

“ปราโมทย์ ไม้กลัด” ยื่นหนังสือ “ประยุทธ์” ให้ยกเลิกโครงการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ชี้ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วม มีการทุจริต ซ้ำยังกระทบสิ่งแวดล้อม ยันการยกเลิกจะไม่กระทบสัญญาที่ทำกับเควอเตอร์ และบริษัทของจีน เพราะยังไม่มีการลงนามสัญญาว่าจ้าง
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน และนายบัญชา ขวัญยืน ประธานคณะอนุกรรมวิศวกรรมแหล่งน้ำ... ตัวแทนนักวิชาการวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเสนอข้อเร่งด่วนการจัดการน้ำของประเทศในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน และขอให้ยุบสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ หรือ สบอช. พร้อมยกเลิกแผนงาน 10 โมดูล เพราะโครงการดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ รวมทั้งมีการบิดเบือนผลประโยชน์ทับซ้อน ทุจริตผิดขั้นตอน เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนก่อสร้างในแวดวงนักการเมือง และข้าราชการ อีกทั้งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ซึ่งยากต่อการแก้ไข มีประชาชนได้รับกระทบจากโครงการและเกิดปัญหาความแตกแยก
โดย นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขอให้ คสช. จัดระบบทบทวนใหม่ โดยวางแผนเร่งด่วน เพื่อรับมือกับฤดูฝนที่จะมาถึง โดยไม่ให้นักการเมืองและข้าราชการที่รับประโยชน์มาแทรกแซง และใช้แผนบริหารจัดการน้ำที่กรมชลประทานศึกษาร่วมกับไจก้า และแนวทางที่ วสท. ศึกษาไว้ ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วม และมีส่วนตัดสินใจ ตรวจสอบบุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่ในคณะทำงานชุดต่างๆ ไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ บางโครงการใน 10 โมดูล ที่มีประโยชน์ เช่น โครงการอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กใน 18 แห่ง ที่กระจายในโมดูลต่างๆ ซึ่งบางจุดก็จำเป็น และยืนยันการยกเลิกโครงการจะไม่กระทบสัญญาที่ทำร่วมกับเควอร์เตอร์ และบริษัทของจีน เพราะยังไม่มีการลงนามสัญญาว่าจ้าง ส่วนเงินที่ใช้ไป 1.2 แสนล้านบาทแล้วนั้น ไม่ใช่เงินที่ใช้ในโครงการ แต่เป็นค่าบริหารจัดการรายละเอียดของโครงการมากกว่า
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000063226
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน และนายบัญชา ขวัญยืน ประธานคณะอนุกรรมวิศวกรรมแห
โดย นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขอให้ คสช. จัดระบบทบทวนใหม่ โดยวางแผนเร่งด่วน เพื่อรับมือกับฤดูฝนที่จะมา
ทั้งนี้ บางโครงการใน 10 โมดูล ที่มีประโยชน์ เช่น โครงการอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก
http://manager.co.th/






ขอบคุณ โอบามา ที่ทำให้เกิด ความสามัคคีในชนชาติผิวเหลือง


●●จีน-อาเซียนหนุนไทย ได้เวลาสั่งสอนเอาคืน “มะกัน” บ้าง !!
แน่นอนว่าเมื่อประเทศไทยเกิ
โดยเฉพาะในฟากตะวันตก ที่นำโดยสหรัฐอเมริกาอยู่เส
การรัฐประหารยึดอำนาจการปกค
แต่กลายเป็นว่าคราวนี้ คสช. กลับโดนหนักอย่างผิดสังเกต อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากแบ็กกราวนด์เก
แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็ฉล
ขณะเดียวกัน หากพิจารณาจาก “สันดาน” ของสหรัฐฯ เชื่อว่าหลายคนย่อมเข้าใจแบ
นอกจากนี้ ในด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคง
อย่างไรก็ดี นาทีนี้เมื่อพวกเขา (สหรัฐฯ และพันธมิตร) ไม่ให้เกียรติไทย มองคนไทยแบบลูกน้องไม่ใช่เพ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวย่อม
ทหารปฏิรูปประเทศไทย (@เสธ นํ้าเงิน)
วันที่ 4 มิ.ย.57 พอการจัดรูปแบบการบริหารประเทศเริ่มเข้ารูปเข้าร่าง ความรุนแรงหาย ความสงบร่มเย็นเกิดขึ้น ภายใน 13 วัน หลังรัฐประหาร แขกต่างชาติก็เริ่มมาเยือนไทยแล้ว
ผบ.ทหารสูงสุด มาเลเซีย และคณะ ได้เข้าพบเยี่ยมคาราวะ บิ๊กสีเขียว หัวหน้า คสช.ของไทย เป็นสัญญาณช่วงแรกๆ อย่างเป็นทางการจากมาเลเซีย ที่เคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษมาก่อน
เป็นสัญญานที่ส่งไปถึงอังกฤษ และประเทศในกลุ่นอาเซียน ต่อจากเขมร และพม่า ที่มีท่าทียอมรับ คสช.ไปก่อนหน้าแล้ว และจะเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยกับมาเลย์ จะได้หารือปัญหาความรุนแรงชายแดนไต้ร่วมกัน
คนเอเซียผิวสีเหลือง ย่อมเข้าใจในคนเอเซียด้วยกัน..ไอ้ม่ามา ลุงแซม ผิวดำ ชอบยิงดอร์ปิโดใส่ผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่เมีย ไม่มีวันเข้าใจ (ดูรายละเอียดขี้หลีของไอ้มาม่าที่ https://www.facebook.com/media/set/set=a.240528986137136.1073742017.187529244770444&type=1 ) เอาซีวะ มันเล่นไต้ดินประเทศเราก่อน เราก็เปิดโปงมัน ยุแหย่เมียมันบ้าง เพราะไอ้มามามันชอบนอกใจเมีย ไอ้https://www.facebook.com/thailandcoup







คุณ"สุชาติ สวัสดิ์ศรี" ศิลปินแห่งชาติ โพสต์บอกรับไม่ไหว..
ผมตกใจอยู่เล็กๆ เมื่ออ่านพบความเห็นประเภท "ประท้วงทำไม รัฐประหาร ทำไมไม่กล้าบอกว่าเอาทักษิณคืนมา เอายิ่งลักษณ์คืนมา เอาเสื้อแดงคืนมา น่าจะตรงประเด็นกว่า"
ผมนั้นมีความเห็นชัดเจนว่า "ไม่เอาทักษิณ" มาก่อนมีกลุ่มพันธมิตรฯประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วยซ้ำ และเคยไปแสดงความเห็นที่ท้องสนามหลวงด้วยความเห็นว่าทักษิณเป็น "ตัวปัญหา" มาตั้งแต่ก่อนปี 2549...
อีกทั้งต่อมาก็ไม่ถือตัวเองว่าเป็น"แนวร่วม"ของ นปช.ด้วย จะเรียกผมว่า "สลิ่ม" หรือ "โรคประจำศตวรรษ" ที่เห็นว่าประชาชนในแต่ละฝั่งข้างต่างก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง หรือตกเป็นเหยื่อของทักษิณ และ "คนประเภททักษิณ" ในแวดวงการเมืองไทยตลอดมาตั้งแตการทำรัฐประหารของทหารเมื่อ พ.ศ. 2490 ก็ว่าได้
กล่าวคือผมไม่ค่อยเชื่อในชัยชนะของประชาชนอย่างสมบูรณ์มาตั้งแต่หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และการเข้ามาของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยตั้งแต่่เมื่อ 40 ปีก่อนด้วย อีกทั้งไม่ไว้ใจ "อำนาจจากทหาร" มาแต่ไหนแต่ไร เพราะประวัติศาสตร์การเมืองของไทย ทหารมักอ้างเหตุเข้ามา "ล้างท่อ" ( คำของสุรชาติ บำรุงสุข) ทุกๆเวลา 8-9 ปืต่อครั้ง ผมไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมืองใดๆทั้งนั้น แม้ในช่วงกระอักเลือดหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ผมก็ตัดสินใจไม่เข้าป่า
ดังนั้น กิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกชวนให้ "เข้าพรรคการเมือง" ตลอดรวมทั้งกิจกรรมทางการเมืองต่างๆในเวลาต่อมา ผมไม่เอาทั้งนั้น ไม่ว่าจะมีคนรู้จักชักชวนแบบไหนก็ตาม ผมเป็นเพียงคนทำหนังสือ เขียนหนังสือเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น
ทั้ง นปช. และ กปปส. ผมก็มีคนรู้จักที่เลือกข้างแล้วมาชักชวนให้ไปขึ้นเวทีทั้งของ นปช. และ กปปส. แต่ผมก็ยืนยันว่าผมไม่มีความทะเยอทะยานทางการเมือง ชักชวนยังไงผมก็ไม่ไป
ฝ่ายเหลืองมาหา ผมก็บอกเขาว่า "ผมไม่ไปเป็นแดง คุุณก็น่าจะดีใจแล้ว" ฝ่ายแดงมาหา ผมก็บอกว่า "ผมไม่ไปเป็นเหลือง คุณก็น่าจะดีใจแล้ว "
ล่าสุดก่อนหน้าทหารจะออกมา "ล้างท่อ" เล็กนัอย มีใครคนหนึ่งอยากขอเอาชื่อผมในฐานะ "ศิลปินแห่งชาติ" ไปปรากฎบนเวที กปปส.ร่วมกับ "ศิลปินแห่งชาติ" คนอื่นๆอีกหลายคน ผมก็บอกเขาไปอย่างสุภาพว่า ผมเป็น "โรคประจำศตวรรษ" เขามองผมอย่างงงๆ แล้วก็คงคิดว่าผมพูดเล่น แต่ก็เข้าใจทันทีว่าผมปฎิเสธ หลังจากนั้นอีกไม่นานก็ยังมีเพื่อน กปปส.ติดต่อมาอีก คือเขาอยากขอภาพเขียนของผมไปประมูล "หาเงินช่วยลุงกำนัน" แต่ผมก็ไม่ให้ ผมบอกเขาไปอย่างสุภาพอีกเช่นกันว่า งานของผมไม่ถึงระดับ "ลูกศิษย์อาจารย์ศิลป์"หรอก อย่าเอาไปเลย ชักแม่น้ำทั้งห้าว่าอย่าเลย จากนั้นเขาก็ไม่มาตอแยผมอีก
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้นี้ก็เพื่อบอกว่า ผมเองไม่เอาทักษิณมานานแล้ว และก็ไม่ไว้ใจหมู่คณะของเขาบางคนเช่นกัน แม้บางคนจะเคยทำงานด้านหนังสือกันมาก่อนก็ตาม อย่างไรก็ตาม ผมมีพื้นที่ว่างเหลือไว้ไตร่ตรองเป็นเรื่องๆไปทั้งส่วนของ กปปส. และ นปช. ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบางคนเคยเป็นเพื่อมมิตรทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องกันมาก่อนทั้งนั้น ผมมีที่ว่างเสมอสำหรับเพื่อน แม้หลายคนจะเต็มกลืน และเคยมีบาดแผลกันมาในอดีต
แต่ปัจจุบันก็คือปัจจุบัน เราต้องดูกันเป็นเรื่องๆตามเหตุตามปัจจัย การเมืองผ่านมา แล้วก็ผ่านไป แตคำว่า "เพื่อน"น่าจะคงรักษาระยะห่างไว้เพื่อฟังเสียงข้างในของแต่ละคนเมื่อเวลาผ่านเลย รวมทั้งผมก็ให้เวลากับฝ่ายทหารค้วย บางทีเขาอาจตกอยู่ในภาวะ "น้ำท่วมปาก"ก็ได้ เขาอาจจะมีเจตนาดีก็ได้ แต่เรื่องนี้ยังไม่มีรูปธรรมชัดเจน ดังนั้นก็ต้องดูกันต่อไป ไม่ใช่ไปด่วนยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ ทั้งที่ยังไม่มีผลงาน "เพื่อประชาชน" อย่างเห็นผล
ตรรกะที่มีเพื่อนคนหนึ่งเขียนไว้ว่า
"ประทัวงทำไม รัฐประหาร ..
ทำไมไม่กล้าบอกว่าเอาทักษิณคืนมา
เอายิ่งลักษณ์คืนมา
เอาเสื้อแดงคืนมา.."
บอกตรงๆ ผมรับไม่ไหวจริงๆ แม้จะเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มร่วมก๊วนกันมา ผมก็รับไม่ไหวจริงๆ นอกจากนั้นก็มีเพื่อนๆน้องๆบางคนช่างไม่รักษาระยะห่างไว้บ้างเลย คือคล้ายๆจะสุดจิตสุดใจมีความเห็นไปทาง "เชียร์การยึดอำนาจ" แต่ผมไม่เอาด้วยหรอก อย่างน้อยก็ในทางหลักการและในทางสัญลักษณ์ การเชียร์รัฐประหารอย่างออกนอกหน้าของพวกเขาทำให้ผมสะอิดสะเอียน พวกเราบางคนเคยร่วมอ้วกกันมาเมื่อตอนเป็นหนุ่มๆก็จริง และก็ต่างเคยผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาไม่นัอย บางคนเป็นศิลปินแห่งชาติ บางคนเป็นนักเขียนรางวัลศรีบูรพา บางคนเป็นกวีรัตนโกสินทร์ บางคนเป็น "..จารย์ใหญ่เพลงเพื่อชีวิต"
ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมจึงไม่เก็บรับบทเรียน ทำไมเราจึงต้องมาอ้วกรดกันในตอนนี้ด้วย ไหนว่าชอบเมอร์โซจากเรื่อง "คนนอก" ของอัลแบร์ต์ กามูส์ ช่างไม่รู้หรือไงว่า แสงจากดวงอาทิตย์มันอาจทำให้ตาบอดได้
แต่ที่ผมตกใจมากไปกว่านั้นก็คือมีผู้กด "ถูกใจ" จนบัดนี้นับจำนวนเกิน 300 เข้าไปแล้ว และที่เห็นชื่อบางคนต่างก็ล้วนเป็นเพื่อนๆน้องๆที่รู้จักกันส่วนใหญ่ นี่พวกเขาเชียร์ทหารเรื่องการทำรัฐประหารเช่นนั้นจริงๆหรือ หรือว่าพวกเขาเป็นเพียงแฟนเพลง"เพื่อชีวิต"ที่ขึ้นเสียงใน "ผับเพื่อชีวิต"ได้อย่างออกรสเมื่อถึงตอนที่บอกว่า "...ทุนนิยมจักถูกทำลาย"
..ผมใกล้กำลังใกล้จะอ้วกแล้ว..ช่วยหยิบกระโถนแห่งกระโถนมาให้ผมหน่อย !
ผมตกใจอยู่เล็กๆ เมื่ออ่านพบความเห็นประเภท "ประท้วงทำไม รัฐประหาร ทำไมไม่กล้าบอกว่าเอาทักษิณ
ผมนั้นมีความเห็นชัดเจนว่า "ไม่เอาทักษิณ" มาก่อนมีกลุ่มพันธมิตรฯประช
อีกทั้งต่อมาก็ไม่ถือตัวเอง
กล่าวคือผมไม่ค่อยเชื่อในชั
ดังนั้น กิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกชวนให้ "เข้าพรรคการเมือง" ตลอดรวมทั้งกิจกรรมทางการเม
ทั้ง นปช. และ กปปส. ผมก็มีคนรู้จักที่เลือกข้าง
ฝ่ายเหลืองมาหา ผมก็บอกเขาว่า "ผมไม่ไปเป็นแดง คุุณก็น่าจะดีใจแล้ว" ฝ่ายแดงมาหา ผมก็บอกว่า "ผมไม่ไปเป็นเหลือง คุณก็น่าจะดีใจแล้ว "
ล่าสุดก่อนหน้าทหารจะออกมา "ล้างท่อ" เล็กนัอย มีใครคนหนึ่งอยากขอเอาชื่อผ
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้นี้ก็เพ
แต่ปัจจุบันก็คือปัจจุบัน เราต้องดูกันเป็นเรื่องๆตาม
ตรรกะที่มีเพื่อนคนหนึ่งเขี
"ประทัวงทำไม รัฐประหาร ..
ทำไมไม่กล้าบอกว่าเอาทักษิณ
เอายิ่งลักษณ์คืนมา
เอาเสื้อแดงคืนมา.."
บอกตรงๆ ผมรับไม่ไหวจริงๆ แม้จะเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มร่
ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมจ
แต่ที่ผมตกใจมากไปกว่านั้นก
..ผมใกล้กำลังใกล้จะอ้วกแล้