GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

“Seeing things as they are” The Next Move: ของ กปปส. และ ระบอบทักษิณ (ต้องอ่าน...)

จากหนังสือ 33 Strategies of War โดย Robert Green ซึ่งเป็นหนังสือกลยุทธ์ที่ฝรั่งเขียนตามซุนหวู่ มีประโยคสำคัญในภาคแรก ก่อนที่จะพูดถึงกลยุทธ์ใดๆ คือ

“Seeing things as they are”

ซึ่งหมายถึงการเปิดตา มองรอบๆตัว ดูสถานการณ์ตามความเป็นจริง ไม่ดูตามอารมณ์ ไม่ดูในแบบที่อยากให้มันเป็นไม่อวดดี ไม่กลัว ไม่สับสน ตัดอารมณ์ทุกอย่างออกไปก่อน สนใจแค่ “ความเป็นจริง” อย่างเดียว

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในหลายๆ สาขาของการเรียน และประกอบธุรกิจ เพราะถ้าเราไม่เห็นความจริง หรือเห็นความจริงแต่ไม่ครบถ้วน แผนที่เราจะวางต่อไป ก็คือแผนที่ผิด

หลักคิดนี่ สำคัญ แต่หากมาปรับในสถานการณ์ปัจจุบัน ก็ต้องขอเพิ่ม องค์ประกอบคำว่า “at that time” เข้าไปเป็นเงื่อนไขอีกข้อที่สำคัญมาก ซึ่งหมายถึงการ พร้อมที่จะวิเคราะห์สถานการณ์ ตามเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป

องค์ประกอบของ “ความจริง” ก็ต้องเป็นความจริง “ณ เวลานั้น” ด้วย

ถ้าเป็นความจริงของเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วเอามาวางแผนกลยุทธ์ตอนนี้อาจจะเป็นกลยุทธ์ที่ใช้การไม่ได้

สำหรับการเมืองของไทยตอนนี้ การเอาความจริงเมื่อ 3 วันที่แล้ว มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนกลยุทธ์ อาจจะเป็นยิ่งกว่าแผนทีใช้ไม่ได้ อาจจะถือว่าเป็นแผนที่ “เน่า” ไปเลยก็ได้

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ใครจะคิดว่า พรรคประชาธิปปัตย์ จะเริ่มเล่นการเมืองข้างถนน

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ใครจะคิดว่า สุเทพ ที่มีภูมิหลังสกปรก จะได้รับการยอมรับ จากมวลชน ให้เกิดการประสานขั้วต่อต้านทักษิณเป็น หนึ่งเดียวกัน

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2556 ใครจะคิดว่า คนจะเข้ามาร่วมกระบวนการ กปปส. เป็นล้าน

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2557 ใครจะคิดว่า วิกฤติจำนำข้าวจะคลี่ออกมาเป็น ดาบอาญาสิทธิที่กำลัง จะตัดคอ ระบอบทักษิณ ช้าๆ แต่โคตรชัวร์

และแล้ว วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา เราก็ยังคงคาดไม่ถึงกับอะไรหลายๆ เรื่องที่มันกำลังเกิดอยู่ แต่เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ถึงแม้รัฐบาลจะกำลังเมาหมัด กปปส. ของเราก็อ่อนแรงไปพอสมควร เหมือนกัน  นี่คือความจริง ซึ่งผมคิดว่าแกนนำก็รู้

หากเราจะวิเคราะห์เกม เราต้องดูความเป็นจริง ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนหากลยุทธ์

-รู้เขา : The Next Move of ระบอบทักษิณ-

ตอนนี้สังเกตแนวทางของรัฐบาลระบอบทักษิณ ไม่มีประเด็นที่ทำให้เดือดร้อนมากเท่าเรื่องจำนำข้าว การประท้วงของ กปปส. เราเป็นเพียงสัญลักษณ์ เท่านั้น ซึ่งทำให้เกิด ข่าวตีแผ่ไปทั่วโลก และเป็นการเปิดตัวตนของคนที่เกลียดระบอบทักษิณ มารวมกัน

แต่การที่จะปิดถนน เปิดเวทีดา ไล่ม๊อบให้รัฐบาลออกไปนั้น หลายๆ คนก็ทราบว่า มันเป็นไปไม่ได้สำหรับรัฐบาลที่ไร้ความรับผิดชอบชั่วดี ตรงนี้ทุกคนก็ต้องยอมรับ แกนนำที่เดินไปปิดสถานที่ราชการหรือ ถนน ในที่สุดก็ต้องยอมเปิด เพราะคนก็เริ่มมีความเดือดร้อน เราก็ต้องเห็นใจเขา

ทีนี้พอมีแกนใหม่อย่างชาวนา ซึ่งเป็นฐานเสียงของเขาที่วันนี้จงเกลียดจงชังเขาเข้ากระดูกดำ ระบอบทักษิณย่อมเดือดร้อน

ทางเลือกที่รัฐบาลมีอยู่ตอนนี้คือ

1. ขายข้าว  เป็นวิธีมาตรฐานที่ง่ายที่สุด ก็คือมีข้าว 10 กว่าล้านตัน ก็ขายออกไป เอาเงินมาให้ชาวนา ง่ายแต่นั้น แต่เรื่องนี้มีปัญหาหลักได้แก่

- ข้าวมีอยู่จริงหรือไม่  จากที่ทราบว่ามีการทุจริต หิ้วข้าว ออกไปจากระบบฟรีๆ อย่างต่อเนื่อง แล้วจริง 10 กว่าล้านตัน แต่มีจริงๆ กี่ตัน ตรงนี้ถ้าความแตก ก็เป็นเรื่องอีก

- คุณภาพของข้าวที่จะขาย – อาจจะมีการปลอมปน ต่างๆ ทำให้มีผลต่อราคาข้าวก็จะลดลงไป G2G ไม่ต้องพูดถึง เพราะพอคนรู้ว่าเป็นข้าวที่ขายโดย รัฐบาลไทยเอง คนก็ไม่เชื่อในคุณภาพของข้าวแล้ว เพราะรู้ว่าทุจริตกันมากขนาดไหน หากจะขายก็ต้องขายราคาขยะๆ กันเลย เพื่อเอาแค่เงินสด พูดง่ายๆ แบบชาวบ้านคือ กำขี้ดีกว่ากำตด แต่ขี้นี่คือขี้จริงๆ พร้อมกับหนี้ที่ต้องจ่ายรัฐบาลต่อ

- Speed  อันนี้สำคัญที่สุด จากที่สถาบัน TDRI บอกว่า ระบายข้าวตอนนี้ได้เร็วที่สุดคือได้เงินมา 10,000 ล้านบาท ต่อเดือน อย่างมาก ดังนั้น ถ้านับกับคร่าวๆ ใบประทวนใบสุดท้ายในรอบนี้ที่จะได้รับการจ่ายเงินจำนำ ก็น่าจะอยู่ในช่วงสงกรานต์ “ของปีหน้า”

2. กู้เงิน  จากที่เห็นชัดๆ กันอยู่ว่าข้าวยังไงก็ขายไม่ทันแน่ๆ หรือทำให้เกิดแผลเปิด มาก วิธีที่ดี ที่เร็วที่สุดก็คือ กู้ แล้วจะกู้ใคร

- ธนาคารเอกชนภายในประเทศ ไม่มีทางเพราะการกู้ครั้งนี้เป็นเงินกู้ที่เป็นหนี้เสียแน่นอน คนให้กู้ก็ต้องอยากกู้และได้ดอกเบี้ย แล้วรัฐบาลมีปัญหาหาให้ทั้ง
สองอย่างนี้หรือไม่ รับรองเจอผู้ถือหุ้นเอาตาย และเจอคนแห่ถอนเงิน

- ธนาคารรัฐ ก็เช่นกัน ก็เป็นธนาคารเหมือนกัน แถมสหภาพแรงงานเข้าไปให้ คนเขาก็ต้องปกป้องเงินของเขา ไม่เอาไปเป็นหนี้เสียแน่นอน

- กู้กองทุนบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม กองทุนสลาก ทั้งหมดนี้ มีนักกฎหมายของฝ่ายตรงข้ามรอเล่นงานอยู่ และมีเจ้าของเงิน ก็คือทั้งข้าราชการบำนาญ และ ประชาชนผู้จ่ายประกันสังคมรอออกมาจัดการถ้าไปแตะ ซึ่งถามว่าจริงๆ จะแตะได้มั้ย ถ้ากล้าออกเป็นมติ ครม. ได้ กองสลากก็อาจจะยอม เพราะไม่มีเจ้าของเงินตัวจริงชัดเจน แต่รัฐบาลก็ต้องพร้อมที่จะทำผิดกฎหมาย เสียสละติดคุก เอาเงินมาให้ชาวนา ซึ่งรัฐบาลนี้ ไม่ใจ Sport ขนาดนั้นแน่นอน

สรุป ในประเทศแทบไม่เหลือแหล่งจะกู้ได้ แล้ว จะหันไปพึ่งใครดี ก็ต้องดูต่างประเทศ ก็ต้องถามว่า การที่สถาบันหรือแหล่งเงินจากต่างประเทศจะให้กู้เงิน เป็นหมื่นๆ ล้านหรือแสนล้านมาจ่ายชาวนานั้น ก็จะต้องมี การ “แลกกัน” แล้วการแลกที่ว่าจะเป็นอะไรได้บ้าง หลักๆ ก็คือการเอาทรัพย์สินของชาติไปค้ำประกัน แล้วประชาชนที่ทราบจะยอมหรือไม่ หรือยิ่งกว่านั้นคือ Make Deal เช่นเอาบ่อก๊าซไปเลย แล้วเอาเงินมา

ซึ่งจะทำอะไรแบบนี้ ก็ผิดกฎหมายเห็นๆ เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ
ตรงนี้ก็ต้องย้ำอีกรอบว่าที่รัฐบาลบอกว่า เป็นความผิดของ กปปส. ที่ทำให้รัฐบาลยุบสภา เราก็คงจะจำกันได้ว่า ในวันที่เราออกมาเดินกันเป็นล้านนั้น เราไม่ได้สนใจว่าปูจะยุบสภาหรือไม่ เราต้องการให้เธอไปต่างหาก แล้วก็ไม่ได้มีการกดดันให้ใครยุบสภา ในวันนั้น

ชาวนาก็จำได้ว่า การผัดผ่อนหนี้นั้นเกิดก่อนการชุมนุม จะหลอกเขาตรงนี้ไม่ง่ายแล้ว

ที่แน่ๆ คือก่อนจะยุบสภาแทนที่จะ Clear ทุกอย่างให้จบรวมทั้งกู้ 130,000 ล้านให้เรียบร้อยก็ไม่ทำอีก “ลืม”

เป็นการย้ำ สุดยอดแห่งความ “ชั่ว” และ ความ “โง่” ของคนในระบอบทักษิณได้ชัดเจนมากขึ้น

3. รีบกลับมาเป็นรัฐบาลเต็มรูปแบบโดยเร็ว – การกลับมาเป็นรัฐบาลที่ถูกต้อง สมบูรณ์จะทำให้ ข้อจำกัดในการกู้เงิน หรือ Move เงินต่างๆ จบลง โยกงบโน้นมาปะงบนี้ได้ แต่ “ความเป็นจริง” ก็คือ การเลือกตั้งที่ยังไม่จบนี้ โดยเฉพาะในภาคใต้ จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก และเมื่อเวลาค่อยๆ ผ่านไป การเลือกตั้งก็ไม่เสร็จเสียที ชาวนาก็จะเพิ่มแรงกดดันขึ้นเรื่อยๆ – และต่อให้กลับเข้ามาได้ โครงการนี้ก็อยู่ใน Radar ปปช. เรียบร้อย แล้ว การที่จะทำอะไรกับกองเงินจะยากมากๆ ถ้ายังอยากจะมีแผ่นดินอยู่ในประเทศไทยสำหรับรัฐมนตรีแต่ละคน

สรุป จะขายข้าว จะกู้ หรือ จะกลับมาเป็นรัฐบาลก็ไม่ง่ายสักอย่าง แต่โดย ยังไงก็ต้องหาเงินมาจ่ายชาวนาให้ได้ เพราะถ้าไม่รีบแก้ปัญหานี้โดยเร็ว ปล่อยทุกอย่างลุกลามไปถึง Q2 ของปีนี้ รับรองได้ว่า จะ “เป็นสงกรานต์เลือดสาด” ที่ชาวนาจะเริ่มใช้กำลัง เพราะเขาไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว และพรรคเพื่อไทย ก็น่าจะปิดประตูการเป็นพรรคใหญ่ไปตลอดกาลพร้อมกับการสิ้นสุดของมหาทรราชชื่อทักษิณ ชินวัตร

แต่จริงๆ หากลอง เอาตนเองเป็นพรรคเพื่อไทย แล้วลองมองดูแหล่งเงินรอบๆ ตัว ที่มีเงินมหาศาลขนาดนั้น ก็เหลือเพียงแหล่งเดียวที่จะมีเงินถึง 130,000 ล้าน ก็คือ

“สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์”

สิ่งที่พรรคเพื่อไทยอาจทำก็คือ อาจจะไปขอกู้ สร้างแรงกดดันให้กับสำนักงานทรัพย์สิน แล้วถ้าสำนักงานทรัพย์สินไม่ให้กู้ ก็จะมองเป็นเรื่องของ อำมาตย์ ไม่ช่วยชาวนา เป็นการโยนบาปไปแปดเปื้อนพระองค์ท่านอีก

เชื่อหรือไม่ว่าพรรคนี้ สามารถคิดชั่วได้ขนาดนั้น?  ถ้าไม่เชื่อขอให้ระวัง เพราะเขา Surprise เรามาหลายรอบแล้ว – สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อาจจะต้องคิดวิธีรับมือเชิง PR ได้ก่อน

-PR Machine : โยนความผิดให้คนรอบตัว -

เรื่องสำนักงานพระมหากษัตริย์ อาจจะเป็น Scenario ที่ โหดไปนิด แต่ของแบบนี้กันไว้ดีกว่าแก้

เมื่อถึงเวลาที่รัฐบาลเข้าตาจนมากๆ การเริ่มโยนความผิดจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดย Automatic

จากวิดีโอรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ของสรยุทธ์ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 เราก็เริ่มเห็น “ลาย” ของสุนัขรับใช้ระบอบทักษิณชื่อ ยรรยง พวงราช ว่าแท้จริงแล้ว ระบอบทักษิณมองชาวนาเป็นอะไรกันแน่

http://t.co/9BCuzx8PfRไม่ได้มีอะไรมากกว่าดินที่ไว้เหยียบย่ำ ไว้เพราะปลูกเอาพืชพล ว่างๆ ก็เอาเท้าลูบ ถ่มน้ำลายใส่ หรือถ่ายใส่เท่านั้นเอง (โดยเฉพาะดูนาทีสุดท้าย)
การปล่อย Propaganda หรือ ข่าวลวงโดยรัฐบาล จะมาพร้อมกับคำพูดโกหกต่อไปนี้

“ชาวนาปลอม” – คนที่มาเป็นพวกที่จะมาหาผลประโยชน์ ไม่ใช่ชาวนาจริง มาหลอกชาวนาให้เดินขบวน แล้วก็มาไถรัฐบาล

“ชาวนาส่วนน้อย” – ชาวนาคนอื่นๆ เขาได้เงินไปหมดแล้ว ที่มานี่เป็นคนส่วนน้อย ของประเทศ

“พวกกปปส.แปลงร่างมา” – เห็นใส่นกหวัด ถือธงชาติมาก็เป็น กปปส. ไปแล้ว ตอนนี้รัฐบาลเห็นธงชาติไทยไม่ได้ (เหมือนกับเห็นข้าศึก ก็ต้องถามต่อว่าคุณเป็นคนไทยหรือเปล่า พอเห็นธงเขมรอาจจะดีใจก็ได้) – กลยุทธ์นี้จะทำให้ชาวนา ไปร่วมกับ กปปส. มากขึ้น ประมาณว่าถ้ามึงด่ากู ก็ก็จะเป็นแม่งซะเลย

“ทำนาไมได้ผลก็มาทุกปีอยู่แล้ว” – อันนี้ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Downplay คือทำให้ดูเป็นเรื่องทั่วๆ ไปเสีย

ตรงนี้ เชื่อว่าภายในเดือนนี้ รัฐบาลจะเล่นตรงนี้มากๆ โดยเฉพาะผ่านช่องหอยม่วง

ผลคือ จะทำให้ชาวนาทั่วประเทศเดือดดาลมากขึ้น แต่ทำให้รัฐบาลซื้อเวลาไปได้เล็กน้อย เหลือให้คนที่ยังรักเสือแดงอยู่มาปกป้องรัฐบาล

ซึ่งเวลาคุยกันก็จะเป็นการโทษ กปปส. อีก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด

"ชาวนาไม่สนใจว่าทำไมรัฐบาลถึงหาเงินมาไม่ได้ ชาวนาสนใจแค่จะได้เงินเมื่อไหร่ เท่านั้น"

-  แตกเป็นเสี่ยง : สถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทย -

เป็นที่รู้กันว่าการโกงจำนำข้าวนั้น คนที่รับกันพุงปลิ้นเลยคือเจ๊ ด. แต่ไม่ได้แบ่งใคร – ขณะนี้ สส.พรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งได้รับเลือก และไมได้รับเลือกเข้ามา จากการเลือกตั้งคราวที่แล้ว คือ “หนังหน้าไฟ” ที่จะต้องรองรับอารมณ์จากชาวนา ที่พร้อมจะทำอะไรหลายๆ อย่างรวมทั้งการใช้กำลังอย่างแน่นอน ถ้ารัฐบาลไม่ยอมใช้เงินโดยเร็ว

สส. เหล่านี้คือ ลิ่วล้อ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวน คอ และกำลังจะเอาชีวิตเป็นเดิมพัน กับชาวนา ซึ่งตอนนี้ไม่มีคำตอบอะไร

ทางเลือกที่แท้จริงอีกอย่าง ที่อาจารย์อัมมาร สยามวาลา เคยพูดว่า “คนที่กินไปต้องคายออกมา” ก็คือ หมายถึง คนที่โกงเงินจำนำข้าวไป ต้องเอาเงินส่วนนั้นออกมาให้ชาวนาได้แล้ว

และขอให้เชื่อว่า เรื่องนี้มีการคุยกันในพรรคเพื่อไทยแน่นอน

แต่ใครจะเชื่อ หัวหน้าแก๊งค์จะยอมคายอะไรออกมา ไม่มีทาง แม้จะเป็นการช่วยชีวิตของลูกน้องก็ตาม

“เงิน” ในเชิงการเมืองคือกระสุนที่ใช้ในการรบ หากจ่ายเงินก้อนนี้ไป แล้วในอนาคตจะเอาที่ไหนไปซื้อเสียง ทำประชานิยมสร้างบุญคุณกับคนได้อีก จ่ายไปก็ล่มสลาย ดังนั้นพวกลิ่วล้อ พวกมึงไปแก้ปัญหากันเอาเองก็แล้วกัน นี่คือความระส่ำระสายในเพื่อไทย ประมาณว่า นครพระเจ้ามูลเมืองใกล้แตกเต็มทน

โดยภาพรวม หากเล่นกันตรงไปตรงมาพรรคเพื่อไทยไม่มีทางเลือกมากนัก การลาออกเป็นไปไม่ได้ เพราะการหลุดออกจากอำนาจรัฐจะทำให้เกิดการเช็คบิลทันที

ก็เหลือทางสุดท้ายทางเดียว ก็คือ การก่อจลาจล แล้วเอาทหารของตัวเอง ที่เป็นแตงโมออกมาลุย

แต่บอกตรงๆ Option นี้ก็รอดยากอีก เพราะทหารเขาก็รู้ตัวเห็นตัว มัดตราสังข์กันเองหมดแล้ว

สรุปจริงๆ ผมเองพยายามมองตัวเองเป็นพรรคเพื่อไทย ไม่เห็นแนวทางใดที่จะแกะปมอันนี้ออกได้เลย นอกเสียจาก ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ แล้วไปหาแนวทางเอาดาบหน้า รอสถานการณ์ปรับเปลี่ยนมาเข้าทางเผื่อมีปาฏิหาริย์
ทีนี้มาลองดูสถานการณ์โดยรอบพรรคเพื่อไทยดู

- เอกชนทิ้ง -
เพื่อนๆ ที่เป็นนักธุรกิจแดงตอนนี้เงียบหมดถ้าถามเรื่องจำนำข้าว บอกได้คำเดียวว่ายังไงก็ต้องจ่าย แต่นั่นคือเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้ ก็จะสี่เดือนเข้าไปแล้ว ตอนนี้ฝ่ายที่เป็น Back เสื้อแดงจ๋าๆ เงียบลง

- นปช. เงิบ -
จัดชุมนุมใหญ่ ตอนนี้ลองจัดดู สักจังหวัด แล้วดูว่าจะมีคนมาชุมนุมสักกี่คน แถลงข่าวที่อิมพีเรียลลาดพร้าวทีโคตรกร่อย ลองจัดชุมนุมอยุธยาดูแล้วดูกันก็ได้ รับรองได้ว่าชาวนาจะเดินไปหา เพราะเมื่อ “วิกฤติปากท้องเข้ามา ประชาธิปไตยวิปริตก็เป็นเรื่องรองไป”

- ตำรวจเกียร์ว่าง -
ตำรวจคือนกรู้ ศรส.ตอนนี้ก็นั่งกันอยู่แค่ 2 คนเหลิม บวก ปึ้ง แล้วมีธาริต ออกมาปล่อยจี๊ดเล็กน้อย แจ๊ด กับอดุลย์แทบไมได้เห็นหน้าแล้ว เพราะรู้แล้วว่า รัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำหนัก จากจำนำข้าว มีหมายจับออกมาแล้ว เมื่อวานนี้หลวงปู่พุทธอิสระนั่งคุยกับนักข่าวเป็นทีมใหญ่ มีการ์ดคนเดียว ยังไม่กล้าเข้าไปจับเพราะไม่อยากมีเรื่อง – ใครจะเอาตัวไปแลกกับรัฐบาลที่คนกำลังจะมารุมกระทืบ

- สื่อจัดเต็ม -
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นสื่อไหนๆ ทั้ง Free TV ทั้งวิทยุ ทั้งหนังสือพิมพ์ ประเภทที่เหยียบเรือสองแคมทั้งหลาย เล่นเรื่องนี้แบบไม่ยั้ง เพราะถ้าไม่เข้าข้างชาวนางานนี้ ภาพของสื่อนั้น คือ “เลวถ่อยสถุลย์” แน่นอน แม้กระทั่ง จส.100 ที่มีคนฟังทั่วประเทศยังเล่นเรื่องนี้ ไม่ยั้ง (วันนี้) เพราะในที่สุด เราต้องเข้าใจว่า สื่อคือ ธุรกิจ อะไรที่เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ และมี Drama จะขายดีมาก

ตอนนี้มีชาวนาเสียชีวิตไป 4 ศพ จากจำนำข้าว วันนี้ที่ จส.100 มีชาวนาผู้หญิงโทรเข้ามาร้องไห้ บอกว่ามีชาวบ้านบางคนดูเงื่อนไขสัญญาประกันชีวิตของ ธกส. ว่าถ้าตาย จะได้เงิน แสนนึง พร้อมค่าทำศพ เลยพิจารณาว่า จะฆ่าตัวตายดีหรือไม่ เพราะผ่านช่วงเงื่อนไขห้ามฆ่าตัวตายไปแล้ว อย่างน้อยถ้าตาย ครอบครัวจะได้สบาย

เจอประเด็นขนาดนี้เข้าไปคนน้ำตาร่วงทั่วแผ่นดิน และสามารถด่าได้ชัดเจนว่ารัฐบาลแม่ง “ชั่ว”

ล่าสุดก็มีการขยายข่าวออกไปว่า “นายกให้เห็นใจรัฐบาลบ้าง แต่นายกยังมีข้าวกิน วันนี้ชาวนาไม่มีข้าวกินแล้ว นายกเห็นใจชาวนามั้ย”

สรุป สื่อที่ปกติคุมได้สนิท ตอนนี้ หลุดหมด คุมอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้มีช่องเดียวที่รัฐบาลคุมได้คือ คือช่อง “หอย” เท่านั้น

โดยร่วมๆ รัฐบาล ค่อนข้างจะ Cluster _ucked มืดแปดด้าน

The Next Move : กปปส.

ทีนี้มาลองดู กปปส. บ้างว่าเป็นอย่างไร?

ความจริง ที่เราต้องมอง กปปส. คือเราต้องดู Demographics ของเราก่อน หากมอง กปปส. เหมือนองค์กร องค์กรหนึ่งก็ต้องมองว่าองค์กรนี้ประกอบด้วยบุคคลที่มี ลักษณะอย่างไร เอาง่ายๆ มาลอง SWOT กับสถานการณ์ นี้ดูก็ได้

ผมชอบบอกลูกศิษย์เสมอ ว่าเวลาเราจะทำ SWOT นั้น เราต้องทำให้ตัวแปรเชิงสถานการณ์หนิ่งก่อน

สถานการณ์ตอนนี้ คือการไล่รัฐบาลให้หมดจากอำนาจ นี่คือเป้าหมายหลักของเรา

แล้วเราก็มา SWOT กัน ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557

Strength – ความแข็งแกร่ง
กปปส. ของเราคือคนทำงานคนชั้นกลาง สิ่งที่เราแข็งแกร่งแน่ๆ มีดังต่อไปนี้

- เงิน ถ้ากำนันสุเทพบอกเดี๋ยวนี้ว่าจะเอาเท่าไหร่ บัญชีไหน บอกเดี๋ยวกดมือถือโอนให้ได้ ทั้งนั้น ทั่วประเทศ เงินหลักพันหรือหลักหมื่นของผู้ชุมนุมหลายๆ คนคือเรื่องเล็กๆ หากรวมทรัพย์สินของ สมาชิก กปปส. เข้าด้วยกัน บอกได้เลยว่า มากกว่าระบอบทักษิณอย่างแน่นอน เงินมีคนละเป็นล้าน มีกันสักล้านคน ลองนับดูเองว่าเท่าไหร่ แล้วจริงๆ มีกันกี่ล้าน

- ข้อมูลข่าวสาร เรามีนักวิชาการเพียบแล้วเรามีสายอยู่ในกระทรวงต่างๆของรัฐบาลเพียบ รัฐบาลทำอะไรเรารู้ก่อนเสมอ เพราะข้าราชการที่ส่งข่าวให้เรามีตลอด แล้วเรายังมีข้อมูลเรื่องการโกง เรื่องเศรษฐกิจต่างๆ มากมาย ที่พร้อมบริการ

- เทคโนโลยี  ตั้งแต่เวที การใช้เครื่องมือสื่อสาร ระบบ IT ต่างๆ เรามีพร้อมที่จะสนับสนุนการเคลื่อนไหว

- การสื่อสาร  เรามีคนที่จะสร้างสารได้ทั้งไทย ทั้งอังกฤษ พร้อมที่จะคุยกับคนทั่วโลก ส่งข้อความไปในระบบถ่ายทอดต่างๆ
Weakness

- กำลังคนในถนน – เราทุกคนส่วนใหญ่เป็นคนทำงาน กินเงินเดือน นั่งห้องแอร์ ถ้าร้อนๆ ไม่กล้านั่ง เหนื่อยง่าย

- เวลา – พอต้องทำงาน มักก็ไปได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ไม่ได้อยู่ตลอดเวลาทำให้มีปัญหา

Opportunity
โอกาสกำลังมาทางเรา เพราะรัฐบาลกำลังอ่อนแอถึงที่สุด

Threat
ตัวเราเองประท้วงแบบปิดถนน สงบ สันติ อหิงสา ไม่ได้ผลแน่นอน เราลองมาสามเดือนแล้ว คนออกมาอีก 10 ล้านก็ไม่ไปแน่ แล้วเราก็ไม่รู้จะยกระดับไปอย่างไรด้วยตัวเอง

Solution : กปปส. Sponsor ชาวนา

โดยสรุปหากเราดู SWOT ของ กปปส. เราก็คือฝ่าย บุ๋นนั่นเอง เราบู๊ไม่เป็นหรอก

ถึงแม้เราจะมีชาวบ้านมาอยู่กับเราแต่ลองดูจำนวน ก็ร่อยหรอลง และส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ตาม Weakness ที่เห็น หากเป็นอย่างนี้ต่อไป เราจะกร่อยแล้วแกนนำเราจะเป็นอันตราย

เราอย่าไปนับทหารว่าเป็นบู๊เพราะเขาต้องคุมเชิง ขืนเขามาบู๊กับเรา ก็จะมีปัญหาภาพการปฎิวัติอีกทหารต้องเคลื่อนที่อย่างระมัดระวังมาก

และต้องพูดตรงๆ คือทหารก็ต้องคุมความประพฤติของการ์ดเราด้วย เราเองก็ไม่ได้มีระบบการจัดกำลังคนแบบที่ดีเป็นระเบียบมากเท่าใดนัก ความผิดพลาดทำร้ายคนไปก็มี

ข่าวดีคือ ชาวนา ฝ่ายบู๊ นั้นขาดสิ่งที่เรามี และเรามีในสิ่งที่ชาวนาขาด จะเป็นการรวมกำลังที่ “สุดยอด” แต่เราต้องมีแผน

1.  ความสัมพันธ์ – เราเป็นกองหลัง ชาวนาเป็นกองหน้าและผู้นำ - กำนันสุเทพพูดชัดเจน ว่า เราต้องไม่แทรกแซง เราต้องไม่นำเขา เราอยู่ในฐานะ Sponsor ให้ชาวนาตัดสินใจ เราตัดสินใจตามที่ชาวนาต้องการ ชาวนาลุย เรา Back ชาวนาถอย เราช่วย

2.  เราสนับสนุน ปัจจัย 4 - ให้ชาวนาอยู่ได้ พร้อมกับค่าเดินทางให้มากรุงเทพ ใครอยากมา ออกค่าน้ำมันให้เลย ไปพามาเลย

3.  เราสนับสนุนการให้ข้อมูลข่าวสาร - พอชาวนามานั่งทวงข้าวหน้าเวทีเราเราก็เริ่ม Lecture ให้ชาวนาฟัง เพิ่มความรู้ให้ชาวนา อย่าลืม กรุณาใช้ภาษาง่ายๆ อย่าเป็นเรื่องวิชาการเวอร์ๆ มากนัก

4.  เราสนับสนุนด้านกฎหมาย – หากจะฟ้องจะฟ้องอย่างไร ฟ้องที่ใคร ประชาธิปปัตย์ ทำได้อยู่แล้ว

5.  เราสนับสนุนให้โอกาสชาวนาได้มีเสียง - ให้ชาวนามาพูดบ้าง ออกเวที เราเองที่เป็นคนเมืองกินข้าว ไม่เคยรู้จักวิถีชีวิตของชาวนามาก่อนเลย
ผลลัพธ์ ที่น่าจะเกิด

-   ยิ่งบรรยากาศดี มีอาหารกิน อยู่ได้เรื่อยๆ  ชาวนาจะยิ่งมา จำนวนจะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็จะมาพร้อมกับการจัดการที่ต้องเป็นระบบเช่นกัน เพราะเคยมีความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว การ์ด กปปส. เองก็ทำร้ายคนไป ผิดตัวมีพอควร

-   ความสัมพันธ์ อันดีระหว่างเรา กับชาวนา จะมีมากขึ้น กปปส. เป็นการเรียนรู้ระหว่างกัน รัฐบาลที่บอกตัวเองมาตลอดว่าเป็นตัวแทนคนชั้นล่าง จะถุกล้อมโดยคนชั้นบน ระดับปัญญาชน และคนชั้นล่างคือชาวนาให้ขยับไม่ได้

-   พละกำลังของ กปปส. จะมีทิศทางที่ชัดเจน มีความชอบธรรม มากขึ้น เพราะเราสู้เพื่อคนจน

-   ในขณะเดียวกันก็ต้องตรวจสอบการกู้เงินของรัฐบาล ว่าจะมีผิดกฎหมายหรือไม่ ปิดให้หมด

-   ระหว่างนั้นต้องสัญญากับชาวนา และมีแผนที่ชัดเจนว่าจะได้เงินคืนอย่างไร หากรัฐบาลไปแล้ว แผนนี่ต้องชัดเจน จับต้องได้โดยเฉพาะเรื่องจำนวน และเวลา เพราะหากทำไม่ได้ ชาวนาจะ “ฆ่าเรา” แทน

ถึงตรงนี้ แกนนำกปปส. ที่จะระดมทุนต้องคิด แผนการเหล่านี้ให้รอบคอบ เพราะเวลาแห่งการยกระดับการชุมนุมจริงๆ มาถึงแล้ว และขุนพลตัวจริง พร้อมขวานตัดหัวระบอบทักษิณ อยู่ใกล้แค่เอื้อม

โดยส่วนตัว หากมองในเรื่องของเวลา ต้องให้สถานการณ์สุกงอมมากกว่านี้สักเล้กน้อย อาจจะเป็นสงกรานต์

หากเราไม่ไปช่วย Organize ให้ชาวนา ชาวนาอาจจะดำเนินการเองแบบสะเปะสะปะ และอาจไม่สงบ ถึงขนาดมีการจลาจลเผาเมือง แล้วรัฐบาลก็จะใช้กำลังเข้าปราบอาจจะต้องเสียเลือดเนื้อ และถึงตอนนั้นถึงทหารออกมาก็ไม่คุ้ม

แต่หากเรามีการ Organize ให้ชาวนา จัดชุมนุมอย่างเป็นระบบ ชาวนาจะเป็นกำลังสำคัญมากในการล้มรัฐบาล โดยไม่ต้องมีใครเจ็บใครตายอีก

พร้อมๆ กับบรรยากาศดี ดนตรีไพเราะ และอาหารอร่อย

Enemy of my Enemy is my friend

อย่างน้อยก็จนกว่าเป้าหมายของการโค่นระบอบทักษิณจะจบสิ้นลง






MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY