GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เปิดโปง..เผยจุดตายรัฐอั้งยี่แดงฆ่าชาวนา สู่กลศึกม้าไม้เมืองทรอย - โครงการรับจำนำขาดทุนเท่าใด?


















จากการที่ระบอบชั่วอั้งยี่รัฐแดง อ้างว่าการชนะเลือกตั้ง (ขี้โกง) คือ ใบอนุญาตสัมปทานประเทศ จะโกงอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา หนึ่งในการโครตโกงนั้นที่สร้างความเจ็บปวดรวดร้าว อดอยาก ทุกข์เข็ญ ให้ชาวนา 8 ล้านคนอย่างถ้วนหน้า เนื่องจากถูกรัฐอั้งยี่แดงของปูเน่าชักดาบโกงเงินค่าจำนำข้าว ชาวนาอดอยากจนไม่มีอะไรจะกิน ลูกไม่มีเงินไปโรงเรียน หนี้สินท่วมหัว และทยอยฆ่าตัวตายทั้งผูกคอตาย และกินยาฆ่าตัวตัวตาย ไปแล้วกว่า 9 คน ในขณะที่ชาวนากำลังอดอยากตายไม่มีอะไรจะกิน ปูเน่าและสมุนแก๊งค์อั้งยี่ กลับถลุงเงินภาษีจากหยาดเหงื่อและน้ำตาชาวนาเป็นค่าอาหาร กินล้างกินผลาญ โดย 1. ค่าเบี้ยเลี้ยงชายชุดดำ 700 บาทต่อคน (แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 400 บาท จะเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงโดยตรง และ 300 บาท จะถูกหักเป็นค่าอาหาร 3 มื้อ ที่มีแต่ไข่ต้มกับน้ำปลา ) ถ้านับตั้งแต่ 9 ตุลาคม 2556 เป็นต้นมาน่าจะไม่ต่ำกว่าราว 1,000 ล้านบาท (ยังไม่นับราวค่าน้ำมัน และจัดซื้ออาวุธมาทำร้ายประชาชนอีกนับไม่ถ้วน) หรือคิดเป็นราคาข้าวชาวนา 66,667 ตัน !! 2. ค่าอาหารที่จัดเลี้ยงภายในศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ใช้ประมาณวันละไม่ต่ำกว่า 1-2 แสนบาท , บางวันมีราคาสูงเกือบ 5 แสนบาท ตามเมนูอาหาร ที่เป็นที่ต้องการของบวกคางคกขึ้นวอในรัฐอั้งยี่แดง โดยอาหารถูกสั่งตรงมาจาก "โรงแรมหรู" ระดับห้าดาว เพื่อจัดเลี้ยงให้กับ รก.ครม.เทียม และคณะทำงานงานของศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ทั้งหมด 3. ที่ผ่านมากองพิธีการ สำนักเลขาธิการนายกเทียม เคยตั้งงบรับรอง ค่าอาหารของปูเน่า ที่ปรึกษา และคณะทำงานราวๆ 50 คน สวาปามคิดเป็นราคา 4,237 บาท/หัว , วันละ 211,850 บาท ( เท่ากับข้าว 14 ตัน) , เดือนละ 6 ล้านบาท , ปีละ 77 ล้านบาท หรือคิดเป็นราคาข้าวชาวนา 5,133 ตัน..คนหรือเปรตยัดห่านี รายการอาหารหรูของปูเน่าและคณะนี้จะ "สลับสับเปลี่ยน" ทุกวัน...เมนูอาหาร นั้นประกอบไปด้วย "มื้อเช้า" เป็น"อาหารหรู" เช่น - กุ้งห่มสไบ - ต้มยำกุ้งมังกร - ปลาหิมะทอดกับซอสพริกไทยสด - หน่อไม้ฝรั่งผัดหอยเชลล์ - ผัดกะเพราเป็ดกรอบ - ตบท้ายด้วยของหวานและผลไม้ หรือ ข้าวเหนียวมะม่วง ส่วน "มื้อกลางวัน" ในยามปกติระบุว่า(อาจจะ)ไว้ต้อนรับแขกจึงออกสไตล์ "กึ่งยุโรป" เช่น - ปูนิ่มเสิร์ฟกับสลัดเบอร์รี - หอยเชลล์ห่อปลาแซลมอนเสิร์ฟกับไข่ปลาคาร์เวีย - ซุปใสใส่เกี้ยวตับบด - เนื้อสันในเสริฟกับตับห่านและซอสไวน์แดง - ตบท้ายของหวานมื้อกลางวันคือ ช็อกโกแลตมูสไส้เสาวรส เสิร์ฟกับไอศกรีมกะทิ, กาแฟหรือชา เป็นต้น ซึ่งค่าอาหารของปูเน่า ที่ปรึกษา และคณะทำงาน หรือ ศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) จากโรงแรมหรู ระดับห้าดาว ปีละ 77 ล้านบาท นี้ สามารถนำมาเลี้ยงอาหารชาวนาที่อดอยากตายมื้อละ 40 บาท x 3 มื้อ จำนวน 3,400 คน ได้ถึง 6 เดือน!!..แม่เจ้า แต่แกนนำพรรคแดงสู้แล้วรวย เช่น นกแสก กลับบอกถีบหัวส่งชาวนา บอกว่าเป็นจุดอ่อนของพรรคเผาไทย และบอกว่าถ้าชาวนารอเงินจำนำข้าวไม่ไหว ให้กินใบประทวนแทนไปก่อน สายจากคนใน รายงานมาว่าข้าวที่รัฐอั้งยี่แดงรับจำนำมานั้น เกือบทั้งหมดยังไม่มีการระบายหรือขายไปยังต่างประเทศเลย เงินหลายเเสนล้านบาทจึงทำให้ไม่มีเงินจ่ายชาวนา กระแสแรงในกลุ่มชาวนาบ่นกันรุนแรงว่ารัฐอั้งยี่แดงทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ยอมขายข้าว เเละเสียความรู้สึกกับบริษัทเผาไทยมาก ส่วนใหญ่บอกลาขาดจะไม่เลือกอีกเเล้ว เพราะหลอกลวง ผิดคำพูดนับครั้งไม่ถ้วนในการนัดชำระจ่ายเงินจำนำข้าวที่ค้างจ่ายมากถึง 1.3 เเสนล้านบาท ทางแกนนำแก๊งอั้งยี่แดงได้ไปพบและรายงานสถานการณ์ต่างๆ ให้ชายดูไบรู้ที่พม่า ส่งผลให้ตอนนี้ชายดูไบกังวลใจที่สุด เพราะชาวนาคือฐานเสียงสำคัญของบริษัทเผาไทย ซึ่งแก๊งค์นี้ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นชาวนาทั่วประเทศเดินทางเข้ามาจนถึงกรุงเทพฯ เพื่อชุมนุมเรียกร้องให้จ่ายเงินที่โดนชักดาบไป และยังจะโดนชาวนารุมฟ้องร้องฐานฉ้อโกงอีกหลายพัน-หมื่นคดี “ ความหวาดหวั่นนี่คือฐานเสียงที่หายไปจำนวนมาก และมีผลโดยตรงกับพรรค ชายดูไบจึงเครียดจัดสั่งการให้เร่งหาเงินที่ไหนก็ได้มาจ่ายเร็วที่สุด และใช้ทุกกลยุทธ์ชั่วในการหาเงิน “..แต่ไม่ยอมควักกระเป๋าตัวเองสักบาท ซึ่งในรายงานของต่างประเทศคาดการณ์ว่า 2 ปีที่ผ่านมา พรรคเผาไทยได้ผันเงินจากหยาดเหงื่อและน้ำตาชาวนา ไปเป็นของตนเองรวยขึ้นกว่า 3.5 แสนล้านบาท ชายดูไบจึงหวังลม ๆ แล้ง ๆ หน้ามืดว่า ให้แก๊งค์อันธพาลแดง ใช้กองกำลังติดอาวุธโจมตีหรือลอบสังหารแกนนำมวลชน กปปส. ซึ่งตอนนี้พวกแก๊งค์นรกอเวจีชั่วนี้ก็ต่างหัวหด หวั่นไหวกับการถูกสันติอหิงสวน และปีอบคอร์นที่หนักกว่าจากชายไร้สีนิรนาม อีกแผนคือใช้ศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) จับกุมแกนนำ กปปส. ข่มขู่คุกคามให้ประชาชนยุติการชุมนุม เพื่อที่บริษัทเผาไทยของตนจะสามารถตั้งรัฐบาลได้ในที่สุด.. ซึ่งเป็นไปไม่ได้เช่นกันเพราะหากใช้ชายชุดดำควบคุมฝูงชน (คฝ) เข้าสลายการชุมนุม ก็จะโดนชาย 3 สีที่ออกอาการฮึ่มๆ ไว้โอบล้อมตีจากด้านหลัง โดยประกาศกฎอัยการศึกครอบพื้นที่เอาดื้อๆ ครั้นจะใช้หน่วยปฏิบัติการพิเศษลอบจับกุมแกนนำในที่ชุมนุม ก็จะโดนชายไร้สีนิรนาม สวนกลับที่หนักกว่า ต่อสู้ป้องกันกันแกนนำในอารักขาจนชายชุดดำขึ้นไปเยี่ยมญาติเก่าเป็นเบือแน่ ๆ ซึ่งข้อนี้เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าชายไร้สีนิรนามเป็นใคร ในที่สุดปูเน่าและพวกจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ต้องคำพิพากษาอย่างเด็ดขาด และถูกจับกุมคุมขังแน่นอน ชายดูไบรู้ข้อนี้ดี จึงส่งสัญญาณผ่านคนใกล้ชิดมาว่า อยากให้ประเทศกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว การเลือกตั้งต้องเดินหน้าไปให้จบ และเผยไต๋พ่ายแพ้แล้วว่า “ ปัญหาทุกอย่างต้องจบลงบนโต๊ะเจรจา แม้แต่สงครามโลกยังจบลงที่โต๊ะเจรจา “ ตำราพิชัยยุทธ์นั้นบอกว่า “ เมื่อใจหวั่นไหวจึงต้องชักกระบี่ก่อน จุดอ่อนจึงถูกเปิดเผย เพราะจุดอ่อนถูกเปิดเผย จึงเปิดช่องให้ถูกจู่โจม “ ส่งผลให้ชาย 3 สีเห็นจุดอ่อนรูเบ่อเร่อ จึงกำหนดยุทธการม้าไม้เมืองทรอย (ซุ่มกำลังไว้ในของบรรณาการม้าไม้ตัวใหญ่นำคนและอาวุธเข้าเมือง ตีชิงจากใจกลางยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ) โดยให้กำลังพลดูแลประชาชนให้ปลอดภัยใช้ ม.พัน1 รอ.ดูแลพื้นที่ปทุมวัน คลองเตย วัฒนา , ร.1พัน 3 รอ. ดูแลพื้นที่ ราชเทวี พญาไท , ป.พัน1 รอ. ดูแลพื้นที่ของดุสิต พระนคร , ร.11พัน2 รอ. ดูแลพื้นที่ของหลักสี่ ดอนเมือง , นี่ยังไม่นับการทะยอยนำกำลังเข้ามาทีน้อย ๆ และอาวุธหนักที่ยังไม่ขนกลับต่างจังหวัดอีกเพียบ !! เมื่อสถานการณ์ได้เปรียบแล้ว บ่าย 12 ก.พ. บิ๊กชายชุดเขียวจึงตั้งคำถามแบบเสียวสันหลังกับ ผบ.ชายชุดดำที่เข้าพบว่า...ทำไมคดียิงขวัญควาย ทำงานรวดเร็ว ทั้งๆ ที่คดีอื่นๆ ที่มีการทำร้ายประชาชน หลักฐานชัดเจน แต่กลับไม่มีความคืบหน้า !!!..นักรบย่อมได้กลิ่นสัญญาณลมหายใจออกแรง ที่พัดออกจากจมูกนักรบด้วยกันดี บิ๊ก 3 สีย่อมฝังแค้นที่ปูเน่ากับสมุนเคยแอบดอดไปหารือ กกต. 2 คน ว่าจะขออนุมัติย้ายชาย 3 สีใหญ่ๆ สัก 3-4 คน แต่ กกต.ไม่ยอมและข่าวรั่ว ทำให้ลมออกหูถึงขั้นบิ๊กสีเขียวชี้หน้าด่าปูเน่าในห้องประชุม จนปูเน่าน้ำตาคลอ และเขารู้ว่าหากปูเน่าและบริษัทเผาไทย ได้กลับมาเป็นรัฐบาลเทียมอีกครั้ง พวกเขาก็จะอำนาจต่อรองลดลง และอาจถูกปลดย้ายได้ ดังนั้นเมื่อจุดอ่อนศรัตรูถูกเปิดเผย ไฉนเลยชาย 3 สีจะไม่จู่โจม ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประชุม ครม.ที่สถานที่ของชาย 3 สี จึงได้มีการส่งสัญญาณพูดชัดเจนกับปูเน่าว่าให้ลาออก เพื่อเปิดทางให้มีการแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราว เพื่อการปฏิรูปประเทศ เพราะชาย 3 สีประคองและอดทนต่อไปไม่ไหว ความชอบธรรมหมดสิ้นไปแล้ว โดยฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ปูเน่าต้องไปจากอำนาจ คือ 1. ทุกข์ของชาวนาที่ถูกโกงจำนำข้าว ทำให้ชาวนาฆ่าตัวตายแทบทุกวัน โดยรัฐอั้งยี่แดงกู้ยืมเงิน 1.3 แสนล้านมาคืนหนี้ให้ชาวนาไม่ได้ 2. ข้าวที่รับจำนำมาที่อยู่ในโกดัง 15-18 ล้านตัน มีสต๊อคลม ไม่เหลืออยู่ครบจำนวนจริง หรือมีคุณภาพแย่ จึงเกิดการเผาข้าวในโกดังข้าวขึ้น ข้าวสารติดไฟยาก แต่ข้าวเปลือกติดไฟง่าย แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือการฉีดน้ำไปมากๆๆ ข้าวจะได้เน่า เสียเป็นจำนวนมาก ไม่สามารถขายได้ นี่คือกลโกงที่แท้จริง กว่าจะระบายข้าวออกมาทันเพื่อใช้หนี้ชาวนา ความมั่นคงของประเทศสั่นคลอนหนัก เพราะทุกข์ของชาวนา คือทุกข์ของแผ่นดินของพ่อ 3. ฟางอีกเส้นคือ การที่ชายดูไบเรียกประชุมสมุนโจรที่ไว้ใจที่พม่า เพื่อวางยุทธศาสตร์ในการต่อรอง วางกำลังโจรที่จะป่วนประชาชน และวางคนที่จะรับตำแหน่งสำคัญต่อไป เพื่อรักษาอำนาจ เพราะมันชี้ให้เห็นถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังรัฐอั้งยี่แดงอย่างจริง เป็นหลักฐานกระทบความมั่นคงของประเทศ ทำให้ชาย 3 สีอยู่เฉยๆ ต่อไม่ได้แล้ว จึงพร้อมใจออกมายื่นคำขาดให้ปูเน่าลาออก เพราะหมดความชอบธรรมทุกประการแล้ว โดยให้เวลาปูเน่าไม่เกิน 21 ก.พ. มิฉะนั้นจะไม่รับรองว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะขณะนี้กำลังพลหลักๆ เข้ามาดูแลพระนครหมดแล้ว..ใครขืนถือหางรัฐอั้งยี่แดงตอนนี้ทั้ง ผบ.ชายชุดดำ , ริดสีดวง ฯลฯ เตรียมม้วนเสื่อรอดูหนังฉายรอได้เลย เสธ ได้ข่าวว่าแก๊งค์แดงสู้แล้วรวย จะแสร้งทำทีนัดกันทำบุญในวันที่ 14 ก.พ.นี้ ที่จุดก่อสร้างหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ใกล้โบนันซ่า เขาใหญ่ โคราช เพื่อซักซ้อมกันใช้กองกำลังติดอาวุธที่เหลือเพียงน้อยนิดกรำศึกใหญ่กับชาย 3 สี... ซึ่งงานนี้วิเคราะห์ว่าคงมีชายไร้สีนิรนามถือถุงข้าวโพดไปเยี่ยมแกนนำเหมือนขวัญควาย โกตี๋ แน่ๆ เพราะเขารอจังหวะออกมาจากห้างแถวลาดพร้าวมานานแล้ว เพื่อมอบความเป็นธรรมครบมือหูดับไหม้ให้...แก้กรรมมันแก้ยาก..แก้สันดานชั่วมันง่ายกว่า รูปูถูกอุดจนหมดแล้วทุกทาง..ขาปูถูกหักจนเดินไม่ได้แล้ว..โอกาสแบบนี้เขาให้ลงดีๆ ขืนยังไม่ลง..ก็จะต้องเจอรองเท้าบู๊ทถีบตกหน้าหงายตกจากเก้าอี้    @เสธ น้ำเงิน

MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY