GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

จะตามแก้เเค้น10 ปีไม่สาย"



ประมาทไม่ได้ครับ เสนาธิการฝ่ายระบอบทักษิณ มีทั้งอดีตสหายนำและอดีตทหารตำรวจ. ยังคงใช้ยุทธวิธีผสมผสานในการสู้ กับคสช เเละประเทศชาติอยู่ "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุดข้าเเหย่ เอ็งเเย่ข้าตี เอ็งหนีข้าตาม และซุ่มซ่อนยาวนาน รอคอยโอกาส"   มีพยานยืนยันชัดเจน ได้ยินกับหู สะใภ้คนหนึ่งในตระกูลชิน ประกาศต่อหน้าเพื่อนร่วมรุ่น หลักสูตรยอดฮิตของไฮโซ ว่าจะตามแก้เเค้น10ปีไม่สาย"

ผมเห็นด้วยกับข้อเขียนของท่านประสงค์อย่างยิ่งครับ สมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา 25มิย57

24 มิ.ย. 2557ประสงค์พูด : ซุ่มซ่อนยาวนาน รอคอยโอกาส (1)

“ปรับทุกข์ผูกมิตร

รับใช้ใกล้ชิด

สะสมกำลัง

ซุ่มซ่อนยาวนาน

รอคอยโอกาส ”

ข้อความดังกล่าวข้างต้น เป็นยุทธวิธีในการต่อสู้ของคอมมิวนิสต์ ซึ่งครั้งหนึ่งเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้นำยุทธวิธีที่ว่านี้มาใช้ดำเนินการในการต่อสู้กับอำนาจรัฐ โดยอาศัยมวลชนเป็นฐานสำคัญในการต่อสู้ภายใต้เงื่อนไขของความยากจน ความไม่เป็นธรรมต่างๆที่ฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐทำขึ้น ซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่งที่มีผู้คนในหมู่บ้านต่างๆในหลายภูมิภาค ได้เข้าร่วมหรือเป็นแนวร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ให้เป็นการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ คือการปกครองในระบอบประธานาธิบดีที่ไม่มีพระมหากษัตริย

นอกจากยุทธวิธีในการต่อสู้ดังกล่าวข้างต้นแล้ว วิธีการหรือยุทธการที่นำออกใช้ในแต่ละครั้งของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในสมัยนั้น ยังควบคู่ไปกับสถานการณ์ในขณะนั้นด้วยว่าเป็นอย่างไร เพื่อมิให้ต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะกำลังของตนน้อย อาจต้องสูญเสียหรือพ่ายแพ้ได้ เพราะฉะนั้นในการต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในสมัยนั้น จึงมีคำกล่าวเสริมพ่วงตามมาในลักษณะของการประเมินสถานการณ์ด้วยว่า “เอ็งมาข้ามุด เอ็งหยุดข้าแหย่ เอ็งแย่ข้าตาม” เป็นหลังการทำงานในการต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในสมัยนั้นด้วย

ในฐานะที่เคยทำงานต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมาก่อน อยากจะบอกผู้รักชาติบ้านเมืองทั้งหลายว่า สถานการณ์บ้านเมืองเราขณะนี้ยังไว้วางใจอะไรไม่ได้ในความสงบเรียบร้อย ปราศจากการต่อสู้ของ ทักษิณ และผู้คนในระบอบทักษิณ ที่อาจตามมาได้ทุกขณะ เพราะระบอบทักษิณซึ่งได้ยึดครองอำนาจรัฐมากว่าสิบปีนั้น ได้ดำเนินการในการบริหารจัดการตามขบวนการจัดตั้งแบบพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งพรรคการเมือง การหาแนวร่วม และการมีกองกำลังติดอาวุธเพื่อใช้เป็นฐานสำคัญในการครองอำนาจ

ต้องไม่ลืมว่าระบอบทักษิณนั้น ได้มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่เคยร่วมงานกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมาก่อน และบางคนหนีเข้าป่าจับอาวุธต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐมาแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้แหละได้เข้ามาเป็นแกนหลักสำคัญในการ

