GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ไม่ใช่เมืองขึ้นอเมริกา ไม่ใช่ขี้ข้าทักษิณ

ไม่ใช่เมืองขึ้นอเมริกา ไม่ใช่ขี้ข้าทักษิณ 

สหรัฐออกมาประกาศท่าทีไม่เห็นด้วย บอกว่าใช้เวลานานเกินไป สำหรับโรดแมพ 15 เดือนของ คสช. ที่บอกกับคนไทยว่า จะจัดการเพื่อความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองก่อน ลดการต่อต้าน จากนั้นก็จะมีรัฐบาล มีสภานิติบัญญัติ มีสภาปฏิรูป มีรัฐธรรมนูญชั่วคราว ดำเนินการปฏิรูปสั้นๆ แล้วไปเลือกตั้งใหม่ 

กลุ่มต่อต้าน คสช.จัดกิจกรรมชุมนุม เดิมใช้แมคโดนัลด์เป็นสื่อสัญลักษณ์ แล้วก็มาใช้การชูสามนิ้ว เลียนแบบหนังฮอลีวู้ด อ้างว่าสื่อถึงการต่อต้านเผด็จการ 

เหมือนเลือกภาษาสื่อสารไปยังสังคมโลกเป็นการเฉพาะ แถมจำเพาะเจาะจงไปที่สหรัฐ ซึ่งพ่วงได้อีกบางประเทศ ก็คือประเทศบริวาร ลิ่วล้อ ลูกสมุนของสหรัฐ เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย 

ตรงข้ามกับท่าทีของประเทศเพื่อนบ้านของไทยเรา ทั้งพม่า ลาว มาเลเซีย หรือแม้แต่กัมพูชา ล้วนเคารพ และให้เกียรติ การแก้ปัญหาภายในประเทศของไทยเรา 

1) คนไทยทั่วไปก็ไม่ชอบรัฐประหาร 

ถ้าไปทำถามว่า ชอบรัฐประหารหรือไม่? เกือบ 100% จะตอบว่า ไม่ชอบ 

แต่ถ้าให้เลือกระหว่าง 1.ออกมาต่อต้าน คสช.ในวันนี้ กับ 2.ไม่ออกมาต่อต้านในวันนี้ แต่ช่วยทำให้เกิดความสงบ เพื่อให้ คสช.เดินหน้าปฏิรูป มีรัฐบาล มีสภา มีรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ซึ่งหาก คสช.เบี่ยวในภายหน้าก็พร้อมจะออกมาต่อต้าน... คนส่วนใหญ่ยังมีสติปัญญาพอที่จะเลือกอย่างหลัง 

2) คนที่เลือกออกมาแสดงออกในวันนี้ เท่าทีเห็นจึงมีอยู่ 2 ประเภท คือ 

1.พวกเก็บกด อยากดัง อยากแสดงบทบาทว่ามีวิญญาณขบถ โดยเฉพาะเมื่อได้เท่ห์ในสายตาของสหรัฐ 

และ 2.กินเศษเนื้อข้างเขียง รับส่วนแบ่งผลประโยชน์ มาจากระบอบทักษิณ ที่กำลังเสียอำนาจส่วนตัว ไม่ต้องการให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า ทิ้งนักการเมืองทุจริตโกงกินในระบอบทักษิณไว้ข้างหลัง 

คนที่เขาไม่ออกมา เขาก็มีวิญญาณขบถ รักประชาธิปไตย รักชาติบ้านเมือง แต่เขามีสติปัญญา รุ้จักแยกแยะ รู้จักลำดับความสำคัญของปัญหา และยอมเสียสละผลประโยชน์และความต้องการส่วนตัวบ้าง จึงรู้จักยั้งคิด 

ถ้ากองทัพไม่ออกมา ปล่อยบ้านเมืองไว้กับรัฐบาลรักษาการต่อไปเรื่อยๆ เสียง M 79 เสียงระเบิด เสียงปืนที่ประหัตประหารผู้ชุมนุมจะหยุดดังระงมหรือไม่? ประชาชนจะตายอีกเท่าไหร่? จะจับคนร้ายได้บ้างไหม? จะมีการตรวจค้น-บุกจับกุมคนร้าย และอาวุธสงครามได้จำนวนมากเหมือนที่ คสช.ทำในวันนี้ไหม? 

ชาวนาจะได้เงินค่าข้าวไหม? 

คนไทยเจ้าของภาษีจะได้รู้ว่าโครงการจำนำข้าวขาดทุนกว่า 5 แสนล้าน แถมข้าวสารหายกว่า 3 ล้านตันไหม? 

งบประมาณแผ่นดินจะเสร็จทันได้ใช้เดือนตุลานี้ไหม? 

งบลงทุนค้างท่อจะเบิกจ่ายได้ไหม? 

ความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักธุรกิจ จะกลับมาไหม? 

เศรษฐกิจไทยจะมีโอกาสพลิกฟื้นกลับมาอย่างนี้ไหม? ฯลฯ 

3) บรรดาพวกที่ถามหานกพิราบ ชูสามนิ้วต้านเผด็จการ กินแม็คฯ ต้านรัฐประหาร ฯลฯ รวมถึงนักสันติวิธี นักสิทธิมนุษยชนจอมปลอม ที่ออกมาเรียกร้องสิทธิการชุมนุม เรียกร้องประชาธิปไตย 

ถ้าจริงใจกับตัวเองสักนิด ขอถามง่ายๆ ว่า พวกคุณหายหัวไปไหน ตอนที่ประชาชนชุมนุมแล้วถูกลอบยิง ถูกลอบฆ่าไป 20 กว่าศพ (มีเด็กด้วย) บาดเจ็บอีกกว่า 800 คน (นับตั้งแต่ตุลาคม 56 เป็นต้นมา)? 

พวกคุณๆ หายหัวไปไหน ตอนที่รัฐบาลระบอบทักษิณ ผลักดันกฎหมายล้างผิดฆาตกร ล้างผิดคนโกง คนเผาบ้านเผาเมือง เข้าสู่สภาผู้แทน แล้วลักหลับสภาตอนตี 3 ไม่สนใจเสียงคัดค้านของประชาชนเลย? 

ตอนที่รัฐบาลระบอบทักษิณ ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ทรยศความไว้ใจของประชาชน ตระบัดสัตย์ ไม่ทำตามนโยบายหาเสียง แถมทุจริตคดโกงประชาชน ทำผิดกฎหมาย ทำผิดรัฐธรรมนูญ ข่มขู่คุกคามประชาชน คุกคามศาลและองค์กรอิสระ จัดม็อบเสื้อแดงขู่แยกประเทศ จัดตั้งกองกำลังนอกกฎหมาย ใช้อำนาจรัฐเล่นงานฝ่ายตรงข้ามโดยไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐนิติธรรม ฯลฯ 

พวกคุณๆ ไปมุดหัวอยู่หัวอยู่เสียที่ไหนหรือ? 

พอบ้านเมืองกำลังจะเดินหน้า คสช.ประกาศชัดเจนว่าไม่ต้องการจะมีอำนา จเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของตน แต่จะคลี่คลายสถานการณ์ ผ่าทางตันของประเทศ ปฏิรูปบ้านเมือง แล้วเดินหน้าเลือกตั้งโดยเร็ว นักการเมืองเสียอำนาจ เสียผลประโยชน์ส่วนตัว คุณๆ พวกนี้ก็ออกมาเคลื่อนไหว ปลุกปั่น ปลุกระดม 

น่าสงสัยว่า ทำไมคนพวกนี้ไม่เคยถูกยิงด้วยอาวุธสงคราม เหมือนประชาชนผู้ชุมนุมที่ต่อต้านระบอบทักษิณ 

4) สุดท้าย... สงสัยว่าทำไมสหรัฐอเมริกาถึงแสดงท่าทีต่อต้าน คสช.? 

ปรากฏว่า ดร.สุรัตน์ โหราชัยกุล อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาฯ เขียนตอบไว้อย่างแยบคาย อยู่ในเฟซบุ๊ค Surat Horachaikul ขออนุญาตเก็บความมาบอกต่อ ดังนี้ 

1. สหรัฐฯ ไม่ได้รับข้อมูลครบถ้วน จึงไม่เข้าใจความเลวร้ายของระบอบทักษิณหรือ? 

คำตอบ: “สหรัฐฯ ไม่ไร้เดียงสาครับ สหรัฐฯ มีปัญญารู้เรื่องประชาธิปไตย เกินไกลกว่าการเลือกตั้ง สถานทูตสหรัฐฯ มีแผนกการเมือง คนในแผนกนี้ได้มาพูดคุย และเก็บข้อมูลจากผู้คนที่ต่อต้านระบอบทักษิณมานานมากแล้ว

 แม้แต่ในสมัยของคุณทักษิณ สถานทูตสหรัฐฯ น่าจะเป็นมหาอำนาจเดียว ที่กล่าวถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายประการ ของคุณทักษิณไว้อย่างชัดเจน ได้ระบุการฆ่าตัดตอน ไว้ในรายงานสิทธิมนุษยชนของตนด้วยครับ เวลาสหรัฐฯ ตัดสินใจสนับสนุนใคร กลุ่มไหน สหรัฐฯ เอาผลประโยชน์เป็นเกณฑ์หลัก ในอดีต สหรัฐฯ ก็ใช่ว่าจะคัดค้านรัฐประหารในไทยทุกครั้ง แต่ครานี้เป็นไปได้ด้วยว่า สหรัฐฯ เชื่อว่ารัฐประหารครั้งนี้จะ “ล้มเหลว” เหมือนครั้งก่อน ดังนั้น เมื่อเอาความเชื่อนี้ มาบวกกับผลประโยชน์ที่จะได้จากรัฐบาลเพื่อไทย จึงทำให้สหรัฐฯ ต่อต้านรัฐประหารที่เกิดขึ้นครับ”

2. เป็นเพราะสหรัฐยึดมั่นในระบบประชาธิปไตย สหรัฐจึงรับไม่ได้กับรัฐประหารในไทย? 

คำตอบ : “ไม่จริงครับ ถึงแม้สหรัฐฯ จะปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ขึ้นอยู่กับนิยามของคำว่าประชาธิปไตย มีนักวิชาการจำนวนไม่น้อยที่มองว่า สหรัฐฯ ในปัจจุบันไม่ได้เป็นประชาธิปไตยในหลายแง่มุม (ลองดูตัวอย่างจากหนังสือ “Democracy Incorporated” โดย Sheldon S. Wolin) ทั้งนี้ต้องอย่าลืมด้วยครับว่า ต่อให้สหรัฐฯ ใช้ระบอบการปกครองประชาธิปไตย ก็มิได้หมายว่า สหรัฐฯ ต้องสนับสนุนประชาธิปไตยในประเทศอื่นๆ ดูในตะวันออกกลางสิครับ มีใครบ้างเป็นเพื่อนสนิทของสหรัฐฯ ในกลุ่มประเทศเหล่านี้ มีประชาธิปไตยสักกี่ประเทศ
 ในบางประเทศที่มีการเลือกตั้งอย่างสุจริตยุติธรรมเสร็จสิ้นแล้ว ถึงทุกวันนี้ สหรัฐฯ ก็ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้ง เพราะฉันทานุมัติของประชาชนในประเทศเหล่านี้ ขัดกับความประสงค์ของสหรัฐฯ ตัวอย่างอีกประการหนึ่งที่ทุกคนเห็นตำตาคือ การเป็นนายกรัฐมนตรีอินเดียของนายนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) ล่าสุดสำนักข่าว Reuters รายงานว่า ประธานาธิบดีโอบามาได้เรียนเชิญนายกฯโมดีเยือนสหรัฐฯ

 ประเด็นคือ นายโมดีก่อนลงเลือกตั้งนายกฯถูกต้องห้ามไม่ให้เข้าสหรัฐฯ เพราะละเมิดเสรีภาพทางศาสนา แต่ตอนนี้ อย่าว่าแต่เข้าสหรัฐฯ เลย ได้รับเชิญอีกต่างหาก ยังมีตัวอย่างอีกมากมายครับ” 

3.ทหารไทยกลัวสหรัฐฯ หรือไม่? 

คำตอบ : “ผมไม่ทราบครับว่า ทหารไทยกลัวหรือไม่ แต่ทหารไทยน่าจะรู้ดีว่า ในบริบทระหว่างประเทศ ถึงแม้สหรัฐฯ ยังเป็นมหาอำนาจที่สำคัญ แต่ก็มีข้อจำกัดหลายประการ ในไครเมีย ก็ทำอะไรไม่ได้ ในอัฟกานิสถาน ก็ล้มเหลว อิรักก็เช่นกัน ทั้งหมดนี้ ยังไม่รวมปัจจัยการเมืองภายในประเทศสหรัฐฯ ซึ่ง ณ ขณะนี้ไม่เอื้อให้รัฐบาลโอบามาทำอะไรได้มาก ประเด็นสำคัญอีกประการคือ สหรัฐฯ จะกล้าหักดิบกับผู้นำไทยที่กำลังมีอำนาจเหล่านี้หรือ ระวังเขาจะหันไปทางจีนมากขึ้นนะ” 

กวนน้ำให้ใส โดย สารส้ม 
# แนวหน้า 02-06-57

ไม่ใช่เมืองขึ้นอเมริกา ไม่ใช่ขี้ข้าทักษิณ
สหรัฐออกมาประกาศท่าทีไม่เห็นด้วย บอกว่าใช้เวลานานเกินไป สำหรับโรดแมพ 15 เดือนของ คสช. ที่บอกกับคนไทยว่า จะจัดการเพื่อความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองก่อน ลดการต่อต้าน จากนั้นก็จะมีรัฐบาล มีสภานิติบัญญัติ มีสภาปฏิรูป มีรัฐธรรมนูญชั่วคราว ดำเนินการปฏิรูปสั้นๆ แล้วไปเลือกตั้งใหม่
กลุ่มต่อต้าน คสช.จัดกิจกรรมชุมนุม เดิมใช้แมคโดนัลด์เป็นสื่อสัญลักษณ์ แล้วก็มาใช้การชูสามนิ้ว เลียนแบบหนังฮอลีวู้ด อ้างว่าสื่อถึงการต่อต้านเผด็จการ
เหมือนเลือกภาษาสื่อสารไปยังสังคมโลกเป็นการเฉพาะ แถมจำเพาะเจาะจงไปที่สหรัฐ ซึ่งพ่วงได้อีกบางประเทศ ก็คือประเทศบริวาร ลิ่วล้อ ลูกสมุนของสหรัฐ เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย
ตรงข้ามกับท่าทีของประเทศเพื่อนบ้านของไทยเรา ทั้งพม่า ลาว มาเลเซีย หรือแม้แต่กัมพูชา ล้วนเคารพ และให้เกียรติ การแก้ปัญหาภายในประเทศของไทยเรา
1) คนไทยทั่วไปก็ไม่ชอบรัฐประหาร
ถ้าไปทำถามว่า ชอบรัฐประหารหรือไม่? เกือบ 100% จะตอบว่า ไม่ชอบ
แต่ถ้าให้เลือกระหว่าง 1.ออกมาต่อต้าน คสช.ในวันนี้ กับ 2.ไม่ออกมาต่อต้านในวันนี้ แต่ช่วยทำให้เกิดความสงบ เพื่อให้ คสช.เดินหน้าปฏิรูป มีรัฐบาล มีสภา มีรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ซึ่งหาก คสช.เบี่ยวในภายหน้าก็พร้อมจะออกมาต่อต้าน... คนส่วนใหญ่ยังมีสติปัญญาพอที่จะเลือกอย่างหลัง
2) คนที่เลือกออกมาแสดงออกในวันนี้ เท่าทีเห็นจึงมีอยู่ 2 ประเภท คือ
1.พวกเก็บกด อยากดัง อยากแสดงบทบาทว่ามีวิญญาณขบถ โดยเฉพาะเมื่อได้เท่ห์ในสายตาของสหรัฐ
และ 2.กินเศษเนื้อข้างเขียง รับส่วนแบ่งผลประโยชน์ มาจากระบอบทักษิณ ที่กำลังเสียอำนาจส่วนตัว ไม่ต้องการให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า ทิ้งนักการเมืองทุจริตโกงกินในระบอบทักษิณไว้ข้างหลัง
คนที่เขาไม่ออกมา เขาก็มีวิญญาณขบถ รักประชาธิปไตย รักชาติบ้านเมือง แต่เขามีสติปัญญา รุ้จักแยกแยะ รู้จักลำดับความสำคัญของปัญหา และยอมเสียสละผลประโยชน์และความต้องการส่วนตัวบ้าง จึงรู้จักยั้งคิด
ถ้ากองทัพไม่ออกมา ปล่อยบ้านเมืองไว้กับรัฐบาลรักษาการต่อไปเรื่อยๆ เสียง M 79 เสียงระเบิด เสียงปืนที่ประหัตประหารผู้ชุมนุมจะหยุดดังระงมหรือไม่? ประชาชนจะตายอีกเท่าไหร่? จะจับคนร้ายได้บ้างไหม? จะมีการตรวจค้น-บุกจับกุมคนร้าย และอาวุธสงครามได้จำนวนมากเหมือนที่ คสช.ทำในวันนี้ไหม?
ชาวนาจะได้เงินค่าข้าวไหม?
คนไทยเจ้าของภาษีจะได้รู้ว่าโครงการจำนำข้าวขาดทุนกว่า 5 แสนล้าน แถมข้าวสารหายกว่า 3 ล้านตันไหม?
งบประมาณแผ่นดินจะเสร็จทันได้ใช้เดือนตุลานี้ไหม?
งบลงทุนค้างท่อจะเบิกจ่ายได้ไหม?
ความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักธุรกิจ จะกลับมาไหม?
เศรษฐกิจไทยจะมีโอกาสพลิกฟื้นกลับมาอย่างนี้ไหม? ฯลฯ
3) บรรดาพวกที่ถามหานกพิราบ ชูสามนิ้วต้านเผด็จการ กินแม็คฯ ต้านรัฐประหาร ฯลฯ รวมถึงนักสันติวิธี นักสิทธิมนุษยชนจอมปลอม ที่ออกมาเรียกร้องสิทธิการชุมนุม เรียกร้องประชาธิปไตย
ถ้าจริงใจกับตัวเองสักนิด ขอถามง่ายๆ ว่า พวกคุณหายหัวไปไหน ตอนที่ประชาชนชุมนุมแล้วถูกลอบยิง ถูกลอบฆ่าไป 20 กว่าศพ (มีเด็กด้วย) บาดเจ็บอีกกว่า 800 คน (นับตั้งแต่ตุลาคม 56 เป็นต้นมา)?
พวกคุณๆ หายหัวไปไหน ตอนที่รัฐบาลระบอบทักษิณ ผลักดันกฎหมายล้างผิดฆาตกร ล้างผิดคนโกง คนเผาบ้านเผาเมือง เข้าสู่สภาผู้แทน แล้วลักหลับสภาตอนตี 3 ไม่สนใจเสียงคัดค้านของประชาชนเลย?
ตอนที่รัฐบาลระบอบทักษิณ ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ทรยศความไว้ใจของประชาชน ตระบัดสัตย์ ไม่ทำตามนโยบายหาเสียง แถมทุจริตคดโกงประชาชน ทำผิดกฎหมาย ทำผิดรัฐธรรมนูญ ข่มขู่คุกคามประชาชน คุกคามศาลและองค์กรอิสระ จัดม็อบเสื้อแดงขู่แยกประเทศ จัดตั้งกองกำลังนอกกฎหมาย ใช้อำนาจรัฐเล่นงานฝ่ายตรงข้ามโดยไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐนิติธรรม ฯลฯ
พวกคุณๆ ไปมุดหัวอยู่หัวอยู่เสียที่ไหนหรือ?
พอบ้านเมืองกำลังจะเดินหน้า คสช.ประกาศชัดเจนว่าไม่ต้องการจะมีอำนา จเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของตน แต่จะคลี่คลายสถานการณ์ ผ่าทางตันของประเทศ ปฏิรูปบ้านเมือง แล้วเดินหน้าเลือกตั้งโดยเร็ว นักการเมืองเสียอำนาจ เสียผลประโยชน์ส่วนตัว คุณๆ พวกนี้ก็ออกมาเคลื่อนไหว ปลุกปั่น ปลุกระดม
น่าสงสัยว่า ทำไมคนพวกนี้ไม่เคยถูกยิงด้วยอาวุธสงคราม เหมือนประชาชนผู้ชุมนุมที่ต่อต้านระบอบทักษิณ
4) สุดท้าย... สงสัยว่าทำไมสหรัฐอเมริกาถึงแสดงท่าทีต่อต้าน คสช.?
ปรากฏว่า ดร.สุรัตน์ โหราชัยกุล อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาฯ เขียนตอบไว้อย่างแยบคาย อยู่ในเฟซบุ๊ค Surat Horachaikul ขออนุญาตเก็บความมาบอกต่อ ดังนี้
1. สหรัฐฯ ไม่ได้รับข้อมูลครบถ้วน จึงไม่เข้าใจความเลวร้ายของระบอบทักษิณหรือ?
คำตอบ: “สหรัฐฯ ไม่ไร้เดียงสาครับ สหรัฐฯ มีปัญญารู้เรื่องประชาธิปไตย เกินไกลกว่าการเลือกตั้ง สถานทูตสหรัฐฯ มีแผนกการเมือง คนในแผนกนี้ได้มาพูดคุย และเก็บข้อมูลจากผู้คนที่ต่อต้านระบอบทักษิณมานานมากแล้ว
แม้แต่ในสมัยของคุณทักษิณ สถานทูตสหรัฐฯ น่าจะเป็นมหาอำนาจเดียว ที่กล่าวถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายประการ ของคุณทักษิณไว้อย่างชัดเจน ได้ระบุการฆ่าตัดตอน ไว้ในรายงานสิทธิมนุษยชนของตนด้วยครับ เวลาสหรัฐฯ ตัดสินใจสนับสนุนใคร กลุ่มไหน สหรัฐฯ เอาผลประโยชน์เป็นเกณฑ์หลัก ในอดีต สหรัฐฯ ก็ใช่ว่าจะคัดค้านรัฐประหารในไทยทุกครั้ง แต่ครานี้เป็นไปได้ด้วยว่า สหรัฐฯ เชื่อว่ารัฐประหารครั้งนี้จะ “ล้มเหลว” เหมือนครั้งก่อน ดังนั้น เมื่อเอาความเชื่อนี้ มาบวกกับผลประโยชน์ที่จะได้จากรัฐบาลเพื่อไทย จึงทำให้สหรัฐฯ ต่อต้านรัฐประหารที่เกิดขึ้นครับ”
2. เป็นเพราะสหรัฐยึดมั่นในระบบประชาธิปไตย สหรัฐจึงรับไม่ได้กับรัฐประหารในไทย?
คำตอบ : “ไม่จริงครับ ถึงแม้สหรัฐฯ จะปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ขึ้นอยู่กับนิยามของคำว่าประชาธิปไตย มีนักวิชาการจำนวนไม่น้อยที่มองว่า สหรัฐฯ ในปัจจุบันไม่ได้เป็นประชาธิปไตยในหลายแง่มุม (ลองดูตัวอย่างจากหนังสือ “Democracy Incorporated” โดย Sheldon S. Wolin) ทั้งนี้ต้องอย่าลืมด้วยครับว่า ต่อให้สหรัฐฯ ใช้ระบอบการปกครองประชาธิปไตย ก็มิได้หมายว่า สหรัฐฯ ต้องสนับสนุนประชาธิปไตยในประเทศอื่นๆ ดูในตะวันออกกลางสิครับ มีใครบ้างเป็นเพื่อนสนิทของสหรัฐฯ ในกลุ่มประเทศเหล่านี้ มีประชาธิปไตยสักกี่ประเทศ
ในบางประเทศที่มีการเลือกตั้งอย่างสุจริตยุติธรรมเสร็จสิ้นแล้ว ถึงทุกวันนี้ สหรัฐฯ ก็ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้ง เพราะฉันทานุมัติของประชาชนในประเทศเหล่านี้ ขัดกับความประสงค์ของสหรัฐฯ ตัวอย่างอีกประการหนึ่งที่ทุกคนเห็นตำตาคือ การเป็นนายกรัฐมนตรีอินเดียของนายนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) ล่าสุดสำนักข่าว Reuters รายงานว่า ประธานาธิบดีโอบามาได้เรียนเชิญนายกฯโมดีเยือนสหรัฐฯ
ประเด็นคือ นายโมดีก่อนลงเลือกตั้งนายกฯถูกต้องห้ามไม่ให้เข้าสหรัฐฯ เพราะละเมิดเสรีภาพทางศาสนา แต่ตอนนี้ อย่าว่าแต่เข้าสหรัฐฯ เลย ได้รับเชิญอีกต่างหาก ยังมีตัวอย่างอีกมากมายครับ”
3.ทหารไทยกลัวสหรัฐฯ หรือไม่?
คำตอบ : “ผมไม่ทราบครับว่า ทหารไทยกลัวหรือไม่ แต่ทหารไทยน่าจะรู้ดีว่า ในบริบทระหว่างประเทศ ถึงแม้สหรัฐฯ ยังเป็นมหาอำนาจที่สำคัญ แต่ก็มีข้อจำกัดหลายประการ ในไครเมีย ก็ทำอะไรไม่ได้ ในอัฟกานิสถาน ก็ล้มเหลว อิรักก็เช่นกัน ทั้งหมดนี้ ยังไม่รวมปัจจัยการเมืองภายในประเทศสหรัฐฯ ซึ่ง ณ ขณะนี้ไม่เอื้อให้รัฐบาลโอบามาทำอะไรได้มาก ประเด็นสำคัญอีกประการคือ สหรัฐฯ จะกล้าหักดิบกับผู้นำไทยที่กำลังมีอำนาจเหล่านี้หรือ ระวังเขาจะหันไปทางจีนมากขึ้นนะ”
กวนน้ำให้ใส โดย สารส้ม
# แนวหน้า 02-06-57



Photo: ●●นี่คือ..เหตุผลสำคัญที่ทำไม..สหรัฐอเมริกา..ถึงอุ้มรัฐบาลอีปูอย่างออกหน้าออกตา...อ่านแล้วจะอึ้ง...มาดูว่าไอ้หน้าเหลี่ยมมันเสนอขายสมบัติของชาติชิ้นใดให้กับไอ้กัน...มันถึงได้เสือกนักหนา...บอกได้คำเดียวว่า..โคตรระยำ..ถ้าอ่านแล้วไม่ด่า..ท้าให้ไปฆ่าไอ้เหี้ยปิ้งกับไอ้สัสเหลิมได้เลย..!!!!

คนไทย.. โดนหลอก!!! (ถั่วต้มจนเปื่อย) 
เอกสารสำคัญจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา กรณีการตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยเนื้อความในเอกสารนี้ จะทำให้การชุมนุมที่มีคนออกมาร่วมเป็นล้านคน หรือเรื่องการปฎิรูปประเทศ กลายเป็นเรื่องเล็กๆไปเลย เนื่องจาก การที่เราให้ รมว. ต่างประเทศของเราเป็นคนลงนามในสัญญาจ้างนี้ ผูกพันกับไทย
 ตามกฎหมายระหว่างประเทศจ่ายเงินไปบางส่วน สัญญาจึงสมบูรณ์แล้ว ระยะเวลาของสัญญา 22 พ.ย. 2556 ถึง 28 ก.พ. 2557 ประมาน 3 เดือน สั้นมากสำหรับเรื่องใหญ่และสำคัญขนาดนี้แสดงว่าเตรียมการมาก่อนแล้ว

เนื้อหาสำคัญ รัฐบาลไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สุรพงศ์ โตวิจักรชัยกุล ได้ว่าจ้าง Davenport McKesson Corporation ให้เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการล๊อบบี้ให้สมาชิกสภาคองเกรส ของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้อนุมัติ ให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐ มาสร้างฐานทัพเรือ ในประเทศไทย
 รวมทั้งประเทศไทยจะช่วยเหลือทางทหารในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในอ่าวบริเวณน่านน้ำของราชอาณาจักรไทย "หมายความว่าเราจะเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ในอ่าวไทยทั้งหมดแก่สหรัฐทันที อย่างนี้จะไม่เรียกว่าขายชาติได้อย่างไร"

เหตุที่รัฐบาลไทยไปจ้างบริษัทล๊อบบี้ เช่นนี้เพราะอเมริกา มีความประสงค์ที่จะมาตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยมานานแล้วเนื่องจากเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ และเป็นการปิดล้อมประเทศจีนไม่ให้แผ่อิทธิพลลงสู่ประเทศอาเซียน แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ

 เสนอเรื่องเข้าสภาคองเกรสฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะจะถูกตั้งคำถามว่าทางประเทศไทยว่าอย่างไร จึงส่งสัญญานให้ฝ่ายไทย เสนอผ่านบริษัทล๊อบบี้ เขาก็จะรับลูกทันที หากสภาคองเกรส อนุมัติ ก็จะมีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศทันที

"เขาจึงออก พรบ. นิรโทษกรรมสุดซอย เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ซึ่งผ่านสภาในอีก 2 วันถัดจาก พรบ. สุดซอย"

จึงไม่แปลกใจที่ อดีตนายก สามารถเดินทางเข้าออกสหรัฐได้ โดยไม่กลัวว่าจะถูกจับกุม เพราะศาลประจำวอชิงตันได้รับฟ้องกรณีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ไว้แล้ว

ทั้งหมดจึงเป็นการวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เป้าหมายน่าเป็นแหล่งพลังงานในอ่าวไทย เพราะถ้าจะสร้างฐานทัพเรือ ก็คงต้องใช้ที่สนามบินอู่ตะเภา เพราะสร้างเพิ่มเติมอีกไม่มาก และเป็นทั้งสนามบินและท่าเรือ แล้วประกาศเขตปลอดภัยของฐานทัพ อาจมีรัศมีถึง 300 กม. เพราะจะมีเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือดำนำพลังนิวเคลียร์ เครื่องบินรบชนิดต่างๆ รวมทั้งต้องนำอาวุธนิวเคลียร์ติดมาด้วยแน่นอน พื้นที่ดังกล่าวครอบคลุมแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย- เขมร ก็ไม่มีใครเข้ามาได้
 เพราะต้องได้รับอนุญาติจากสหรัฐ เขาจึงขุดน้ำมันได้แต่เพียงผู้เดียว และขณะนี้ เซฟรอน ได้สัมปทานจากรัฐบาลไทยไปทั้ง 15 แปลงแล้ว

แต่พอศาลรัฐธรรมนูญรับฟ้อง กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ทำให้ติดขัด เขาจึงเปลี่ยนตัว จากประชา พรหมนอก ไปเป็น สุรพงศ์ ที่ไม่มีบารมีในกองทัพ และตำรวจ เลยแปลกไหมครับ ก็เพราะให้สุรพงศ์ มาแล้วเรียกแขกอย่างเดียว เพื่อบีบให้เกิดการนองเลือด แล้วบีบให้ทหารปฎิวัติ , ม. 190 ก็จะหายไป ทางสหรัฐก็ลงมติอนุมัติทันที แล้วก็มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศไทยก็จะสูญเสียเอกราชทางดินแดน เสียน่านน้ำในอ่าวไทย และอาจจะเลยไปถึงฝั่งอันดามันบางส่วนด้วย กองทัพสหรัฐก็จะเข้ามาควบคุมประเทศในอาเซียนได้มาขึ้น โดยใช้ไทยเป็นฐาน

นอกจากนั้นจะเสียความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับเพื่อนบ้าน และที่สำคัญกับประเทศจีน ซึ่งอาจถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ ประเทศชาติก็จะเสียหายมากมาย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของใครบางคน บางกลุ่ม

ทั้งหมดถูกวางแผนและเตรียมการมาก่อนทั้งสิ้น!

●●นี่คือ..เหตุผลสำคัญที่ทำไม..สหรัฐอเมริกา..ถึงอุ้มรัฐบาลอีปูอย่างออกหน้าออกตา...อ่านแล้วจะอึ้ง...มาดูว่าไอ้หน้าเหลี่ยมมันเสนอขายสมบัติของชาติชิ้นใดให้กับไอ้กัน...มันถึงได้เสือกนักหนา...บอกได้คำเดียวว่า..โคตรระยำ..ถ้าอ่านแล้วไม่ด่า..ท้าให้ไปฆ่าไอ้เหี้ยปิ้งกับไอ้สัสเหลิมได้เลย..!!!!

คนไทย.. โดนหลอก!!! (ถั่วต้มจนเปื่อย)
เอกสารสำคัญจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา กรณีการตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยเนื้อความในเอกสารนี้ จะทำให้การชุมนุมที่มีคนออกมาร่วมเป็นล้านคน หรือเรื่องการปฎิรูปประเทศ กลายเป็นเรื่องเล็กๆไปเลย เนื่องจาก การที่เราให้ รมว. ต่างประเทศของเราเป็นคนลงนามในสัญญาจ้างนี้ ผูกพันกับไทย
ตามกฎหมายระหว่างประเทศจ่ายเงินไปบางส่วน สัญญาจึงสมบูรณ์แล้ว ระยะเวลาของสัญญา 22 พ.ย. 2556 ถึง 28 ก.พ. 2557 ประมาน 3 เดือน สั้นมากสำหรับเรื่องใหญ่และสำคัญขนาดนี้แสดงว่าเตรียมการมาก่อนแล้ว

เนื้อหาสำคัญ รัฐบาลไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สุรพงศ์ โตวิจักรชัยกุล ได้ว่าจ้าง Davenport McKesson Corporation ให้เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการล๊อบบี้ให้สมาชิกสภาคองเกรส ของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้อนุมัติ ให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐ มาสร้างฐานทัพเรือ ในประเทศไทย รวมทั้งประเทศไทยจะช่วยเหลือทางทหารในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในอ่าวบริเวณน่านน้ำของราชอาณาจักรไทย "หมายความว่าเราจะเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ในอ่าวไทยทั้งหมดแก่สหรัฐทันที อย่างนี้จะไม่เรียกว่าขายชาติได้อย่างไร"

เหตุที่รัฐบาลไทยไปจ้างบริษัทล๊อบบี้เช่นนี้  เพราะอเมริกา มีความประสงค์ที่จะมาตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยมานานแล้วเนื่องจากเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ และเป็นการปิดล้อมประเทศจีนไม่ให้แผ่อิทธิพลลงสู่ประเทศอาเซียน แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐเสนอเรื่องเข้าสภาคองเกรสฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะจะถูกตั้งคำถามว่าทางประเทศไทยว่าอย่างไร จึงส่งสัญญานให้ฝ่ายไทย เสนอผ่านบริษัทล๊อบบี้ เขาก็จะรับลูกทันที หากสภาคองเกรสอนุมัติ ก็จะมีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศทันที

"เขาจึงออก พรบ. นิรโทษกรรมสุดซอย เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ซึ่งผ่านสภาในอีก 2 วันถัดจาก พรบ. สุดซอย"  จึงไม่แปลกใจที่ อดีตนายก สามารถเดินทางเข้าออกสหรัฐได้ โดยไม่กลัวว่าจะถูกจับกุม เพราะศาลประจำวอชิงตันได้รับฟ้องกรณีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ไว้แล้ว

ทั้งหมดจึงเป็นการวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เป้าหมายน่าเป็นแหล่งพลังงานในอ่าวไทย เพราะถ้าจะสร้างฐานทัพเรือ ก็คงต้องใช้ที่สนามบินอู่ตะเภา เพราะสร้างเพิ่มเติมอีกไม่มาก และเป็นทั้งสนามบินและท่าเรือ แล้วประกาศเขตปลอดภัยของฐานทัพ อาจมีรัศมีถึง 300 กม. เพราะจะมีเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือดำนำพลังนิวเคลียร์ เครื่องบินรบชนิดต่างๆ รวมทั้งต้องนำอาวุธนิวเคลียร์ติดมาด้วยแน่นอน พื้นที่ดังกล่าวครอบคลุมแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย- เขมร ก็ไม่มีใครเข้ามาได้  เพราะต้องได้รับอนุญาติจากสหรัฐ เขาจึงขุดน้ำมันได้แต่เพียงผู้เดียว และขณะนี้ เซฟรอน ได้สัมปทานจากรัฐบาลไทยไปทั้ง 15 แปลงแล้ว

แต่พอศาลรัฐธรรมนูญรับฟ้อง กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ทำให้ติดขัด เขาจึงเปลี่ยนตัวจากประชา พรหมนอก ไปเป็น สุรพงศ์ ที่ไม่มีบารมีในกองทัพ และตำรวจ เลยแปลกไหมครับ ก็เพราะให้สุรพงศ์ มาแล้วเรียกแขกอย่างเดียว เพื่อบีบให้เกิดการนองเลือด แล้วบีบให้ทหารปฎิวัติ  ม. 190 ก็จะหายไป ทางสหรัฐก็ลงมติอนุมัติทันที แล้วก็มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศไทยก็จะสูญเสียเอกราชทางดินแดน เสียน่านน้ำในอ่าวไทย และอาจจะเลยไปถึงฝั่งอันดามันบางส่วนด้วย กองทัพสหรัฐก็จะเข้ามาควบคุมประเทศในอาเซียนได้มากขึ้น โดยใช้ไทยเป็นฐาน

นอกจากนั้นจะเสียความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับเพื่อนบ้าน และที่สำคัญกับประเทศจีน ซึ่งอาจถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ ประเทศชาติก็จะเสียหายมากมาย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของใครบางคน บางกลุ่ม

ทั้งหมดถูกวางแผนและเตรียมการมาก่อนทั้งสิ้น!
See More
 






Photo: ภารกิจกู้ชาติของ“คสช.” ไล่โละ“เชื้อบ้า”ระบอบทักษิณ

เป็นงานยักษ์ภารกิจใหญ่ของรัฐนาวาไทยภายใต้พะพี่ห้อ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อย่างแท้จริง ที่จะต้องเข้ามาเก็บกวาดชำระล้างในสิ่งที่ระบอบทักษิณทำปู้ยี้ปู้ยำกับประเทศไทยมาตลอดกว่า10 ปีนี้

ปัญหาที่ น.ช.ทักษิณ สร้างเรื่องเอาไว้หนักหนาสาหัส ซ่อนปมผูกเงื่อนไว้ยิ่งกว่าลิงแก้แหเป็นหลายร้อยเท่า เพราะหยั่งรากลึกลงดินฝังทุกซอกอณูบริเวณของขวานทอง เสมือนลมพายุบ้าคลั่ง ที่ซัดกิเลสตัวเองเข้าใส่ประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้งตลอดช่วงที่ผ่านมา

ไม่ต่างจาก“คนบ้า”จนบ้านเมืองโคลงเคลง จวนเจียนจะล่มจมกลางมหาสมุทรมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

ตั้งแต่เรื่องการบ้าอำนาจ มุทะลุ อยากจะเป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียว ทำอะไรต้องได้ดังใจไปเสียหมดทุกเรื่อง โดยไม่สนว่าคนอื่นและประเทศชาติจะได้รับผลกระทบอย่างไร เพียงขอให้สำเร็จความใคร่ในสิ่งที่ตนเองคิด เพราะหลงตนว่า ความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ตอนเลือกตั้งคือสิ่งที่การันตีความชอบธรรมในทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองทำ

แม้กระทั่งเรื่องผิดก็ต้องเป็นถูก หากจะทำ

วงจรอุบาทว์อุบัติขึ้นมาตลอด จนกลายเป็นระบอบที่ทำลายล้างประเทศไทยอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนโยบายประชานิยมที่หว่านลงให้คนหลงเชื่อว่า จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ทั้งที่เบื้องลึกเบื้องหลังต่างจะกอบโกยเป็นผลประโยชน์ตัวเอง

และเพียงเพื่อทำให้ตนอยู่ในอำนาจต่อไปด้วยความสวยงามที่อยู่เบื้องหน้า มอมเมาให้ประชาชนรากหญ้าหัวปักหัวปำว่า เป็นคนดีคนเก่ง

เห็นได้ชัดจากหลายเหตุการณ์ หลายพฤติกรรมที่เคยกระทำเอาไว้ ทั้งการแก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดช่องเปิดรูให้ตัวเองกระทำชั่วได้โดยไม่ผิดกฎกติกา อย่างเรื่องการเลี่ยงภาษี การซุกหุ้น หรือแม้กระทั่งเรื่องการซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร ภรรยาสุดที่รัก

การใช้เงินทองที่มีอยู่มากมายเข้าไปทำลายระบบ ระเบียบ ต่างๆ ตลอดจนการแทรกแซงทุกกลไกเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดปลอดภัยเหมือนเมื่อครั้งศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีซุกหุ้นภาคแรก ที่ก็มีหลักฐานมาชำแหละกันภายหลังว่า น.ช.ทักษิณ พยายามเข้าไปกว้านซื้อตัวตุลาการในวงเงินจำนวนมหาศาล เพื่อให้ตัวเองรอดพ้นโทษทัณฑ์

เหมือนที่คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ระบุ เอาไว้ว่า นี่คือต้นตอแห่งความขัดแย้งในประเทศไทยทุกวันนี้

ขณะเดียวกัน ยังเข้าไปบ่อนเซาะกระบวนการบริหารราชการแผ่นดิน ด้วยการคืบคลานเข้าไปบั่นทอนให้อ่อนแอโดยการโยกย้ายพวกพ้องตัวเองเข้าไปนั่งอยู่ในตำแหน่งใหญ่ๆ ในระบบราชการเพื่อให้การกระทำชั่วทำได้โดยง่าย ไม่มีก้างขวางคอ โดยไม่ได้ดูว่าคนที่แต่งตั้งเข้าไปมีความสามารถมากน้อยแค่ไหน

ตรรกะง่ายๆ ของน.ช.ทักษิณ ไม่ได้มองว่าคนไหนมีฝีมือ ตรงกับสายงานที่จะนำไปจับวางหรือไม่ แต่ขอให้แค่มีบุญคุณ หรือเคยทำอะไรให้ตัวเองเท่านั้นต้องตอบแทนกันด้วยเก้าอี้ และลาภยศ เพื่อให้บุคคลนั้นๆ จงรักภักดี เป็นขี้ข้าที่ซื่อสัตย์

รากฐานอย่างนี้ถูกวางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งยังมีอำนาจ กระทั่งกลับมามีอำนาจในรูปแบบนอมินีก็ยังทำอยู่ อาทิ การตั้ง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพราะเป็นหลานของ นายปรีดา พัฒนถาบุตร อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นครูทางการเมืองของตัวเอง เพียงเท่านั้น

หรือในกรณีของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ที่อวยยศให้ ก็เพราะเป็นน้องรัก เป็นบ่าวไพร่ที่จงรักภักดี พอๆ กับ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร อดีตนายตำรวจติดตามตัวเองสมัยเป็นนายกฯ ที่ก็ได้ดิบได้ดี ไปนั่งอยู่ในเก้าอี้ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชนิดตำแหน่งเก่าตำแหน่งใหม่ ห่างกันลิบลับ

ตรงกันข้ามกับคนเก่ง คนดี หากไม่สนองงานทำตามใจ ก็ไปตบยุงเตะฝุ่นกันอยู่ในกรุ ในห้องเย็น

ไม่ใช่แค่ในระบบราชการที่ น.ช.ทักษิณ ชอนไช แต่ลุกลามไปถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเสมือนแหล่งขุมทรัพย์ที่บรรดานักการเมือง หรือผู้แสวงหาผลประโยชน์อยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง เพราะปีๆ หนึ่ง มีงบประมาณในโครงการของรัฐเข้าไปจำนวนมหาศาล เหมาะแก่การสูบเลือด สูบเนื้อ

โดยน.ช.ทักษิณ พยายามดันคนของตัวเองเข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจเหล่านี้ เพื่อให้หากินได้หลายช่องหลายทาง บางคนได้นั่งก็เพราะเป็นการตกรางวัล ความดีความชอบ ที่เคยทำให้ เรียกว่าไล่รายชี่อบอร์ดรัฐวิสาหกิจตอนนี้ดูกันได้

"เฟรนด์ ออฟ แม้ว”เกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตรกันพรึ่บพรับ เต็มไปหมดแทบจะล้นบอร์ด

ไล่เอาตั้งแต่บอร์ดการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่ปูนบำเหน็จให้“บิ๊กแจ๊ส”น้องรักเข้าไปนั่งเป็นประธานคุมเชิง แล้วให้พี่ชายต่างมารดาของ “คุณหญิงกระบังลม” อย่าง พล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ เป็นกรรมการ พอๆ กับบอร์ดการบินไทย ที่ก็ตั้งเด็กในก๊วนเพื่อไทย อย่างน.ต.ศิธา ทิวารี อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ก๊วนกทม. เป็นประธาน

ไม่ต่างเลยกับอภิมหาบอร์ดอย่าง บอร์ดปตท. ที่ก็ส่งเด็กในคอนโทรลไปนั่งกระดิกเท้า กินค่าเบี้ยเลี้ยง เบี้ยประชุม และกุมผลประโยชน์มหาศาล ทั้ง นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรมช.คลัง ที่เข้าวินไปนั่งเก้าอี้นี้ได้ก็ด้วยผลงานเชิงประจักษ์ที่ทำให้คดีขายหุ้นชินคอร์ป ไม่ต้องเสียภาษี เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสรรพากร

เช่นเดียวกับ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ ที่ได้เก้าอี้ก็เพราะเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด (อสส.) เป็นผู้สั่งไม่ฟ้องครอบครัวชินวัตร

ล้วงลูกขนาดไหน แม้แต่บริษัทลูกของปตท. น.ช.ทักษิณ ก็ไม่ปล่อยให้หลุดมือแม้แต่นิดเดียว ด้วยการส่งเด็กในสังกัดอย่าง นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทนายความพรรคไทยรักไทย เข้าไปนั่งแช่ งาบกันสบายเกือก สบายท้อง

ยังไม่นับรวมบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่ยังเหลือในประเทศไทย ซึ่งมีคนในเครือข่ายตระกูลชินวัตร นั่งเป็นกรรมการแทบจะเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ประเภทไล่ชื่อกันไม่หวาดไหว สาวไส้ออกมาก็เจอเชื่อมโยงกันแทบทุกคน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. จึงเตรียมจะสังคายนากันใหม่ แบบยกแผง

ระบอบทักษิณ แพร่กระจายอยู่ทั่ว ดังนั้นการรื้อวงจรอุบาทว์เหล่านี้จึงไม่ง่าย คสช.จำเป็นจะต้องใช้ความตั้งใจจริงๆ และต้องทำแบบสุดซอยด้วย การปฏิวัติรัฐประหารครั้งนี้ ถือเป็นต้นทุนประเทศต้องเริ่มใหม่ ให้หมดจด

สำคัญคือ คสช. ต้องไม่บ้าอำนาจเหมือนยุค คมช. ที่เป็นต้นเหตุให้งานล่มกลางอ่าว ไม่เช่นนั้นจะเข้าทางคนบ้าอย่าง น.ช.ทักษิณเหมือนกัน

ติดตามกันต่อไปว่า คสช. จะล้างบ้าง สังคายนากันได้แค่ไหน !!!

# Astvผู้จัดการออนไลน์ : นกหวีด // 2 มิถุนายน 2557

ภารกิจกู้ชาติของ “คสช.” ไล่โละ “เชื้อบ้า” ระบอบทักษิณ

เป็นงานยักษ์ภารกิจใหญ่ของรัฐนาวาไทยภายใต้พะยี่ห้อ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อย่างแท้จริง ที่จะต้องเข้ามาเก็บกวาดชำระล้างในสิ่งที่ระบอบทักษิณทำปู้ยี้ปู้ยำกับประเทศไทยมาตลอดกว่า10 ปีนี้

ปัญหาที่ น.ช.ทักษิณ สร้างเรื่องเอาไว้หนักหนาสาหัส ซ่อนปมผูกเงื่อนไว้ยิ่งกว่าลิงแก้แหเป็นหลายร้อยเท่า เพราะหยั่งรากลึกลงดินฝังทุกซอกอณูบริเวณของขวานทอง เสมือนลมพายุบ้าคลั่ง ที่ซัดกิเลสตัวเองเข้าใส่ประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้งตลอดช่วงที่ผ่านมา ไม่ต่างจาก“คนบ้า”จนบ้านเมืองโคลงเคลง จวนเจียนจะล่มจมกลางมหาสมุทรมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

ตั้งแต่เรื่องการบ้าอำนาจ มุทะลุ อยากจะเป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียว ทำอะไรต้องได้ดังใจไปเสียหมดทุกเรื่อง โดยไม่สนว่าคนอื่นและประเทศชาติจะได้รับผลกระทบอย่างไร เพียงขอให้สำเร็จความใคร่ในสิ่งที่ตนเองคิด เพราะหลงตนว่า ความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ตอนเลือกตั้งคือสิ่งที่การันตีความชอบธรรมในทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองทำ  แม้กระทั่งเรื่องผิดก็ต้องให้เป็นถูก วงจรอุบาทว์อุบัติขึ้นมาตลอด จนกลายเป็นระบอบที่ทำลายล้างประเทศไทยอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนโยบายประชานิยมที่หว่านลงให้คนหลงเชื่อว่า จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ทั้งที่เบื้องลึกเบื้องหลังต่างจะกอบโกยเป็นผลประโยชน์ตัวเอง และเพียงเพื่อทำให้ตนอยู่ในอำนาจต่อไปด้วยความสวยงามที่อยู่เบื้องหน้า มอมเมาให้ประชาชนรากหญ้าหัวปักหัวปำว่า เป็นคนดีคนเก่ง

เห็นได้ชัดจากหลายเหตุการณ์ หลายพฤติกรรมที่เคยกระทำเอาไว้ ทั้งการแก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดช่องเปิดรูให้ตัวเองกระทำชั่วได้โดยไม่ผิดกฎกติกา อย่างเรื่องการเลี่ยงภาษี การซุกหุ้น หรือแม้กระทั่งเรื่องการซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร ภรรยาสุดที่รัก  การใช้เงินทองที่มีอยู่มากมายเข้าไปทำลายระบบ ระเบียบ ต่างๆ ตลอดจนการแทรกแซงทุกกลไกเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดปลอดภัยเหมือนเมื่อครั้งศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีซุกหุ้นภาคแรก ที่ก็มีหลักฐานมาชำแหละกันภายหลังว่า น.ช.ทักษิณ พยายามเข้าไปกว้านซื้อตัวตุลาการในวงเงินจำนวนมหาศาล เพื่อให้ตัวเองรอดพ้นโทษทัณฑ์
เหมือนที่คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ระบุ เอาไว้ว่า นี่คือต้นตอแห่งความขัดแย้งในประเทศไทยทุกวันนี้
ขณะเดียวกัน ยังเข้าไปบ่อนเซาะกระบวนการบริหารราชการแผ่นดิน ด้วยการคืบคลานเข้าไปบั่นทอนให้อ่อนแอโดยการโยกย้ายพวกพ้องตัวเองเข้าไปนั่งอยู่ในตำแหน่งใหญ่ๆ ในระบบราชการเพื่อให้การกระทำชั่วทำได้โดยง่าย ไม่มีก้างขวางคอ โดยไม่ได้ดูว่าคนที่แต่งตั้งเข้าไปมีความสามารถมากน้อยแค่ไหน

ตรรกะง่ายๆ ของน.ช.ทักษิณ ไม่ได้มองว่าคนไหนมีฝีมือ ตรงกับสายงานที่จะนำไปจับวางหรือไม่ แต่ขอให้แค่มีบุญคุณ หรือเคยทำอะไรให้ตัวเองเท่านั้นต้องตอบแทนกันด้วยเก้าอี้ และลาภยศ เพื่อให้บุคคลนั้นๆ จงรักภักดี เป็นขี้ข้าที่ซื่อสัตย์  รากฐานอย่างนี้ถูกวางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งยังมีอำนาจ กระทั่งกลับมามีอำนาจในรูปแบบนอมินีก็ยังทำอยู่ อาทิ การตั้ง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพราะเป็นหลานของ นายปรีดา พัฒนถาบุตร อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นครูทางการเมืองของตัวเอง เพียงเท่านั้น หรือในกรณีของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ที่อวยยศให้ ก็เพราะเป็นน้องรัก เป็นบ่าวไพร่ที่จงรักภักดี พอๆ กับ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร อดีตนายตำรวจติดตามตัวเองสมัยเป็นนายกฯ ที่ก็ได้ดิบได้ดี ไปนั่งอยู่ในเก้าอี้ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชนิดตำแหน่งเก่าตำแหน่งใหม่ ห่างกันลิบลับ ตรงกันข้ามกับคนเก่ง คนดี หากไม่สนองงานทำตามใจ ก็ไปตบยุงเตะฝุ่นกันอยู่ในกรุ ในห้องเย็น ไม่ใช่แค่ในระบบราชการที่ น.ช.ทักษิณ ชอนไช แต่ลุกลามไปถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเสมือนแหล่งขุมทรัพย์ที่บรรดานักการเมือง หรือผู้แสวงหาผลประโยชน์อยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง เพราะปีๆ หนึ่ง มีงบประมาณในโครงการของรัฐเข้าไปจำนวนมหาศาล เหมาะแก่การสูบเลือด สูบเนื้อ โดยน.ช.ทักษิณ พยายามดันคนของตัวเองเข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจเหล่านี้ เพื่อให้หากินได้หลายช่องหลายทาง บางคนได้นั่งก็เพราะเป็นการตกรางวัล ความดีความชอบ ที่เคยทำให้ เรียกว่าไล่รายชื่อบอร์ดรัฐวิสาหกิจตอนนี้ดูกันได้ "เฟรนด์ ออฟ แม้ว” เกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตรกันพรึ่บ เต็มไปหมดแทบจะล้นบอร์ด ไล่เอาตั้งแต่บอร์ดการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่ปูนบำเหน็จให้“บิ๊กแจ๊ส”น้องรักเข้าไปนั่งเป็นประธานคุมเชิง แล้วให้พี่ชายต่างมารดาของ “คุณหญิงกระบังลม” อย่าง พล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ เป็นกรรมการ พอๆ กับบอร์ดการบินไทย ที่ก็ตั้งเด็กในก๊วนเพื่อไทย อย่างน.ต.ศิธา ทิวารี อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ก๊วนกทม. เป็นประธาน
ไม่ต่างเลยกับอภิมหาบอร์ดอย่าง บอร์ด ปตท. ที่ก็ส่งเด็กในคอนโทรลไปนั่งกระดิกเท้า กินค่าเบี้ยเลี้ยง เบี้ยประชุม และกุมผลประโยชน์มหาศาล ทั้ง นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรมช.คลัง ที่เข้าวินไปนั่งเก้าอี้นี้ได้ก็ด้วยผลงานเชิงประจักษ์ที่ทำให้คดีขายหุ้นชินคอร์ป ไม่ต้องเสียภาษี เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสรรพากร เช่นเดียวกับ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ ที่ได้เก้าอี้ก็เพราะเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด (อสส.) เป็นผู้สั่งไม่ฟ้องครอบครัวชินวัตร
ล้วงลูกขนาดไหน แม้แต่บริษัทลูกของปตท. น.ช.ทักษิณ ก็ไม่ปล่อยให้หลุดมือแม้แต่นิดเดียว ด้วยการส่งเด็กในสังกัดอย่าง นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทนายความพรรคไทยรักไทย เข้าไปนั่งแช่ งาบกันสบายเกือก สบายท้อง ยังไม่นับรวมบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่ยังเหลือในประเทศไทย ซึ่งมีคนในเครือข่ายตระกูลชินวัตร นั่งเป็นกรรมการแทบจะเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ประเภทไล่ชื่อกันไม่หวาดไหว สาวไส้ออกมาก็เจอเชื่อมโยงกันแทบทุกคน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. จึงเตรียมจะสังคายนากันใหม่ แบบยกแผง

ระบอบทักษิณ แพร่กระจายอยู่ทั่ว ดังนั้นการรื้อวงจรอุบาทว์เหล่านี้จึงไม่ง่าย คสช.จำเป็นจะต้องใช้ความตั้งใจจริงๆ และต้องทำแบบสุดซอยด้วย การปฏิวัติรัฐประหารครั้งนี้ ถือเป็นต้นทุนประเทศต้องเริ่มใหม่ ให้หมดจด สำคัญคือ คสช. ต้องไม่บ้าอำนาจเหมือนยุค คมช. ที่เป็นต้นเหตุให้งานล่มกลางอ่าว ไม่เช่นนั้นจะเข้าทางคนบ้าอย่าง น.ช.ทักษิณเหมือนกัน ติดตามกันต่อไปว่า คสช. จะล้างบ้าง สังคายนากันได้แค่ไหน !!!

# Astvผู้จัดการออนไลน์ : นกหวีด // 2 มิถุนายน 2557
See More
 


MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY