จี้ คสช.ตัดปีก “แม้ว”
ชี้เหตุ ทักษิณ ชินวัตร และบรรดาลูกหาบ ออกมาปูดข่าวจัดตั้ง “รัฐบาลพลัดถิ่น” หวั่น คสช.ขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ รื้อระบบยุติธรรม จะทำให้เด็กในคาถา “อัยการ-ตำรวจ” เปลี่ยนสี ขณะที่ “แม้ว” ไม่ปลอดภัย กลัวถูกจับตัวส่งกลับมาดำเนินคดีในไทย เร่งตีปี๊บให้นานาชาติเห็นใจถูกกลั่นแกล้งรัฐประหารถึง 2 ครั้ง หวังขอเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง ด้านวงในเผย คสช.ปิดเกมระบอบทักษิณไม่ยาก ต้องใช้ล็อบบี้ยีสต์ประโคมมรดกชั่วร้ายที่ระบอบทักษิณทิ้งไว้ให้กับแผ่นดินไทย พร้อมเสนอ “ถอน” พาสปอร์ต เพื่อให้ทักษิณโบยบินไม่ได้อีกแล้ว!
ความพยายามปูดกระแสจัดตั้ง รัฐบาลพลัดถิ่น ของคนในพรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง นปช. มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 6 เดือนที่ผ่านมาก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เข้ายึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมนั้น จึงเห็นเพื่อนสนิทมิตรสหายของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพลพรรคเพื่อไทยออกมาให้สัมภาษณ์ตอกย้ำถึงแผนการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น หากกองทัพเข้ายึดอำนาจด้วยการทำปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ดังนั้นแผนการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น จึงเป็นแนวทางที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการเตรียมการมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณชี้ขาด แต่จะอยู่ที่มวลมหามิตรประเทศที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำพรรคเพื่อไทย เคยติดต่อไว้ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาที่ตระกูลชินวัตรเข้าบริหารประเทศ
ทั้งนี้เพราะเงื่อนไขในการรัฐประหารในปี 2549 และในปี 2557 ล้วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต คอร์รัปชัน ซึ่งหลายๆ ประเทศให้ความสำคัญ จึงมีการลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 (United Nations Convention against Corruption-UNCAC,2003) ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมทั่วโลก เพราะการคอร์รัปชันในยุคทุนนิยมนั้นจะมีการพัฒนารูปแบบ และกระบวนการที่แยบยลในระดับข้ามชาติ มีการยักย้ายถ่ายโอนสินทรัพย์ที่ได้มาโดยมิชอบกันอย่างง่ายดาย
เมื่อเป็นเช่นนี้ประเทศต่างๆ จะกล้าเอาศักดิ์ศรีของประเทศมาปกป้องคนที่ถูกยึดอำนาจเพราะเกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันให้มีการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้อย่างไร แล้วทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงต้องดิ้นรนจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นให้ได้!
“ชินวัตร” ปลุกกระแสรัฐบาลพลัดถิ่น
ทั้งนี้ในการปูดกระแส “รัฐบาลพลัดถิ่น” ของระบอบทักษิณ มีมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สมัยที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน (บิ๊กบัง) หัวหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลทักษิณ กระทั่งมาถึงยุคของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนที่จะมีการยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็มีเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 สมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมาโหมกระพือในทำนองข่มขู่หากกองทัพทำการปฏิวัติ รัฐประหารรัฐบาลชินวัตร ก็จะจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นมาต่อสู้ทันที
เมื่อย้อนมองเหตุการณ์ไปในปี 2553 ที่มีการต่อสู้ระหว่าง นปช.คนเสื้อแดง กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้วิดีโอลิงก์ถึงเวทีการชุมนุมใหญ่ ณ เขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี บอกกับคนเสื้อแดงว่าจะปล่อยให้พี่น้องสู้ตามลำพังได้อย่างไร ถ้ามีการทำปฏิวัติขึ้นมาตัวเขาจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นมา เพราะการปฏิวัติทำให้ประเทศเสียหายล้าหลัง พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศลำบากกันหมด มีสบายกันอยู่ไม่กี่คน จึงปล่อยให้ทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว
ขณะที่ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ในช่วงก่อนการรัฐประหาร พล.ท.มนัส เปาริก เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยออกมาเปิดเผยว่า ทุกฝ่ายก็เปิดหน้ากันออกมาหมดแล้ว ว่าใครต้องการอะไร ทหารจะดำเนินการโดยใช้คำว่าออกมาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยแทนการปฏิวัติ ซึ่งจะเป็นไปตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เคยพูดไว้ ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็จะไม่หนี แต่จะไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น และหากกองทัพทำเมื่อไร กองทัพตายเมื่อนั้น จบเกมไม่มีถอย เราประกาศเอาไว้แล้วว่าจะไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่มาจาก 2 รูปแบบคือ 1. ใช้กำลังทหาร 2. ให้อำนาจศาลและองค์กรอิสระ ทั้ง 2 อย่างนี้จะไม่ยอมทั้งสิ้น
แต่ที่ชัดเจนที่สุดก็คือการออกมาให้สัมภาษณ์ เอบีซี นิวส์ สื่อดังของออสเตรเลียของ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความชื่อดังชาวแคนาดา แห่งสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ พาร์ทเนอร์ส ซึ่งรับจ้างเป็น “ที่ปรึกษากฎหมาย” ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มคนเสื้อแดง ออกมาให้ข่าวว่าสองพี่น้องตระกูลชินวัตรมีแผนตั้ง “รัฐบาลพลัดถิ่น” ในต่างแดน หลังเกิดการรัฐประหารที่ไม่ชอบธรรมที่นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ล่าสุด นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ออกมาปูดข่าวย้ำอีกว่าเตรียมตั้งองค์กรพลัดถิ่นในประเทศใดประเทศหนึ่งมีเป้าหมายต่อต้านคณะรัฐประหารที่เข้ามาโค่นล้มอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เพื่อปูทางไปสู่การตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในไม่ช้านี้
อ่านต่อ: http://www.muslimvoicetv.com/ncontent/news.php?nid=15124#ixzz34DPQgybw
สามวาทกรรมที่ทุกคนต้องการค ำตอบ!
โดย สิริอัญญา
วันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2557
คสช.ได้ยึดอำนาจการปกครองอย ่างสันติมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.30 น. และได้สยบแผนการร้ายทั้งหลา ยที่มีการเตรียมการมานานนับ ปีได้สำเร็จ ...
เป็นการยึดอำนาจในสถานการณ์ ที่ยากลำบากที่สุด ยุ่งเหยิงที่สุด และเสี่ยงอันตรายที่สุด แต่ด้วยความปรีชาสามารถของฝ ่ายทหารและด้วยการวางแผนอัน แยบยล จึงทำให้ประเทศไทยของเราสาม ารถผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงครั ้งนี้มาได้
ซึ่งคนไทยจะต้องรู้ว่าการคร ั้งนี้ไม่เพียงแต่นักการเมื องที่เตรียมการก่อเหตุร้ายค รั้งใหญ่ แต่ยังสมรู้ สมคบ และการฉวยโอกาสของต่างชาติท ี่หวังใช้สถานการณ์นี้ทำให้ ประเทศไทยจมลงไปในแผนอุบาทว ์ที่เรียกว่า “ซีเรีย โมเดล”
หลังยึดอำนาจก็ได้มีการแถลง เกี่ยวกับโรดแมปหรือเส้นทาง ปฏิบัติการสามขั้น คือการปรองดอง การปฏิรูปประเทศไทย และการเลือกตั้ง ซึ่งประมาณการระยะเวลาไว้ 15 เดือน และขณะนี้ก็จะเหลือเวลาประม าณ 14 เดือนครึ่งเท่านั้น
หลังจากการแถลงโรดแมปสามขั้ นดังกล่าวแล้ว ก็เกิดวาทะกรรมสำคัญยิ่งสาม วาทกรรม และเป็นสามวาทกรรมที่คนไทยท ั้งผองต้องการคำตอบ
วาทกรรมแรก หัวหน้า คสช. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศต่อประชาชนชาวไทยว่าก ารยึดอำนาจครั้งนี้จะไม่ทำใ ห้เสียของ เหมือนกับการยึดอำนาจปี 2549 ซึ่งหมายความว่าจะไม่ล้มเหล ว จะไม่สูญเปล่า และอาจหมายถึงการทำให้อำนาจ การเมืองสามานย์ไม่สามารถเข ้ามายึดครองประเทศไทยได้อีก ครั้งหนึ่ง ทำให้ประชาชนได้ชื่นอกชื่นใ จกันทั้งประเทศ
วาทกรรมที่สอง เป็นวาทะกรรมของผู้คนในระบอ บทักษิณที่ส่งสารกันอย่างคึ กคักว่า ให้ทุกคนลู่ตามลม รักษาฐานอำนาจและผลประโยชน์ ไว้ให้นานที่สุด อีก 14 เดือนเศษ เมื่อมีการเลือกตั้ งก็จะกลับมามีอำนาจใหม่อีกค รั้งหนึ่งเหมือนปี 2550 และปี 2554
ทำให้คนพวกหนึ่งหัวใจพองโต ในขณะที่คนอีกพวกหนึ่งประหว ั่นพรั่นพรึงว่าหากเหตุการณ ์ซ้ำรอยปี 2549 ก็เห็นทีจะถึงกาลสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์เป็นแน่แท้
วาทกรรมที่สาม เป็นวาทะกรรมที่แสดงความหวา ดหวั่นในมวลหมู่มหาประชาชน หลังจากการยึดอำนาจผ่านไป 2 สัปดาห์แล้ว ไม่มีการยึด อายัดทรัพย์บรรดาเหล่าผู้โก งชาติ ฐานอำนาจทั้งหลายยังเหมือนเ ดิม และผลประโยชน์ทั้งหลายก็ยัง เหมือนเดิม จึงส่งสารถึงกันอย่างกว้างข วางเช่นเดียวกันว่า อีก 14 เดือนเศษข้างหน้าจะต้องออกม าไล่รัฐบาลพานทองแท้อีกครั้ งหนึ่งหรือไม่?
ทั้งสามวาทกรรมนี้ได้ครอบงำ บรรยากาศในบ้านเมืองของเราใ นปัจจุบันนี้อย่างหลีกเลี่ย งไม่ได้ และเป็นวาทกรรมที่คนไทยทุกค นต้องการคำตอบว่าจะเป็นอย่า งไรกันแน่ อนาคตของประเทศชาติและประชา ชาติไทยทั้งผองจะเป็นอย่างไ รกันแน่?
พระบรมศาสดาได้ทรงประกาศพระ ธรรมอันเป็นหลักแก่ชาวพุทธว ่า ผลทั้งหลายย่อมเกิดจากเหตุ ซึ่งหมายความว่าผลบั้นปลายจ ะเป็นฉันใด ย่อมขึ้นอยู่กับเหตุ-ปัจจัย ที่ได้กระทำขึ้นก่อนที่ผลนั ้นจะปรากฏ
หรืออีกนัยหนึ่งก็ทรงแสดงว่ า กรรมทั้งหลายย่อมมีวิบาก คือการกระทำในปัจจุบันนั่นแ ล้วที่จะเป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้เกิดผลในอนาคต จึงทรงแสดงย้ำว่าเราทั้งหลา ยมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ทำกรรมอันใดไว้ย่อมได้รับผล แห่งกรรมนั้น ทำกรรมดีย่อมได้รับผลดี ทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลชั่ว
มันไม่ได้อยู่หรือขึ้นกับกา รกล่าววาทกรรมหรูหรือที่น่า เชื่อถือ หรือที่สามารถโน้มน้าวใจคนไ ด้ว่าเป็นอย่างไร แต่ขึ้นอยู่กับกรรมคือการกร ะทำ ว่าได้กระทำกรรมอันเป็นเหตุ เป็นปัจจัยอันจะนำไปสู่ผลเช ่นใด หากกระทำกรรมอันจะนำไปสู่ผล ตามวาทกรรมใด ผลตามวาทกรรมนั้นก็จะปรากฏข ึ้น เมื่อได้มีการกระทำกรรมอันเ ป็นเหตุเป็นปัจจัยนั้นไปจนถ ึงเวลาที่ผลแห่งกรรมนั้นปรา กฏ หรือแสดงเป็นวิบากให้ทุกคนไ ด้รับผลแห่งกรรม
คสช. และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกระทำกรรมใดจากนี้ไปเพื่อ นำไปสู่ผลที่ว่า การยึดอำนาจครั้งนี้จะไม่ทำ ให้เสียของ
ระบอบทักษิณจะกระทำกรรมใดจา กนี้ไปเพื่อนำไปสู่ผลที่ว่า อีก 14 เดือนเศษข้างหน้าเมื่อมีการ เลือกตั้ง ก็จะกลับมามีอำนาจอีกครั้งห นึ่ง
สำหรับมวลมหาประชาชนจะกระทำ กรรมใดจากนี้ไป เพื่อจะไม่ทำให้ความห่วงใยแ ละความหวาดหวั่นว่าอีก 14 เดือนเศษข้างหน้าจะต้องออกม าขับไล่รัฐบาลหุ่นของระบอบท ักษิณอีกครั้งหนึ่งหรือไม่ เพราะคนจำนวนมากมีความบอบช้ ำและมีอายุมากขึ้น กระทั่งรำพึงรำพันว่าจะยังม ีเรี่ยวแรงเหลือพอที่จะล้มล ้างรัฐบาลหุ่นเชิดใหม่ได้หร ือไม่? แต่ทว่าสิ่งที่คนไทยทุกคนจะ ต้องตระหนักให้มั่นก็คือ “ชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักด ิ์สิทธิ์" เป็นเรื่องของถิ่นกำเนิดที่ ดำรงอยู่ด้วยหยาดเหงื่อ ชีวิต และสัจธรรม ไม่อาจเข้าครอบครองได้ด้วยค วามรุนแรง โดยปราศจากสติและความยั้งคิ ด
ไม่อาจยึดถือเป็นของส่วนตัว ได้ ผู้ที่ใช้ความรุนแรงโดยปราศ จากแนวทางจะต้องพ่ายแพ้ ผู้ที่ยึดถือเป็นส่วนตัวจะต ้องสูญเสียอำนาจ
เพราะอำนาจเป็นธรรม คืออธิปไตยของปวงชนอันเป็นส ัจธรรมโดยแท้ ที่บัณฑิตพึงทำให้บังเกิดขึ ้น เพื่อความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสันติสุขของราษฎร”
เพื่อนเอย "ยามใดที่จิตใจหวาดหวั่นหรือ เป็นกังวล เมื่อนั้นจงรำลึกถึงพระสยาม เทวาธิราชว่าแผ่นดินนี้ศักด ิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง ก็จะมีจิตใจที่มั่นคง ดำรงสติมั่น และเป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ท ั้งปวง"!http:// www.paisalvision.com/ content/88-features/ 11676----qq-10-57.html
โดย สิริอัญญา
วันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2557
คสช.ได้ยึดอำนาจการปกครองอย
เป็นการยึดอำนาจในสถานการณ์
ซึ่งคนไทยจะต้องรู้ว่าการคร
หลังยึดอำนาจก็ได้มีการแถลง
หลังจากการแถลงโรดแมปสามขั้
วาทกรรมแรก หัวหน้า คสช. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศต่อประชาชนชาวไทยว่าก
วาทกรรมที่สอง เป็นวาทะกรรมของผู้คนในระบอ
ทำให้คนพวกหนึ่งหัวใจพองโต ในขณะที่คนอีกพวกหนึ่งประหว
วาทกรรมที่สาม เป็นวาทะกรรมที่แสดงความหวา
ทั้งสามวาทกรรมนี้ได้ครอบงำ
พระบรมศาสดาได้ทรงประกาศพระ
หรืออีกนัยหนึ่งก็ทรงแสดงว่
มันไม่ได้อยู่หรือขึ้นกับกา
คสช. และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกระทำกรรมใดจากนี้ไปเพื่อ
ระบอบทักษิณจะกระทำกรรมใดจา
สำหรับมวลมหาประชาชนจะกระทำ
ไม่อาจยึดถือเป็นของส่วนตัว
เพราะอำนาจเป็นธรรม คืออธิปไตยของปวงชนอันเป็นส
เพื่อนเอย "ยามใดที่จิตใจหวาดหวั่นหรือ
ไทยทั้งผองต้องรับมือ “ซีเรีย โมเดล”
By Paisal Puechmongkol โดย สิริอัญญา วันอังคารที่ 3 มิถุนายน 2557
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีการจัดชุมนุมของพวกกวนเมืองหรือที่เรียกกันว่าพวกผีสันติภาพ อ้างเรียกร้องประชาธิปไตย ต้านการรัฐประหาร แต่ไม่ต้านการก่อการร้าย ไม่ต้านการโกงบ้านกินเมือง ไม่ต้านการทำลายประเทศไทย แล...ะเป็นส่วนหนึ่งของการทำลายประเทศไทยในรูปแบบใหม่ หรือที่เรียกว่าซีเรีย โมเดล
กปปส. นำประชาชนผู้รักชาติชุมนุมต่อเนื่องมาเป็นเวลาถึง 7 เดือน มีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมเดินขบวนในกรุงเทพฯ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 6 ล้านคน แต่ไม่มี “ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ” ยกขบวนมาทำข่าวเลย ที่เสนอข่าวออกไปต่างประเทศบ้างก็กล่าวหาว่าร้ายว่าประชาชนเรียกร้องเผด็จการ
แต่พอกลุ่มผีประชาธิปไตยจัดชุมนุม 30 คน 50 คน อย่างมากไม่เกิน 300 คน กลับยกขบวนนับร้อย อ้างตนเป็นผู้สื่อข่าวประเทศต่าง ๆ มาทำข่าว แล้วรายงานข่าวเชิงลบต่อประเทศไทย สร้างภาพใหม่อันเป็นเท็จว่าคนไทยนับแสนนับล้านต่อต้านทหารที่เข้ามากอบกู้สถานการณ์ ก็บอกแล้วว่าแผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง แผนอุบาทว์ชาติชั่วที่ต้องการทำลายประเทศไทย ล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ ยึดครองเป็นประเทศราช ถูกจับได้
คนไทยที่จบการศึกษาจากประเทศในตะวันออกกลางและกลุ่มคนไทยในสหรัฐอเมริกา ได้ตรวจสอบพบแผนการอุบาทว์ชาติชั่วนี้แล้วบอกคนไทยด้วยกันให้ได้รับรู้ว่ามหาอำนาจชาติตะวันตกกำลังคิดอุบาทว์ชาติชั่วกับประเทศไทย ต้องการทำลายประเทศไทย และยึดครองประเทศไทยแบบที่ยึดครองอิรัก ลิเบีย และยูเครนมาแล้ว แต่ที่กำลังทำอยู่ในซีเรียนั้นยังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ได้เปิดโปงขัดขวางอย่างเต็มกำลัง ถึงกระนั้นก็ยังคงเรียกแผนอุบาทว์ชาติชั่วนี้ว่า “ซีเรีย โมเดล”
จากการส่งข่าวคราวของสองแหล่งใหญ่คือกลุ่มคนไทยที่ศึกษาขั้นสูงอยู่ในหลายประเทศในตะวันออกกลาง และกลุ่มคนไทยในสหรัฐอเมริกา สรุปข้อความตรงกันว่า “ซีเรีย โมเดล” คืออะไร ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจ และเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศและทั่วโลกจะต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ จะได้สามัคคีสมานฉันท์กันต่อต้านแผนอุบาทว์ชาติชั่วนี้ และไม่ตกเป็นเครื่องมือของแผนอุบาทว์ชาติชั่วนี้ ตามแบบอย่างที่บรรพบุรุษไทยได้รักษาบ้านรักษาเมืองให้ตกทอดมาถึงรุ่นเรานี้
แผนปฏิบัติการ “ซีเรีย โมเดล” สรุปให้เข้าใจได้ง่าย ๆ อย่างนี้
ขั้นตอนแรก จะปลุกปั่นยุยงผ่านเครือข่ายที่จัดตั้งเอาไว้ก่อนแล้ว ทั้งในมหาวิทยาลัยและในชนบท ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับทุนสนับสนุนมาจากต่างประเทศ แล้วตั้งเป็นขบวนการล้มเจ้า ขบวนการประชาธิปไตยแบบเป็นขี้ข้าต่างชาติ และขบวนการต่อต้านการพัฒนาประเทศ เพื่อให้เครือข่ายเหล่านี้ต่อต้านฝ่ายทหาร และยุยงให้เกิดการปะทะกันขึ้น
ขั้นที่สอง จัดส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่แฝงตัวมาในรูปผู้สื่อข่าวและนักท่องเที่ยว โดยที่แฝงตัวมาในรูปผู้สื่อข่าวนั้นจะส่งข่าวในเชิงลบต่อประเทศไทย ต่อฝ่ายทหาร และขยายผลความรุนแรงให้เกินจริงหลายร้อยเท่าออกไปยังต่างประเทศ แล้วกระจายข่าวไปยังชาวโลก เพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลไทย ฝ่ายทหารไทย ไม่เป็นธรรม ในขณะที่พวกที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวจะศึกษาสภาพเพื่อเตรียมก่อการร้าย ในขั้นตอนนี้จะสร้างภาพลบต่อประเทศไทยและฝ่ายทหารไทยเพื่อปูทางให้แก่การส่งกำลังในรูปแบบต่าง ๆ เข้ามาปฏิบัติการในประเทศไทย โดยอ้างว่าเพื่อมนุษยธรรม
ขั้นที่สาม เมื่อมีการชุมนุมมากขึ้น และเจ้าหน้าที่ก็ป้องกันรักษาความสงบมากขึ้น ก็จะยุยงให้ปะทะกันและฉวยโอกาสทำร้ายทั้งประชาชนไทยและเจ้าหน้าที่ โดยจะยิงถล่มใส่ทั้งเจ้าหน้าที่เพื่อให้เข้าใจว่าประชาชนยิงเจ้าหน้าที่และยิงประชาชน แล้วสร้างข่าวว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ยิงประชาชน จากนั้นก็เกิดกระบวนการแห่ศพและเกิดเป็นการจลาจลเข่นฆ่ากันระหว่างไทยด้วยกัน แล้วมีการขยายข่าวนี้ออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น ส่วนในประเทศก็จะขยายการปลุกระดมให้ออกมาต่อต้านมากขึ้น
ขั้นที่สี่ จะเป็นขั้นการส่งกองกำลังรับจ้างเข้ามาช่วยฝ่ายต่อต้านทำสงครามกลางเมืองกับเจ้าหน้าที่ ในขณะเดียวกัน ก็จะสร้างข่าวลบหนักขึ้นว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และข่าวความสำเร็จลุกคืบของกองกำลังฝ่ายต่อต้าน จากนั้นก็จะขยายผลให้เป็นสงครามกลางเมืองที่ใหญ่ขึ้น
ขั้นที่ห้า จะเป็นขั้นเสนอเรื่องต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ส่งกองกำลังเข้ามาปราบปรามรัฐบาลและทหาร จากนั้นก็ตั้งรัฐบาลชั่วคราวจากหุ่นเชิดที่เตรียมไว้ แล้วจัดการเลือกตั้งแบบเส็งเคร็งเพื่อให้พวกขบวนการหุ่นเชิดเป็นรัฐบาล เป็นการยึดครองประเทศไทยโดยหุ่นเชิด
ทั้งห้าขั้นนั้นเป็นสูตรสำเร็จที่ได้ใช้มาแล้วในหลายประเทศในตะวันออกกลาง รวมทั้งยูเครน และวันนี้กำลังจะนำมาใช้กับประเทศไทย และเป็นเรื่องใหญ่ที่กำลังเผชิญหน้าคนไทยทั้งประเทศอยู่ในขณะนี้ และเป็นเรื่องที่ คสช. จะต้องศึกษาทำความเข้าใจให้ถ่องแท้
ซีเรียยังรอดจากการยึดครอง เพราะองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ไม่ยินยอมให้แผนร้ายดังกล่าวประสบความสำเร็จในการยึดครองซีเรีย นั่นเป็นเรื่องที่ คสช. จะต้องทำความเข้าใจและปรับกลยุทธ์ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้บังเกิดประโยชน์สูงสุด ให้ทันท่วงที
สำหรับประชาชนไทยทั่วประเทศและทั่วโลก จะต้องเปิดโปงแผนร้ายให้ประชาชาติไทยได้ทราบและเข้าใจโดยทั่วกัน จากนั้นก็แปรขบวนใหญ่เข้าร่วมต่อต้านแผนการร้ายนี้ และต้องทำให้ชาวโลกประจักษ์ว่าประชาชนคือทหาร ทหารคือประชาชน คนไทยทุกสีคือพี่น้องกัน เราจะร่วมกันพิทักษ์รักษาบ้านเมืองของเราจนถึงที่สุด!
http://www.paisalvision.com/content/88-features/11634----q--q-3-57.html
ภาพจากเสธน้ำเงินครับ นักปั้นข่าวฝรั่งไม่ใช่ผู้ส ื่อข่าว แต่เป็นพวกสร้างสงครามกลางเ มืองเพื่อยึดครองประเทศไทย พวกมันปั้นข่าวออกไปให้ร้า่ ยประเทศไทยว่าเป็นสงครามกลา งเมือง ถ้าคนมาชุมนุมมากก็จะเกิดกา รยิงทั้งเจ้าหน้าที่และประช าชน โดยมีไอ้โม่งที่แฝงตัวมาเป็ นคนยิง จนเป็นสงครามกลางเมืองแล้วม ันก็ส่งทหารมายึดครองประเทศ ของเราเหมือนลิเบีย ซีเรีย ยูเครน แต่คนไทยรู้ทันซีเรียโมเดล ดังนั้นทั้งเจ้าหน้าที่และป ระชาชนจึงติดตามพวกนักปั้นข ่าวเหล่านี้อย่างใกล้ชิดพอม ีหลักฐานก็ให้ออกนอกประเทศไ ป การที่คนไทยจับตาใกล้ชิดมัน จึงทำอะไรไม่สะดวก กปปส. ก็ตั้งกลุ่มติดตามพวกนี้แล้ ว พวกที่ถูกผีสันติภาพหลอกพอร ู้ทันก็ไม่เอาด้วยเพราะพอรู ้แผนร้าย คนไทยก็รักชาติกัน ทุกคน หลักฐานที่เสธน้ำเงินเอามาโ พสจึงเป็นหลักฐานสำคัญ ช่วยกันแฉมันครับ
ระบอบทักษิณลับลวงพรางแผนแกล้งแพ้รอโอกาสคืนชีพ?
หลายคนตั้งข้อสังเกตุถึงความเคลื่อนไหวที่เงียบผิดปกติวิสัยของนักโทษชายแม้วและเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่ยกธงขาวดื้อๆอย่างง่ายดายและพร้อมที่จะเข้าร่วมขบวนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)โดยเฉพาะนายจตุ...พร หรพมพันธุ์ ประธานเสื้อแดง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ อดีตรมช.พาณิชย์ เลขาธิการคนเสื้อแดง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ(อพปช.) นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร หรือแม้แต่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์และล่าสุดนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่
ก่อนหน้าเกิดการรัฐประหารโดยคสช.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงนำโดยนายจตุพร รวมทั้งแกนนำพรรคเพื่อไทยต่างประกาศแข้งกร้าวว่าหากมีการรัฐประหารสาวกระบอบทักษิณทั่วประเทศพร้อมลุกฮือออกมาต่อสู้ขั้นแตกหักทันที ถึงกับขู่จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธที่จะออกมาต้านการรัฐประหาร รวมทั้งแนวคิดการแยกภาคอีสานและภาคเหนือเป็นรัฐอิสระ หรือคิดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น แต่พอเกิดรัฐประหารคสช.ได้ควบคุมตัวแกนนำเสื้อแดงหลายคนไปสงบสติอารมย์และหลังได้รับการปล่อยตัวบรรดาแกนนำเสื้อแดงกลับยอมแพ้อย่างง่ายดายผิดปกติโดยขอยุติบทบาททางการเมืองช่วงนี้และถึงกับยอมร่วมขบวนการสมานฉันท์ตามนโยบายคสช. แม้ล่าสุดจะมีข่าวที่ถูกปล่อยออกมาว่า นักโทษชายแม้ว สั่งให้เหล่าทาสรับใช้ในพรรคเพื่อไทยยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงนี้เพราะเกรงจะกระทบต่อธุรกิจและคนในตระกูลชินวัตร
แต่ก็มีข่าวอีกกระแสหนึ่งจากแกนนำในพรรคเพื่อไทยบางคนระบุว่า นักโทษชายแม้ว สั่งให้บรรดาสมุนบริวารระบอบทักษิณทั้งหลายให้ยอมกลืนเลือดทำตัวลู่ตามลมยอมตามอำนาจ คสช.ไปก่อนเพื่อรอโอกาสฟื้นระบอบทักษิณกลับมายึดครองประเทศอีกครั้งโดยเป้าหมายอยู่ที่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในอีกราว 15 เดือนข้างหน้า
แผนลับลวงพลางยอมกลืนเลือดชั่วคราวของระบอบทักษิณก็ด้วยความหวังว่า ถึงอย่างไร คสช. ก็ต้องพ้นจากอำนาจและมีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะเป็นโอกาสให้พรรคระบอบทักษิณรอการเอาชนะการเลือกตั้งจนสามารถกลับมาเป็นรัฐบาลอย่างถูกต้องชอบธรรมอีกครั้งด้วยปัจจัยหลายประการคือ
1. อาศัยการชูประเด็นสร้างกระแสประชาธิปไตยต้านรัฐประหารเป็นจุดขายในการหาเสียงเพื่อสร้างเรียกคะแนนอย่างถล่มทลาย
2. อาศัยซากเดนระบอบทักษิณที่ยังหลงเหลืออยู่อีกไม่น้อยที่ฝังตัวในหน่วยราชการต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรสีกากี และกระทรวงมหาดไทยช่วยให้พรรคระบอบทักษิณชนะเลือกตั้ง
3. อาศัยเงินที่มีอยู่มหาศาลซื้อพรรคการเมือง กลุ่มอดีต ส.ส.ที่มีคะแนนเสียงดีให้ได้ได้มากที่สุดเพื่อเป็นหลักประกันในชัยชนะ
4. อาศัยฐานคะแนนของระบอบทักษิณและเครือข่ายคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินที่เชื่อว่ายังเหนียวแน่นในภาคอีสานและภาคเหนือ รวมทั้งหลายจังหวัดภาคเกลาง
เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้คือโอกาสสำคัญสำหรับระบอบทักษิณที่จะกลับมายึดครองประเทศอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ คสช.และประชาชนทั้งประเทศต้องรู้จักสรุปบทเรียนว่า หากระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์อันชั่วร้ายกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ในที่สุดก็หนีไม่พ้นชนวนนำไปสู่วงจรอุบาทว์ซ้ำซากนั่นคือการลุกฮือขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณจนกลายเป็นวิกฤติสร้างความหายนะแก่ชาติบ้านเมืองและในที่สุดก็หนีไม่พ้นเกิดรัฐประหารอย่างไม่รู้จบ
แนวหน้า วันพุธ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557
หลายคนตั้งข้อสังเกตุถึงความเคลื่อนไหวที่เงียบผิดปกติวิสัยของนักโทษชายแม้วและเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่ยกธงขาวดื้อๆอย่างง่ายดายและพร้อมที่จะเข้าร่วมขบวนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)โดยเฉพาะนายจตุ...พร หรพมพันธุ์ ประธานเสื้อแดง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ อดีตรมช.พาณิชย์ เลขาธิการคนเสื้อแดง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ(อพปช.) นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร หรือแม้แต่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์และล่าสุดนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่
ก่อนหน้าเกิดการรัฐประหารโดยคสช.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงนำโดยนายจตุพร รวมทั้งแกนนำพรรคเพื่อไทยต่างประกาศแข้งกร้าวว่าหากมีการรัฐประหารสาวกระบอบทักษิณทั่วประเทศพร้อมลุกฮือออกมาต่อสู้ขั้นแตกหักทันที ถึงกับขู่จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธที่จะออกมาต้านการรัฐประหาร รวมทั้งแนวคิดการแยกภาคอีสานและภาคเหนือเป็นรัฐอิสระ หรือคิดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น แต่พอเกิดรัฐประหารคสช.ได้ควบคุมตัวแกนนำเสื้อแดงหลายคนไปสงบสติอารมย์และหลังได้รับการปล่อยตัวบรรดาแกนนำเสื้อแดงกลับยอมแพ้อย่างง่ายดายผิดปกติโดยขอยุติบทบาททางการเมืองช่วงนี้และถึงกับยอมร่วมขบวนการสมานฉันท์ตามนโยบายคสช. แม้ล่าสุดจะมีข่าวที่ถูกปล่อยออกมาว่า นักโทษชายแม้ว สั่งให้เหล่าทาสรับใช้ในพรรคเพื่อไทยยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงนี้เพราะเกรงจะกระทบต่อธุรกิจและคนในตระกูลชินวัตร
แต่ก็มีข่าวอีกกระแสหนึ่งจากแกนนำในพรรคเพื่อไทยบางคนระบุว่า นักโทษชายแม้ว สั่งให้บรรดาสมุนบริวารระบอบทักษิณทั้งหลายให้ยอมกลืนเลือดทำตัวลู่ตามลมยอมตามอำนาจ คสช.ไปก่อนเพื่อรอโอกาสฟื้นระบอบทักษิณกลับมายึดครองประเทศอีกครั้งโดยเป้าหมายอยู่ที่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในอีกราว 15 เดือนข้างหน้า
แผนลับลวงพลางยอมกลืนเลือดชั่วคราวของระบอบทักษิณก็ด้วยความหวังว่า ถึงอย่างไร คสช. ก็ต้องพ้นจากอำนาจและมีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะเป็นโอกาสให้พรรคระบอบทักษิณรอการเอาชนะการเลือกตั้งจนสามารถกลับมาเป็นรัฐบาลอย่างถูกต้องชอบธรรมอีกครั้งด้วยปัจจัยหลายประการคือ
1. อาศัยการชูประเด็นสร้างกระแสประชาธิปไตยต้านรัฐประหารเป็นจุดขายในการหาเสียงเพื่อสร้างเรียกคะแนนอย่างถล่มทลาย
2. อาศัยซากเดนระบอบทักษิณที่ยังหลงเหลืออยู่อีกไม่น้อยที่ฝังตัวในหน่วยราชการต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรสีกากี และกระทรวงมหาดไทยช่วยให้พรรคระบอบทักษิณชนะเลือกตั้ง
3. อาศัยเงินที่มีอยู่มหาศาลซื้อพรรคการเมือง กลุ่มอดีต ส.ส.ที่มีคะแนนเสียงดีให้ได้ได้มากที่สุดเพื่อเป็นหลักประกันในชัยชนะ
4. อาศัยฐานคะแนนของระบอบทักษิณและเครือข่ายคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินที่เชื่อว่ายังเหนียวแน่นในภาคอีสานและภาคเหนือ รวมทั้งหลายจังหวัดภาคเกลาง
เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้คือโอกาสสำคัญสำหรับระบอบทักษิณที่จะกลับมายึดครองประเทศอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ คสช.และประชาชนทั้งประเทศต้องรู้จักสรุปบทเรียนว่า หากระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์อันชั่วร้ายกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ในที่สุดก็หนีไม่พ้นชนวนนำไปสู่วงจรอุบาทว์ซ้ำซากนั่นคือการลุกฮือขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณจนกลายเป็นวิกฤติสร้างความหายนะแก่ชาติบ้านเมืองและในที่สุดก็หนีไม่พ้นเกิดรัฐประหารอย่างไม่รู้จบ
แนวหน้า วันพุธ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557