เตรียมการด้านนโยบายและหลักการดำเนินงานของพรรคเมืองของทักษิณ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 เพื่อเตรียมการต่อสู้อำนาจรัฐ วางแผนปกครองประเทศไทย

กลุ่มคนดังกล่าวนี้ยังมีตัวตนและเคลื่อนไหวอยู่อย่างปกปิด หลังจากระบอบทักษิณถูกยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 ที่ผ่านมา ไม่ได้ล้มหายตายจากไปไหน ยังคงหลบซ่อนอยู่ในประเทศและบางคนไปหลบซ่อนอยู่ในประเทศใกล้เคียง ติดต่อถึงกันอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งกับตัวทักษิณ เองก็ไม่ได้หยุดนิ่ง มีพฤติกรรมตามแบบฉบับของคอมมิวนิสต์ทุกอย่างที่บอกว่า “เอ็งมาข้าหยุด” นั่นเอง

ทักษิณเงียบไประยะนี้ก็เพราะเรื่องอย่างนี้

เพียงรอวันที่ “เอ็งหยุด” เมื่อไร “ข้าก็จะออกมาแหย่” เมื่อนั้น และถ้า “เอ็งแย่” วันไหน วันนั้นแหละ “ข้าจะตาม” เอาคืน

เป็นวิธีการของพวกกลุ่มคนที่นิยมในวิธีการของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ซึ่งยังคงมีอยู่ในระบอบทักษิณกำหนดเป็นวิธีการต่อสู้ในขณะนี้ เฉพาะอย่างยิ่ง พวกสมุนบริวารอีกจำนวนไม่น้อย ที่เคยร่วมหัวกันจัดตั้ง “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” หรือที่ใช้ตัวย่อว่า “นปช.” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายปกครองที่ถืออำนาจรัฐอยู่ในขณะนั้น ถ้าใครได้ติดตามพฤติกรรมและการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้มาแต่ต้นจะพบว่า ได้มีการจัดตั้งและยกระดับเป็นองค์กรมวลชนเต็มรูปแบบกระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆของประเทศ มีวัตถุประสงค์สำคัญในการผลักดันให้มีการเปลี่ยนรูปแบบการปกครองของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปเป็นการปกครองในรูปแบบที่ไม่มีพระมหากษัตริย์ หรือถ้าจะมีก็ให้เป็นประมุขในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น

บางพื้นที่ของประเทศโดยเฉพาะในภาคเหนือนั้น ก็คงจะได้ยินและได้เห็นการกระทำดังกล่าวนี้มาบ้างแล้วว่า จะเป็น “สปป.ล้านนา” หรือ “สาธารณรัฐประชาชนล้านนา” นั่นเอง

นี่แหละถึงได้บอกว่า แม้จะยึดอำนาจและขับไล่รัฐบาลในระบอบทักษิณให้พ้นจากอำนาจไปได้ก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าหรือคาดว่าบ้านเมืองจะเกิด

ความสงบสุขเรียบร้อย ทุกสิ่งทุกอย่างจะคืนกลับสู่ความปกตินั้น คงไม่เป็นไปอย่างที่คิดหรืออย่างที่คาดแน่ เพราะยังมีสิ่งตกค้างที่เป็นพิษเป็นภัยยังคงหลงเหลืออยู่ในพื้นที่หลายจังหวัดและหลายหมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้อยู่ในสภาพของการ “ซุ่มซ่อนยาวนาน รอคอยโอกาส” นั่นเอง ถ้าปราศจากการชำระสะสางกันอย่างจริงจังและด้วยวิธีการที่ถูกต้องแล้ว การยึดอำนาจครั้งนี้อาจจะ “เสียของ” อย่างที่ผู้เป็นห่วงหลายคนได้เคยเตือนไว้

จะแก้หรือจะทำกันอย่างไรขอยกไปพูดตอนหน้า

(อ่านต่อวันศุกร์)

- See more at: http://m.naewna.com/view/prasong/13101#1

MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY