GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ขอแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง




“ปราโมทย์ ไม้กลัด” ยื่นหนังสือ “ประยุทธ์” ให้ยกเลิกโครงการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ชี้ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วม มีการทุจริต ซ้ำยังกระทบสิ่งแวดล้อม ยันการยกเลิกจะไม่กระทบสัญญาที่ทำกับเควอเตอร์ และบริษัทของจีน เพราะยังไม่มีการลงนามสัญญาว่าจ้าง

วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน และนายบัญชา ขวัญยืน ประธานคณะอนุกรรมวิศวกรรมแหล่งน้ำ... ตัวแทนนักวิชาการวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเสนอข้อเร่งด่วนการจัดการน้ำของประเทศในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน และขอให้ยุบสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ หรือ สบอช. พร้อมยกเลิกแผนงาน 10 โมดูล เพราะโครงการดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ รวมทั้งมีการบิดเบือนผลประโยชน์ทับซ้อน ทุจริตผิดขั้นตอน เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนก่อสร้างในแวดวงนักการเมือง และข้าราชการ อีกทั้งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ซึ่งยากต่อการแก้ไข มีประชาชนได้รับกระทบจากโครงการและเกิดปัญหาความแตกแยก

โดย นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขอให้ คสช. จัดระบบทบทวนใหม่ โดยวางแผนเร่งด่วน เพื่อรับมือกับฤดูฝนที่จะมาถึง โดยไม่ให้นักการเมืองและข้าราชการที่รับประโยชน์มาแทรกแซง และใช้แผนบริหารจัดการน้ำที่กรมชลประทานศึกษาร่วมกับไจก้า และแนวทางที่ วสท. ศึกษาไว้ ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วม และมีส่วนตัดสินใจ ตรวจสอบบุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่ในคณะทำงานชุดต่างๆ ไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ บางโครงการใน 10 โมดูล ที่มีประโยชน์ เช่น โครงการอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กใน 18 แห่ง ที่กระจายในโมดูลต่างๆ ซึ่งบางจุดก็จำเป็น และยืนยันการยกเลิกโครงการจะไม่กระทบสัญญาที่ทำร่วมกับเควอร์เตอร์ และบริษัทของจีน เพราะยังไม่มีการลงนามสัญญาว่าจ้าง ส่วนเงินที่ใช้ไป 1.2 แสนล้านบาทแล้วนั้น ไม่ใช่เงินที่ใช้ในโครงการ แต่เป็นค่าบริหารจัดการรายละเอียดของโครงการมากกว่า

http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000063226











Photo: 55555  เพื่อนๆ ช่วยด่าโอบามาที นึกไม่ออกแล้วค่ะ ขำมาก  ขอบคุณเจ้าของภาพ

ขอบคุณ โอบามา ที่ทำให้เกิด ความสามัคคีในชนชาติผิวเหลือง




●●จีน-อาเซียนหนุนไทย ได้เวลาสั่งสอนเอาคืน “มะกัน” บ้าง !!

แน่นอนว่าเมื่อประเทศไทยเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจโดยกองทัพ แทบทุกครั้งในระยะหลังมักจะมีเสียงตำหนิ ประณามตามมาจากต่างประเทศ....

โดยเฉพาะในฟากตะวันตก ที่นำโดยสหรัฐอเมริกาอยู่เสมอ โดยมักอ้างในเรื่องประชาธิปไตยแบบการเลือกตั้งมากดดันบีบคั้น แต่นั่นเป็นเพียงข้ออ้างบังหน้า โดยเบื้องหลังแท้จริงล้วนมีแต่เรื่องผลประโยชน์...

การรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่ามีปฏิกิริยาจากสหรัฐฯและประเทศในยุโรป รวมทั้งออสเตรเลีย มากเกินปกติ เมื่อเปรียบเทียบกับเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ที่คราวนั้น ทักษิณ ชินวัตร ถูกรัฐประหาร

แต่กลายเป็นว่าคราวนี้ คสช. กลับโดนหนักอย่างผิดสังเกต อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากแบ็กกราวนด์เก่าๆ มันก็สามารถอธิบายได้ ซึ่งก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่าเรื่อง “ผลประโยชน์” ที่สหรัฐอเมริกาเคยได้รับในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็น “นอมินี” ของ ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง  ที่ผ่านมาใครที่ติดตามความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร มาอย่างใกล้ชิด ก็ย่อมรู้ดีว่าเป้าหมายทางธุรกิจสำคัญของเขาจะอยู่ที่ “ธุรกิจพลังงาน” นั่นคือเริ่มตั้งแต่มีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจสำคัญที่มีผลประกอบการดี โดยเฉพาะ ปตท. รวมไปถึงพยายามในการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) แต่กรณีหลังไม่สำเร็จ เนื่องจากโดนลุกฮือต่อต้านเสียก่อน  อย่างไรก็ดี จะว่าไปแล้ว ทักษิณ ก็เคยมีปัญหากับสหรัฐฯอยู่ช่วงหนึ่ง เคยมีปัญหาถูกระงับวีซ่าเข้าประเทศอยู่ช่วงหนึ่ง
แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็ฉลุย.... กลายเป็นว่าในระยะหลังเขาใช้สหรัฐฯ นี่แหละเป็นฐานในการบ่อนทำลายประเทศของตัวเอง

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาจาก “สันดาน” ของสหรัฐฯ เชื่อว่าหลายคนย่อมเข้าใจแบ็กกราวนด์ได้ดี ว่า หากจะคบกับใคร จะให้ความช่วยเหลือประเทศใดนั้นย่อมต้องมีผลประโยชน์ตอบแทนที่คุ้มค่า...สำหรับไทยในยุคของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งมีความหมายไม่ต่างจาก “นอมินี” เป็นรัฐบาลหุ่นเชิดของ ทักษิณ นั่นเอง...และเป้าหมายหลักของสหรัฐฯในไทย และในภูมิภาคนี้ ก็คือ เรื่องแหล่งพลังงาน และด้านยุทธศาสตร์ในการ “ปิดล้อมจีน”  ซึ่งไทยอยู่ในจุดที่สำคัญที่สุด และเมื่อ ทักษิณ ที่นำตัวเป็น “นายหน้าข้ามชาติ” มีอิทธิพลในการชี้นำรัฐบาลได้ทุกอย่าง ทุกอย่างจึง “วินวิน” กันทั้งสองฝ่าย แต่นั่นไม่ใช่ผลประโยชน์ที่ตกมาถึงคนไทยและประเทศไทย  ความเคลื่อนไหวที่ปรากฏอยู่ตลอดเวลาในช่วงรัฐบาลที่แล้ว ก็คือ ข่าวคราวการลงนามในสัมปทานแหล่งพลังในอ่าวไทย ทั้งในฝั่งไทย.. ฝั่งพม่าด้านอันดามัน ฝั่งกัมพูชา รวมไปถึงความพยายามให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยกับกัมพูชา เพื่อผลประโยชน์ด้านพลังงาน มีเรื่องให้เคลือบแคลงอยู่ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ในด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคงในภูมิภาค ที่สหรัฐฯต้องการแสดงอำนาจในการปิดล้อมจีน และที่ผ่านมารัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้แอบให้สหรัฐฯเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภา และอาจรวมไปถึงสนามบินในอุดรธานีด้วย นี่คือ ผลประโยชน์ร่วมที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมมือกันมาอย่างแนบแน่น แต่เมื่อทุกอย่างพลิกผัน กลายเป็นต้องเริ่มต้นใหม่ มันจึงเป็นที่มาของการไร้มารยาท มีท่าทีคุกคามและแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น..ตามมาด้วยพวกลูกสมุนที่ต้องการโชว์พาวเอาหน้าอย่างออสเตรเลีย

อย่างไรก็ดี นาทีนี้เมื่อพวกเขา (สหรัฐฯ และพันธมิตร) ไม่ให้เกียรติไทย มองคนไทยแบบลูกน้องไม่ใช่เพื่อน เราก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ และถูกต้องแล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เลือกที่จะวางเฉย นิ่งเงียบไม่ตอบโต้..แต่ขณะเดียวกัน ก็แก้ปัญหาสะสางเรื่องภายในกันไปอย่างเงียบๆ และแน่นอนว่าในเรื่องผลประโยชน์ของประเทศย่อม “ทันกัน” อยู่แล้ว..ล่าสุดเอกอัครราชทูตจีนได้เข้าพบกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อยืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ รวมทั้งเอกอัครราชทูตเวียดนามในกรณีเดียวกันด้วย นอกจากนี้ ยังมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดของมาเลเซีย ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวย่อมมีความหมายไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มากความ และหากประมวลเฉพาะประเทศในภูมิภาคอาเซียน ทั้งพม่าที่เป็นประธานอาเซียนในเวลานี้ หรือแม้แต่กัมพูชาของฮุนเซน ก็ยืนยันไม่แทรกแซงก้าวก่ายไทย  ทำให้สรุปรวมได้ว่าเวลานี้ มีจีนและประเทศในอาเซียนที่ยังคงความสัมพันธ์ปกติ  โดยเฉพาะท่าทีจากจีน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้สหรัฐฯ ต้องคิดหนัก กลายเป็นว่าไทยกำลังแนบแน่นกับฝ่ายจีน ทำให้ยุทธศาสตร์ที่จะใช้ไทยปิดล้อมจีน มีปัญหาทันที..ประกอบกับการนิ่งเงียบของฝ่าย คสช. ทำนองไม่ต่อปากต่อคำ แต่ที่เห็นกลายเป็นว่ามีปฏิกิริยาจากคนไทยมากมายที่ไม่พอใจ.. และกำลังสร้างกระแสต่อต้านสหรัฐฯและธุรกิจ  ในลักษณะไม่ถึงขั้นขับไล่รุนแรง แต่ไม่จำเป็นก็ไม่อุดหนุนไม่คบค้า  และที่สำคัญอีกไม่นานจะเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าสหรัฐฯได้ตัดสินใจผิดที่ให้การสนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายที่คนไทยส่วนใหญ่รังเกียจ ซึ่งอีกไม่นานก็น่าจะถึงเวลาที่เราต้องเอาคืนประเทศเหล่านี้บ้าง !!

ทหารปฏิรูปประเทศไทย (@เสธ นํ้าเงิน)

วันที่ 4 มิ.ย.57 พอการจัดรูปแบบการบริหารประเทศเริ่มเข้ารูปเข้าร่าง ความรุนแรงหาย ความสงบร่มเย็นเกิดขึ้น ภายใน 13 วัน หลังรัฐประหาร แขกต่างชาติก็เริ่มมาเยือนไทยแล้ว
ผบ.ทหารสูงสุด มาเลเซีย และคณะ ได้เข้าพบเยี่ยมคาราวะ บิ๊กสีเขียว หัวหน้า คสช.ของไทย เป็นสัญญาณช่วงแรกๆ อย่างเป็นทางการจากมาเลเซีย ที่เคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษมาก่อน
เป็นสัญญานที่ส่งไปถึงอังกฤษ และประเทศในกลุ่นอาเซียน ต่อจากเขมร และพม่า ที่มีท่าทียอมรับ คสช.ไปก่อนหน้าแล้ว และจะเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยกับมาเลย์ จะได้หารือปัญหาความรุนแรงชายแดนไต้ร่วมกัน
คนเอเซียผิวสีเหลือง ย่อมเข้าใจในคนเอเซียด้วยกัน..ไอ้ม่ามา ลุงแซม ผิวดำ ชอบยิงดอร์ปิโดใส่ผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่เมีย ไม่มีวันเข้าใจ (ดูรายละเอียดขี้หลีของไอ้มาม่าที่ https://www.facebook.com/media/set/set=a.240528986137136.1073742017.187529244770444&type=1 ) เอาซีวะ มันเล่นไต้ดินประเทศเราก่อน เราก็เปิดโปงมัน ยุแหย่เมียมันบ้าง เพราะไอ้มามามันชอบนอกใจเมีย ไอ้https://www.facebook.com/thailandcoup


หลวงนึก พนิดา's photo.













คุณ"สุชาติ สวัสดิ์ศรี" ศิลปินแห่งชาติ โพสต์บอกรับไม่ไหว..

ผมตกใจอยู่เล็กๆ เมื่ออ่านพบความเห็นประเภท "ประท้วงทำไม รัฐประหาร ทำไมไม่กล้าบอกว่าเอาทักษิณคืนมา เอายิ่งลักษณ์คืนมา เอาเสื้อแดงคืนมา น่าจะตรงประเด็นกว่า"

ผมนั้นมีความเห็นชัดเจนว่า "ไม่เอาทักษิณ" มาก่อนมีกลุ่มพันธมิตรฯประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วยซ้ำ และเคยไปแสดงความเห็นที่ท้องสนามหลวงด้วยความเห็นว่าทักษิณเป็น "ตัวปัญหา" มาตั้งแต่ก่อนปี 2549...

อีกทั้งต่อมาก็ไม่ถือตัวเองว่าเป็น"แนวร่วม"ของ นปช.ด้วย จะเรียกผมว่า "สลิ่ม" หรือ "โรคประจำศตวรรษ" ที่เห็นว่าประชาชนในแต่ละฝั่งข้างต่างก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง หรือตกเป็นเหยื่อของทักษิณ และ "คนประเภททักษิณ" ในแวดวงการเมืองไทยตลอดมาตั้งแตการทำรัฐประหารของทหารเมื่อ พ.ศ. 2490 ก็ว่าได้

กล่าวคือผมไม่ค่อยเชื่อในชัยชนะของประชาชนอย่างสมบูรณ์มาตั้งแต่หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และการเข้ามาของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยตั้งแต่่เมื่อ 40 ปีก่อนด้วย อีกทั้งไม่ไว้ใจ "อำนาจจากทหาร" มาแต่ไหนแต่ไร เพราะประวัติศาสตร์การเมืองของไทย ทหารมักอ้างเหตุเข้ามา "ล้างท่อ" ( คำของสุรชาติ บำรุงสุข) ทุกๆเวลา 8-9 ปืต่อครั้ง ผมไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมืองใดๆทั้งนั้น แม้ในช่วงกระอักเลือดหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ผมก็ตัดสินใจไม่เข้าป่า

ดังนั้น กิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกชวนให้ "เข้าพรรคการเมือง" ตลอดรวมทั้งกิจกรรมทางการเมืองต่างๆในเวลาต่อมา ผมไม่เอาทั้งนั้น ไม่ว่าจะมีคนรู้จักชักชวนแบบไหนก็ตาม ผมเป็นเพียงคนทำหนังสือ เขียนหนังสือเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น

ทั้ง นปช. และ กปปส. ผมก็มีคนรู้จักที่เลือกข้างแล้วมาชักชวนให้ไปขึ้นเวทีทั้งของ นปช. และ กปปส. แต่ผมก็ยืนยันว่าผมไม่มีความทะเยอทะยานทางการเมือง ชักชวนยังไงผมก็ไม่ไป

ฝ่ายเหลืองมาหา ผมก็บอกเขาว่า "ผมไม่ไปเป็นแดง คุุณก็น่าจะดีใจแล้ว" ฝ่ายแดงมาหา ผมก็บอกว่า "ผมไม่ไปเป็นเหลือง คุณก็น่าจะดีใจแล้ว "

ล่าสุดก่อนหน้าทหารจะออกมา "ล้างท่อ" เล็กนัอย มีใครคนหนึ่งอยากขอเอาชื่อผมในฐานะ "ศิลปินแห่งชาติ" ไปปรากฎบนเวที กปปส.ร่วมกับ "ศิลปินแห่งชาติ" คนอื่นๆอีกหลายคน ผมก็บอกเขาไปอย่างสุภาพว่า ผมเป็น "โรคประจำศตวรรษ" เขามองผมอย่างงงๆ แล้วก็คงคิดว่าผมพูดเล่น แต่ก็เข้าใจทันทีว่าผมปฎิเสธ หลังจากนั้นอีกไม่นานก็ยังมีเพื่อน กปปส.ติดต่อมาอีก คือเขาอยากขอภาพเขียนของผมไปประมูล "หาเงินช่วยลุงกำนัน" แต่ผมก็ไม่ให้ ผมบอกเขาไปอย่างสุภาพอีกเช่นกันว่า งานของผมไม่ถึงระดับ "ลูกศิษย์อาจารย์ศิลป์"หรอก อย่าเอาไปเลย ชักแม่น้ำทั้งห้าว่าอย่าเลย จากนั้นเขาก็ไม่มาตอแยผมอีก

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้นี้ก็เพื่อบอกว่า ผมเองไม่เอาทักษิณมานานแล้ว และก็ไม่ไว้ใจหมู่คณะของเขาบางคนเช่นกัน แม้บางคนจะเคยทำงานด้านหนังสือกันมาก่อนก็ตาม อย่างไรก็ตาม ผมมีพื้นที่ว่างเหลือไว้ไตร่ตรองเป็นเรื่องๆไปทั้งส่วนของ กปปส. และ นปช. ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบางคนเคยเป็นเพื่อมมิตรทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องกันมาก่อนทั้งนั้น ผมมีที่ว่างเสมอสำหรับเพื่อน แม้หลายคนจะเต็มกลืน และเคยมีบาดแผลกันมาในอดีต

แต่ปัจจุบันก็คือปัจจุบัน เราต้องดูกันเป็นเรื่องๆตามเหตุตามปัจจัย การเมืองผ่านมา แล้วก็ผ่านไป แตคำว่า "เพื่อน"น่าจะคงรักษาระยะห่างไว้เพื่อฟังเสียงข้างในของแต่ละคนเมื่อเวลาผ่านเลย รวมทั้งผมก็ให้เวลากับฝ่ายทหารค้วย บางทีเขาอาจตกอยู่ในภาวะ "น้ำท่วมปาก"ก็ได้ เขาอาจจะมีเจตนาดีก็ได้ แต่เรื่องนี้ยังไม่มีรูปธรรมชัดเจน ดังนั้นก็ต้องดูกันต่อไป ไม่ใช่ไปด่วนยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ ทั้งที่ยังไม่มีผลงาน "เพื่อประชาชน" อย่างเห็นผล

ตรรกะที่มีเพื่อนคนหนึ่งเขียนไว้ว่า

"ประทัวงทำไม รัฐประหาร ..
ทำไมไม่กล้าบอกว่าเอาทักษิณคืนมา
เอายิ่งลักษณ์คืนมา
เอาเสื้อแดงคืนมา.."

บอกตรงๆ ผมรับไม่ไหวจริงๆ แม้จะเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มร่วมก๊วนกันมา ผมก็รับไม่ไหวจริงๆ นอกจากนั้นก็มีเพื่อนๆน้องๆบางคนช่างไม่รักษาระยะห่างไว้บ้างเลย คือคล้ายๆจะสุดจิตสุดใจมีความเห็นไปทาง "เชียร์การยึดอำนาจ" แต่ผมไม่เอาด้วยหรอก อย่างน้อยก็ในทางหลักการและในทางสัญลักษณ์ การเชียร์รัฐประหารอย่างออกนอกหน้าของพวกเขาทำให้ผมสะอิดสะเอียน พวกเราบางคนเคยร่วมอ้วกกันมาเมื่อตอนเป็นหนุ่มๆก็จริง และก็ต่างเคยผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาไม่นัอย บางคนเป็นศิลปินแห่งชาติ บางคนเป็นนักเขียนรางวัลศรีบูรพา บางคนเป็นกวีรัตนโกสินทร์ บางคนเป็น "..จารย์ใหญ่เพลงเพื่อชีวิต"

ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมจึงไม่เก็บรับบทเรียน ทำไมเราจึงต้องมาอ้วกรดกันในตอนนี้ด้วย ไหนว่าชอบเมอร์โซจากเรื่อง "คนนอก" ของอัลแบร์ต์ กามูส์ ช่างไม่รู้หรือไงว่า แสงจากดวงอาทิตย์มันอาจทำให้ตาบอดได้

แต่ที่ผมตกใจมากไปกว่านั้นก็คือมีผู้กด "ถูกใจ" จนบัดนี้นับจำนวนเกิน 300 เข้าไปแล้ว และที่เห็นชื่อบางคนต่างก็ล้วนเป็นเพื่อนๆน้องๆที่รู้จักกันส่วนใหญ่ นี่พวกเขาเชียร์ทหารเรื่องการทำรัฐประหารเช่นนั้นจริงๆหรือ หรือว่าพวกเขาเป็นเพียงแฟนเพลง"เพื่อชีวิต"ที่ขึ้นเสียงใน "ผับเพื่อชีวิต"ได้อย่างออกรสเมื่อถึงตอนที่บอกว่า "...ทุนนิยมจักถูกทำลาย"

..ผมใกล้กำลังใกล้จะอ้วกแล้ว..ช่วยหยิบกระโถนแห่งกระโถนมาให้ผมหน่อย !

MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY