GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แฉ..แยกประเทศฉีกไม่มีชิ้นดี/สูญ 6.5 หมื่นล้าน หลังเจอคว่ำบาตร
















27 ก.พ.57 แฉ..แยกประเทศฉีกไม่มีชิ้นดี จุดยิงเด็กเผย นายห้างปลอดเอาไม่อยู่แล้ว

ภายหลังชายดูไบสไกป์ทางอินเตอร์เน็ต เข้ามาในศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) สั่งให้จัดการสลายการชุมนุมประชาชน จนเป็ดเหลิมที่โดนหลอกใช้ว่าจะมอบตำแหน่งนายกฯ ให้หลังเดินเกมส์ชนะ เร่งสั่งการด้วยว่าจาให้ชายชุดดำ สลายการชุมนุมเมื่อ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา จนเป็นการสั่งฆ่าบรรลือโลกนั้น ฝ่ายการเมืองใน ศรส.ก็ลอยแ...พให้ชายชุดดำผู้ปฏิบัติรับผิดไปเอง

ชายดูไบ พยายามยื่นเงื่อนไขต่อรองการเจรจาหลายครั้ง โดยล่าสุดเขาบ้าขนาดยื่นเงื่อนไขที่พิลึกกึกกือ นั่นคือ ต้องได้เงินคืน (ที่โกงชาติไปและถูกจับได้จนยึดไป 4.6 หมื่นล้าน) และคดีความต่างๆ ต้องนำไปพิจารณาในศาลปกติ ด้วยเปาบุ้นจิ้นคนเดียว และไม่ตัดสินโดยศาลฎีกา (เพื่อที่เขาจะได้ซื้อเพียงคนเดียว เขาขี้เหนียว และกลัวแพ้) แต่เงื่อนไขแบบนี้ ไม่มีใครบ้าเอาด้วยกับเขา เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ

เขาไม่ละความเอาเปรียบอีก โดยสั่งปึ้งเหม่งให้ทำหนังสือดึงสหประชาชาติ มาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย โดยให้มีกำลังทหาร UN ต่างชาติเข้ามารักษาความสงบ แต่ต้องเป็นทหาร UN จากกัมพูชาเท่านั้น..เออ เอากะมันซิ

เมื่อจนตรอกแก๊งค์อั้งยี่แดงจึงจงใจกดดันอารมณ์สังคม สั่งการให้สมุนก่อการร้านสากล โดยปาระเบิดถล่มใส่เด็กตายที่ จ.ตราด และยิง M79 ใส่แผงค้าที่หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ ใกล้แยกราชประสงค์ จนเด็กน้อยน้องเคนและน้องเค้กตาย 2 คน พ่อ (ที่สนิทกับ มีวันนี้เพราะพี่ให้) ปิ่มจะขาดใจที่สูญเสียลูกน้อยที่รัก และยังมีผู้หญิง คนแก่ และประชาชนทั่วไปได้รับบาดเจ็บกว่า 24 คน นั้น แล้วผลจากการตรวจสอบ “ห้างพาราเซตามอล” ก็พบว่าเป็นจุดยิง M79 เข้าใส่ผู้ชุมนุมนั่นเอง ที่ผ่านมาเจ้าของห้างประกาศตัวเป็นศัตรูกับประชาชนโดยชัดเจน ด้วยการส่งหนังสือถึงรถกระจายเสียงนำขบวนว่าห้ามมวลชน กปปส.เข้ามาใช้ห้องน้ำห้างฯ

ห้างนี้เดิมทีชื่อว่า "ประตูน้ำซับซ้อน " จ้าของคือ พรหมมหาราช เครือแก๊ส ที่มีพี่ชายดูไบ เป็นประธานกรรมการ ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดิน 3 งาน 44.4 ตารางวา ของห้างนี้ และถือหุ้นใหญ่ คือ " ปลอดเป็นศพ " ผู้เป็น รมต.เทียม ที่เป็นเจ้าของเมกกะโปรเจกโครงการบริหารจัดการน้ำ (..เลี้ยงของบริษัทเผาไทย) อันอื้อฉาว ด้วยการกู้มาโกง 3.5 แสนล้านบาทมาตั้งแต่ปี 2555 แล้วล๊อคเสปกงานได้บริษัทเกาหลี ที่ชายดูไบไปเจรจากินหัวคิวมาก่อนล่วงหน้าแล้ว แต่ผลผ่านไป 2 ปีกลับไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ และศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมก่อน จนระยะเวลาการกู้สิ้นสุด เกิดการอลเวงหนัก

เกิดปรากฎการณ์พิลึกพิลั่นโลกตะลึง คือ ไปทำประจาพิจารณ์ย้อนหลังประมูลได้บริษัทรับเหมา ตามจังหวัดที่โครงการผ่านหรือจะกระทำโครงการ มีการให้หัวคะแนนไปแกนชาวบ้านจากพื้นที่อื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโครงการเอาชื่อมาก่อน แล้วจัดรถรับ ส่ง คัดเอาเฉพาะคนกลุ่มนี้เข้าไปในหอประชุมแลกกับค่าจ้าง 400 บาทต่อหัว แต่พอชาวบ้านในพื้นที่ๆ เขาได้รับผลกระทบโดยตรงจะเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย ก็ไม่ยอมและถูกทุบตีทำร้ายร่างกายจาก อส.และชายชุดดำ จนเกิดจลาจลย่อยๆ ไปทั่วประเทศ ต่อมา สตง.ถึงกลับเรียกคืนเงินก้อนนี้ราว 400 ล้านบาท เพราะดันไปใช้งบประมาณปกติ แต่ไม่ยอมเบิกจากโครงการเงินกู้นี้โดยตรง

ดังนั้นการก่อวินาศกรรมที่บริษัทเผาไทยจ้าง แฝงตัวขึ้นไปบนห้างพาราฯ ประตูน้ำนี้ แล้วใช้ปืน M79 เล็งยิงจากชั้น 9 ที่มองเห็นเป้าหมายพื้นที่หน้าห้างบิ๊กซีพอดี จึงเป็นความจงใจฆ่าเด็กนั่นเอง ไม่ใช่การยิงพลาด และที่น่าแปลกแต่จริงก็คือ ในสมัยเผาเมืองปี 53 ที่แก๊งค์อั้งยี่ให้สมุนยิง M79 ใส่ชาวบ้านไปทั่วถึง 60 ลูก ห้างนี้ก็เคยใช้เป็นจุดยิง M79 ก่อเหตุร้ายใส่ประชาชน และชายชุดเขียว หลายครั้งบริเวณนั้นด้วย !!

ผู้ที่ยอมให้มือปืนใช้พื้นที่และอาคารนี้ปฏิบัติการ ก็คือผู้สมคบให้ก่อวินาศกรรม ก่อการร้ายสากล สังหารเด็กเล็กครั้งนี้นั่นเอง มันเชื่อมโยงได้ว่าบริษัทเผาไทยนี้ นอกจากจะโครตโกงแล้ว ยังชอบฆ่าเด็กอีกด้วย..งานนี้นายห้างปลอดเป็นศพก็เอาไม่อยู่แล้ว!!

ลองให้ไปดูการชุมนุมเผาเมืองของอเวจีแดงย้อนหลังที่ผ่านมาปี 53 ที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมแดงไม่เคยโดนระเบิด หรือการยิงด้วยอาวุธสงครามใดๆ วินาศกรรมใดๆ ทั้งสิ้น แต่ประชาชนรอบนอกที่ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ แม่ค้า เด็กๆ กลับโดนสร้างสถานการณ์เอาอาวุธ M79 มาโจมตีใส่อย่างหนัก นี่เป็นการพิสูจน์ว่าปี 53 กับ 57 ผู้ก่อการร้ายสากลคือแก๊งค์เดียวกัน

ที่ผ่านมาหัวหน้าบริษัทเผาไทยนี้เองแหละ ที่ประกาศเองให้ประชาชนเอาอาวุธปืน 10 ล้านกระบอกออกมาให้คนไทยต่อสู้กันให้เกิดสงครามกลางเมือง และมีแกนนำพรรคที่เป็นอดีต สส.เหนือสุด ชื่อ วิ เคยเป็นถึงรองประธานสภาโจ๊ก ออกมาเป็นแกนร่วมกับหมอแคนอีสาน ประกาศแบ่งแยกประเทศไทยออกไปเป็นประเทศล้านนาอีก ตามมาด้วยแกนนำคอมมิวนิสต์สายกลายพันธ์ และสายรู้แล้วรวย อีกหลายคนที่ผสานเสียงกัน มีการสังทำแบบป้ายไวนิล ออกมาจากแหล่งในบริษัทเผาไทย แล้วให้ค้างคาวอเวจีแดงตามจังหวัดต่างๆ ออกหากินกลางดึก ไปแอบลอบติดบนสะพานลอยถนนสายหลักตามจังหวัดต่างๆ

ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์บูมเบอแรงย้อนกลับจากประชาชน มาฟาดหน้าแก๊งค์อั้งยี่แดงเข้าเต็มจังเบอจนหน้าบวมเสียสูญ มวลชนทุยแดงเห็นลางหายนะอนาคตตัวเอง และลูกหลานชัดเจนแจ๋วแหว๋ว จึงออกมาก่นด่าพ่อ ล่อแม่ แก๊งค์อั้งยี่แดงชนิดขุดตระกูล 7 ชั่วโครตมาด่า เผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง มวลชนแดงที่เหลือน้อยนิดอยู่แล้ว กลับลดน้อยหนักกว่าเดิมเข้าไปอี

เพราะคนไทยไม่อยากถูกโจรมาชิง “ ปล้นเอาดินแดนไป” เนื่องจากมีประวัติศาสตร์วิวัฒนาการเล่าขานภูมิใจยาวนานกว่า 1 พันปี บรรพกษัตริย์ และบรรพบุรุษ สะสมอาณาจักรเล็กน้อย รวบรวมกว่าจะมาเป็นปึกแผ่นได้ อีกทั้งมีศูนย์กลางจิตใจบารมีท่วมหัวจากสถาบันให้อยู่เย็นเป็นสุขมานาน มีญาติพี่น้องข้ามภาคต่างๆ จู่ๆ ชายดูไบที่ไม่ได้มีเชื้อสายคนไทย จะมาตีชิงปล้นแบ่งแผ่นดินไป คนไทยจึงไม่ยอม..

ถ้าอยากตั้งประเทศใหม่ก็ย้ายออกจากประเทศนี้ไป แล้วไปหาแผ่นดินใหม่เอาเองซีเว้ย!! ถ้าหาไม่ได้ก็เอาเงินไปซื้อเกาะเล็กแถวแอฟริกาโน่น แล้วขนมวลชนทุยแดงไปตั้งรัฐบาลเทียมเอง ตั้งตนเป็นสมเด็จดูไบคนแรกของเกาะไปเลย แล้วเกณฑ์เหล่าบรรดาเมียของลูกน้องนั่นแหละ มาปรนเปรอเป็นเมียน้อยให้สิ้นเรื่องไป..(เรื่องนี้ต้องถามกีร์อมฮอลล์ เพราะมีประสบการณ์ด้วยตนเอง..ฮา)

การต่อต้านจากประชาชน เริ่มปรากฏเป็นรูปธรรมที่ อ.เมืองพิษณุโลก ที่ทุยแดงแอบติดป้ายไวนิลพื้นสีแดง เขียนข้อความว่า “ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กู ขอแยกเป็นประเทศล้านนา” ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร จำนวน 2 ผืน ติดขึงไว้ที่สะพานลอย ข้ามถนนสายพิษณุโลก-นครสวรรค์ ทั้งขาเข้าและขาออก ประชาชนจึงได้โวยวายโมโหจัด คว้าเคียวบ้าง อีโต้บ้าง มีดบ้าง กระหน่ำฟัน กรีดป้ายฯ จนขาดกลางร่องแรง เหวอะหวะ ด้วยความสะใจ เนื่องจากทนกับข้อความดังกล่าวไม่ได้

ชาวบ้านใกล้เคียงบอกว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้ยินเสียงหมาเห่าดังไปทั่วบริเวณ กระทั่งช่วงเช้าก็เห็นป้ายดังกล่าวแล้ว ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ ด่าพ่อ ล่อแม่ แก๊งค์อั้งยี่แดง ที่กล้ากระทำดังกล่าวที่ไม่เหมาะสม คนทำไม่น่าเกิดเป็นคนไทย เพราะคนไทยแต่ละคนมีความคิดเห็นต่างได้ แต่ไม่ควรคิดแยกประเทศเช่นนี้..ถ้าเอามาติดอีก พวกเขาก็จะเอามีดมาฟันอีก และจะเอาซากป้ายไปห่อขี้ควาย แล้วไปโยนใส่บ้าน ส.ส.แดงในพื้นที่ทันที (นี่ขนาดชาวบ้านธรรมดายังคิดได้ขาดนี้ )

ต่อมาชายชุดดำในเครื่องแบบได้มาทำการเก็บป้ายไวนิล พร้อมนำกลับไปเป็นหลักฐานสืบหาตัวผู้กระทำดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างความแตกแยก และมีความผิดทางด้านความมั่นคงของประเทศ..หา..รู้ได้ไงเนี่ย รก.รมต.คลองหลอด เขาประกาศแยกประเทศออกทีวีเลยนะ..ฮา

มีเรื่องที่น่าตระหนกสำหรับชาวนา คือ ตั้งแต่ปูเน่ากับเป็ดเหลิมตั้ง ศรส.เมื่อวันที่ 21 ม.ค. เป้นต้นมา จากการตรวจสอบการใช้เงินของศูนย์เถื่อนนี้แค่ 33 วัน ใช้งบกลางไปแล้ว 1 หมื่นล้านบาท (เฉลี่ยใช้วันละ 300 ล้านบาท).. ทั้ง ๆ ที่ ค่าเบี้ยเลี้ยงชายชุดดำวันละ 700 บาท จำนวน 2.5 หมื่นคน ( ที่ไม่ได้มาทุกวันเท่านี้อีกด้วย เต็มที่ต่อวันยังใช้ไม่เกิน 20 ล้านบาทเลย

นี่มันเท่ากับงบประมาณของกระทรวงขนาดกลางทั้งปี ที่บริการประชาชนไทย 65 ล้านคนเลย และสามารถจ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนาได้ถึง 6.7 แสนตัน หรือสามารถบรรเทาความเดือดร้อนจ่ายเงินที่ปูเน่าชักดาบชาวนามา เฉลี่ยคนละ 2 แสนบาท ได้ถึง 50,000 คน ที่เดียว..อุแม่เจ้า ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็นใดต้องเกณฑ์ชายชุดดำมามากขนาดนั้น เพราะประชาชน กปปส.ชุมนุมไม่ได้รุนแรงใด ๆ เหมือนเผาไทยชุมนุมปี 53 เพราะการก่อเหตุปี 57 ปาและยิงระเบิด M79 ก็เป้นจากฝ่ายแก๊งค์อั้งยี่เองที่ก่อวินาสกรรม ฆ่าเด็กและผู้หญิงที่บริสุทธิ์

เมื่อวันที่ 26-27 ก.พ.มีเหตุการณ์ที่ฟิตขึ้นอย่างผิดหูผิดตาของชายชุดดำ หลังจากการเจรจาข้อตกลงลับของอับดุล กับบิ๊กชายชุดเขียว แต่กลับเป็นที่น่าหวาดหวั่น ชวนจิตตก ของแก๊งค์อั้งยี่แดง คือ

1. ในส่วนชายชุดดำ

- ชายชุดดำปราบจลาจล รวมตัวกันขอกลับบ้าน บอกให้ ศรส. เอาเบี้ยเลี้ยงไปจ่ายชาวนาที่จำนำขาวดีกว่า
- ผบ.ชายชุดดำ ก็เปิดประตูหน่วยงาน ผสานใจรับดอกไม้จากมวลชน กปปส. ที่ไปเยี่ยม และรับปากว่าจะตามจับ แก๊งค์แดงที่ฆ่าเด็กตายที่ราชประสงค์ด้วยระเบิด M79
- สั่งการชายชุดดำ ให้เอากำลังไปล้อมทำท่าจะสลายมวลชนอันธพาลแดง ที่หน้า ปปช.จนอันธพาลแดงขี้หด ขอเจรจาปิดแค่ประตูเดียว
- ชายชุดดำ ผบ.น.2 มีคำสั่งระดมกำลังชายชุดดำในเครื่องแบบ ดูแลพื้นที่ชุมนุมเวที กปปส. ตั้งแต่เวลา 18.00 ถึง 06.00 น. ของทุกวัน จนกว่าจะยุติการชุมนุม โดยสับเปลี่ยนกำลังไปเรื่อยๆ และนำกำลังต่างจังหวัดมาผลัดเปลี่ยนทำหน้าที่ และจัดกำลังประจำจุดภายในตลาดซอยแจ้งวัฒนะ 14 ลานจอดรถฝั่งตรงข้าม และปากซอยแจ้งวัฒนะ 12 แยก 1
- ชายชุดดำแถลง ศาลอนุมัติหมายจับ มือปืนยิง "สุทิน" เสียชีวิตวัดศรีเอี่ยมเมื่อ 26 มค. 57
- ชายชุดดำตั้งรางวัล นำจับ 7 แสนบาท "กฤษดา ไชยแค" อายุ 43 ปี ข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ ปาระเบิดอนุเสาวรีย์ชัยฯ หมายสังหารถาวร
** ลูกชายดูไบ เขียนเฟซบุ๊ก ว่าถ้าจับมือระเบิดนี้ได้จะจ่าย 10 ล้านบาท..ดังนั้นใครรู้จักคนเขมร หรือมีคนงานเป็นเขมร ให้รับส่งข่าวนี้ต่อๆ กันไปให้เขาบอกญาติในเขมรว่าจะถูกหวยแล้วได้เงิน 10.7 ล้าน ให้ส่งข่าวและรูปถ่ายยายกฤษดา ที่แฝงตัวประกอบอาชีพพ่อครัว หรือช่างตัดผม ไปทั้งประเทศ ให้รีบจับมือระเบิดนี้ แล้วมาให้ชายชุดขาว หรือชุดเขียวที่ชายแดน..ฮา เผลอโพส อีคซวยแล้ว

2. ในส่วนชายชุดเขียว

- ผบ.พล1 รอ. ลงพื้นที่ตรวจกำชับให้กำลังใจกำลังพล ปรับเพิ่มจุดดูแลประชาชนจาก 29 เป็น 176 จุด (เพิ่มรวดเดียว 147 ชุด ) และฝากความห่วงใยจากชายที่ออกทีวีแล้วไม่ค่อยยิ้ม ให้ระวังการใช้อาวุธวิถีโค้ง
- นกแสกออกทีวีสั่งบิ๊กชายชุดเขียว ให้ถอนกำลังพลออกจากจุดชุมนุม กปปส. อ้างว่าทำลายบรรยากาศประชาธิไตย (เพราะสมุนที่จ้างมาฟ้องว่า โจมตีด้วยอาวุธไม่ได้) บิ๊กชายชุดเขียวผู้ใจดีไฉนเลยเมื่อนกแสกร้องขอจะกล้าขัด..เลยสั่งให้ไปตั้งบังเกอร์ พร้อมจัดกำลังอาวุธหนักครบมือเพียบๆ ที่ด้านหน้าตึกบริษัทเผาไทยซะเลย..ฮา
- ชายชุดเขียวที่ จ.อุดรฯ ได้ส่งกำลังจำนวนมากออกไปควบคุมการจราจร โบกรถ และตรวจค้นสอดส่อง รถยนต์ที่สัญจรไปมา
- มีการทะยอยขนรถคั่วข้าวโพดคันดำทมึนจำนวนมาก จากทัพภาค 2 เข้า กทม.มาทางรถไฟ นัยยะว่าร้านคาร์แคร์ใน กทม.มีคุณภาพดี เลยจะส่งรถฯ มาล้างเพิ่มจากเดิมอีกเรื่อยๆ

ในส่วนก่อการร้ายสากลจากคำสั่งบริษัทเผาไทยนั้น เมื่อคืนที่ผ่านมา
- เวลา 19.05 น. อันธพาลแดงได้ยิงระเบิด M79 ชนิดเจาะเกราะ จำนวน 2 ลูก ด้วยวิถีโค้ง จงใจยิงใส่ชายชุดดำในศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) 2 ลูก แต่ระเบิดเพียง 1 ลูก ใกล้ที่พักชายชุดดำควบคุมฝูงชน -สนามบอล และยิงใส่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน
- ครั้งก่อนแก๊งค์อั้งยี่แดงเคยทดลองยิง ปรับระยะวิถีประสุนมาแล้ว ทำให้ M79 ไปตกในคาร์แคร์ปั้มน้ำมันใกล้ ศรส. และก็เป็นไปตามการข่าวที่เตือนไว้นานแล้ว ว่าแก๊งค์แดงตั้งเป้าจะถล่ม ศรส.ให้ชายชุดดำสูญเสีย..สายข่าวรายงานว่าผู้ลงมือครั้งนี้ คือ สมุนแก๊งค์ เก่ง เตะเมีย กับแก๊งค์ โกตี๋..!! เป็นผู้สั่งการ
- เรื่องนี้ไม่ซับซ้อนหรอก เพราะอันธพาลแดงมันจงใจยิงใส่ชายชุดดำใน ศรส. ในวันที่แก๊งค์แดงมาตั้งเวทีที่หน้า ปปช.วันแรกไง และการโจมตีเกิดช่วงหัวค่ำ เป็นการบอกว่าต่อไปมันจะโจมตีแบบนี้อีกในช่วงต่อไป ส่วนจะเวลาไหนไม่แน่ชัด
- จากที่ช่วงกลางวัน ผบ.ชายชุดดำ ผสานใจรับดอกไม้จากมวลชน กปปส. และรับปากว่าจะตามจับ คนที่ฆ่าเด็กที่ราชประสงค์ด้วยระเบิด พอตกค่ำ เอ็ม 79 ก็ตกที่สโมสรชายชุดดำ ที่ตั้ง ศรส. แก๊งค์อันธพาลแดงมันกลัวชายชุดดำย้ายข้างแปรพักษต์..พวกนี้มันคิดโง่ ๆ ไม่ปรึกษาโลก คิดแค่นี้แหละ เพราะเป็นนิสัยดิบเถื่อนตามหลักอาชญวิทยาธรรมดา
- วิธีการป้องกัน และสวนกลับแก้แค้นแก๊งค์แดงนี้ก็ไม่ยากหรอก ชายชุดดำก็ไปติดตั้งกล้องวงจรปิดเฉพาะกิจเพิ่มเองเลยบนทางด่วน สัก 4 ตัว ในระยะหัว-ท้าย ห่างจาก ศรส. 2 – 1 กม. ต่อสายมาเข้าจอมาเฝ้าดูใน ศรส.พอเกิดเหตุก็วิทยุบอกให้กำลังพลที่ทางลงทางด่วนทุกจุด คอยระดมดักสอยรถยนต์อันธพาลแดงคันนั้นให้พรุน รถอยู่บนทางด่วนจะหนีไปไหนได้ อย่างไรเสียก็ต้องหาทางลง !!

ส่วนการก่อเหตุกับผู้ชุมนุมนั้น หลังเจอแก๊งค์แมงเม่า แมงกุ๊ดจี่แดง เจอสวนหนักด้วยป๊อบคอร์นไป 2 คืนก่อน ทำให้คืนที่ผ่านมาต้องแบบนอนซม หลบเลียแผลใจ และแผลกาย ที่ยังบอบช้ำ และซ่อมแซมพาหนะมอเตอร์ไซต์ และรถยนต์ ที่พรุนไปด้วยรูข้าวโพด จึงไม่กล้าโผล่มาให้หัวคิดทรยศแยกจากร่างอีก ช่วงเวลา 00.45 น. จึงมีเพียงกลุ่มเด็กแว้นซ์ ยิงปืนเข้ามา 1 นัด ด้านนอกด่านราชประสงค์

จากนั้นก็มีกลุ่มเชพกระทะเหล็กชุดดำสวมหมวกไหมพรหม ใส่เสื้อเกราะหลายคน ไล่พ่นป๊อบคอร์น (จากไหนไม่รู้) ถล่มใส่กลุ่มเด็กแว้นไม่ยั้งหุดับตับไหม้ จนกระเจิดกระเจิงไม่เป็นท่าไป และไม่กล้ากลับมาอีกเลย..ส่งผลให้เมื่อคืนพ่อค้าป๊อปคอร์นของเหลือขายอื้อ พวกลูกค้ารายเดิมไม่มาอุดหนุน นั่งกระดิ๊กนิ้วรอทั้งคืน

แผนระยะสั้นต่อไปของแก๊งค์อั้งยี่แดง ที่สายลับทราบมา
1. ชายดูไบ ให้เดินหน้าปฏิบัติการลอบก่อวินาศกรรมหมู่ ต่อผู้ชุมนุม กปปส. ให้ได้ราว 500 ราย โดยการใช้ระเบิดจำนวนหลายลูก โจมตีขบวนของผู้ชุมนุมจากที่สูง หรือรถแท็กซี่เก่าๆ (อาวุธลำเลียงมาจากทางข้างเรือนจำคลอง ป.) โดยอาจจะเริ่มลงมือในวันที่ 28 ก.พ. ถึงวันที่ 9 มีนา 57 เพื่อกดดันให้ชายชุดเขียวออกมาแทรกแซงปฏิวัติ และล้มกระดาน เขาจะได้เป็นข้ออ้างในการทำสงครามกลางเมือง และล้มล้างคดีความของปูเน่า และบรรดาแก๊งค์โครตโกง..ดังนั้นให้ทีมการ์ด เพิ่มการระมัดระวังแนวทางนี้มากขึ้น

2. แก๊งค์อันธพาลแดงที่ชุมนุมหน้า ป.ป.ช.นำรถตู้กรุงเทพ-จอมบึง มาจอดขวางถนนหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. โดยมีอาวุธซ่อนอยู่ในลังไม้ติดตัวตึกด้านหลังของ ป.ป.ช. เมื่อได้จังหวะพร้อมกับจำนวนแมงกุ๊ดจี่แดงที่มากพอ ก็จะสร้างสถานการณ์ให้วุ่นวาย เข้าดำเนินการล้อมจับตัวบุคคลสำคัญของ ป.ป.ช.ทันที

3. แก๊งค์สู้แล้วรวย จะใช้ชายชุดดำเดิมปี 53 โจมตีอาวุธเวทีมวลชนเสื้อแดงด้วยกันเอง เช่น เวทีหน้า ปปช.หรือตามอมต่างจังหวัด เช่น อุดร ฯลฯ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้มีการเจ็บตายของแมงเม่าเสื้อแดง เพื่อจะตอกย้ำ และสร้างความเจ็บแค้นให้กับพวกเดียวกันเอง แล้วปลุกระดมยั่วยุว่า กปปส.ทำ ปลุกพวกเดียวกันด้วยเหตุการณ์ที่พวกของตัวเองเจ็บตาย ให้ลุกฮือขึ้นอีกครั้ง หลอกทุยแดงให้มาตาย ปะทะห่ำหั่นกัน (ใช้สูตรเดียวปี 53)
** อีกทั้งเป็นข้ออ้างให้ ศรส.ยื่นหลักฐานเพิ่ม อุทธรณ์ให้เปาบุ้นแพ่งยกเลิกคำสั่งห้าม 9 ข้อ ให้กลับมามีอำนาจอย่างเต็มที่อีกครั้ง

ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ดังในรูป เจ้าของแมงกุดจี่แดงหรือเพื่อนมารับรถคืนไปด่วน เนื่องจากหลังจากที่เจ้าของรถกับเพื่อนได้เดินทางมาเที่ยว และแวะมารับประทานข้าวโพดคั่ว แถวเวทีชุมนุม กปปส. ไม่ทันเห็นพ่อค้าป๊อบคอร์นหลายคนที่ส่วนใหญ่จะคั่วรอตามซอย , ตามซอกตึกมืดๆ , พอข้าวโพดลอยมาเป็นชุดๆ ทำให้เจ้าของรถฯ ตกใจทิ้งรถเอาไว้ บริเวณถนนอังรีดูนังต์ หลบหนีกันไปอย่างอลหม่าน..แมงกุดจี่แดงมารับรถคืนนะ พ่อค้าคนเดิมฝากคิดถึง ฮา

กลางค่ำกลางคืน ถ้ากลุ่มสมุทรปราการ ซึ่งใช้กำลัง 8 ชุด ร่วมกันก่อเหตุกลางคืน ใช้แมงกุดจี่แดง ขี่มอเตอร์ไซต์กลับมาเที่ยวปั่นป่วนแถวที่ชุมนุมอีก อาจเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันเองได้ เพราะถนนลื่น น้ำเฮลล์บลูบอยมันเลอะ..ทางการ์ด กปปส. เข้าล้างถนนอยู่บ่อยๆ ถ้าล้มกันระเนระนาด ทางน้องๆ ชายชุดเขียวหลายกองร้อย เขาจะได้รุมกันพุ่งเข้าช่วยเหลือได้ทัน เพื่อให้บริการ “อย่าให้ขาดตกบกพร่อง” หน้าที่บริการประชาชนก็แบบนี้แหละ !!..ต้องทำใจ..ฮา

คืนนี้พอค้าป๊อบคอร์นใจดีหลายกลุ่ม จะมีโปรโมชั่นสินค้า จัดบริการเชิงรุกหน่วยเคลื่อนที่เร็วไร้เงาไร้ร่างอีกหลายสิบชุด ไปบริการส่งสินค้าป๊อบคอร์นถึงจุดรวมพลของลูกค้าแก็งค์อันธพาลแดงเหล่านี้ ที่รู้หมดแล้วว่าอยู่ตรงไหนบ้าง!! แมงกุ๊ดจี่แดงไม่ต้องแย่งกันนะ จะได้รับกันทุกคน ไปรวมตัวกันเป็นฝูงๆ นะ จะได้แจกได้ทั่วถึง..ให้ซาบซึ้งใจในบริการไปถึงชาติหน้าเลย..

เอารถกระบะมาลากร่างเพื่อนกลับไปด้วยเหมือนเคยนะ เดี๋ยวจะฉีดล้างถนนคราบเฮลล์บลูบอยให้เอี่ยมอ่องก่อนถึงเช้าเอง..ฮา

@เสธ น้ำเงิน
ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai





Photo: วอลล์สตรีท เจอนัลด์ - หนังสือพิมพ์ธุรกิจดังระดับโลกตีข่าว เหล่าบริษัทในไทยที่ตกเป็นเป้าหมายคว่ำบาตรของกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ฐานมีความเกี่ยวข้องกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและครอบครัว ได้สูญเสียมูลค่าทางการตลาดไปแล้วกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 65,000ล้านบาท) ภายในเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว

วอลล์สตรีท เจอนัลด์ รายงานว่าเสียงเรียกร้องคว่ำบาตรธุรกิจตระกูลชินวัตรของแกนนำผู้ชุมนุม เพื่อเพิ่มแรงกดดันแก่รัฐบาล ฉุดให้หุ้นของหลายบริษัทที่เกี่ยวข้องดำดิ่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งเอไอเอส ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของไทย แม้ว่าบริษัทแห่งนี้ยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตรมาตั้งแต่ปี 2006

หนังสือพิมพ์การเงินทรงอิทธิพลของสหรัฐฯรายงานต่อไปว่าหุ้นของเอสซี แอสเซต บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ครั้งหนึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ เคยนั่งเก้าอี้ประธานและเวลานี้ตระกูลชินวัตรยังถือครองหุ้นใหญ่อยู่ ได้ร่วงลงมากกว่าร้อยละ 9 ในตลาดหลักทรัพย์ของไทย นับตั้งแต่การรณรงค์คว่ำบาตรเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันพุธที่แล้ว(19)

ส่วนเอ็ม-ลิงค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น บริษัทนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารและโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวคนรองของทักษิณ และภรรยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ช่วงสั้นๆ ในปี 2008 ก็ร่วงลงเกือบร้อยละ 11 ภายในเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว น

วอลล์สตรีท เจอนัลด์ อ้างความเห็นของนาย อิฐพงศ์ แสงทับทิม หัวหน้าฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ ระบุว่า "แรงเทขายมาจากนัลงทุนรายย่อยท้องถิ่น ด้วยความรู้สึกที่ว่าผู้ประท้วงอาจส่งผลกระทบบางอย่างต่อผลประกอบการในอนาคต" พร้อมบอกว่าผู้ประท้วงหลายรายเป็นชนชั้นกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

อย่างไรก็ตาม วอลล์สตรีท เจอนัลด์ รายงานว่าไม่เพียงแค่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเท่านั้น แต่อีกฝ่ายที่เห็นต่างทางการเมืองก็งัดมาตรการคว่ำบาตรสินค้าออกมาต่อสู้เช่นกัน โดยประชาชนทางภาคเหนือ พื้นที่ชนบทที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายประชานิยมของนางสาวยิ่งลักษณ์และ"พี่ชาย" นายทักษิณ ก็เริ่มคว่ำบาตรเบียร์สิงห์ หลังทายาทของบุญรอดบริวเวอรี ขึ้นเวทีชุมนุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล แต่ทางบริษัทยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว

สื่อมวลชนดังรายงานต่อว่าหนึ่งในบริษัทของไทย ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้แก่เอไอเอส ซึ่งก่อตั้งโดยทักษิณ และต่อมาถูกขายให้แก่เทมาเส็ก โฮลดิ้ง กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ก่อนที่เขาจะถูกรัฐประหารโค่นอำนาจในปี 2006 และเวลานี้พำนักอยู่ในดูไบ หลบหนีโทษจำคุกในฐานความผิดคอรัปชัน โดยนับตั้งแต่มาตรการคว่ำบาตรเริ่มต้นขึ้น หุ้นของเอไอเอส ร่วงลงไปแล้วร้อยละ 5.5

รายงานของวอลล์สตรีท เจอนัลด์ ระบุว่าทางทรู คอร์ปและโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(ดีแทค) อาศัยโอกาสนี้ยื่นข้อเสนอลดราคาแก่ผู้ใช้ที่คิดย้ายค่าย ขณะที่ผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านโทรคมนาคมของไทยเผยว่ามีผู้บริโภคหลายพันรายแล้วที่ย้ายหนีเอไอเอส ในนั้นรวมถึง 2,000 รายในวันจันทร์(24) เพียงแค่วันเดียวหรือเกือบ 3 เท่าของอัตราปกติ

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้อ้างคำสัมภาษณ์ของผู้บริโภครายหนึ่งบอกว่าที่เปลี่ยนตัดสินใจเปลี่ยนการใช้บริการของเอไอเอสไปที่อื่น แม้เป็นลูกค้ามานานเกือบ 10 ปี ก็เพราะอยากแสดงจุดยืนต่อต้านทักษิณ "ผมคิดว่ามันยุติธรรมแล้ว ที่เราจะไม่สนับสนุนธุรกิจของเขา"

วอลล์สตรีท เจอนัลด์ รายงานปิดท้ายว่าเหล่าบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับทักษิณ เคยตกเป็นเป้าหมายโจมตีมาก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งที่เขาขายหุ้นในชินคอร์ป บริษัทแม่ของเอไอเอส แก่เทมาเส็ก ในปี 2009 จำนวน 76,000 ล้านบาท โดยในปีที่ ทักษิณ ถูกโค่นอำนาจ หุ้นของชินคอร์ป ร่วงลงถึงร้อยละ 38 และเอไอเอส ดิ่งลงร้อยละ 28 แต่ปัจจุบันหุ้นทั้งสองตัวก็กู้คืนมูลค่าที่สุญเสียไปได้หมดแล้ว

/..ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000022835










วอลล์สตรีท เจอนัลด์ - หนังสือพิมพ์ธุรกิจดังระดับโลกตีข่าว เหล่าบริษัทในไทยที่ตกเป็นเป้าหมายคว่ำบาตรของกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ฐานมีความเกี่ยวข้องกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและครอบครัว ได้สูญเสียมูลค่าทางการตลาดไปแล้วกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 65,000ล้านบาท) ภายในเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว

วอลล์สตรีท เจอนัลด์ รายงานว่าเสียงเรียกร้องคว่ำบาตรธุรกิจตระกูลชินวัตรของแกนนำผู้ชุ...มนุม เพื่อเพิ่มแรงกดดันแก่รัฐบาล ฉุดให้หุ้นของหลายบริษัทที่เกี่ยวข้องดำดิ่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งเอไอเอส ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของไทย แม้ว่าบริษัทแห่งนี้ยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตรมาตั้งแต่ปี 2006

หนังสือพิมพ์การเงินทรงอิทธิพลของสหรัฐฯรายงานต่อไปว่าหุ้นของเอสซี แอสเซต บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ครั้งหนึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ เคยนั่งเก้าอี้ประธานและเวลานี้ตระกูลชินวัตรยังถือครองหุ้นใหญ่อยู่ ได้ร่วงลงมากกว่าร้อยละ 9 ในตลาดหลักทรัพย์ของไทย นับตั้งแต่การรณรงค์คว่ำบาตรเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันพุธที่แล้ว(19)

ส่วนเอ็ม-ลิงค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น บริษัทนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารและโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวคนรองของทักษิณ และภรรยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ช่วงสั้นๆ ในปี 2008 ก็ร่วงลงเกือบร้อยละ 11 ภายในเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว น

วอลล์สตรีท เจอนัลด์ อ้างความเห็นของนาย อิฐพงศ์ แสงทับทิม หัวหน้าฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ ระบุว่า "แรงเทขายมาจากนัลงทุนรายย่อยท้องถิ่น ด้วยความรู้สึกที่ว่าผู้ประท้วงอาจส่งผลกระทบบางอย่างต่อผลประกอบการในอนาคต" พร้อมบอกว่าผู้ประท้วงหลายรายเป็นชนชั้นกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

อย่างไรก็ตาม วอลล์สตรีท เจอนัลด์ รายงานว่าไม่เพียงแค่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเท่านั้น แต่อีกฝ่ายที่เห็นต่างทางการเมืองก็งัดมาตรการคว่ำบาตรสินค้าออกมาต่อสู้เช่นกัน โดยประชาชนทางภาคเหนือ พื้นที่ชนบทที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายประชานิยมของนางสาวยิ่งลักษณ์และ"พี่ชาย" นายทักษิณ ก็เริ่มคว่ำบาตรเบียร์สิงห์ หลังทายาทของบุญรอดบริวเวอรี ขึ้นเวทีชุมนุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล แต่ทางบริษัทยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว

สื่อมวลชนดังรายงานต่อว่าหนึ่งในบริษัทของไทย ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้แก่เอไอเอส ซึ่งก่อตั้งโดยทักษิณ และต่อมาถูกขายให้แก่เทมาเส็ก โฮลดิ้ง กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ก่อนที่เขาจะถูกรัฐประหารโค่นอำนาจในปี 2006 และเวลานี้พำนักอยู่ในดูไบ หลบหนีโทษจำคุกในฐานความผิดคอรัปชัน โดยนับตั้งแต่มาตรการคว่ำบาตรเริ่มต้นขึ้น หุ้นของเอไอเอส ร่วงลงไปแล้วร้อยละ 5.5

รายงานของวอลล์สตรีท เจอนัลด์ ระบุว่าทางทรู คอร์ปและโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(ดีแทค) อาศัยโอกาสนี้ยื่นข้อเสนอลดราคาแก่ผู้ใช้ที่คิดย้ายค่าย ขณะที่ผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านโทรคมนาคมของไทยเผยว่ามีผู้บริโภคหลายพันรายแล้วที่ย้ายหนีเอไอเอส ในนั้นรวมถึง 2,000 รายในวันจันทร์(24) เพียงแค่วันเดียวหรือเกือบ 3 เท่าของอัตราปกติ

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้อ้างคำสัมภาษณ์ของผู้บริโภครายหนึ่งบอกว่าที่เปลี่ยนตัดสินใจเปลี่ยนการใช้บริการของเอไอเอสไปที่อื่น แม้เป็นลูกค้ามานานเกือบ 10 ปี ก็เพราะอยากแสดงจุดยืนต่อต้านทักษิณ "ผมคิดว่ามันยุติธรรมแล้ว ที่เราจะไม่สนับสนุนธุรกิจของเขา"

วอลล์สตรีท เจอนัลด์ รายงานปิดท้ายว่าเหล่าบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับทักษิณ เคยตกเป็นเป้าหมายโจมตีมาก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งที่เขาขายหุ้นในชินคอร์ป บริษัทแม่ของเอไอเอส แก่เทมาเส็ก ในปี 2009 จำนวน 76,000 ล้านบาท โดยในปีที่ ทักษิณ ถูกโค่นอำนาจ หุ้นของชินคอร์ป ร่วงลงถึงร้อยละ 38 และเอไอเอส ดิ่งลงร้อยละ 28 แต่ปัจจุบันหุ้นทั้งสองตัวก็กู้คืนมูลค่าที่สุญเสียไปได้หมดแล้ว

MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY