป็นวิกฤติสร้างความหายนะแก่ชาติบ้านเมืองและในที่สุดก็หนีไม่พ้นเกิดรัฐประหารอย่างไม่รู้จบ

แนวหน้า วันพุธ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557
ระบอบทักษิณลับลวงพรางแผนแกล้งแพ้รอโอกาสคืนชีพ?

หลายคนตั้งข้อสังเกตุถึงความเคลื่อนไหวที่เงียบผิดปกติวิสัยของนักโทษชายแม้วและเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่ยกธงขาวดื้อๆอย่างง่ายดายและพร้อมที่จะเข้าร่วมขบวนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)โดยเฉพาะนายจตุ...พร หรพมพันธุ์ ประธานเสื้อแดง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ อดีตรมช.พาณิชย์ เลขาธิการคนเสื้อแดง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ(อพปช.) นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร หรือแม้แต่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์และล่าสุดนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่

ก่อนหน้าเกิดการรัฐประหารโดยคสช.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงนำโดยนายจตุพร รวมทั้งแกนนำพรรคเพื่อไทยต่างประกาศแข้งกร้าวว่าหากมีการรัฐประหารสาวกระบอบทักษิณทั่วประเทศพร้อมลุกฮือออกมาต่อสู้ขั้นแตกหักทันที ถึงกับขู่จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธที่จะออกมาต้านการรัฐประหาร รวมทั้งแนวคิดการแยกภาคอีสานและภาคเหนือเป็นรัฐอิสระ หรือคิดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น

แต่พอเกิดรัฐประหารคสช.ได้ควบคุมตัวแกนนำเสื้อแดงหลายคนไปสงบสติอารมย์และหลังได้รับการปล่อยตัวบรรดาแกนนำเสื้อแดงกลับยอมแพ้อย่างง่ายดายผิดปกติโดยขอยุติบทบาททางการเมืองช่วงนี้และถึงกับยอมร่วมขบวนการสมานฉันท์ตามนโยบายคสช.

แม้ล่าสุดจะมีข่าวที่ถูกปล่อยออกมาว่า นักโทษชายแม้ว สั่งให้เหล่าทาสรับใช้ในพรรคเพื่อไทยยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงนี้เพราะเกรงจะกระทบต่อธุรกิจและคนในตระกูลชินวัตร

แต่ก็มีข่าวอีกกระแสหนึ่งจากแกนนำในพรรคเพื่อไทยบางคนระบุว่า นักโทษชายแม้ว สั่งให้บรรดาสมุนบริวารระบอบทักษิณทั้งหลายให้ยอมกลืนเลือดทำตัวลู่ตามลมยอมตามอำนาจ คสช.ไปก่อนเพื่อรอโอกาสฟื้นระบอบทักษิณกลับมายึดครองประเทศอีกครั้งโดยเป้าหมายอยู่ที่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในอีกราว 15 เดือนข้างหน้า

แผนลับลวงพลางยอมกลืนเลือดชั่วคราวของระบอบทักษิณก็ด้วยความหวังว่า ถึงอย่างไรคสช.ก็ต้องพ้นจากอำนาจและมีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะเป็นโอกาสให้พรรคระบอบทักษิณรอการเอาชนะการเลือกตั้งจนสามารถกลับมาเป็นรัฐบาลอย่างถูกต้องชอบธรรมอีกครั้งด้วยปัจจัยหลายประการคือ

1. อาศัยการชูประเด็นสร้างกระแสประชาธิปไตยต้านรัฐประหารเป็นจุดขายในการหาเสียงเพื่อสร้างเรียกคะแนนอย่างถล่มทลาย

2. อาศัยซากเดนระบอบทักษิณที่ยังหลงเหลืออยู่อีกไม่น้อยที่ฝังตัวในหน่วยราชการต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรสีกากี และกระทรวงมหาดไทยช่วยให้พรรคระบอบทักษิณชนะเลือกตั้ง

3. อาศัยเงินที่มีอยู่มหาศาลซื้อพรรคการเมือง กลุ่มอดีต ส.ส.ที่มีคะแนนเสียงดีให้ได้ได้มากที่สุดเพื่อเป็นหลักประกันในชัยชนะ

4. อาศัยฐานคะแนนของระบอบทักษิณและเครือข่ายคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินที่เชื่อว่ายังเหนียวแน่นในภาคอีสานและภาคเหนือ รวมทั้งหลายจังหวัดภาคเกลาง

เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้คือโอกาสสำคัญสำหรับระบอบทักษิณที่จะกลับมายึดครองประเทศอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่คสช.และประชาชนทั้งประเทศต้องรู้จักสรุปบทเรียนว่า หากระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์อันชั่วร้ายกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ในที่สุดก็หนีไม่พ้นชนวนนำไปสู่วงจรอุบาทว์ซ้ำซากนั่นคือการลุกฮือขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณจนกลายเป็นวิกฤติสร้างความหายนะแก่ชาติบ้านเมืองและในที่สุดก็หนีไม่พ้นเกิดรัฐประหารอย่างไม่รู้จบ

แนวหน้า วันพุธ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

“ทักษิณ” แค่พักยก
 

“ประยุทธ์” ถกทูตไทย แจงแผน คสช. ยันสยามไม่ต้านชาติที่เห็นต่าง จี้เร่งทำความเข้าใจ


ทักษิณ” แค่พักยก

การสร้างความปรองดองเพื่อความสมานฉันท์อย่างยั่งยืนกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น แกนนำคนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลืองในหลายจังหวัดออกมาจับไม้จับมือทำกิจกรรมร่วมกัน แต่แผนการละลายสีเสื้อ ลืมเรื่องในอดีต และนำความสุขคืนสู่สังคมจะสำเร็จลุล่วงได้หรือไม่ ยังต้องรอติดตามชมกันต่อไป
  
       ต้องขอชื่นชมแกนนำคนเสื้อเหลืองหรือแกนนำ กปปส.ในหลายจังหวัด ขอยกย่องน้ำใจอันประเสริฐ ในการให้ความร่วมมือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยยอมจับไม้จับมือปรองดองกับแกนนำเสื้อแดง
  
       เพราะก่อนหน้าที่ คสช.เข้ามายึดอำนาจ คนเสื้อเหลือง กลุ่ม กปปส.ถูกกระทำ ถูกคุกคามข่มขู่ ถูกรุมทำร้ายหรือลอบปองร้ายบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ความแตกแยกระหว่างประชาชนคนละสีเสื้อ ถ้าเกิดจากความคิดที่ขัดแย้งทางการเมืองเพียงประการเดียว และเป็นความคิดขัดแย้งที่พูดกันด้วยเหตุด้วยผล โดยต่างฝ่ายต่างเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ไม่มีการใช้ความรุนแรงเข้าห้ำหั่นอีกฝ่าย
  
       การสร้างความปรองดองน่าจะบรรลุเป้าหมายโดยง่าย แต่ทุกคนก็รู้ว่า ความแตกแยกในสังคมไม่ได้เกิดจากความคิดทางการเมืองที่แตกต่าง แต่เกิดจากการยั่วยุปลุกปั่นให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังกัน เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการคุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ
  
       ความพยายามของ คสช.ในการสลายความขัดแย้งในหมู่ประชาชน เป็นเจตนารมณ์ที่ดีมาก และไม่มีใครอยากชักใบให้เรือเสี้อ แต่สิ่งที่กังวลกันคือ การนำแกนนำคนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลืองมาละลายพฤติกรรมทางการเมือง ทิ้งความทรงจำที่เลวร้ายในอดีต จะนำไปสู่ความสมานฉันท์อย่างยั่งยืนได้แน่หรือ แกนนำคนเสื้อแดงจะไม่กลับไปก่อพฤติกรรมเดิมๆ ไม่ทำตัวเป็นอันธพาลคุกคามประชาชนกลุ่มอื่นอีกหรือ
  
       เมื่ออำนาจของ คสช.หมดไป และกลับสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ มีหลักประกันอะไรหรือไม่ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล เมื่อระบอบทักษิณกลับมาใหม่ คนเสื้อแดงในพื้นที่ทั่วประเทศ จะไม่กลับไปก่อความวุ่นวายอีก
  
       การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ประชาชนมีความคาดหวังว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นำโดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จะนำสังคมกลับสู่ความสงบสุข แต่ทุกคนต้องผิดหวัง เพราะไม่มีปัญหาใดเลยที่ได้รับการแก้ไข รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จึง “เสียของ” และทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แค่พักยกบทบาททางการเมืองชั่วคราวเท่านั้น
  
       รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ไม่แตกต่างกัน เพราะไม่กล้าใช้ความเด็ดขาดในการแก้ปัญหา ทั้งที่มีอำนาจอยู่เต็มมือ
  
       การก่อจลาจลในเหตุการณ์สงกรานต์เลือด เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2552 ของคนเสื้อแดง มีปฏิบัติการไล่ฆ่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลางเมือง แต่ไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อเอาผิดกับแกนนำคนเสื้อแดงที่ยุยงปลุกระดมการสร้างความรุนแรงอย่างจริงจังจนเกิดความเหิมเกริม และนำไปสู่เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ฐานะคนไทยด้วยกันสามารถให้อภัยกันได้ โดยเฉพาะคนที่สำนึกผิด และคนที่หลงผิด แต่สำหรับคนที่รู้ผิดชอบชั่วดี รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก แต่ยังกระทำความผิด และทำผิดซ้ำซากเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ควรหรือที่จะได้รับการอภัยอีก และการให้อภัยจะทำให้คนที่ยอมเป็นขี้ข้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความสำนึกหรือ
  
       แม้จะมีเสียงเชียร์ คสช.อยู่ไม่น้อย แต่ก็มีความห่วงใยอยู่ด้วยเหมือนกัน กลัวว่าจะแก้ปัญหาแบบครึ่งๆ กลางๆ กลัวจะเดินไปไม่สุดซอย การคืนความสุขให้สังคมอย่างยั่งยืนได้ จะต้องทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์การเป็นนิติรัฐอย่างแท้จริง คนที่ทำผิดกฎหมายจะต้องถูกลงโทษ ผิดต้องว่าไปตามผิด ไม่ใช่ผิดว่าไปตามถูก หรือถูกว่าไปตามผิดเหมือนช่วงรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
  
       ข้าราชการที่ยอมเป็นขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ ตำรวจที่แสดงตัวเป็นทาสรับใช้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเลือกปฏิบัติ จนบ้านเมืองเหมือนไร้ขื่อแปร นักการเมืองและแกนนำคนเสื้อแดงที่ยั่วยุปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน คนเหล่านี้ร่วมสมคบคิดทำลายชาติทั้งสิ้นคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว และทำให้สังคมเกิดความวุ่นวายไปแทบจะทุกหย่อมหญ้า ควรได้รับการอภัยหรือ และการละเลยต่อความผิด จะทำให้คนเหล่านี้สำนึกผิดหรือไม่ ตัวละครที่แสดงบทเป็นผู้ร้ายรับใช้ทักษิณ สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ล้วนเป็นตัวละครเดิม ก่อความผิดซ้ำซาก พฤติกรรมไม่เคยเปลี่ยน เพราะเมื่อทำผิดแล้วไม่ถูกลงโทษ
  
       ช่วงที่ทักษิณมีอำนาจ ตัวละครร้ายเหล่านี้กร่างเต็มที่ สร้างความเดือดร้อนวุ่นวายอย่างไรไม่ต้องกลัวกฎหมาย เพราะได้รับการคุ้มครองจากอำนาจรัฐ แกนนำคนเสื้อแดงที่ออกมาสร้างภาพจับไม้จับมือสลายสีเสื้อ แกนนำ นปช.บางคนที่ประกาศจะยุติบทบาทความเคลื่อนไหวทางการเมือง ข้าราชการที่เป็นขี้ข้ารับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งกลายเป็นจิ้งจกเปลี่ยนสี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัว เชื่อได้อย่างไรว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณกลับมามีอำนาจอีก จะไม่กลับไปก่อพฤติกรรมเลวๆ อีก เป้าหมายการสร้างความปรองดองเพื่อความสมานฉันท์อย่างยั่งยืน ไม่มีข้อที่จะตำหนิ แต่สิ่งที่ต้องติงๆ บ้างคือ อย่าปล่อยให้คนผิดลอยนวล อย่าละเว้นโทษตำรวจ ข้าราชการ นักการเมือง และแกนนำคนเสื้อแดงที่ก่อกรรมทำเข็ญไว้กับประชาชน อย่าปล่อยเชื้อชั่วร้ายของระบอบทักษิณ โดยไม่ทำลายให้สิ้นซาก
  
       ถ้าไม่ขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ ความสุขที่คืนสู่สังคมจะเป็นเพียงความสุขชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น คำสรรเสริญยกย่อง คสช.ในวันนี้ จะกลายเป็นเสียงประณามในวันหลัง เมื่อทักษิณคืนชีพอีกครั้ง
●"ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง"

เปลว สีเงิน Thursday, 12 June, 2014 
ไทยโพสต์ - อิสรภาพแห่งความคิด

แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รัก "ลุงตู่" ได้อย่างไรไหว.....?
ขนาดแฟนยังไม่เอาใจขนาดนี้เลย แต่ลุงตู่ รู้ใจ-เอาใจไปเสียหมดทุกอย่าง

 ชาวบ้านอยากดูหนัง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาค ๕" แต่ติดเคอร์ฟิวบ้าง ติดเงินในกระเป๋าบ้าง
ลุงตู่ก็จัดให้ "ดูฟรี" พร้อมกันทั่วประเทศ รอบ ๕ โมงเช้า อาทิตย์ที่ ๑๕ มิ.ย.นี้เลย!

"บอลโลก" เริ่มเตะกันวันนี้ (๑๒ มิ.ย.๕๗) ที่บราซิลเหมือนกัน มันเป็นความสุขที่ต้องมีต้นทุนไปแล้ว ที่จะมีทีวีพูลให้ดูฟรีเหมือนตะก่อน
มันกลายเป็น "ความสุขจากของฟรี" ที่หายไปเสียแล้ว

แต่ ย.ห...อย่าห่วง ลุงตู่ "คนรู้ใจ" จัดให้ สั่งช่อง ๕ ช่อง ๗ สี อันเป็นเครือข่ายทหารบก เป็นฟรีทีวี มีให้ดู มีให้ลุ้น ครบทุกนัด 

รวมทั้ง "นัดฝากขัง" ถ้าเล่นพนัน!
ไม่ใช่ใช้อิทธิพล คสช.เบ่งเอาฟรีนะ โปรดเข้าใจ เฮียฮ้อ แห่งอาร์เอสคิดค่าเสียหายเท่าไหร่ ลุงตู่ให้ กสทช.เอาเงินกองทุนโปะให้เท่านั้น..

เรียกว่า อะไรที่เป็นเรื่องนอกอ้อมแขนแล้วละก็ "ลุงตู่" ทำแทนได้หมด คืนความสุขให้คนไทย ครบทุกเม็ด!

พูดถึงหนัง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี" ที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้ 
ผมก็ตั้งท่าจะต้องไปดูตั้งแต่รอบแรก แต่จนเข้าสัปดาห์ที่ ๒ ที่ ๓ ก็ยังไม่ได้ไป เพราะรอบที่พอจะไปดูได้ เขาก็ไม่ฉาย
คงกลัวต้องปูเสื่อให้คนดูนอนในโรง รอพ้นเคอร์ฟิวตอนตี ๔ ค่อยปล่อยกลับบ้านกันได้!?

ถามหลายคนที่ไปดู เขาบอกว่า "ควรต้องไปดู" เรื่องฉาก เรื่องเทคนิค "ท่านมุ้ยซะอย่าง" ไม่ต้องพูดถึง
แต่บทเจรจาในเรื่องนี่ซี...ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียน ช่างคมบาดใจ เข้ายุค-เข้าสมัย
 ดูแล้ว-ฟังแล้ว นอกจากขนแขนสแตนด์อัพ หัวใจยังเปียกชื้นด้วยรอยสะอื้นแห่งจิตสำนึกไทยในอก!

ยิ่งฉาก "ผู้พันเบิร์ด" โชว์มัดกล้ามแผงอก ตอนเข้าพระ-เข้านาง ด้วยแล้ว....จากฝ่ายหญิงที่ผมถาม เหล่าเธอประสานเสียงบอกว่า....
กรี๊ดดดดด....กรี๊ดดดดด...กรี๊ดดดดดด... 
& กรี๊ดดดดดๆๆๆๆๆ กันโรงร้าวสลบไปเลย!

กลายเป็นทีเด็ดในเรื่องที่คนดูนำมาพูดจาโจษจันกันให้ขรม โดยเฉพาะในหมู่หญิง ทำให้อยากกลับไปเล่นกล้ามขึ้นมาติดหมัด
ผมคงโม้ตามน้ำไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ดู สำหรับหนังประวัติศาสตร์ไทย

 ผมว่าถ้าจะให้บรรลุเป้าหมายครบด้าน ใครสร้างเรื่องไหน ควรประมวลเรื่องราวประวัติศาสตร์นั้น พิมพ์แจกคนดูด้วย

น่าเสียดายตรงนี้แหละ คือทั้งระบบศึกษาและทั้งคนไทย "ส่วนหนึ่ง" ไม่คอยสนใจศึกษาประวัติศาสตร์ชาติของตัวเองมากนัก คนไทยวันนี้จึงเป็น
"คนไทยรากตื้น"!
จึงเกิดปรากฏการณ์ "ขายบ้าน-ขายเมือง" แลกเศษน้ำข้าว ทำเอาแทบ "สิ้นชาติ-สิ้นอนาคต"
 จนกองทัพต้องเข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศ เป็นการหยุดยั้ง "ตลิ่งพัง" นี่ไง

อย่าว่าแต่ระดับชาวบ้านเลย ระดับครูบาอาจารย์ นักวิชาการหัวใน-หัวนอก ก็ยังเป็นไป ฝรั่งมะกันมันเอาทุนมาล่อเข้าหน่อย ให้ทำวิจัยนั่น-นี่ บังหน้า
 
พอกลับมาเท่านั้นแหละ....!
คลั่งสิทธิมนุษยชน คลั่งประชาธิปไตย คลั่งกฎหมายอุ้มโจร ภายใต้การชักใยกลไก "องค์กรนอกชาติ"
อะไร-ใคร ที่ขัดขวางการครอบงำและเข้าครองของ "อำนาจทุน"
เลวหมด!

กระทั่งระบอบและสถาบันบ้านเมือง ที่คุ้มหัวพวกมันมาตั้งแต่โคตรพงศ์วงศายันตัวเอง มันก็ยังว่าเลว "ต้องล้มล้าง"

ก็ไม่โทษพวกมันโดยตรงหรอก ต้องโทษระบบศึกษายุคใหม่ ไม่ต้องสาวไปไกลถึงประวัติศาสตร์ยุคสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์หรอก 

เอาแค่จาก ๒๕๐๐ เรื่อยมาถึง ๑๔ ตุลา ๑๖ และ ๖ ตุลา ๑๙ แถม พฤษภาทมิฬ ๓๕ อีกนิดหน่อย
ใครเป็นใคร เรื่องราวเป็นยังไง คนอายุ ๓๐-๔๐ วันนี้

 จากระบบศึกษายุคใหม่ใช่ว่าจะรู้เรื่อง?!
ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้-อินเดีย เจริญเทคโนโลยี เจริญวิทยาการ เจริญวัตถุ ไปถึงขนาดไหน หลายๆ อย่าง ฝรั่งยังไม่ติดตีนด้วยซ้ำ

แต่ด้วยความเป็นคนมีรากของเขา ต่อให้ก้าวหน้าทางวิทยาการขนาดไหน "ใหม่" กลืนหลายๆ อย่างได้ แต่ไม่สามารถกลืน "เก่า" ที่เป็นชาติและวัฒนธรรมได้เลย!

หนุ่มสาว อินเดีย-ญี่ปุ่น-เกาหลี ยังแต่งชุดประจำชาติไปไหน-มาไหนตามท้องถนน ขึ้นรถเมล์ ลงเรือไฟ ไปเครื่องบินได้ ด้วยความภาคภูมิใจ ในเอกลักษณ์ชาติตน

แม้แต่พม่า ที่ชอบพูดกันว่าล้าหลังกว่าไทยเกือบร้อยปี!
ถามว่า อะไรที่ว่าล้าหลัง ถ้าตอบว่า ตึกสูง ผับ บาร์ ยาเสพติด อาบนวด โรงหนัง โรงละคร การแปลงเพศ สถานการพนัน-อบายมุข ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ละก็
ใช่...พม่าล้าหลังกว่าไทย!

แต่ด้านเอกลักษณ์วัฒนธรรม-ศาสนาและจิตสำนึกในความเป็นชาติ ไทยล้าหลังกว่าพม่าเป็นพันๆ ปี!
การเข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศของคณะ คสช.นี้ มุ่งเน้นสร้างสามัคคี มุ่งเน้นพัฒนาวัตถุ และการเศรษฐกิจ นั่นก็ใช่...ไม่เถียง

แต่นี่ คือการ "รดน้ำทางยอด"!
ผมอยากให้ "รดน้ำทางโคน" ด้วย เพราะเอาแต่รดทางยอด ไม่ช้า..ต้นก็ตาย แต่ถ้ารดทางโคน ยอดจะแตกกิ่ง-แตกใบ โตไป ๕๐-๑๐๐ ปีข้างหน้า

"รดน้ำทางโคน" คือต้องปฏิวัติระบบศึกษา-ระบบสังคมใหม่หมด เริ่มจากขั้นที่ ๑ คนไทยต้องหัด "เข้าแถว-เข้าคิว" ให้เป็น!

เรียน "หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม" ผู้ชาย-ผู้หญิง ต้องเข้าค่าย "ฝึกทหาร" ทุกคน 
การศึกษาวันนี้ ต้องไม่ใช่แบบเรียนเพื่อรู้ตัวหนังสืออย่างเดียว ต้องเป็นแบบ เรียนเพื่อเอาวิชาไปทำมาหากินในชีวิตประจำวันจริงๆ ได้ด้วย

ต้องรู้จักชาติตัวเอง.....!
รู้จักรากเหง้าชาติตัวเอง ไม่ใช่รู้จัก ไมเคิล แจ็กสัน แต่ไม่รู้จัก "ศรีปราชญ์-สุนทรภู่-พระมหามนตรี" คือใคร?

รู้จักประธานาธิบดี ลินคอล์น คือใคร แต่ไม่รู้จัก "สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" คือใคร?

ทุกวันนี้รู้แต่ว่า "ชาติและทรัพยากรมีไว้ขายให้ระบบทุนต่างชาติ" แล้วระบอบทักษิณ "รวยผูกขาด" อยู่ตระกูลเดียว
และรู้แต่ว่า "ปล่อยให้มันโกงก็ไม่เป็นไร ได้แล้วเอามาแบ่งกัน"!

เมื่อวาน (๑๑ มิ.ย.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดกับผู้บริหารกระทรวงต่างประเทศ พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ ที่กองบัญชาการ ทบ. ...ดีมาก

"..........การทำงานในวันนี้มีความกดดัน เพราะมีคนรักมาก แต่ขณะเดียวกันก็มีคนต่อต้าน คนด่า ผมไม่ได้โกรธ ไม่ท้อแท้ และยังคงตั้งหน้าทำงานต่อไป เพื่อให้คนไทยมีจริยธรรมมากขึ้น ควบคู่กับแก้ไขปัญหาทุจริต สร้างชาติของเราขึ้นใหม่ด้วยสติปัญญาให้โลกยอมรับ และวันนี้อยากจะคืนศักดิ์ศรี เกียรติยศ ให้กับข้าราชการไทย เป็นข้าราชการที่ดี เป็นที่พึ่งของประชาชน"

ถูกต้องแล้ว......!
-แก้ไขให้คนไทยมีจริยธรรม-วัฒนธรรมมากขึ้น
-แก้ไขปัญหาทุจริต-คอร์รัปชันที่ฝังรากและทอดรากยาวไขว้เกี่ยว
-สร้างชาติขึ้นใหม่ "ด้วยสติปัญญา" ไม่ใช่ด้วยอำนาจและโมหะแห่งอำนาจ
-คืนศักดิ์ศรีให้ระบบราชการ เป็นข้าราชการที่ดี เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ 

●ในประเด็นแก้ไขปัญหาทุจริต-คอร์รัปชัน 

●●พ.อ.วินธัย สุวารี แถลงในเรื่องเดียวกันนี้ด้วย ว่า
"สำหรับความพยายามให้เกิดความปรองดองระหว่างคนในชาติ แต่จะไม่ปรองดองกับคนที่ทำผิด...."

นี่ไง..."หนังตัวอย่าง" การไม่ปรองดองกับคนทำผิดรอบปฐมทัศน์ สดๆ ร้อนๆ คสช.สั่งย้าย เลขาฯ สภาฯ-อัยการสูงสุด-ปลัดกระทรวง ICT มาปฏิบัติหน้าที่สำนักปลัดสำนักนายกฯ แล้ว

เรียกว่า เรียกเสียงกรี๊ดๆๆๆๆๆๆ จากแฟนๆ ลุงตู่ ได้ยิ่งกว่าเสียงกรี๊ดจากแผงอกผู้พันเบิร์ด

 นี่คือโฉมหน้าผู้ที่แฟนๆ เรียกร้องให้ไป และลุงตู่จัดให้
๑.นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
๒.นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุด
๓.นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวง ICT

เอ้า...สุดท้าย จากปากท่านผู้นำ คสช.ต่อคณะทูตไทย เพื่อให้นำไปบอกชาวโลกว่า.......
"จะจัดตั้งรัฐบาลภายใน ๓ เดือน ให้นับตั้งแต่วันที่ ๒๒ พ.ค.เป็นต้นไป โดยจะมีธรรมนูญปกครองชั่วคราว มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และสภาปฏิรูป 

โดยในช่วงเดือน ส.ค.นี้ จะมี สนช.อย่างแน่นอน
 รวมถึงการกำหนดสัดส่วนตัวแทนจากภาคส่วนใดบ้าง ซึ่งจะมีจำนวนนับร้อยคน 
ทั้งนี้ เมื่อมีรัฐบาลเกิดขึ้น ทาง คสช.ก็ยังอยู่ดูแลความสงบอยู่ โดยทำงานควบคู่กันไปกับรัฐบาล" 

ครับ...นับจาก ๒๒ พ.ค.ก็ไปตกราวๆ ๒๒ ส.ค.ประเทศไทยจะมีรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรี มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
และมี "สภาปฏิรูป"!

มวลมหาประชาชนทั้งหลาย การนอนกลางถนน ชีวิตบนกองเลือดพวกเราเพื่อคำ ๒ คำ "ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง" วันนี้ ภารกิจนั้น บรรลุแล้ว

ไม่ใช่กำนันสุเทพชนะ...ไม่ใช่มวลมหาประชาชนชนะ
แต่ "สังคมเป็นธรรม" ชนะแล้ว!
●"ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง"
เปลว สีเงิน Thursday, 12 June, 2014
ไทยโพสต์ - อิสรภาพแห่งความคิด แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รัก "ลุงตู่" ได้อย่างไรไหว.....?
ขนาดแฟนยังไม่เอาใจขนาดนี้เลย แต่ลุงตู่ รู้ใจ-เอาใจไปเสียหมดทุกอย่าง
ชาวบ้านอยากดูหนัง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาค ๕" แต่ติดเคอร์ฟิวบ้าง ติดเงินในกระเป๋าบ้าง
ลุงตู่ก็จัดให้ "ดูฟรี" พร้อมกันทั่วประเทศ รอบ ๕ โมงเช้า อาทิตย์ที่ ๑๕ มิ.ย.นี้เลย!
"บอลโลก" เริ่มเตะกันวันนี้ (๑๒ มิ.ย.๕๗) ที่บราซิลเหมือนกัน มันเป็นความสุขที่ต้องมีต้นทุนไปแล้ว ที่จะมีทีวีพูลให้ดูฟรีเหมือนตะก่อน
มันกลายเป็น "ความสุขจากของฟรี" ที่หายไปเสียแล้ว แต่ ย.ห...อย่าห่วง ลุงตู่ "คนรู้ใจ" จัดให้ สั่งช่อง ๕ ช่อง ๗ สี อันเป็นเครือข่ายทหารบก เป็นฟรีทีวี มีให้ดู มีให้ลุ้น ครบทุกนัด รวมทั้ง "นัดฝากขัง" ถ้าเล่นพนัน!
ไม่ใช่ใช้อิทธิพล คสช.เบ่งเอาฟรีนะ โปรดเข้าใจ เฮียฮ้อ แห่งอาร์เอสคิดค่าเสียหายเท่าไหร่ ลุงตู่ให้ กสทช.เอาเงินกองทุนโปะให้เท่านั้น..
เรียกว่า อะไรที่เป็นเรื่องนอกอ้อมแขนแล้วละก็ "ลุงตู่" ทำแทนได้หมด คืนความสุขให้คนไทย ครบทุกเม็ด!
พูดถึงหนัง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี" ที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้
ผมก็ตั้งท่าจะต้องไปดูตั้งแต่รอบแรก แต่จนเข้าสัปดาห์ที่ ๒ ที่ ๓ ก็ยังไม่ได้ไป เพราะรอบที่พอจะไปดูได้ เขาก็ไม่ฉาย
คงกลัวต้องปูเสื่อให้คนดูนอนในโรง รอพ้นเคอร์ฟิวตอนตี ๔ ค่อยปล่อยกลับบ้านกันได้!?
ถามหลายคนที่ไปดู เขาบอกว่า "ควรต้องไปดู" เรื่องฉาก เรื่องเทคนิค "ท่านมุ้ยซะอย่าง" ไม่ต้องพูดถึง
แต่บทเจรจาในเรื่องนี่ซี...ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียน ช่างคมบาดใจ เข้ายุค-เข้าสมัย
ดูแล้ว-ฟังแล้ว นอกจากขนแขนสแตนด์อัพ หัวใจยังเปียกชื้นด้วยรอยสะอื้นแห่งจิตสำนึกไทยในอก!
ยิ่งฉาก "ผู้พันเบิร์ด" โชว์มัดกล้ามแผงอก ตอนเข้าพระ-เข้านาง ด้วยแล้ว....จากฝ่ายหญิงที่ผมถาม เหล่าเธอประสานเสียงบอกว่า....
กรี๊ดดดดด....กรี๊ดดดดด...กรี๊ดดดดดด... & กรี๊ดดดดดๆๆๆๆๆ กันโรงร้าวสลบไปเลย!
กลายเป็นทีเด็ดในเรื่องที่คนดูนำมาพูดจาโจษจันกันให้ขรม โดยเฉพาะในหมู่หญิง ทำให้อยากกลับไปเล่นกล้ามขึ้นมาติดหมัด
ผมคงโม้ตามน้ำไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ดู สำหรับหนังประวัติศาสตร์ไทย
ผมว่าถ้าจะให้บรรลุเป้าหมายครบด้าน ใครสร้างเรื่องไหน ควรประมวลเรื่องราวประวัติศาสตร์นั้น พิมพ์แจกคนดูด้วย
น่าเสียดายตรงนี้แหละ คือทั้งระบบศึกษาและทั้งคนไทย "ส่วนหนึ่ง" ไม่คอยสนใจศึกษาประวัติศาสตร์ชาติของตัวเองมากนัก คนไทยวันนี้จึงเป็น
"คนไทยรากตื้น"  จึงเกิดปรากฏการณ์ "ขายบ้าน-ขายเมือง" แลกเศษน้ำข้าว ทำเอาแทบ "สิ้นชาติ-สิ้นอนาคต"
จนกองทัพต้องเข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศ เป็นการหยุดยั้ง "ตลิ่งพัง" นี่ไง
อย่าว่าแต่ระดับชาวบ้านเลย ระดับครูบาอาจารย์ นักวิชาการหัวใน-หัวนอก ก็ยังเป็นไป ฝรั่งมะกันมันเอาทุนมาล่อเข้าหน่อย ให้ทำวิจัยนั่น-นี่ บังหน้า
พอกลับมาเท่านั้นแหละ....! คลั่งสิทธิมนุษยชน คลั่งประชาธิปไตย คลั่งกฎหมายอุ้มโจร ภายใต้การชักใยกลไก "องค์กรนอกชาติ"
อะไร-ใคร ที่ขัดขวางการครอบงำและเข้าครองของ "อำนาจทุน" เลวหมด!
กระทั่งระบอบและสถาบันบ้านเมือง ที่คุ้มหัวพวกมันมาตั้งแต่โคตรพงศ์วงศายันตัวเอง มันก็ยังว่าเลว "ต้องล้มล้าง"
ก็ไม่โทษพวกมันโดยตรงหรอก ต้องโทษระบบศึกษายุคใหม่ ไม่ต้องสาวไปไกลถึงประวัติศาสตร์ยุคสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์หรอก  เอาแค่จาก ๒๕๐๐ เรื่อยมาถึง ๑๔ ตุลา ๑๖ และ ๖ ตุลา ๑๙ แถม พฤษภาทมิฬ ๓๕ อีกนิดหน่อย ใครเป็นใคร เรื่องราวเป็นยังไง คนอายุ ๓๐-๔๐ วันนี้ 
จากระบบศึกษายุคใหม่ใช่ว่าจะรู้เรื่อง?!
ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้-อินเดีย เจริญเทคโนโลยี เจริญวิทยาการ เจริญวัตถุ ไปถึงขนาดไหน หลายๆ อย่าง ฝรั่งยังไม่ติดตีนด้วยซ้ำ
แต่ด้วยความเป็นคนมีรากของเขา ต่อให้ก้าวหน้าทางวิทยาการขนาดไหน "ใหม่" กลืนหลายๆ อย่างได้ แต่ไม่สามารถกลืน "เก่า" ที่เป็นชาติและวัฒนธรรมได้เลย!
หนุ่มสาว อินเดีย-ญี่ปุ่น-เกาหลี ยังแต่งชุดประจำชาติไปไหน-มาไหนตามท้องถนน ขึ้นรถเมล์ ลงเรือไฟ ไปเครื่องบินได้ ด้วยความภาคภูมิใจ ในเอกลักษณ์ชาติตน แม้แต่พม่า ที่ชอบพูดกันว่าล้าหลังกว่าไทยเกือบร้อยปี!
ถามว่า อะไรที่ว่าล้าหลัง ถ้าตอบว่า ตึกสูง ผับ บาร์ ยาเสพติด อาบนวด โรงหนัง โรงละคร การแปลงเพศ สถานการพนัน-อบายมุข ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ละก็ใช่...พม่าล้าหลังกว่าไทย  แต่ด้านเอกลักษณ์วัฒนธรรม-ศาสนาและจิตสำนึกในความเป็นชาติ ไทยล้าหลังกว่าพม่าเป็นพันๆ ปี!
การเข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศของคณะ คสช.นี้ มุ่งเน้นสร้างสามัคคี มุ่งเน้นพัฒนาวัตถุ และการเศรษฐกิจ นั่นก็ใช่...ไม่เถียง แต่นี่ คือการ "รดน้ำทางยอด" ผมอยากให้ "รดน้ำทางโคน" ด้วย เพราะเอาแต่รดทางยอด ไม่ช้า..ต้นก็ตาย แต่ถ้ารดทางโคน ยอดจะแตกกิ่ง-แตกใบ โตไป ๕๐-๑๐๐ ปีข้างหน้า "รดน้ำทางโคน" คือต้องปฏิวัติระบบศึกษา-ระบบสังคมใหม่หมด เริ่มจากขั้นที่ ๑ คนไทยต้องหัด "เข้าแถว-เข้าคิว" ให้เป็น!
เรียน "หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม" ผู้ชาย-ผู้หญิง ต้องเข้าค่าย "ฝึกทหาร" ทุกคน การศึกษาวันนี้ ต้องไม่ใช่แบบเรียนเพื่อรู้ตัวหนังสืออย่างเดียว ต้องเป็นแบบ เรียนเพื่อเอาวิชาไปทำมาหากินในชีวิตประจำวันจริงๆ ได้ด้วย
ต้องรู้จักชาติตัวเอง.....!
รู้จักรากเหง้าชาติตัวเอง ไม่ใช่รู้จัก ไมเคิล แจ็กสัน แต่ไม่รู้จัก "ศรีปราชญ์-สุนทรภู่-พระมหามนตรี" คือใคร?
รู้จักประธานาธิบดี ลินคอล์น คือใคร แต่ไม่รู้จัก "สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" คือใคร?
ทุกวันนี้รู้แต่ว่า "ชาติและทรัพยากรมีไว้ขายให้ระบบทุนต่างชาติ" แล้วระบอบทักษิณ "รวยผูกขาด" อยู่ตระกูลเดียว
และรู้แต่ว่า "ปล่อยให้มันโกงก็ไม่เป็นไร ได้แล้วเอามาแบ่งกัน"!
เมื่อวาน (๑๑ มิ.ย.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดกับผู้บริหารกระทรวงต่างประเทศ พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ ที่กองบัญชาการ ทบ. ...ดีมาก "..........การทำงานในวันนี้มีความกดดัน เพราะมีคนรักมาก แต่ขณะเดียวกันก็มีคนต่อต้าน คนด่า ผมไม่ได้โกรธ ไม่ท้อแท้ และยังคงตั้งหน้าทำงานต่อไป เพื่อให้คนไทยมีจริยธรรมมากขึ้น ควบคู่กับแก้ไขปัญหาทุจริต สร้างชาติของเราขึ้นใหม่ด้วยสติปัญญาให้โลกยอมรับ และวันนี้อยากจะคืนศักดิ์ศรี เกียรติยศ ให้กับข้าราชการไทย เป็นข้าราชการที่ดี เป็นที่พึ่งของประชาชน" ถูกต้องแล้ว......!
-   แก้ไขให้คนไทยมีจริยธรรม-วัฒนธรรมมากขึ้น
-   แก้ไขปัญหาทุจริต-คอร์รัปชันที่ฝังรากและทอดรากยาวไขว้เกี่ยว
-   สร้างชาติขึ้นใหม่ "ด้วยสติปัญญา" ไม่ใช่ด้วยอำนาจและโมหะแห่งอำนาจ
-   คืนศักดิ์ศรีให้ระบบราชการ เป็นข้าราชการที่ดี เป็นที่พึ่งของประชาชนได้
●  ในประเด็นแก้ไขปัญหาทุจริต-คอร์รัปชัน
●●พ.อ.วินธัย สุวารี แถลงในเรื่องเดียวกันนี้ด้วย ว่า
"สำหรับความพยายามให้เกิดความปรองดองระหว่างคนในชาติ แต่จะไม่ปรองดองกับคนที่ทำผิด...."
นี่ไง..."หนังตัวอย่าง" การไม่ปรองดองกับคนทำผิดรอบปฐมทัศน์ สดๆ ร้อนๆ คสช.สั่งย้าย เลขาฯ สภาฯ-อัยการสูงสุด-ปลัดกระทรวง ICT มาปฏิบัติหน้าที่สำนักปลัดสำนักนายกฯ แล้ว เรียกว่า เรียกเสียงกรี๊ดๆๆๆๆๆๆ จากแฟนๆ ลุงตู่ ได้ยิ่งกว่าเสียงกรี๊ดจากแผงอกผู้พันเบิร์ด
นี่คือโฉมหน้าผู้ที่แฟนๆ เรียกร้องให้ไป และลุงตู่จัดให้
๑.  นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
๒. นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุด
๓. นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวง ICT

เอ้า...สุดท้าย จากปากท่านผู้นำ คสช.ต่อคณะทูตไทย เพื่อให้นำไปบอกชาวโลกว่า.......
"จะจัดตั้งรัฐบาลภายใน ๓ เดือน ให้นับตั้งแต่วันที่ ๒๒ พ.ค.เป็นต้นไป โดยจะมีธรรมนูญปกครองชั่วคราว มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และสภาปฏิรูป โดยในช่วงเดือน ส.ค.นี้ จะมี สนช.อย่างแน่นอน รวมถึงการกำหนดสัดส่วนตัวแทนจากภาคส่วนใดบ้าง ซึ่งจะมีจำนวนนับร้อยคน ทั้งนี้ เมื่อมีรัฐบาลเกิดขึ้น ทาง คสช.ก็ยังอยู่ดูแลความสงบอยู่ โดยทำงานควบคู่กันไปกับรัฐบาล"
ครับ...นับจาก ๒๒ พ.ค.ก็ไปตกราวๆ ๒๒ ส.ค.ประเทศไทยจะมีรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรี มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และมี "สภาปฏิรูป"!
มวลมหาประชาชนทั้งหลาย การนอนกลางถนน ชีวิตบนกองเลือดพวกเราเพื่อคำ ๒ คำ "ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง" วันนี้ ภารกิจนั้น บรรลุแล้ว
ไม่ใช่กำนันสุเทพชนะ...ไม่ใช่มวลมหาประชาชนชนะ แต่ "สังคมเป็นธรรม" ชนะแล้ว!

เจ้าหญิง ราพันเซล รักในหลวง's photo.เจ้าหญิง ราพันเซล รักในหลวง's photo.
 
●●ข่าวนังเพ็ญแข ตั้ง "องค์กรต่อต้านรัฐประหาร" ดังไปทั่ว สื่อนอกโหมกระแส แต่คนไทยไม่ให้ราคา เพราะไม่ใช่ครั้งแรก ปี 52 ตอนนี้หนีออกนอกประเทศ ก็ประกาศลงใต้ดิน ตั้ง กกล.สู้ เร่ร่อนพเนจรอยู่ แถวประเทศเพื่อนบ้าน ทำตัวเป็นทนายหน้าหอ ทำหน้าที่จ่ายเงินเดือน ให้แดงล้มเจ้าทั้งหลาย ครั้งนี้ มี โต้ง จารุพงษ์ ร่วมลงเรือ ด้วย ข่าวกระเส็นกระสายว่า จะประกาศเปิดตัว "องค์กรอย่างยิ่งใหญ่ " ในวันที่ 24 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ในวันที่คณะราษฎร์ ล้ม ระบอบสมบูรญาณาสิทธิราชย์ วันที่ ทหารแก่หวานเจี๊ยบ บอกขอสานต่อภารกิจ ที่ยังไม่ทำไม่สำเร็จตามเป้าหมาย

ณ.วันนี้เชื่อว่ามีความพยายาม จะตั้ง รัฐบาลพลัดถิ่น หรือ องค์กรใต้ดิน ให้ได้ โดยมีแยงกี้ ให้การหนุนหลัง รวมทั้งชาตินาโต ที่ข่มขู่ คสช ฟอด...ฟอด ..หลังจาก "ขอนแก่นโมเดล" โดนลุงตู่จับตัว ขบวนการใหญ่ ได้ทันทีทันควัน ...... . ทักษิณอยู่เบื้องหลังแน่นอน อย่าได้เชื่อว่าโจรตัวพ่อใจอ่อนยวบ ตั้งแต่ได้ข่าวว่า จะได้เป็น "ตา" หลานคนแรกแล้ว

ช่วงนี้ต้องจับตาดู นางดอกงิ้ว ที่ยังเคลื่อนไหว แย่งพื้นที่ข่าว มีหมาต๋าในราชการ คอยคุ้มกัน และยังสู้คดี ปปช. ยื้อต่อสุดฤทธิ์ ไม่แสดงว่าต้องการวางมือ ทางการเมือง ไม่รู้ว่าลุงตู่ คิดอะไรอยู่เรื่องนี้ หรือจะปล่อยให้เป็นนาง"อองซานซูจี" ของไทย?

ไคลแม็กของเรื่อง นังเพ็ญแข ตอนนี้น่าจะเคลื่อนไหว ไปมาระหว่าง 3 ชาติเพื่อนบ้าน โดยในเขมร มีบ้านพักเป็นวิลลาหลังงาม ในหมู่บ้านจัดสรร ของนายพลกัมพูชา ชื่อเกียง ฮวด หรือคนเสื้อแดงรู้จักในนาม ผอ.ฮวด ที่ถือว่าเป็นผู้ที่ใกล้ชิด "สมเด็จฯ ฮุน เซน" มากที่สุดคนหนึ่ง และคนเสื้อแดงถ้าข้ามไปเขมร จะไปหา จะคอยให้การดูแล รับรอง ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกให้ "แกนนำคนเสื้อแดง" ในดินแดนกัมพูชา ทุกคน ทุกที ทุกเวลา อาทิ อริสมันต์ ดารุณี แรมบ้า วันชนะ เกิดดี หมาต๋าเสงี่ยม สำราญรัตน์ มีข่าวแมงจีนูน ว่า นังเพ็ญ ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ จัดหา "ตี๋น้อยหน้าเด้ง " อายุอานาม 20 กว่า พร้อมแม่ คอยดูแลบ้านช่อง และ บริการพิเศษ ข่าวแต่งงานกับสาวเขมร แค่ปล่อยข่าว กลบข่าว เพ็ญนะยะ

"นายเกียง ฮวด" ถือเป็นคนสำคัญในพนมเปญ เนื่องจากเป็นคนที่ "ผู้นำกัมพูชา" ไว้วางใจอย่างมาก นอกจากนั่งในตำแหน่ง "ผู้อำนวยการเขต" ในพื้นที่หลักของพนมเปญ จน "แกนนำคนเสื้อแดง" เรียกติดปากกันว่า "ผอ.ฮวด" ยังนั่งในตำแหน่ง "เลขานุการส่วนตัว" ของ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ด้วย

เมื่อ "ยิ่งลักษณ์ ตั้งรัฐบาล เสร็จเรียบร้อย "เกียง ฮวด" ถือเป็นคนสำคัญของเขมร คนแรกๆ ที่เดินทางมาไทย เพื่อเข้าพบ "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" อย่างเป็นทางการเพื่อแสดงความยินดี หลังจากนั้น พบปะพูดคุยกับ "แกนนำเสื้อแดง" นับร้อยคน จุดเด่นของ "เกียง ฮวด" คือสามารถพูด อ่าน เขียน ภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้ มีโอกาสติดตาม และศึกษาการเมืองไทย ผ่านการนำเสนอข่าว ของสื่อ ไทยตลอดเวลา โดยจะอ่านหนังสือพิมพ์ไทย ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตทุกฉบับ อ่านอย่างละเอียดทุกวัน และจะติดตามรายการข่าว ของสถานีโทรทัศน์ไทยทุกช่อง โดยเฉพาะ "เอเอ้ทีวี" ของพธม. ทำให้ สามารถวิพากษ์วิจารณ์ การเมืองกัมพูชาและไทย และประเมินสถานการณ์ ต่างๆ ไม่แพ้นักการเมืองบ้านเรา

นอกจาก ผอ.ฮวด ยังมี จอมพล เตา สุขขะ มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ คือ "รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด" และ "ผบ.กองกำลังพิทักษ์ผู้นำกัมพูชา" ที่ "พล.ท.ฮุน มาเนต" บุตรชายของ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" เป็น "รองผู้บัญชาการ" ในหน่วยงานนี้ "จอมพลเตา" คือ "1 ใน 5 จอมพล" ของเขมร ได้รับความไว้วางใจจาก "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ในฐานะเพื่อนร่วมรบคนหนึ่ง วันแต่งงาน พินทองทา จอมพลเตา สุขขะ มาร่วมงานแต่งในกทม. ด้วย เป็นคนให้การ สนับสนุน จัดหาอาวุธสงคราม ส่งให้คนเสื้อแดง สร้างกองกำลังติดอาวุธ ไม่มีใครรู้จำนวนแน่นอน บางคนบอกสองตู้คอนเทนเนอร์ บางคนบอกสองลำเรือ ทำให้นึกถึงครั้ง ปี 53 ที่เขมรส่งอาวุธมาให้ไทยเป็นลำเรือ พร้อม กกล.ชายชุดดำ มาฆ่าคนไทย
 
 
 
 

MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY