ระบอบทักษิณลับลวงพรางแผนแกล้งแพ้รอโอกาสคืนชีพ?
หลายคนตั้งข้อสังเกตุถึงความเคลื่อนไหวที่เงียบผิดปกติวิสัยของนักโทษชายแม้วและเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่ยกธงขาวดื้อๆอย่างง่ายดายและพร้อมที่จะเข้าร่วมขบวนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)โดยเฉพาะนายจตุ...พร หรพมพันธุ์ ประธานเสื้อแดง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ อดีตรมช.พาณิชย์ เลขาธิการคนเสื้อแดง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ(อพปช.) นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร หรือแม้แต่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์และล่าสุดนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่
ก่อนหน้าเกิดการรัฐประหารโดยคสช.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงนำโดยนายจตุพร รวมทั้งแกนนำพรรคเพื่อไทยต่างประกาศแข้งกร้าวว่าหากมีการรัฐประหารสาวกระบอบทักษิณทั่วประเทศพร้อมลุกฮือออกมาต่อสู้ขั้นแตกหักทันที ถึงกับขู่จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธที่จะออกมาต้านการรัฐประหาร รวมทั้งแนวคิดการแยกภาคอีสานและภาคเหนือเป็นรัฐอิสระ หรือคิดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น
แต่พอเกิดรัฐประหารคสช.ได้ควบคุมตัวแกนนำเสื้อแดงหลายคนไปสงบสติอารมย์และหลังได้รับการปล่อยตัวบรรดาแกนนำเสื้อแดงกลับยอมแพ้อย่างง่ายดายผิดปกติโดยขอยุติบทบาททางการเมืองช่วงนี้และถึงกับยอมร่วมขบวนการสมานฉันท์ตามนโยบายคสช.
แม้ล่าสุดจะมีข่าวที่ถูกปล่อยออกมาว่า นักโทษชายแม้ว สั่งให้เหล่าทาสรับใช้ในพรรคเพื่อไทยยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงนี้เพราะเกรงจะกระทบต่อธุรกิจและคนในตระกูลชินวัตร
แต่ก็มีข่าวอีกกระแสหนึ่งจากแกนนำในพรรคเพื่อไทยบางคนระบุว่า นักโทษชายแม้ว สั่งให้บรรดาสมุนบริวารระบอบทักษิณทั้งหลายให้ยอมกลืนเลือดทำตัวลู่ตามลมยอมตามอำนาจ คสช.ไปก่อนเพื่อรอโอกาสฟื้นระบอบทักษิณกลับมายึดครองประเทศอีกครั้งโดยเป้าหมายอยู่ที่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในอีกราว 15 เดือนข้างหน้า
แผนลับลวงพลางยอมกลืนเลือดชั่วคราวของระบอบทักษิณก็ด้วยความหวังว่า ถึงอย่างไรคสช.ก็ต้องพ้นจากอำนาจและมีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะเป็นโอกาสให้พรรคระบอบทักษิณรอการเอาชนะการเลือกตั้งจนสามารถกลับมาเป็นรัฐบาลอย่างถูกต้องชอบธรรมอีกครั้งด้วยปัจจัยหลายประการคือ
1. อาศัยการชูประเด็นสร้างกระแสประชาธิปไตยต้านรัฐประหารเป็นจุดขายในการหาเสียงเพื่อสร้างเรียกคะแนนอย่างถล่มทลาย
2. อาศัยซากเดนระบอบทักษิณที่ยังหลงเหลืออยู่อีกไม่น้อยที่ฝังตัวในหน่วยราชการต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรสีกากี และกระทรวงมหาดไทยช่วยให้พรรคระบอบทักษิณชนะเลือกตั้ง
3. อาศัยเงินที่มีอยู่มหาศาลซื้อพรรคการเมือง กลุ่มอดีต ส.ส.ที่มีคะแนนเสียงดีให้ได้ได้มากที่สุดเพื่อเป็นหลักประกันในชัยชนะ
4. อาศัยฐานคะแนนของระบอบทักษิณและเครือข่ายคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินที่เชื่อว่ายังเหนียวแน่นในภาคอีสานและภาคเหนือ รวมทั้งหลายจังหวัดภาคเกลาง
เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้คือโอกาสสำคัญสำหรับระบอบทักษิณที่จะกลับมายึดครองประเทศอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่คสช.และประชาชนทั้งประเทศต้องรู้จักสรุปบทเรียนว่า หากระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์อันชั่วร้ายกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ในที่สุดก็หนีไม่พ้นชนวนนำไปสู่วงจรอุบาทว์ซ้ำซากนั่นคือการลุกฮือขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณจนกลายเป็นวิกฤติสร้างความหายนะแก่ชาติบ้านเมืองและในที่สุดก็หนีไม่พ้นเกิดรัฐประหารอย่างไม่รู้จบ
แนวหน้า วันพุธ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557
●●ข่าวนังเพ็ญแข ตั้ง "องค์กรต่อต้านรัฐประหาร" ดังไปทั่ว สื่อนอกโหมกระแส แต่คนไทยไม่ให้ราคา เพราะไม่ใช่ครั้งแรก ปี 52 ตอนนี้หนีออกนอกประเทศ ก็ประกาศลงใต้ดิน ตั้ง กกล.สู้ เร่ร่อนพเนจรอยู่ แถวประเทศเพื่อนบ้าน ทำตัวเป็นทนายหน้าหอ ทำหน้าที่จ่ายเงินเดือน ให้แดงล้มเจ้าทั้งหลาย ครั้งนี้ มี โต้ง จารุพงษ์ ร่วมลงเรือ ด้วย ข่าวกระเส็นกระสายว่า จะประกาศเปิดตัว "องค์กรอย่างยิ่งใหญ่ " ในวันที่ 24 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ในวันที่คณะราษฎร์ ล้ม ระบอบสมบูรญาณาสิทธิราชย์ วันที่ ทหารแก่หวานเจี๊ยบ บอกขอสานต่อภารกิจ ที่ยังไม่ทำไม่สำเร็จตามเป้าหมาย
ณ.วันนี้เชื่อว่ามีความพยายาม จะตั้ง รัฐบาลพลัดถิ่น หรือ องค์กรใต้ดิน ให้ได้ โดยมีแยงกี้ ให้การหนุนหลัง รวมทั้งชาตินาโต ที่ข่มขู่ คสช ฟอด...ฟอด ..หลังจาก "ขอนแก่นโมเดล" โดนลุงตู่จับตัว ขบวนการใหญ่ ได้ทันทีทันควัน ...... . ทักษิณอยู่เบื้องหลังแน่นอน อย่าได้เชื่อว่าโจรตัวพ่อใจอ่อนยวบ ตั้งแต่ได้ข่าวว่า จะได้เป็น "ตา" หลานคนแรกแล้ว
ช่วงนี้ต้องจับตาดู นางดอกงิ้ว ที่ยังเคลื่อนไหว แย่งพื้นที่ข่าว มีหมาต๋าในราชการ คอยคุ้มกัน และยังสู้คดี ปปช. ยื้อต่อสุดฤทธิ์ ไม่แสดงว่าต้องการวางมือ ทางการเมือง ไม่รู้ว่าลุงตู่ คิดอะไรอยู่เรื่องนี้ หรือจะปล่อยให้เป็นนาง"อองซานซูจี" ของไทย?
ไคลแม็กของเรื่อง นังเพ็ญแข ตอนนี้น่าจะเคลื่อนไหว ไปมาระหว่าง 3 ชาติเพื่อนบ้าน โดยในเขมร มีบ้านพักเป็นวิลลาหลังงาม ในหมู่บ้านจัดสรร ของนายพลกัมพูชา ชื่อเกียง ฮวด หรือคนเสื้อแดงรู้จักในนาม ผอ.ฮวด ที่ถือว่าเป็นผู้ที่ใกล้ชิด "สมเด็จฯ ฮุน เซน" มากที่สุดคนหนึ่ง และคนเสื้อแดงถ้าข้ามไปเขมร จะไปหา จะคอยให้การดูแล รับรอง ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกให้ "แกนนำคนเสื้อแดง" ในดินแดนกัมพูชา ทุกคน ทุกที ทุกเวลา อาทิ อริสมันต์ ดารุณี แรมบ้า วันชนะ เกิดดี หมาต๋าเสงี่ยม สำราญรัตน์ มีข่าวแมงจีนูน ว่า นังเพ็ญ ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ จัดหา "ตี๋น้อยหน้าเด้ง " อายุอานาม 20 กว่า พร้อมแม่ คอยดูแลบ้านช่อง และ บริการพิเศษ ข่าวแต่งงานกับสาวเขมร แค่ปล่อยข่าว กลบข่าว เพ็ญนะยะ
"นายเกียง ฮวด" ถือเป็นคนสำคัญในพนมเปญ เนื่องจากเป็นคนที่ "ผู้นำกัมพูชา" ไว้วางใจอย่างมาก นอกจากนั่งในตำแหน่ง "ผู้อำนวยการเขต" ในพื้นที่หลักของพนมเปญ จน "แกนนำคนเสื้อแดง" เรียกติดปากกันว่า "ผอ.ฮวด" ยังนั่งในตำแหน่ง "เลขานุการส่วนตัว" ของ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ด้วย
เมื่อ "ยิ่งลักษณ์ ตั้งรัฐบาล เสร็จเรียบร้อย "เกียง ฮวด" ถือเป็นคนสำคัญของเขมร คนแรกๆ ที่เดินทางมาไทย เพื่อเข้าพบ "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" อย่างเป็นทางการเพื่อแสดงความยินดี หลังจากนั้น พบปะพูดคุยกับ "แกนนำเสื้อแดง" นับร้อยคน จุดเด่นของ "เกียง ฮวด" คือสามารถพูด อ่าน เขียน ภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้ มีโอกาสติดตาม และศึกษาการเมืองไทย ผ่านการนำเสนอข่าว ของสื่อ ไทยตลอดเวลา โดยจะอ่านหนังสือพิมพ์ไทย ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตทุกฉบับ อ่านอย่างละเอียดทุกวัน และจะติดตามรายการข่าว ของสถานีโทรทัศน์ไทยทุกช่อง โดยเฉพาะ "เอเอ้ทีวี" ของพธม. ทำให้ สามารถวิพากษ์วิจารณ์ การเมืองกัมพูชาและไทย และประเมินสถานการณ์ ต่างๆ ไม่แพ้นักการเมืองบ้านเรา
นอกจาก ผอ.ฮวด ยังมี จอมพล เตา สุขขะ มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ คือ "รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด" และ "ผบ.กองกำลังพิทักษ์ผู้นำกัมพูชา" ที่ "พล.ท.ฮุน มาเนต" บุตรชายของ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" เป็น "รองผู้บัญชาการ" ในหน่วยงานนี้ "จอมพลเตา" คือ "1 ใน 5 จอมพล" ของเขมร ได้รับความไว้วางใจจาก "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ในฐานะเพื่อนร่วมรบคนหนึ่ง วันแต่งงาน พินทองทา จอมพลเตา สุขขะ มาร่วมงานแต่งในกทม. ด้วย เป็นคนให้การ สนับสนุน จัดหาอาวุธสงคราม ส่งให้คนเสื้อแดง สร้างกองกำลังติดอาวุธ ไม่มีใครรู้จำนวนแน่นอน บางคนบอกสองตู้คอนเทนเนอร์ บางคนบอกสองลำเรือ ทำให้นึกถึงครั้ง ปี 53 ที่เขมรส่งอาวุธมาให้ไทยเป็นลำเรือ พร้อม กกล.ชายชุดดำ มาฆ่าคนไทย
หลายคนตั้งข้อสังเกตุถึงความเคลื่อนไหวที่เงียบผิดปกติวิสัยของนักโทษชายแม้วและเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่ยกธงขาวดื้อๆอย่างง่ายดายและพร้อมที่จะเข้าร่วมขบวนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)โดยเฉพาะนายจตุ...พร หรพมพันธุ์ ประธานเสื้อแดง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ อดีตรมช.พาณิชย์ เลขาธิการคนเสื้อแดง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ(อพปช.) นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร หรือแม้แต่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์และล่าสุดนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่
ก่อนหน้าเกิดการรัฐประหารโดยคสช.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงนำโดยนายจตุพร รวมทั้งแกนนำพรรคเพื่อไทยต่างประกาศแข้งกร้าวว่าหากมีการรัฐประหารสาวกระบอบทักษิณทั่วประเทศพร้อมลุกฮือออกมาต่อสู้ขั้นแตกหักทันที ถึงกับขู่จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธที่จะออกมาต้านการรัฐประหาร รวมทั้งแนวคิดการแยกภาคอีสานและภาคเหนือเป็นรัฐอิสระ หรือคิดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น
แต่พอเกิดรัฐประหารคสช.ได้ควบคุมตัวแกนนำเสื้อแดงหลายคนไปสงบสติอารมย์และหลังได้รับการปล่อยตัวบรรดาแกนนำเสื้อแดงกลับยอมแพ้อย่างง่ายดายผิดปกติโดยขอยุติบทบาททางการเมืองช่วงนี้และถึงกับยอมร่วมขบวนการสมานฉันท์ตามนโยบายคสช.
แม้ล่าสุดจะมีข่าวที่ถูกปล่อยออกมาว่า นักโทษชายแม้ว สั่งให้เหล่าทาสรับใช้ในพรรคเพื่อไทยยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงนี้เพราะเกรงจะกระทบต่อธุรกิจและคนในตระกูลชินวัตร
แต่ก็มีข่าวอีกกระแสหนึ่งจากแกนนำในพรรคเพื่อไทยบางคนระบุว่า นักโทษชายแม้ว สั่งให้บรรดาสมุนบริวารระบอบทักษิณทั้งหลายให้ยอมกลืนเลือดทำตัวลู่ตามลมยอมตามอำนาจ คสช.ไปก่อนเพื่อรอโอกาสฟื้นระบอบทักษิณกลับมายึดครองประเทศอีกครั้งโดยเป้าหมายอยู่ที่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในอีกราว 15 เดือนข้างหน้า
แผนลับลวงพลางยอมกลืนเลือดชั่วคราวของระบอบทักษิณก็ด้วยความหวังว่า ถึงอย่างไรคสช.ก็ต้องพ้นจากอำนาจและมีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะเป็นโอกาสให้พรรคระบอบทักษิณรอการเอาชนะการเลือกตั้งจนสามารถกลับมาเป็นรัฐบาลอย่างถูกต้องชอบธรรมอีกครั้งด้วยปัจจัยหลายประการคือ
1. อาศัยการชูประเด็นสร้างกระแสประชาธิปไตยต้านรัฐประหารเป็นจุดขายในการหาเสียงเพื่อสร้างเรียกคะแนนอย่างถล่มทลาย
2. อาศัยซากเดนระบอบทักษิณที่ยังหลงเหลืออยู่อีกไม่น้อยที่ฝังตัวในหน่วยราชการต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรสีกากี และกระทรวงมหาดไทยช่วยให้พรรคระบอบทักษิณชนะเลือกตั้ง
3. อาศัยเงินที่มีอยู่มหาศาลซื้อพรรคการเมือง กลุ่มอดีต ส.ส.ที่มีคะแนนเสียงดีให้ได้ได้มากที่สุดเพื่อเป็นหลักประกันในชัยชนะ
4. อาศัยฐานคะแนนของระบอบทักษิณและเครือข่ายคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินที่เชื่อว่ายังเหนียวแน่นในภาคอีสานและภาคเหนือ รวมทั้งหลายจังหวัดภาคเกลาง
เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้คือโอกาสสำคัญสำหรับระบอบทักษิณที่จะกลับมายึดครองประเทศอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่คสช.และประชาชนทั้งประเทศต้องรู้จักสรุปบทเรียนว่า หากระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์อันชั่วร้ายกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ในที่สุดก็หนีไม่พ้นชนวนนำไปสู่วงจรอุบาทว์ซ้ำซากนั่นคือการลุกฮือขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณจนกลายเป็นวิกฤติสร้างความหายนะแก่ชาติบ้านเมืองและในที่สุดก็หนีไม่พ้นเกิดรัฐประหารอย่างไม่รู้จบ
แนวหน้า วันพุธ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557
“ทักษิณ” แค่พักยก
ทักษิณ” แค่พักยก |
|
ณ.วันนี้เชื่อว่ามีความพยายาม จะตั้ง รัฐบาลพลัดถิ่น หรือ องค์กรใต้ดิน ให้ได้ โดยมีแยงกี้ ให้การหนุนหลัง รวมทั้งชาตินาโต ที่ข่มขู่ คสช ฟอด...ฟอด ..หลังจาก "ขอนแก่นโมเดล" โดนลุงตู่จับตัว ขบวนการใหญ่ ได้ทันทีทันควัน ...... . ทักษิณอยู่เบื้องหลังแน่นอน อย่าได้เชื่อว่าโจรตัวพ่อใจอ่อนยวบ ตั้งแต่ได้ข่าวว่า จะได้เป็น "ตา" หลานคนแรกแล้ว
ช่วงนี้ต้องจับตาดู นางดอกงิ้ว ที่ยังเคลื่อนไหว แย่งพื้นที่ข่าว มีหมาต๋าในราชการ คอยคุ้มกัน และยังสู้คดี ปปช. ยื้อต่อสุดฤทธิ์ ไม่แสดงว่าต้องการวางมือ ทางการเมือง ไม่รู้ว่าลุงตู่ คิดอะไรอยู่เรื่องนี้ หรือจะปล่อยให้เป็นนาง"อองซานซูจี" ของไทย?
ไคลแม็กของเรื่อง นังเพ็ญแข ตอนนี้น่าจะเคลื่อนไหว ไปมาระหว่าง 3 ชาติเพื่อนบ้าน โดยในเขมร มีบ้านพักเป็นวิลลาหลังงาม ในหมู่บ้านจัดสรร ของนายพลกัมพูชา ชื่อเกียง ฮวด หรือคนเสื้อแดงรู้จักในนาม ผอ.ฮวด ที่ถือว่าเป็นผู้ที่ใกล้ชิด "สมเด็จฯ ฮุน เซน" มากที่สุดคนหนึ่ง และคนเสื้อแดงถ้าข้ามไปเขมร จะไปหา จะคอยให้การดูแล รับรอง ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกให้ "แกนนำคนเสื้อแดง" ในดินแดนกัมพูชา ทุกคน ทุกที ทุกเวลา อาทิ อริสมันต์ ดารุณี แรมบ้า วันชนะ เกิดดี หมาต๋าเสงี่ยม สำราญรัตน์ มีข่าวแมงจีนูน ว่า นังเพ็ญ ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ จัดหา "ตี๋น้อยหน้าเด้ง " อายุอานาม 20 กว่า พร้อมแม่ คอยดูแลบ้านช่อง และ บริการพิเศษ ข่าวแต่งงานกับสาวเขมร แค่ปล่อยข่าว กลบข่าว เพ็ญนะยะ
"นายเกียง ฮวด" ถือเป็นคนสำคัญในพนมเปญ เนื่องจากเป็นคนที่ "ผู้นำกัมพูชา" ไว้วางใจอย่างมาก นอกจากนั่งในตำแหน่ง "ผู้อำนวยการเขต" ในพื้นที่หลักของพนมเปญ จน "แกนนำคนเสื้อแดง" เรียกติดปากกันว่า "ผอ.ฮวด" ยังนั่งในตำแหน่ง "เลขานุการส่วนตัว" ของ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ด้วย
เมื่อ "ยิ่งลักษณ์ ตั้งรัฐบาล เสร็จเรียบร้อย "เกียง ฮวด" ถือเป็นคนสำคัญของเขมร คนแรกๆ ที่เดินทางมาไทย เพื่อเข้าพบ "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" อย่างเป็นทางการเพื่อแสดงความยินดี หลังจากนั้น พบปะพูดคุยกับ "แกนนำเสื้อแดง" นับร้อยคน จุดเด่นของ "เกียง ฮวด" คือสามารถพูด อ่าน เขียน ภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้ มีโอกาสติดตาม และศึกษาการเมืองไทย ผ่านการนำเสนอข่าว ของสื่อ ไทยตลอดเวลา โดยจะอ่านหนังสือพิมพ์ไทย ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตทุกฉบับ อ่านอย่างละเอียดทุกวัน และจะติดตามรายการข่าว ของสถานีโทรทัศน์ไทยทุกช่อง โดยเฉพาะ "เอเอ้ทีวี" ของพธม. ทำให้ สามารถวิพากษ์วิจารณ์ การเมืองกัมพูชาและไทย และประเมินสถานการณ์ ต่างๆ ไม่แพ้นักการเมืองบ้านเรา
นอกจาก ผอ.ฮวด ยังมี จอมพล เตา สุขขะ มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ คือ "รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด" และ "ผบ.กองกำลังพิทักษ์ผู้นำกัมพูชา" ที่ "พล.ท.ฮุน มาเนต" บุตรชายของ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" เป็น "รองผู้บัญชาการ" ในหน่วยงานนี้ "จอมพลเตา" คือ "1 ใน 5 จอมพล" ของเขมร ได้รับความไว้วางใจจาก "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ในฐานะเพื่อนร่วมรบคนหนึ่ง วันแต่งงาน พินทองทา จอมพลเตา สุขขะ มาร่วมงานแต่งในกทม. ด้วย เป็นคนให้การ สนับสนุน จัดหาอาวุธสงคราม ส่งให้คนเสื้อแดง สร้างกองกำลังติดอาวุธ ไม่มีใครรู้จำนวนแน่นอน บางคนบอกสองตู้คอนเทนเนอร์ บางคนบอกสองลำเรือ ทำให้นึกถึงครั้ง ปี 53 ที่เขมรส่งอาวุธมาให้ไทยเป็นลำเรือ พร้อม กกล.ชายชุดดำ มาฆ่าคนไทย