GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

....รวมเด็ดสะเก็ดแผล - ทักษิณ......








อยากรู้ว่าทักษิณโกงอย่างไรมาดูกัน(ตามคำขอ)อ่านให้กระจ่างนะครับทำไมทักษิณกลับบ้านไม่ได้

ผมเคยศรัทธาใน พตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงได้ติดตามผลงานท่าน แต่ตลอด
เวลาที่บริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งมีหลายประเด็นเป็นความคิดของนายกโดยตรง ...
บางประเด็นเกิดจากคนรอบข้างในรัฐบาล ประเด็นต่างๆ
ในบทความนี้อาจถูกเสนอขึ้นโดยรัฐบาล หรือเป็นข่าวปล่อย
แต่ก็ได้ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชน สังคม และประชาชนได้รับรู้รับทราบ โดยทั่วกันแล้ว
ความสำคัญอยู่ที่ ผู้ที่มีหน้าที่หรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ต้องออกมาตรวจสอบ
ชี้แจง ตอบคำถามสังคม ทำความจริงให้ปรากฏ หาผู้รับผิดชอบในเรื่องนั้น
หลายเหตุการณ์เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผลสมควร มีเงื่อนงำ เบื้องหลัง วาระซ่อนเร้น
ส่อเจตนาทุจริต แต่ไม่มีคำชี้แจง หรือคำตอบที่สมเหตุผลจากคนในรัฐบาล หรือนายก
ทำให้ประชาชนเกิดความสงสัย สับสน ไม่เข้าใจ
และทำให้เข้าใจกันไปเองว่าเป็นเรื่องจริง เมื่อสะสมหลายเรื่องมากขึ้น
และยังไม่มีคำตอบ ก็นำไปสู่ ความลังเล ไม่เชื่อมั่น ไม่เชื่อถือ ไม่ยอมรับ
ไม่ต้องการ ต่อต้าน ประท้วง ไล่ออก ซึ่งเป็นผลเสียหายร้ายแรงต่อรัฐบาลเอง
และประเทศชาติ
จึงได้เวลาทบทวน เปิดเผยหลายนโยบาย และประเด็นปัญหาที่ผ่านมา ของนายกทักษิณ ชินวัตร
และผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทุกวันนี้คนไทยอาจจะลืมไปแล้ว
จึงนำมาทบทวนให้ทราบกันอีกครั้งหนึ่ง
ต้องขออภัยที่บทความนี้มีความยาว เพราะนโยบาย และประเด็นปัญหา มีจำนวนมาก
โดยรวบรวมจากสื่อ หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ความทรงจำ และคำพูดของคนทั่วไป
ซึ่งอาจยังมีอีกหลายประเด็นปัญหาที่ผมลืม และไม่ได้ระบุไว้ในนี้
หากผู้ใดจำได้ก็สามารถเสนอเพิ่มเติมได้ เพื่อที่สังคมจะได้รับรู้ และเป็นบทเรียน
-----------------------------------------------------------------------

1. นโยบาย บริโภคนิยม ส่งเสริมหนี้ภาคครัวเรือน ฟุ้งเฟ้อ มอมเมาประชาชน
และรัฐไม่เคยแถลงผลสำเร็จ
- กองทุนหมู่บ้าน
- ธนาคารประชาชน
- แปลงสินทรัพย์เป็นทุน
- หวยบนดิน
- ออกหวยซื้อหุ้น Liverpool
- เปิดบ่อนเสรี
- เปิดเสรีสุรา
- เอาเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้น
- กทม. เมืองแฟชั่น
- ครีมหน้าเด็ง
- บัตรสมาชิก ไทยแลนด์อีลิทการ์ด
- Complex Entertainment
- Mega Project
- ส่งเสริมเงิน+++้ทั้งในและนอกระบบ (Bank & Non-Bank)
- ใช้งบประมาณแผ่นดินหาเสียง (ทัวร์นกขมิ้น)

2. นโยบายสร้างภาพ หาเสียง ฉาบฉวย หลอกลวง และรัฐไม่เคยแถลงผลสำเร็จ
- พักหนี้เกษตรกร
- ปฏิรูปการศึกษา
- จัดระเบียบสังคม
- ผู้ว่า CEO
- ปราบปรามผู้มีอิทธิพล
- ลงทะเบียนคนจน
- ส่ง 23 รมต. แก้ปัญหาภาคใต้ (แต่ไม่มีใครไป)
- ไปนอนวัดที่นราธิวาส
- ไปนอนที่สนามบินสุวรรณภูมิ
- ทำกับข้าว
3. นโยบาย และการกระทำสิ้นคิดของ นายก และคนในรัฐบาล
- เปิดบ่อนเสรี
- ซื้อหุ้น Liverpool
- เปลี่ยนนาข้าวเป็นนากุ้ง (ทำให้น้ำและดินเน่าเสีย)
- สร้างคอนโดเป็นบ้านพักคนชรา (ให้อาศัยอยู่ห้องทึบในตึกสูง)
- ตั้งนิคมอุตสาหกรรมที่ อ.เชียงแสน (แหล่งโบราญสถาน)
- สส.รัฐบาลเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน
- โภคินนั่งเก้าอี้ ประธานรัฐสภา ยกมือเลือกนายก (ไม่เหมาะสม ไม่เป็นกลาง)
- ทักษิณ เป็นประธานประกอบพิธีศาสนา ในอุโบสถวัดพระแก้ว (ประธานต้องเป็นกษัตริย์
เท่านั้น)
- ประชุม ครม. บนรถไฟ (ไปเที่ยว)
- ประชุม ครม. บนประสาทพนมรุ้ง
- ยึดและฟ้องผู้ทำสติกเกอร์ "ยิ่งรวยยิ่งโกง" (อ้างหมิ่นฯ โยนผิดให้ฝ่ายค้าน)
- กำหนดแบ่ง Zone พื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้เป็น 3ระดับ (3 สี แดง, เขียว, เหลือง)
- ย้าย 3 ข้าราชการที่ไม่สนองนโยบายขายลำไย ไปประจำใน 3 จังหวัดภาคใต้
- ติด UBC 3 จังหวัดภาคใต้
- เปลี่ยนเพลงชาติไทยใหม่ มีให้เลือก 6 แบบ (แต่งโดยแกรมมี่)
- พานทองแท้ลอกโพยข้อสอบที่ ม.ราม
- ปิดถนนแข่งรถซิ่ง
- โครงการ อาชีวะปราบขอทาน
- นโยบายปิดปอเนาะทั่วประเทศ
- เปลี่ยนสนามบินดอนเมือง เป็นสนามเทนนิส
4. ทุจริต หรือส่อเจตนาทุจริต
- คดีซุกหุ้น (โอนให้คนรับใช้ คนขับรถ)
- ค่าโง่ทางด่วน
- ค่าโง่ ITV
- บ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
- โครงการรับจำนำข้าว
- โครงการรับซื้อลำไย
- โครงการโคล้านตัว
- โครงการแจกต้นกล้ายาง
- เครื่องตรวจระเบิด CTX
- ที่จอดรถ สนามบินสุวรรณภูมิ
5. เหตุการณ์ และคดีที่มีเงื่อนงำ และเกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาล
- ชิปปิ้งหมูถูกฆ่าตาย (เกี่ยวข้องธุรกิจอุปกรณ์ดาวเทียมไทยคม)
- อุ้มทนายสมชายฯ
- กรือเซะ, ตากใบ
- ฆ่าตัดตอนคดียาเสพติด 2000 กว่าศพ
- ตำรวจบุกทุบทำลายบ้านฉลอง เรี่ยวแรง (ก่อนวันสอบซ่อม สส. นนทบุรี)
- จับยาบ้าผิดตัว ตำรวจบุกยิงถล่มชาวบ้านอยุธยา (บ้าน/ตู้เย็น พรุ่นทั้งหลัง)
- ข้อสอบ Ent. รั่ว (ก่อนอุ้งอิ๋งติดจุฬาฯ)
- นายนิธินันท์ หรือ ลัทธพล ออกมาแฉทุจริตที่จอดรถ สนามบินสุวรรณภูมิ กลับไปกลับมา
- รันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิแตกร้าว
6. การระเมิดสิทธิเสรีภาพ
- รัฐบาลคุกคาม แทรกแซงการเสนอข่าวของสื่อมวลชน
- ปลด 23 พนักงาน ITV (หลังจากชินคอป์เข้าบริหาร)
- บังคับให้ สส.กลุ่มวังน้ำเย็นถอนชื่อ การคัดค้านเสนอผู้ว่า สตง.
- งัดห้องทำงานผู้ว่า สตง. (คุณหญิงจารุวรรณฯ)
เรื่องสถานะคุณหญิงจารุวรรณยังหาข้อสรุปไม่ได้ ยืดเยื้อมาจนบัดนี้แล้ว
- สั่งปิดวิทยุชุมชนที่วิจารณ์รัฐบาล (อ้างคลื่นรบกวนเครื่องบิน)
- ถอดรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
7. ด้านเศรษฐกิจ / ตลาดหุ้น
- คลังฮุบหุ้น TPI (เป็นการปล้นอย่างหน้าด้านๆ ไม่มียางอาย ไม่มีหิริโอตัปปะ)
- หลอกแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ขายสมบัติชาติ แอบแบ่งหุ้นให้พรรคพวก และต่างชาติ
แต่รัฐยังเป็นเจ้าของและแทรกแซงได้เหมือนเดิม เช่น การบินไทย, ปตท., อสมท.,
กฟผ., กสท., TOT
- รัฐพยายามหาทางเอาเงินประชาชน กบข. (ราชการ) กองทุนประกันสังคม, กบช.
(เอกชน) ไปใช้จ่ายในโครงการต่างๆอย่างฟุ่มเฟือย
- GMM แกรมมี่ และคนในรัฐบาลซื้อหุ้น นสพ. การเมือง 5 ฉบับ (มติชน, ข่าวสด,
ประชาชาติธุรกิจ, Bangkok Post, Post Today) พร้อมกัน โดยไม่สมเหตุสมผล
และฟังไม่ขึ้น ส่อเจตนาเข้ามายึดครอง)

8. ด้านกฎหมาย / อำนาจนิยม ที่ส่อเจตนาทุจริต และสร้างฐานอำนาจ
เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเครือญาติ
- แต่งตั้ง ญาติ พี่น้อง เพื่อน พรรคพวก ดำรงตำแหน่งในหน่วยราชการ การเมือง ตำรวจ
ทหาร เพื่อรวบอำนาจบริหาร - ปกครอง
- แทรกแซงองค์กรอิสระ ด้วยวิธี ดูด, ดึง, ซื้อ, ส่งคนเข้าไปคุม เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ,
ศาลปกครอง, กลต., ปปง., ปปช., คตง., สว.(บางส่วน)
- แทรกแซงสถาบันสงฆ์ (ออก พรก.แต่งตั้งรักษาการสมเด็จพระสังฆราชโดยพละการ)
- ศาลรัฐธรรมนูญ และประธาน สว. แทรกแซงและแต่งตั้งผู้ว่า สตง.
คนใหม่อย่างมีเงื่อนงำ และไม่มีเหตุผลสมควร
- การสรรหา กสช. และ กทช. ไม่โปรงใส
- พระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยราชภัฏ ถูกตีกลับ
- พระราชกฤษฎีกา บำเหน็จบำนาญ สส. และ สว.
- ออก พระราชกำหนด สรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม เพื่อผลประโยชน์
และกีดกันคู่แข่งทางธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ (AIS)
- ออก พระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อสร้างฐานอำนาจเบ็ดเสร็
- โผทหารของนายก และ การลงนามแต่งตั้งช้ากว่าปกต
9. ปัญหา บ้านเมืองไทยในปัจจุบันนี้
- ระเบิด และคนถูกฆ่า ใน 3 จังหวัดภาคใต้ (ที่เปลี่ยน แม่ทัพ, ผอ., ผู้กำกับ, รมต.,
รองนายก แล้วหลายคน แต่ยังไม่เปลี่ยน นายก จึงแก้ปัญหาไม่ได้)
- ราคาน้ำมันแพงเกินเหตุ (แต่ ปตท. กำไรแสนล้าน)
- เศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนถูกสอนให้ +++้เงิน ใช้เงิน
แต่ไม่เน้นให้ความรู้ในการประกอบอาชีพ และประหยัดในแบบ เศรษฐกิจพอเพียง)
- ไม่มีระบบตรวจสอบ และ คานอำนาจรัฐบาล (ฝ่ายค้าน, องค์กรอิสระ
เป็นง่อยทำอะไรไม่ได้
- รมต. ก่อนจะรับ หรือพ้นตำแหน่ง ไม่มีการแสดงบัญชีทรัพย์สินให้ประชาชนรู้เหมือน
เมื่อก่อน
- ปัญหาสังคม, ครอบครัว, บัตรเครดิตเต็มเมือง, ประชาชนเป็นหนี้ท่วมตัว, ตกงาน,
อาชญากรรม, จี้, ปล้น, การพนัน, โรคจิต, ทิ้งเด็ก, รถซิ่ง, นักเรียนตีกัน, ขายตัว,
ส่วยตำรวจ
10. สิ่งที่ทักษิณซื้อ
- บุคคล และองค์กร เช่น ข้าราชการ, สส., สว., พรรคการเมือง, องค์กรอิสระ,
นักวิชาการ, สื่อมวลชน, ประชาชน, วัง, ประเทศไทย
ธุรกิจ เช่น
- สัมปทานโทรคมนาคม โทรศัพท์เคลื่อนที่ (บ. AIS)
- ดาวเทียมไทยคม, IP Star (บ. ชินแซคฯ)
- อินเตอร์เนท (บ. CS Loxinfo)
- สายการบิน (AIR ASIA)
- สถานีโทรทัศน์ (ITV)
- มหาวิทยาลัย (ม.ชินวัตร)
- โรงพยาบาล (พญาไท)
- ธนาคาร (Non-Bank Capital OK)
- บริษัทโฆษณา
- ฯลฯ
11. คำพูด คำสัญญาของรัฐบาล ที่ไม่เป็นจริง
- ผมจะแก้ปัญหาจราจรให้ได้ภายใน 6 เดือน
- จะขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 5 % ภายในตุลาคม 2548 (ภายหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ
สุริยะฯ)
- โครงการย้ายที่ตั้งรัฐสภาไปรังสิต (บ.ไทยเมล่อน)
- โครงการย้ายส่วนราชการ ไป จ.นครนายก
12. วีรกรรม และคำคม (ของทักษิณ)
- ด่านักวิชาการที่ให้คำแนะนำรัฐบาล
- ด่าวิชาชีพทนาย
- ด่า UNSCR กลางที่ประชุมสหประชาชาติ (ห้ามยุ่งกับปัญหาภาคใต้ไทย)
- "UN ไม่ใช่พ่อ"
- "พวกนี้มันโจรกระจอก" (ปัญหาภาคใต้)
- "ไม่ต้องตกใจ มันแค่โรคอหิวาระบาด" (ปัญหาไข้หวัดนก)
- "เป็นพระอยู่ส่วนพระ ไม่สมควรพูดเรื่องการเมือง ถ้าพูดก็ไม่สมควรเรียกว่าพระ"
- "แมง...+++พวกนักวิชาการก็เอาแต่ติ"
- "พูดเรื่องพระราชอำนาจ ระวังเหาจะกินหัว"
13. คนดีมีอุดมการณ์ แต่ถูกกลั่นแกล้ง และอยู่ในรัฐบาลไม่ได้
- ดร.เกษม วัฒนะชัย
- ดร.ปุระชัย เปรี่ยมสมบูรณ์
- นายวิโรจน์ นวลแข

ท้ายนี้หวังว่าผู้ที่มีอำนาจ หน้าที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ นายกทักษิณ จะได้ตอบ
ได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้สำเร็จต่อไป หากตอบไม่ได้ ไม่ชัดเจน หรือไม่ตอบ ไม่แก้ไข
และเมื่อคำถามมีมากขึ้น เมื่อนั้นรัฐบาลก็จะอยู่ไม่ได้เหมือนกัน

ผู้รวบรวม อดีตนักศึกษา 3 สถาบัน (RIT, KMITL, AIT) ผ่านศึกมาแล้ว 3 สังเวียน
- 14 ตุลา 16
- 6 ตุลา 19
- พฤษภาทมิฬ 35

ทักษิณ กับ แผนการปล้นชาติ

จับตา-แปรรูป การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ขบวนการปล้นชาติ สร้างอาณาจักรใหม่

ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษ แฉให้จับตาแปรรูป กฟผ.
เข้าข่ายขบวนการปล้นชาติ
วางแผนสร้างเป็นอาณาจักร Shin Energy อย่างแยบยล เชื่อมไฟเบอร์ออพติคเข้าเสาไฟฟ้า
หวังขยายเครือข่ายโทรศัพท์
คาดเม็ดเงินสูง 6 หมื่นล้านบาท พร้อมเขย่าตลาดหุ้น ให้ดิ่งหรือดับได้ในกำมือ
ต่อไปคนรวยที่สุดในโลกจะไม่ใช่ บิล เกทส์
อีกแล้ว แต่อยู่ใกล้ๆ แถวนี้เอง ดร.วุฒิพงษ์ กล่าวว่า

การแปรรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลชุดนี้ ถือเป็นการวางแผนทางธุรกิจการเมือง ครั้งใหญ่
โดยเกี่ยวพัน 4 ส่วนด้วยกันคือ

1. ปตท. ซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.3 ล้านล้านบาท
ขณะที่มูลค่าตลาดหลักทรัพย์มีมูลค่า 5 ล้านล้านบาท
2. ปิโตรเคมี มีมูลค่าตลาด 3 แสนล้านบาท
3. ธุรกิจโทรคมนาคมอีก 5 แสนล้านบาท แค่รวมสามส่วนนี้ก็มีมูลค่ามหาศาลถึง 2.1
ล้านล้านบาท
4. กฟผ.ซึ่งยังไม่ได้เข้าตลาดจึงยังไม่รู้ว่ามีมูลค่าเท่าไหร่
แต่คาดว่าใกล้เคียงกับ ปตท.

ทั้ง 4 ส่วนนี้น่าจะเป็นมูลค่า 3.4
ล้านล้านบาทเกินกว่ามูลค่าครึ่งหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ แสดงให้เห็นว่า
ระบบเศรษฐกิจของไทยครึ่งหนึ่งอยู่ ในภาคธุรกิจพลังงาน แสดงให้เห็นว่า หมากเกมนี้
แหลมคมลุ่มลึกมาก ขณะเดียวกัน
การคอรัปชั่นแบบคลาสสิค อย่างหักหัวคิวสนามบินสุวรรณภูมิก็ยังมีอยู่

การพิจารณาตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูป ปตท.จะพบว่า
คนพวกนี้เคยขายบางจากมาก่อนแล้ว และต่อไป
ก็จะมาทำการแปรรูป กฟผ.นี้ด้วย รัฐบาลจัดทีมชุดนี้วิ่งรอกตามจุดต่าง ๆ
ที่ต้องการแปรรูป

ดร.วุฒิพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของโทรคนาคมนั้นมาเกี่ยวพันเป็น 1ใน 4
ของธุรกิจพลังงานได้ก็เพราะว่า เสาไฟฟ้าแรงสูง
ของ กฟผ. ในส่วนของ แกนสายได้สอดสายไฟเบอร์ออพติคไว้แล้ว
ถือเป็นโครงข่ายโทรคมนาคมที่วิเศษที่สุด ดีกว่าโครงข่าย
ของ กสท.เสียอีก เพราะว่าเครือข่ายของ กฝผ.สามารถเข้าไปในบางพื้นที่
ที่กสท.เข้าไปไม่ได้ ตรงนี้ในอนาคตมีแนวโน้ม
ที่จะฉีกออกไปเป็นอีกหนึ่งบริษัทคือ อีแก็ต-เทเลคอม
ได้สบายเพราะเป็นเจ้าของสายไฟเบอร์ออพติคที่แพร่ขยายไปตาม
ภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ ลองคิดดูว่าคอมลิงค์ซึ่งเป็นสายไฟเบอร์ออพติค
วิ่งเฉพาะตามทางรถไฟ ในแต่ละภูมิภาค
มีสายไฟเบอร์ออพติคหลักอยู่เส้นเดียวยังสร้างความร่ำรวยได้มหาศาล แล้ว โครงข่ายของ
กฝผ. ซึ่งเป็นกระดูกสันหลัง
ที่ดีที่สุดในประเทศ จะมีมูลค่าขนาดไหน
จริงอยู่ว่าสายไฟของกฟผ.ยังไม่สามารถเชื่อต่อมายังบ้านได้ จำเป็นต้องหา
พันธมิตรเพื่อมาทำการเชื่อมต่อตรงนี้ ซึ่งการเชื่อมต่อมายังบ้านมี 2 แบบใหญ่ ๆ คือ
แบบมี สาย ซึ่งก็คือ เครือข่ายของ
การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ซึ่งคงมีการคิดกันแล้วว่าจะต้องมีการรวมกันเป็นรัฐวิสาหกิจหนึ่งแห่งก่อน
แล้วค่อยนำไปขายในตลาดหลักทรัพย์ และ การเชื่อมต่อแบบไร้สาย
ซึ่งอย่างหลังก็คือบริษัทโทรศัพท์มือถือต่าง ๆ นั่นเอง

ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษกล่าวต่อว่า
นอกจากนี้เทคโนโลยีในอนาคตนั้นจะทำให้ปลั๊กไฟบ้านสามารถเสียบสาย
โทรศัพท์ได้ เพราะฉะนั้น
สายไฟฟ้านอกจากจะจ่ายไฟฟ้ายังสามารถส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์ได้ หากรวม กฟผ.,
การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ.)
จะยิ่งใหญ่กว่าเครือข่ายของ ดีแทค และ เอไอเอส
เพราะบริษัทเอกชนทั้งสอง ทำอย่างไรก็ไม่มีทางทำได้ขนาดนี้
ผมขอพูดเป็นสมการแบบง่าย ๆ ดังนี้

TMB (ธนาคารทหารไทย) บวก IFCT (บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย) บวก DBS
(ธนาคารดีบีเอส)
จะเท่ากับ Shin Bank

ส่วนกรณี EGAT (กฟผ.) บวก PTT (ปตท.) จะเท่ากับ Shin Energy ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ
Shin Telecom
เป็นอาณาจักรใหญ่ ซึ่งใหญ่กว่าครึ่งหนึ่งของระบบเศรษฐกิจประเทศ

การนำ กฟผ.เข้าตลาดหุ้นจึงเป็นการต่อจิ๊กซอว์
เพื่อทำให้แผนการยึดครองเศรษฐกิจของประเทศสมบูรณ์แบบ

ดร.วุฒิพงษ์ กล่าวต่อว่า ไม่เกิน 1 ถึง 2 ปีจากนี้ เราคงเห็นค่าไฟจากหน่วยละ 10
สลึงกลายเป็น 4 บาท
ไม่ต่าง อะไรจากราคาน้ำมันในขณะนี้ หากมีการขึ้นค่าไฟฟ้าหน่วยละ 1 บาท
เงินจะไหลเข้ากระเป๋าเจ้าของ กฝผ.
หนึ่ง แสนสองหมื่นล้านบาทต่อปี ตรงนี้เฉพาะค่าไฟเท่านั้น
ยังไม่รวมประโยชน์จากไฟเบอร์ออพติค
ต่อไปนี้คนที่รวยที่สุดในโลกคงไม่ใช่ บิล เกตส์ อีกแล้ว แต่จะเป็นคนใกล้ตัว
แถวนี้เอง
การแปรรูปการไฟฟ้าจะร้ายแรงกว่า ปตท.มาก
เพราะในบ้านเรากิจการการค้าน้ำมันยังผูกขาดไม่สมบูรณ์
มีหลายเจ้าที่ค้าน้ำมันแข่งกันกัน แต่สำหรับไฟฟ้านั้นหากเราไม่ซื้อไฟจาก
กฝผ.ก็ต้องไปซื้อถ่านไฟฉายตราแมวดำมาใช้

"ไม่มีการปล้นชาติครั้งใดหอมหวานเท่าครั้งนี้
เป็นการทำให้อำนาจทางการเมืองควบรวมกับอำนาจทางเศรษฐกิ
อย่างสมบูรณ์ ที่ผ่านมาเราก็เห็นตัวอย่างจาก การกระจายหุ้น ปตท.แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
หนึ่งในสามของหุ้น ปตท.
ถือครองโดย หน่วยลงทุน 2 หน่วยจากสิงคโปร์ (ตัวแทนของนายโม่งในไทย)
ใครก็ตามที่เป็นเจ้าของของหน่วยลงทุน
ทั้ง 2 หน่วยนี้ จะได้ผลประโยชน์ถึง 6 หมื่นล้านบาท
ที่สำคัญสามารถทำให้หุ้นขึ้นหรือลงได้แทบทุกวัน แค่บอกว่า จะขยายโรงกลั่นหรือ
สร้างโรงไฟฟ้า หุ้นก็พุ่ง
พออีกอาทิตย์บอกว่า จะทบทวนมติครม.หุ้นก็ดิ่ง (ปั่นหุ้นทำกำไรกันจนรวยเละ)
เวลานี้บ้านเมืองกำลังถูกปลาหมึก ยักษ์กิน วิธีการสู้กับปลาหมึกยักษ์
อย่าไปแหย่ที่หนวด ให้แทงที่หัว"
ดร.วุฒิพงษ์ กล่าว

ผลประโยชน์แอบแฝงมหาศาลด้านโทรคมนาคม อีกหนึ่งสาเหตุในการเร่งแปรรูป กฟผ.

มีอะไรอยู่เบื้องหลังธุรกิจด้านโทรคมนาคมที่ บมจ. กฟผ.
รีบดำเนินการจัดตั้งแทบจะทันทีหลังจากการแปรสภาพเป็น
บริษัทจำกัด (มหาชน) ธุรกิจด้านนี้จะเป็นประโยชน์กับใคร
และประชาชนจะเสียประโยชน์อย่างไร ลองมาฟังกันดูครับ

ธุรกิจด้านโทรคมนาคม ของ บมจ. กฟผ. สำคัญอย่างไร

บมจ. กฟผ. ตั้งบริษัทลูกชื่อ "กฟผ. โทรคมนาคม" หรือ "EGAT Telecom"
เพื่อนำเครือข่ายสื่อสารใยแก้วนำแสง
ที่ดำเนินการติดตั้งไว้ ตั้งแต่ก่อนแปรรูปไปให้เอกชนเช่าเพื่อการสื่อสารข้อมูล
ปัจจุบันนี้เครือข่ายใยแก้วนำแสงของ บมจ.กฟผ.
มีช่องสัญญาณขนาด 155 Mbps (155 ล้าน bps) เชื่อมไปยังภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกำลังเร่งขยาย
ช่องสัญญาณขนาดเดียวกันนี้ไปยังภาคใต้ และภาคตะวัน ออกให้เสร็จในระยะเวลาอันใกล้
ก่อนการกระจายหุ้น

เครือข่ายใยแก้วนำแสงนี้ ทำอะไรได้บ้าง ถ้าจะให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือปัจจุบัน บมจ.
กฟผ. มีช่องสัญญาณใหญ่พอที่จะแพร่ภาพ
โทรทัศน์แบบเดียวกับที่ UBC ใช้แพร่ภาพในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลไปทั่วประเทศไทย
โดยมีความ คมชัดระดับ VCD
ได้ประมาณ 100 ช่อง หรือ ประมาณ 30 ช่อง ที่ความคมชัดระดับ DVD
และสามารถลงทุนขยายช่องสัญญาณเพิ่มขึ้น
64 เท่า ให้มีช่องสัญญาณสูงถึง 9.6 Gbps (9,600 ล้าน bps ซึ่งเท่ากับการแพร่ภาพ VCD
6,400 ช่อง
หรือ DVD 1,920 ช่อง)ได้ทันทีด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน

เครือข่ายใยแก้วนำแสงของ กฟผ. นั้นวางคู่ไปบนระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ.เอง
ทำให้ต้นทุนด้านการวางเครือข่ายต่ำกว่า
ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมรายอื่น และเมื่อเชื่อมกับเครือข่ายใยแก้วนำแสงของ กฟภ.
และ กฟน. ซึ่งอยู่บนระบบส่งไฟฟ้า
ของ กฟภ. และ กฟน.ในลักษณะเดียวกัน
จะทำให้เกิดเครือข่ายใยแก้วนำแสงต้นทุนต่ำขนาดใหญ่ที่สุด สามารถให้บริการได้
ถึงทุกครัวเรือนในประเทศไทย
แม้ว่าการวางเครือข่ายใยแก้วนำแสงถึงทุกบ้านโดยตรงนั้นอาจยังไม่คุ้มค่าการลงทุนในปัจจุบัน
แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยการวางเครือข่ายใยแก้วนำแสงถึงสถานีไฟฟ้าย่อย
จากนั้นสามารถส่งข้อมูลผ่านสายไฟฟ้า
แรงดันต่ำไปยังบ้านเรือนได้ด้วยเทคโนโลยี Broadband over power lines (BPL)
ซึ่งมีช่องสัญญาณ
ประมาณ 3 Mbps หรืออาจวางเครือข่ายใยแก้วนำแสงไปถึงจุดบริการย่อย
และต่อเข้าบ้านเรือนด้วยเทคโนโลยี WiFi
(เครือข่ายไร้สาย) ซึ่งมีช่องสัญญาณไม่น้อยกว่า 11 Mbps

จะเห็นได้ว่า
ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารภาคพื้นดินผ่านเครือข่ายใยแก้วนำแสงที่มีความรวดเร็วและมีความมั่นคงสูง
บวกกับความพร้อมของเครือข่ายระบบส่งไฟฟ้าของ กฟผ. กฟภ. และ กฟน.
ทำให้มีข้อได้เปรียบกว่าระบบโทรคมนาคม
ผ่านดาวเทียมหลายด้าน เช่น มีการลงทุนที่ต่ำกว่าการสื่อสารผ่านดาวเทียม
ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสภาพอากาศเช่นเดียวกับ
การสื่อสารผ่านดาวเทียม ซึ่งจะขาดช่วงเมื่อฝนฟ้าคะนองหนัก (ข้อนี้ คนที่ดู UBC
ผ่านจานดาวเทียมคงจะทราบปัญหาดี)
อีกทั้งการสื่อสารผ่านดาวเทียมไปถึงผู้รับบริการรายย่อยเป็นการสื่อสารแบบทางเดียว
ในขณะที่การสื่อสารผ่านเครือข่าย
ใยแก้วนำแสงเป็นการสื่อสารแบบสองทาง
คือผู้รับบริการรายย่อยสามารถส่งข้อมูลกลับไปยังผู้ให้บริการได้ จึงรองรับการ
ให้บริการประเภท Interactive TV และ Hi-speed Internet ได้ดีกว่า

ข้อสังเกต

1. เมื่อเครือข่ายใยแก้วนำแสงบนระบบส่งไฟฟ้า
เข้ามามีบทบาทสำคัญในการการสื่อสารโทรคมนาคมในอนาคตอันใกล้
บทบาทของการสื่อสาร ผ่านดาวเทียมย่อมลดลง แล้วใครจะเป็นผู้เสียประโยชน์
(จึงต้องการขยายอาณาจักรให้ครอบคลุม เครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคม ทุกระบบ)

2. ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา รวมถึงนักวิชาการอิสระทั้งหลาย เห็นตรงกันมาตลอดว่า
ควรแปรรูป กฟผ.เฉพาะส่วนการผลิต
(โรงไฟฟ้า) เพราะทำให้เกิดการแข่งขันได้ง่าย แต่ให้คงส่วนระบบสายส่งไฟฟ้
และเขื่อนไว้เป็นของรัฐ เพราะทั้งสองส่วน
เป็นสิ่งที่ได้มาด้วยอำนาจทางกฎหมายและการเสียสละของประชาชนจำนวนมาก
(ผ่านการเวนคืนที่ดิน ที่ใช้ในการก่อสร้าง)
อีกทั้งทำให้เกิดการแข่งขันได้ยาก แต่รัฐบาลทักษิณ กลับต้องการให้แปรรูป กฟผ.
ทั้งหมด เพื่อให้ เอกชน
(เครึอญาติตระผมล................. และ นายทุนพรรค)
เข้ามาถือสิทธิความเป็นเจ้าของทั้งในระบบส่งไฟฟ้าและเขื่อน

3. ระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสงของ กฟผ. ได้เร่งดำเนินการขยายช่องสัญญาณไปยังภาคต่างๆ
จาก 8 Mbps
เป็น 155 Mbps ในช่วงไม่เกิน 5 ปีที่ผ่านมา
ทั้งที่เป็นการลงทุนที่เกินความต้องการสำหรับการสื่อสารภายในองค์กร
และเงินลงทุนนี้ยังถือเป็นต้นทุนส่วนหนึ่งของค่าไฟฟ้าด้วย
กล่าวคือประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าทุกคนช่วยกันจ่ายเงินค่าไฟฟ้าเพิ่ม
เพื่อขยายช่องสัญญาณเครือข่ายใยแก้วนำแสงให้แล้วเสร็จทันเวลากับการ แปรรูป กฟผ.
และการตั้งบริษัท กฟผ.โทรคมนาคม
เพื่อนำช่องสัญญาณไปให้เอกชนเช่าได้อย่างพอดิบพอดี

4. ในการแปรรูป กฟผ. เป็น บมจ. กฟผ. นั้น คิดราคาสุทธิทางบัญชีของระบบสื่อสารของ
กฟผ.ไว้เพียง 2,318 ล้านบาท
จากราคาทุน 6,356 ล้านบาท

Subject: ข่าวที่น่าอัปยศ..อีกแล้ว
ผมอยู่ในวงการ ธุรกิจ ที่เกี่ยวกับบัตร Prepaid แต่ไม่ใช่ของ
One2Call ของทักษิณ คุณรู้หรือเปล่าว่า เดี๋ยวนี้ทักษิณมีการแก้กฎหมายต่าง ๆ จน
เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มของตนอย่างมากมาย ผมจะเล่าให้ฟัง (ตอนนี้ฐานลูกค้าของ
One2Call มีตั้ง 21 ล้านคน) ในกรณีของ Prepaid นี้จะไม่ใช่แค่บัตรเติมโทรศัพท์
แล้ว แต่ต่อไปจะทำหน้าที่เป็น Cash Card ก็คือบัตรที่ใช้แทนเงินได้อย่างสมบูรณ์
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้จะต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ทักษิณเปลี่ยน
กฎหมายใหม่ว่า ถ้าใครจะทำธุรกิจ Prepaid จะต้องขออนุญาตโดยตรงกับรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลังแต่เพียงคนเดียว คุณทราบหรือไม่ว่าตอนนี้มีคนขออนุญาตแล้ว 6 ราย
แต่ผ่านเพียง 1 ราย ไม่ต้องเดา ก็ AIS ไงครับที่ผ่าน ส่วนรายอื่น ๆ ยังไม่รู้
ว่าจะหมู่หรือจ่า แค่นั้นยังไม่พอ ยังออกกฎมากมายที่จะทำให้รายเล็ก ๆ ที่เคยทำ
Prepaid อยู่ไม่ได้เช่น ต้องมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านขึ้นไปและเรียกชำระเต็ม ถ้า
บริษัทฯ ไหนไม่ถึงก็ต้องรีบตามจดให้ถึง 200 ล้านภายใน 6 เดือน แล้วรายเล็กที่
ไหน จะอยู่รอด แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีความเลวอีกชั้นคือ ทักษิณได้จัดเปลี่ยนโครง
สร้างการเสียภาษีของบัตร Prepaid กล่าวคือแต่เดิมเสียภาษี 7% จากราคาบัตร เช่น
บัตรราคา 100 บาท AIS จะเสียภาษี 7 บาท แต่เปลี่ยนเป็นเสียภาษีจากค่า
Commission แทน เช่น บัตรราคา 100 บาทขายให้ Dealer มี Commision ได้ 4 บาท ดัง
นั้น จะ AIS จะเสียภาษี 7% จากค่า Commision 4 บาทคือเสียภาษีแค่ 0.28 สตางค์
เท่านั้น ไม่รู้ว่าคิดได้อย่างไง คิดแต่เอาตัวเองรวยเอารวยเอา แต่กับคนอื่น ๆ
ไม่ให้เกิดเลย ช่างเลวมากอย่างที่เขาพูดกันจริง ๆ ***** เรื่องนี้เป็นเรื่อง
จริงที่กระทบกับธุรกิจของพวกพวกเป็นอย่างมาก ***** ผมจะทำธุรกิจต่อได้อย่างไร
!!!!
ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อเป็นชาติเชื้อไทย

MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY