ความแตก..รัฐบาลยิ่งลักษณ์
"หากินกับน้ำตา" ใครมีส่วน คสช..เอาให้หนัก
"ยาวแค่ไหนก็ต้องอ่าน เมื่อย้ำลดตอผุด"
แกะดำทำธุรกิจ blacksheep กับ Aree Sinchai และ Thannicha Soontornsittirat
รวมรายการความช่วยเหลือจากต่างชาติ ทำไมรัฐไม่บอกประชาชน
จีนบริจาคเงิน 50 ล้านบาท เรือ 128 ลำ เครื่องกรองน้ำและถังบรรจุน้ำ ส่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงชลประทานนาย Liu Ning พร้อมเจ้าหน้าที่เทคนิคมาให้คำปรึกษา
บริจาคครั้งที่ 2 เป็นเรือ 20 ลำ เครื่องกรองน้ำ 30 ชุด เสื้อชูชีพ 20,000 ตัว เต๊นท์ 1,300 หลัง ถุงทราย 8,000 ถุง
บริจาคครั้งที่ 3 เป็นเครื่องสูบน้ำ 20 เครื่อง
บริจาคครั้งที่ 4 เป็นเรือ 165 ลำ เครื่องกรองน้ำ 120 ชิ้น ถุงทราย 26,000 ถุง ไฟฉายพลังงานแสงอาทิตย์ 5,008 อัน
บริจาคครั้งที่ 5 จีนส่งความช่วยเหลือกู้ภัยน้ำท่วมไทยเพิ่มเติมอีก 150 ล้านบาท หลังจากที่ได้ส่งความช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่รัฐบาลไทยไปแล้วก่อนหน้านี้ 90 ล้านบาท พร้อมเรือขนาดใหญ่ 64 ลำ และเครื่องกรองน้ำดื่มจำนวนมาก
บริจาคครั้งที่ 6 เครื่องสูบน้ำขนาดต่างๆ 200 เครื่อง
ญี่ปุ่น บริจาคเงิน 12 ล้านบาท
บริจาคครั้งที่ 2 เป็นสิ่งของมูลค่า 10 ล้านบาท ประกอบด้วยสุขาเคลื่อนที่ 240 หน่วย เครื่องยนต์เรือ 200 เครื่อง เสื้อชูชีพ 450 ชุด พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ 2 คณะ เพื่อสำรวจสถานการณ์ในพื้นที่เพื่อประกอบการพิจารณาความช่วยเหลือในการฟื้นฟูและป้องกันภัยในอนาคต
Honda บริจาคเงิน 112 ล้านบาท
อินโดนิเซียบริจาคเงิน 95.5 ล้านบาท
EU (European Union) สหภาพยุโรป
บริจาคเงิน 60 ล้านบาท มอบให้สภากาชาดไทย
บาห์เรนบริจาคเงิน 60 ล้านบาท
มาเลเซียบริจาคเงิน 30.9 ล้านบาท
ออสเตรเลียบริจาคเงิน 16 ล้านบาท
"หากินกับน้ำตา" ใครมีส่วน คสช..เอาให้หนัก
"ยาวแค่ไหนก็ต้องอ่าน เมื่อย้ำลดตอผุด"
แกะดำทำธุรกิจ blacksheep กับ Aree Sinchai และ Thannicha Soontornsittirat
รวมรายการความช่วยเหลือจากต่างชาติ ทำไมรัฐไม่บอกประชาชน
จีนบริจาคเงิน 50 ล้านบาท เรือ 128 ลำ เครื่องกรองน้ำและถังบรรจุน้ำ ส่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงชลประทานนาย Liu Ning พร้อมเจ้าหน้าที่เทคนิคมาให้คำปรึกษา
บริจาคครั้งที่ 2 เป็นเรือ 20 ลำ เครื่องกรองน้ำ 30 ชุด เสื้อชูชีพ 20,000 ตัว เต๊นท์ 1,300 หลัง ถุงทราย 8,000 ถุง
บริจาคครั้งที่ 3 เป็นเครื่องสูบน้ำ 20 เครื่อง
บริจาคครั้งที่ 4 เป็นเรือ 165 ลำ เครื่องกรองน้ำ 120 ชิ้น ถุงทราย 26,000 ถุง ไฟฉายพลังงานแสงอาทิตย์ 5,008 อัน
บริจาคครั้งที่ 5 จีนส่งความช่วยเหลือกู้ภัยน้ำท่วมไทยเพิ่มเติมอีก 150 ล้านบาท หลังจากที่ได้ส่งความช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่รัฐบาลไทยไปแล้วก่อนหน้านี้ 90 ล้านบาท พร้อมเรือขนาดใหญ่ 64 ลำ และเครื่องกรองน้ำดื่มจำนวนมาก
บริจาคครั้งที่ 6 เครื่องสูบน้ำขนาดต่างๆ 200 เครื่อง
ญี่ปุ่น บริจาคเงิน 12 ล้านบาท
บริจาคครั้งที่ 2 เป็นสิ่งของมูลค่า 10 ล้านบาท ประกอบด้วยสุขาเคลื่อนที่ 240 หน่วย เครื่องยนต์เรือ 200 เครื่อง เสื้อชูชีพ 450 ชุด พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ 2 คณะ เพื่อสำรวจสถานการณ์ในพื้นที่เพื่อประกอบการพิจารณาความช่วยเหลือในการฟื้นฟูและป้องกันภัยในอนาคต
Honda บริจาคเงิน 112 ล้านบาท
อินโดนิเซียบริจาคเงิน 95.5 ล้านบาท
EU (European Union) สหภาพยุโรป
บริจาคเงิน 60 ล้านบาท มอบให้สภากาชาดไทย
บาห์เรนบริจาคเงิน 60 ล้านบาท
มาเลเซียบริจาคเงิน 30.9 ล้านบาท
ออสเตรเลียบริจาคเงิน 16 ล้านบาท
เกาหลีใต้บริจาคเงิน 6 ล้านบาท
บริจาคครั้งที่ 2 เป็นถุงบรรจุทราย 100,000 ถุง
บริจาคครั้งนี้ 3 เป็นเครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่ที่ผลิตน้ำดื่มให้กับคน 3,000 คนได้
อินเดียบริจาคเงิน 6 ล้านบาท
รัฐบาลเยอรมันบริจาคเงิน 1.7 ล้านบาทเพื่อซื้อเรือกู้ภัยและสิ่งของบรรเทาทุกข์ มอบที่นอนและผ้าห่มให้ศูนย์พักพิง มธ.ศูนย์รังสิต
บริจาคครั้งที่ 2 เป็นเงิน 4.2 ล้านบาทพร้อมส่งนักโบราณคดีเพื่อให้ความช่วยเหลือในการบูรณะโบราณสถานในอยุธยา
สหรัฐอเมริกาบริจาค 3 ล้านบาทให้กาชาดไทย เสนอส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าช่วยเหลือ ส่ง C-130 พร้อมและสอบทรายและทีมช่วยเหลือด้านเทคนิคจาก USMC ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน USS George Washington เข้ามาลอยลำที่อ่าวไทยเพื่อเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือ
สิงคโปร์บริจาคเงิน 2.4 ล้านบาท
องค์กร Mercy Relief จากสิงคโปร์มอบอาหาร 70,000 ถุง เรือกู้ภัย 12 ลำ
บริจาคครั้งที่ 2 รัฐบาลสิงคโปร์บริจาคเต๊นท์ 150 หลัง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 100 เครื่อง
นิวซีแลนด์บริจาคเงิน 2.4 ล้านบาท
เดนมาร์ค เดนมาร์คบริจาคเงิน 1.6 ล้านบาท
ลาวบริจาคเงิน 1.5 ล้านบาท
สวิสเซอร์แลนด์บริจาคเงิน 1 ล้านบาท
บริจาคครั้งที่ 2 เสนอบริจาคเงินเพิ่มเติม น้ำสะอาด และอาหาร รวมถึงการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค โดยเฉพาะการปรับปรุงเส้นทางคมนาคมหลังภัยพิบัติ และการจั?ดการทรัพยากรน้ำ
อิสราเอลเสนอให้คำแนะนำการจัดการน้ำ บริจาคครั้งที่ 2 เป็นอาหารแห้ง 300 ถุงและสิ่งของช่วยเหลือมูลค่า 3 แสนบาท
เนเธอร์แลนด์ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมาช่วย
บังคลาเทศ บริจาคเงินให้รัฐบาลไทย ช่วยเหลือน้ำท่วม 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์บริจาคเงินให้รัฐบาลไทย ช่วยเหลือน้ำท่วม 50 ล้านบาท บริจาคเรือกู้ภัย 350 ลำ ส่งความช่วยเหลือลงพื้นที่ในนามมูลนิธิ Goodwill Foundation โดยองค์ประธานมูลนิธิ His Royal Highness Prince Mohammed bin Fahd Al Saud bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum เสด็จมาช่วยผู้ประสบภัยด้วยพระองค์เอง ตั้งแต่พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนถึงกรุงเทพฯ
ประเทศสหพันธรัฐรัสเซียบริจาคเงินช่วยเหลือน้ำท่วมผ่านรัฐบาลไทย 60 ล้านบาท น้ำดื่มจำนวน 1,500,000 ขวด เครื่องกรองน้ำฆ่าเชื้อโรคพลังแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ 500 เครื่อง เต๊นท์ 1,500 หลัง เรือกู้ภัย 300 ลำ พร้อมจะส่งความช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลดในภายหลังด้วย
UN Office for the Coordination of Humanitarian Affairs (UN OCHA)
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติหรือ UN Office for the Coordination of Humanitarian Affairs (UN OCHA) เสนอความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ เช่น การประสานความช่วยเหลือ การบริหารจัดการข้อมูลและรายงานต่างๆ การให้ข้อแนะนำเรื่องการฟื้นฟู และสังคมสงเคราะห์
International Organization for Migration
ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติเพื่อการย้ายถิ่นฐานเสนอให้คำปรึกษาเรื่องการจัดตั้งศูนย์อพยพ และมอบของที่จำเป็นเช่น เรือ เครื่องสูบน้ำ และรถบรรทุก
World Food Program
โครงการอาหารโลก (World Food Program ) ส่งเจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำเรื่องการจัดการอาหาร ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
คนไทยต่างแดน กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับเงินบริจาค จากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก และชุมชนไทยในต่างประเทศ จำนวน 4 ล้านบาท
เหล่านี้คือ ความช่วยเหลือที่ต่างชาติส่งมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนคนไทยที่ประสบภัยน้ำท่วม ทำไมรัฐไม่บอกหรือชี้แจงให้ปชช.ทราบว่าได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศอย่างไร จำนวนเท่าไร.??
credit คุณ ชวิน ผู้เข้าร่วมแกะดำครับ
บริจาคครั้งที่ 2 เป็นถุงบรรจุทราย 100,000 ถุง
บริจาคครั้งนี้ 3 เป็นเครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่ที่ผลิตน้ำดื่มให้กับคน 3,000 คนได้
อินเดียบริจาคเงิน 6 ล้านบาท
รัฐบาลเยอรมันบริจาคเงิน 1.7 ล้านบาทเพื่อซื้อเรือกู้ภัยและสิ่งของบรรเทาทุกข์ มอบที่นอนและผ้าห่มให้ศูนย์พักพิง มธ.ศูนย์รังสิต
บริจาคครั้งที่ 2 เป็นเงิน 4.2 ล้านบาทพร้อมส่งนักโบราณคดีเพื่อให้ความช่วยเหลือในการบูรณะโบราณสถานในอยุธยา
สหรัฐอเมริกาบริจาค 3 ล้านบาทให้กาชาดไทย เสนอส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าช่วยเหลือ ส่ง C-130 พร้อมและสอบทรายและทีมช่วยเหลือด้านเทคนิคจาก USMC ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน USS George Washington เข้ามาลอยลำที่อ่าวไทยเพื่อเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือ
สิงคโปร์บริจาคเงิน 2.4 ล้านบาท
องค์กร Mercy Relief จากสิงคโปร์มอบอาหาร 70,000 ถุง เรือกู้ภัย 12 ลำ
บริจาคครั้งที่ 2 รัฐบาลสิงคโปร์บริจาคเต๊นท์ 150 หลัง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 100 เครื่อง
นิวซีแลนด์บริจาคเงิน 2.4 ล้านบาท
เดนมาร์ค เดนมาร์คบริจาคเงิน 1.6 ล้านบาท
ลาวบริจาคเงิน 1.5 ล้านบาท
สวิสเซอร์แลนด์บริจาคเงิน 1 ล้านบาท
บริจาคครั้งที่ 2 เสนอบริจาคเงินเพิ่มเติม น้ำสะอาด และอาหาร รวมถึงการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค โดยเฉพาะการปรับปรุงเส้นทางคมนาคมหลังภัยพิบัติ และการจั?ดการทรัพยากรน้ำ
อิสราเอลเสนอให้คำแนะนำการจัดการน้ำ บริจาคครั้งที่ 2 เป็นอาหารแห้ง 300 ถุงและสิ่งของช่วยเหลือมูลค่า 3 แสนบาท
เนเธอร์แลนด์ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมาช่วย
บังคลาเทศ บริจาคเงินให้รัฐบาลไทย ช่วยเหลือน้ำท่วม 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์บริจาคเงินให้รัฐบาลไทย ช่วยเหลือน้ำท่วม 50 ล้านบาท บริจาคเรือกู้ภัย 350 ลำ ส่งความช่วยเหลือลงพื้นที่ในนามมูลนิธิ Goodwill Foundation โดยองค์ประธานมูลนิธิ His Royal Highness Prince Mohammed bin Fahd Al Saud bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum เสด็จมาช่วยผู้ประสบภัยด้วยพระองค์เอง ตั้งแต่พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนถึงกรุงเทพฯ
ประเทศสหพันธรัฐรัสเซียบริจาคเงินช่วยเหลือน้ำท่วมผ่านรัฐบาลไทย 60 ล้านบาท น้ำดื่มจำนวน 1,500,000 ขวด เครื่องกรองน้ำฆ่าเชื้อโรคพลังแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ 500 เครื่อง เต๊นท์ 1,500 หลัง เรือกู้ภัย 300 ลำ พร้อมจะส่งความช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลดในภายหลังด้วย
UN Office for the Coordination of Humanitarian Affairs (UN OCHA)
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติหรือ UN Office for the Coordination of Humanitarian Affairs (UN OCHA) เสนอความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ เช่น การประสานความช่วยเหลือ การบริหารจัดการข้อมูลและรายงานต่างๆ การให้ข้อแนะนำเรื่องการฟื้นฟู และสังคมสงเคราะห์
International Organization for Migration
ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติเพื่อการย้ายถิ่นฐานเสนอให้คำปรึกษาเรื่องการจัดตั้งศูนย์อพยพ และมอบของที่จำเป็นเช่น เรือ เครื่องสูบน้ำ และรถบรรทุก
World Food Program
โครงการอาหารโลก (World Food Program ) ส่งเจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำเรื่องการจัดการอาหาร ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
คนไทยต่างแดน กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับเงินบริจาค จากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก และชุมชนไทยในต่างประเทศ จำนวน 4 ล้านบาท
เหล่านี้คือ ความช่วยเหลือที่ต่างชาติส่งมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนคนไทยที่ประสบภัยน้ำท่วม ทำไมรัฐไม่บอกหรือชี้แจงให้ปชช.ทราบว่าได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศอย่างไร จำนวนเท่าไร.??
credit คุณ ชวิน ผู้เข้าร่วมแกะดำครับ
By นักรบ นิรนาม
สื่อมะกันซัด'สาวตรี'กบฏขายชาติ จี้ตอบรับเงินสหรัฐโจมตีรัฐไทย?
นายโทนี่ คาร์ตาลัคซี่ นักวิจัยทางการเมืองในกรุงเทพฯ ชาวอเมริกัน ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คเพจชื่อ “Anthony Cartalucci” ตั้งคำถามต่อ
น.ส.สาวตรี สุขศรี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งถูกทหารเข้าควบคุมตัวเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 5/2557 ลงวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า น.ส.สาวตรีต้องตอบเรื่องไป “Study trip กับ สถานทูตสหรัฐ” ว่าไปทำอะไรที่ไหน อย่างไร นายคาร์ตาลัคซี่ กล่าวว่า ในฐานะ น.ส.สาวตรีที่เรียกตัวเองว่าเป็น “นักวิชาการด้านกฎหมาย” ผู้สามารถชี้ถูกผิดเรื่องกฎหมายไทย และยังเป็นอาจารย์สอนนักศึกษา จึงต้องมีความรับผิดชอบและเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องความโปร่งใสเหมือนกับทุกๆคนในกลุ่มนิติราษฎร์ ต้องเปิดเผยว่าได้รับเงินสนับสนุนจากที่ไหน และไปประเทศใดมาบ้าง ในเรื่องการ “สนับสนุนสิทธิมนุษยชน” เรื่องเหล่านี้ต้องมีคำตอบ ถ้าไม่อยากถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกกบฏขายชาติ
“คนพวกนี้ทำงานเป็นขบวนการที่รับลูกกัน ระหว่าง นิติราษฎร์ กับ ประชาไท เพราะตอนที่บรรณาธิการของเว็บประชาโดนฟ้องเรื่องมาตรา 112 นั้น สาวตรี เป็นหนึ่งในพยานแก้ต่างให้เว็บประชาไทในช่วงที่มีการขึ้นศาลสอบสวน สาวิตรีรู้หรือไม่ว่าประชาไทมีการรับเงินจากต่างชาติ และ รู้สึกอย่างไรที่เรื่อง “การสนับสนุนสิทธิมนุษยชน”ของไทย ได้รับเงินทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านองค์กร NED – National Endowment for Democracy ที่ตั้งตัวเองเป็น องค์กรบริจาคเงินเพื่อประชาธิปไตย หลายล้านบาททุกปี โดยองค์กรนี้ทำงานกับกลุ่มกลุ่มนีโอคอนที่กระหายสงคราม รวมถึงกลุ่มทุนสามานย์ที่ครองโลกอยู่ในตอนนี้”
ก่อนหน้านี้ นายคาร์ตาลัคซี่ ได้โพสต์ข้อความไว้เมื่อวันที่ น.ส.สาวตรีถูกจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า สาวตรี สุขศรี สมาชิกกลุ่มนิติราษฎร์ ที่ถูกจับกุมวันนี้ ได้รับเงินสนับสนุนจากสถานทูตสหรัฐฯให้ไป “Study Trip” เรื่อง Human Rights ซึ่งมีพฤติกรรมเดียวกับ ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่รับเงินสนับสนุนจากอเมริกา
คนพวกนี้ถือว่าเป็นนักวิชาการจอมปลอมที่อาศัยความเป็นนักวิชาการแต่ทำงานให้กับ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ล็อบบี้ยิสต์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีอาญาหลบหนีการจับกุม โดยใช้ประเด็นสิทธิมนุษยชน โจมตีผู้ต่อต้านระบอบทักษิณ รวมถึงต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทย ทำให้พวกเขาทำงานเป็นขบวนการเดียวกัน เพราะมีแหล่งสนับสนุนจากที่เดียวกัน คือรัฐบาลอมริกา เพื่อให้มาโจมตีไทย
ทั้งนี้ถ้าคุณมีปัญหากับประเทศของคุณ คุณมีสิทธิที่ลุกขึ้นเพื่อต่อต้านได้ แต่ถ้าคุณรับเงินจากต่างประเทศเพื่อมาโจมตีและต่อต้านประเทศของคุณ พฤติกรรมแบบนี้ เขาเรียกว่า “กบฏทรยศแผ่นดิน”
นายโทนี่ คาร์ตาลัคซี่ นักวิจัยทางการเมืองในกรุงเทพฯ ชาวอเมริกัน ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คเพจชื่อ “Anthony Cartalucci” ตั้งคำถามต่อ
น.ส.สาวตรี สุขศรี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งถูกทหารเข้าควบคุมตัวเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 5/2557 ลงวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า น.ส.สาวตรีต้องตอบเรื่องไป “Study trip กับ สถานทูตสหรัฐ” ว่าไปทำอะไรที่ไหน อย่างไร นายคาร์ตาลัคซี่ กล่าวว่า ในฐานะ น.ส.สาวตรีที่เรียกตัวเองว่าเป็น “นักวิชาการด้านกฎหมาย” ผู้สามารถชี้ถูกผิดเรื่องกฎหมายไทย และยังเป็นอาจารย์สอนนักศึกษา จึงต้องมีความรับผิดชอบและเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องความโปร่งใสเหมือนกับทุกๆคนในกลุ่มนิติราษฎร์ ต้องเปิดเผยว่าได้รับเงินสนับสนุนจากที่ไหน และไปประเทศใดมาบ้าง ในเรื่องการ “สนับสนุนสิทธิมนุษยชน” เรื่องเหล่านี้ต้องมีคำตอบ ถ้าไม่อยากถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกกบฏขายชาติ
“คนพวกนี้ทำงานเป็นขบวนการที่รับลูกกัน ระหว่าง นิติราษฎร์ กับ ประชาไท เพราะตอนที่บรรณาธิการของเว็บประชาโดนฟ้องเรื่องมาตรา 112 นั้น สาวตรี เป็นหนึ่งในพยานแก้ต่างให้เว็บประชาไทในช่วงที่มีการขึ้นศาลสอบสวน สาวิตรีรู้หรือไม่ว่าประชาไทมีการรับเงินจากต่างชาติ และ รู้สึกอย่างไรที่เรื่อง “การสนับสนุนสิทธิมนุษยชน”ของไทย ได้รับเงินทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านองค์กร NED – National Endowment for Democracy ที่ตั้งตัวเองเป็น องค์กรบริจาคเงินเพื่อประชาธิปไตย หลายล้านบาททุกปี โดยองค์กรนี้ทำงานกับกลุ่มกลุ่มนีโอคอนที่กระหายสงคราม รวมถึงกลุ่มทุนสามานย์ที่ครองโลกอยู่ในตอนนี้”
ก่อนหน้านี้ นายคาร์ตาลัคซี่ ได้โพสต์ข้อความไว้เมื่อวันที่ น.ส.สาวตรีถูกจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า สาวตรี สุขศรี สมาชิกกลุ่มนิติราษฎร์ ที่ถูกจับกุมวันนี้ ได้รับเงินสนับสนุนจากสถานทูตสหรัฐฯให้ไป “Study Trip” เรื่อง Human Rights ซึ่งมีพฤติกรรมเดียวกับ ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่รับเงินสนับสนุนจากอเมริกา
คนพวกนี้ถือว่าเป็นนักวิชาการจอมปลอมที่อาศัยความเป็นนักวิชาการแต่ทำงานให้กับ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ล็อบบี้ยิสต์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีอาญาหลบหนีการจับกุม โดยใช้ประเด็นสิทธิมนุษยชน โจมตีผู้ต่อต้านระบอบทักษิณ รวมถึงต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทย ทำให้พวกเขาทำงานเป็นขบวนการเดียวกัน เพราะมีแหล่งสนับสนุนจากที่เดียวกัน คือรัฐบาลอมริกา เพื่อให้มาโจมตีไทย
ทั้งนี้ถ้าคุณมีปัญหากับประเทศของคุณ คุณมีสิทธิที่ลุกขึ้นเพื่อต่อต้านได้ แต่ถ้าคุณรับเงินจากต่างประเทศเพื่อมาโจมตีและต่อต้านประเทศของคุณ พฤติกรรมแบบนี้ เขาเรียกว่า “กบฏทรยศแผ่นดิน”
บทความนี้ต้องให้เครดิต ดร. สมเกียรติ อ่อนวิมลครับ เมื่อ"ไทยปรับดุลยภาพทางอำนาจใหม่ ทำไมอเมริกาโกรธ"
วันนี้ไปนั่งคุยกับเพื่อนชาวอินเดีย เป็นนักวิจัยยุทธศาสตร์การทหารของประเทศ รู้เยอะเรื่องอเมริกา และจีน
ถ้าอยากรู้เรื่องอเมริกา จีน รัสเซีย ตะวันออกกลางต้องถามอินเดีย
ถ้าอยากรู้ว่าอเมริกาคิดอะไร ทำอะไร ผมจะถามรัสเซีย กับจีน
ถ้าอยากรู้เรื่อง จีน รัสเซีย อ่านงานของอเมริกา
แต่ถ้าจะประเมินว่าเหตุการณ์ภายหน้าจะเป็นอย่างไร ควรวางตัวอย่างไร ฟังสิงคโปร์ไว้ดี ๆ ไม่เคยเสียเปรียบใคร ไม่เคยทำอะไรให้ใครฟรี รู้เรื่องของทุกประเทศ อยากฟังอะไรเว่อร์ๆ พูดเกินฐานะและพลังอำนาจของตนเอง ออสเตรเลีย อียู สุขุม ลุ่มลืก ความคิดแบบคนเอเซีย ฟังจีน
การเปลี่ยนอำนาจในไทย ทำให้อเมริกาหงุดหงิดมาก ฟังจากการแถลงของนายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกลาโหม ถือว่าปากหมามากทีเดียว มันมีเหตุ
1. รัฐบาลอเมริกาเคยออกมาการันตีว่า จะไม่มีการยืดอำนาจในไทย ต้องเสียหน้ามาก เพราะไม่เป็นไปตามนั้น เสียศักดิ์ศรีมหาอำนาจ จืงเอาคืน แรง
2. กฏหมายของเขา จะต้องตัด ระงับความร่วมมือทางการทหาร ตัดเงินไปร้อยล้านบาท เท่ายอดขายร้านเซเว่นหนื่งร้านหนื่งปี แต่แผนงานด้านการทหาร ยุทธศาสตร์ชาติที่สำคัญที่สุดของอเมริกาในเอเซียพังหมด
3. เมื่อนายฮาเกลบอกว่าหนื่งปีครื่งช้าเกินไป หลายคนสงสัยว่าโอบามาจะแสดงแสนยานุภาพกับจีนในปีสองปีนี้แน่นอน ไม่มีไทยก็เหมือนเพลงของคาราบาว รูเบ้อเร่อเลย จีนยิ้มซีครับ
เรื่องประเทศไทยจืงเป็นเรื่องใหญ่ของอเมริกามากๆ ยิ่งนายโอบามาจะต้องหมดวาระในสองปีข้างหน้า เศรษฐกิจคับขันลงทุกที ยิ่งแย่ใหญ่ แผนลับต้องเปลี่ยนหมด
4. นักยุทธศาสตร์ของอเมริกาประเมินว่า ยิ่งตัดความสัมพันธ์กับไทยนานเท่าใด จะเป็นโอกาสให้จีนเข้ามาร่วมมือช่วยไทยทางการทหารมากขื้นเท่านั้น อเมริกาจะห่างออกไปเรื่อยๆ เสียทั้งดุลยภาพเก่า และดุลยภาพใหม่
ในนโยบายปิดล้อมจีนที่เรียกว่า pivot policy นั้น ไทยสำคัญมาก อเมริกามองว่าจีน พม่า กัมพูชาเป็นกลุ่มเดียวกัน จำได้ไหมครับว่ามาดามฮิลลารี่
คลินตันไปเยือนลาวด้วย เพราะลาวอยู่ใกล้กับจีน
5. ในย่านเอเซียที่เป็นพันธมิตรกับอเมริกามายาวนานคือไทย เคยร่วมกันมา แต่กับพันธมิตรใหม่อย่างพม่า ลาว เวียดนาม อินโดนิเซีย มาเลเซีย ท่าทางจะยากมาก ไปกันไม่ถืงไหนหรอก คนเอเซียรู้กันดี ไม่มีไทยระบบเชื่อมโยงขาดหมด
6. พันธมิตรอื่นๆของอเมริกาในย่านนี้ ก็มีญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ ผมเคยอยู่ญี่ปุ่น เพื่อนบอกว่าญี่ปุ่นรบกับใครไม่ได้หรอก มันแน่น แล้วเชื่อมโยงกันทั้งประเทศ ระเบิดลงก็ต้องโดนอะไรสักอย่าง สะเทือนการผลิตทั้งประเทศเกาหลี แค่ยันเกาหลีเหนือให้อยู่ก็ยากมาก ถ้าจะร่วมกับฟิลิปปินส์จะยากเหมือนกัน เพราะมุสลิมเกินครื่งในเขตมินดะเนา ยังรบกันไม่จบ มีสิทธิลุกฮือเมื่อใดก็ได้
7. อเมริกาจัดซ้อมรบกับไทยมาทุกภาคในประเทศร่วม 30 ปี ชื่อ cobra gold เพราะไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์การรบและลอจิสติกส์ที่สำคัญในเอเซีย อเมริการู้ว่าจะใช้ที่ไหนทำอะไร ในสงคราม airsea combine เพื่อต่อสู้กับระบบ A2AD ของจีน สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบัง อุดร นครสวรรค์ สงขลา โคราช เชียงใหม่ ระยอง พิษณุโลกไม่มีที่ไหนแทนได้ แม้แต่ฟิลิปปินส์ เกาหลี และสิงคโปร์ พื้นที่สร้างสนามบินรบของไทยมีเยอะ
แล้วปีหน้าจะไปซ้อมรบกันที่ไหนล่ะครับเนี่ย เพราะคอบราโกลด์ใช้ทหารร่วมสองหมื่นกว่า ประเทศอื่นๆเข้าร่วมมากมาย ต้องใช้พื้นที่มาก สิงคโปร์จะไปซ้อมรบร่วมที่ไหน ประเทศหลักมี ไทย อเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโด เกาหลี มาเลย์ ยังมีประเทศผู้สังเกตุการณ์ร่วมสิบประเทศ จีนด้วย ออสซี่ด้วย
คือ ถ้าจัดฝืกไม่ได้ วัตถุประสงค์ในการสร้างพันธมิตร การเอาการทหารนำ เพื่อสร้างทีมอเมริกาก็จอดซีครับ ยังส่งผลไปถืงการซ้อมกับฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น การซ้อมที่ฮาวาย ระบบปัจจุบันเชื่อมกันหมด เสียหายหนักมาก อเมริกาจัดซ้อมรบทางทหารโน่นนี่ ปีละร้อยกว่าครั้ง ไอ้ที่ใหญ่ๆ มีไทยเสมอ
คิดว่าฑูตคงร้องให้หลายรอบแล้ว ก็วาง positioning ผิดนี่นา เตือนแล้วเตือนอีก
8. มาด่าคนไทยมากๆ เดี๋ยวไทยลาออกจากพันธมิตรใหญ่นอกนาโต้ไป ยิ่งยุ่งกันใหญ่ อเมริกาเรียกไทยว่า Non. NATO Major Ally
9. แผนการสร้างสถานี ตรวจอากาศ ต้องชะลอไปอีก โครงการนี้เล่นเอาผู้บัญชาการกองกำลังขีปนาวุธของจีนวิ่งมาไทยละกัน ไม่มีไทยจะส่งโดรนพิฆาตแบบที่ใช้ในปากีสถาน เยเมน ที่อื่นๆ2800 ครั้งก็ฟาวล์ไปด้วย สงครามที่เชื่อมต่อกับดาวเทียมมีพื้นที่ให้เลือกไม่มากนักหรอก
10. ระบบ cyberwarfare ต้องพื่งไทยเยอะ เมื่อสองปีที่แล้วซัดสงครามนี้กันหนัก คนทั่วไปไม่รู้
11. ยิ่งมาด่าประเทศไทย คนไทยเกิดสนใจว่ามีโครงการความร่วมมืออะไรบ้าง ชี้แจงลำบาก เกิดคนไทยบอกให้รัฐบาลไทยทำตัวเป็นกลาง แผนการทหาร เศรษฐกิจ อุดมการณ์ การเป็นผู้นำของอเมริกาจะพังหมด
12. แผนที่จะเข้ามาเป็นผู้นำใน 21 century pacific rim จะเจ๊งไปด้วย แผนสร้างองค์กรเศรษฐกิจโลกพังพาบ แล้วจะแข่งกับกลุ่มพันธมิตรเซี่ยงไฮ้ของจีนได้อย่างไร. จีนตั้งชื่อว่า. SCO
13. ปลาโลมาสงครามใครจะเป็นผู้ดูแล ออกค่าใช้จ่าย
ผมว่าคนไทยคุยง่ายนะ แต่คนไทยกำลังเบื่อนักการเมืองพูดมาก พูดเร็ว พูดเยอะ พูดหยาบ ไร้สาระ ดูถูกคนสร้าง hate speech เพิ่งรู้ว่าสันดานนักการเมืองอเมริกันก็แบบเดียวกันกับนักการเมืองไทย ขอบอกว่าเรื่องของไทยเป็นเรื่อง national security ไม่ใช่เรื่อง human rights หรือ democracy เป็นเรื่อง domestic affairs ไม่ใช่ international affairs พูดเพราะๆ ดีๆ แล้วเข้าใจเรื่องราวให้มันง่ายๆ แบบอเมริกันยุคก่อนน่าจะดี ทำงานกับพวก Republican ง่ายกว่าเยอะ จะคบกับคนเอเซีย อย่ายืดวัฒนธรรมตัวเองเป็นใหญ่ รู้ไหม หลักการเยอะ จะไปรบกับใครเขาได้ล่ะ
Cr: ดร. สมเกียรติ อ่อนวิมล
วันนี้ไปนั่งคุยกับเพื่อนชาวอินเดีย เป็นนักวิจัยยุทธศาสตร์การทหารของประเทศ รู้เยอะเรื่องอเมริกา และจีน
ถ้าอยากรู้เรื่องอเมริกา จีน รัสเซีย ตะวันออกกลางต้องถามอินเดีย
ถ้าอยากรู้ว่าอเมริกาคิดอะไร ทำอะไร ผมจะถามรัสเซีย กับจีน
ถ้าอยากรู้เรื่อง จีน รัสเซีย อ่านงานของอเมริกา
แต่ถ้าจะประเมินว่าเหตุการณ์ภายหน้าจะเป็นอย่างไร ควรวางตัวอย่างไร ฟังสิงคโปร์ไว้ดี ๆ ไม่เคยเสียเปรียบใคร ไม่เคยทำอะไรให้ใครฟรี รู้เรื่องของทุกประเทศ อยากฟังอะไรเว่อร์ๆ พูดเกินฐานะและพลังอำนาจของตนเอง ออสเตรเลีย อียู สุขุม ลุ่มลืก ความคิดแบบคนเอเซีย ฟังจีน
การเปลี่ยนอำนาจในไทย ทำให้อเมริกาหงุดหงิดมาก ฟังจากการแถลงของนายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกลาโหม ถือว่าปากหมามากทีเดียว มันมีเหตุ
1. รัฐบาลอเมริกาเคยออกมาการันตีว่า จะไม่มีการยืดอำนาจในไทย ต้องเสียหน้ามาก เพราะไม่เป็นไปตามนั้น เสียศักดิ์ศรีมหาอำนาจ จืงเอาคืน แรง
2. กฏหมายของเขา จะต้องตัด ระงับความร่วมมือทางการทหาร ตัดเงินไปร้อยล้านบาท เท่ายอดขายร้านเซเว่นหนื่งร้านหนื่งปี แต่แผนงานด้านการทหาร ยุทธศาสตร์ชาติที่สำคัญที่สุดของอเมริกาในเอเซียพังหมด
3. เมื่อนายฮาเกลบอกว่าหนื่งปีครื่งช้าเกินไป หลายคนสงสัยว่าโอบามาจะแสดงแสนยานุภาพกับจีนในปีสองปีนี้แน่นอน ไม่มีไทยก็เหมือนเพลงของคาราบาว รูเบ้อเร่อเลย จีนยิ้มซีครับ
เรื่องประเทศไทยจืงเป็นเรื่องใหญ่ของอเมริกามากๆ ยิ่งนายโอบามาจะต้องหมดวาระในสองปีข้างหน้า เศรษฐกิจคับขันลงทุกที ยิ่งแย่ใหญ่ แผนลับต้องเปลี่ยนหมด
4. นักยุทธศาสตร์ของอเมริกาประเมินว่า ยิ่งตัดความสัมพันธ์กับไทยนานเท่าใด จะเป็นโอกาสให้จีนเข้ามาร่วมมือช่วยไทยทางการทหารมากขื้นเท่านั้น อเมริกาจะห่างออกไปเรื่อยๆ เสียทั้งดุลยภาพเก่า และดุลยภาพใหม่
ในนโยบายปิดล้อมจีนที่เรียกว่า pivot policy นั้น ไทยสำคัญมาก อเมริกามองว่าจีน พม่า กัมพูชาเป็นกลุ่มเดียวกัน จำได้ไหมครับว่ามาดามฮิลลารี่
คลินตันไปเยือนลาวด้วย เพราะลาวอยู่ใกล้กับจีน
5. ในย่านเอเซียที่เป็นพันธมิตรกับอเมริกามายาวนานคือไทย เคยร่วมกันมา แต่กับพันธมิตรใหม่อย่างพม่า ลาว เวียดนาม อินโดนิเซีย มาเลเซีย ท่าทางจะยากมาก ไปกันไม่ถืงไหนหรอก คนเอเซียรู้กันดี ไม่มีไทยระบบเชื่อมโยงขาดหมด
6. พันธมิตรอื่นๆของอเมริกาในย่านนี้ ก็มีญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ ผมเคยอยู่ญี่ปุ่น เพื่อนบอกว่าญี่ปุ่นรบกับใครไม่ได้หรอก มันแน่น แล้วเชื่อมโยงกันทั้งประเทศ ระเบิดลงก็ต้องโดนอะไรสักอย่าง สะเทือนการผลิตทั้งประเทศเกาหลี แค่ยันเกาหลีเหนือให้อยู่ก็ยากมาก ถ้าจะร่วมกับฟิลิปปินส์จะยากเหมือนกัน เพราะมุสลิมเกินครื่งในเขตมินดะเนา ยังรบกันไม่จบ มีสิทธิลุกฮือเมื่อใดก็ได้
7. อเมริกาจัดซ้อมรบกับไทยมาทุกภาคในประเทศร่วม 30 ปี ชื่อ cobra gold เพราะไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์การรบและลอจิสติกส์ที่สำคัญในเอเซีย อเมริการู้ว่าจะใช้ที่ไหนทำอะไร ในสงคราม airsea combine เพื่อต่อสู้กับระบบ A2AD ของจีน สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบัง อุดร นครสวรรค์ สงขลา โคราช เชียงใหม่ ระยอง พิษณุโลกไม่มีที่ไหนแทนได้ แม้แต่ฟิลิปปินส์ เกาหลี และสิงคโปร์ พื้นที่สร้างสนามบินรบของไทยมีเยอะ
แล้วปีหน้าจะไปซ้อมรบกันที่ไหนล่ะครับเนี่ย เพราะคอบราโกลด์ใช้ทหารร่วมสองหมื่นกว่า ประเทศอื่นๆเข้าร่วมมากมาย ต้องใช้พื้นที่มาก สิงคโปร์จะไปซ้อมรบร่วมที่ไหน ประเทศหลักมี ไทย อเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโด เกาหลี มาเลย์ ยังมีประเทศผู้สังเกตุการณ์ร่วมสิบประเทศ จีนด้วย ออสซี่ด้วย
คือ ถ้าจัดฝืกไม่ได้ วัตถุประสงค์ในการสร้างพันธมิตร การเอาการทหารนำ เพื่อสร้างทีมอเมริกาก็จอดซีครับ ยังส่งผลไปถืงการซ้อมกับฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น การซ้อมที่ฮาวาย ระบบปัจจุบันเชื่อมกันหมด เสียหายหนักมาก อเมริกาจัดซ้อมรบทางทหารโน่นนี่ ปีละร้อยกว่าครั้ง ไอ้ที่ใหญ่ๆ มีไทยเสมอ
คิดว่าฑูตคงร้องให้หลายรอบแล้ว ก็วาง positioning ผิดนี่นา เตือนแล้วเตือนอีก
8. มาด่าคนไทยมากๆ เดี๋ยวไทยลาออกจากพันธมิตรใหญ่นอกนาโต้ไป ยิ่งยุ่งกันใหญ่ อเมริกาเรียกไทยว่า Non. NATO Major Ally
9. แผนการสร้างสถานี ตรวจอากาศ ต้องชะลอไปอีก โครงการนี้เล่นเอาผู้บัญชาการกองกำลังขีปนาวุธของจีนวิ่งมาไทยละกัน ไม่มีไทยจะส่งโดรนพิฆาตแบบที่ใช้ในปากีสถาน เยเมน ที่อื่นๆ2800 ครั้งก็ฟาวล์ไปด้วย สงครามที่เชื่อมต่อกับดาวเทียมมีพื้นที่ให้เลือกไม่มากนักหรอก
10. ระบบ cyberwarfare ต้องพื่งไทยเยอะ เมื่อสองปีที่แล้วซัดสงครามนี้กันหนัก คนทั่วไปไม่รู้
11. ยิ่งมาด่าประเทศไทย คนไทยเกิดสนใจว่ามีโครงการความร่วมมืออะไรบ้าง ชี้แจงลำบาก เกิดคนไทยบอกให้รัฐบาลไทยทำตัวเป็นกลาง แผนการทหาร เศรษฐกิจ อุดมการณ์ การเป็นผู้นำของอเมริกาจะพังหมด
12. แผนที่จะเข้ามาเป็นผู้นำใน 21 century pacific rim จะเจ๊งไปด้วย แผนสร้างองค์กรเศรษฐกิจโลกพังพาบ แล้วจะแข่งกับกลุ่มพันธมิตรเซี่ยงไฮ้ของจีนได้อย่างไร. จีนตั้งชื่อว่า. SCO
13. ปลาโลมาสงครามใครจะเป็นผู้ดูแล ออกค่าใช้จ่าย
ผมว่าคนไทยคุยง่ายนะ แต่คนไทยกำลังเบื่อนักการเมืองพูดมาก พูดเร็ว พูดเยอะ พูดหยาบ ไร้สาระ ดูถูกคนสร้าง hate speech เพิ่งรู้ว่าสันดานนักการเมืองอเมริกันก็แบบเดียวกันกับนักการเมืองไทย ขอบอกว่าเรื่องของไทยเป็นเรื่อง national security ไม่ใช่เรื่อง human rights หรือ democracy เป็นเรื่อง domestic affairs ไม่ใช่ international affairs พูดเพราะๆ ดีๆ แล้วเข้าใจเรื่องราวให้มันง่ายๆ แบบอเมริกันยุคก่อนน่าจะดี ทำงานกับพวก Republican ง่ายกว่าเยอะ จะคบกับคนเอเซีย อย่ายืดวัฒนธรรมตัวเองเป็นใหญ่ รู้ไหม หลักการเยอะ จะไปรบกับใครเขาได้ล่ะ
Cr: ดร. สมเกียรติ อ่อนวิมล