ที่ทำเนียบโจร เวลา 09.50 น. ภารกิจของมวลมหาประชาชน คือการเทปูนแห้งเร็วปิดประตู 1 ประตู 2 และประตู 5 ทำเนียบฯ สกัด เฉลิม ผอ.ศรส.พารักษาการนายกฯ เข้าทำงาน
16ก.พ.2557 นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงานเครือข่ายนักศึ
การแตกหักสูญเสียจะเกิดขึ้น
ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำ คปท. กล่าวว่า ที่ ร.ต.อ.เฉลิม บอกว่า ถ้ามีการขัดขวางในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ คงต้องรบกันนั้น ขอท้า ร.ต.อ.เฉลิม ให้มารบกับตนที่ประตูทำเนีย
ถ้า ร.ต.อ.เฉลิม เข้าทำเนียบได้ ให้นำนายกรัฐมนตรีเข้ามา พร้อมกันนี้ขอให้เจ้าหน้าที
“สุเทพ” ประกาศนำมวลชนล้อมทำเนียบฯ นัดเจอ “เฉลิม” พรุ่งนี้ ท้า “ทักษิณ” บินกลับไทยมาบัญชาการมาสู้ด้วยตัวเอง ลั่นพร้อมมอบเงิน 25 ล้านให้สภาทนายความช่วยชาวนาฟ้องรัฐ ช่วยเหลือครอบครัวชาวนา 11 ครอบครัวสังเวยชีวิตเซ่นโครงการรับจำนำข้าว แฉรัฐเตรียมจ่ายเงินชาวนาบางส่วนแบ่งแยกชาวนานำพลังหนุนรัฐบาล
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 16 ก.พ. ที่เวที กปปส.ปทุมวัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า วันนี้ยอดเงินทั้งหมดที่กปปส.รวบรวมได้ทั้งจากการเดินขบวนและการบริจาค จำนวน 26.2 ล้านบาท
ทางคณะกรรมการ กปปส.จึงได้หารือร่วมกับนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เพราะมั่นใจว่านายกสภาทนายความคนนี้มีความรู้และเข้าใจปัญหาของชาวนาเป็นอย่างดี โดยขณะนี้ได้ดำเนินการรวบรวมรายชื่อชาวนาที่ถูกรัฐบาลโกงได้แล้วประมาณ 8,000 ราย
ซึ่งดำเนินการฟ้องร้องแล้ว 200 กว่าราย และจากที่ประชุมวันนี้กับนายเดชอุดม ได้ตกลงกันว่าจะนำเงินที่ได้รับมอบจำนวน 25 ล้านบาทส่งมอบให้กับสภาทนายความ ในวันที่ 18 ก.พ. ที่เวทีปทุมวัน เพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นค่าดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรีและพวกกรณีโครงการรับจำนำข้าว
ส่วนสภาทนายความจังหวัดแต่ละจังหวัดจะว่าความให้ฟรี แต่คงต้องจ่ายค่าทำเนียบให้ศาล ซึ่งวิธีฟ้องคือจะรวบรวม เช่น มีชาวนากลุ่มหนึ่งนำหลักฐานมาและในสัญญานั้นรัฐบาลต้องจ่ายเงินตั้งแต่ 1 ต.ค.ก็จะนำพวกที่สัญญาว่าจะจ่ายให้ในวันดังกล่าวมารวม ได้เท่าไหร่ก็จะนำมาฟ้องเป็น 1 คดี โดยแต่ละคดีไม่เกิน 2 แสนบาท
สำหรับเงินที่เหลือจำนวน 1.2 ล้านบาท กปปส.ตั้งใจว่าจะรวบรวมต่อไปให้ได้ 2.2 ล้านบาท เพื่อมอบให้ครอบครัวชาวนา 11 ครอบครัวที่ฆ่าตัวตาย เพราะทนทุกข์ทรมานต่อไปไม่ไหว โดยให้ครอบครัวละ 2 แสนบาท
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้รัฐบาลกำลังใช้เล่ห์กลแบ่งแยกชาวนาที่เดือดร้อน โดยหาเงิน 3 หมื่นล้านบาทจ่ายให้ชาวนาบางพวก เพื่อแยกชาวนาบางส่วนออกจากชาวนาส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เงิน เพื่อนำพลังมาสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล จึงขอให้ประชาชนชาวไทยติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
รัฐบาลเป็นหนี้ชาวนาจำนวน 1.3 หมื่นล้านบาท เงินที่รัฐบาลโกงชาวนา เรากำลังช่วยชาวนาต่อสู้ หากชาวนาออกมาชุมนุมท้วงหนี้จากนายกรัฐมนตรีทาง กปปส.จะให้การช่วยเหลือโดยเฉพาะที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมที่มีกองกำลังเพื่อป้องกันนายกรัฐมนตรี โดยกำลังของ กปปส.จะติดตามไปคุ้มครองชาวนา เพราะจะไม่ยินยอมให้ชาวนาถูกข่มขู่ทำร้ายอีก
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า สองวันนี้เกิดเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจที่สุด คือ การที่คนร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่ศาลอาญา แม้ผู้ก่อเหตุอาจจะไม่พอใจคำพิจารณาคดีของศาล แต่เป็นกรณีที่คนไทยต้องคิด เพราะที่ผ่านมา 132 ปีที่มีการก่อตั้งศาลไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่มาเจอเหตุการณ์แบบในนี้ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ บริหารประเทศ
และจนวันนี้ไม่มีเคล้าว่าจะสืบหาคนร้ายได้ อีกทั้งการยิงบ้านของนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นประเทศไทย ซึ่งนายประมนต์ เป็นคนดีที่คนไทยสมควรให้การยกย่อง เนื่องจากอยู่ในภาคเอกชนและแสดงคนออกมาต่อต้านการทุดจริตคอรัปชั่นอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา เพราะกลัวว่าการกระบวนการต่อต้านทุจริตจะขยายตัวมากขึ้น จึงได้ไปยิงบ้านนายประมนต์
ทั้งสองกรณีทำพร้อมกันในคืนวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ผอ.ศรส.) ประกาศจะยึดทำเนียบรัฐบาล จึงไม่สามารถสงสัยคนอื่นได้ นอกจากเป็นบริวารของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นลูกน้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม การที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ใช้อำนาจแบบเผด็จการ แต่ไม่คุ้มครองป้องกันคนดีและประชาชน กลับไปคุ้มกันคนชั่ว ปล่อยให้บริวารออกมาอาละวาดข่มขู่คนดี ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมของแก๊งโจร
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการทำพิธีกรรมที่พม่าว่า ขอท้าว่าถ้าแน่จริงให้ ร.ต.อ.เฉลิม จูงมือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าทำเนียบรัฐบาลให้ได้จากที่มีการวางแผนไว้ ทั้งนี้ในวันที่ 17 ก.พ. เวลา 07.30 น. ตนจะนำมวลมหาประชาชนไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถเข้าไปทำงานได้
ดังนั้นขอนัด ร.ต.อ.เฉลิม เจอกันที่ทำเนียบรัฐบาล หรือนายกฯ จะเข้าทำเนียบวันไหนทาง กปปส.จะตามไปทุกวัน อย่างไรก็ตามขอประกาศว่าจะไม่มีการยุบเวทีชุมนุมทุกเวที และจะใช้เวทีปทุมวันเป็นฐานที่มั่น หากรัฐบาลต้องการทวงคืนสถานที่ใด กปปส.จะยกมวลชนไปเจอกับนายกรัฐมนตรีและร.ต.อ.เฉลิม ที่นั้นทันที
“เรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปประเทศพม่าทำไสยศาสตร์มนต์ดำนั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ใช้ไม่ได้ผลกับพวกเราที่มีพุทธคุณ แต่ได้ข่าวว่าขนาดไปทำพิธีก็ยังคิดหากินไม่เลิก เพราะมีการเจรจาโครงการลงทุนที่ท่าเรือน้ำลึกทวาย โดยสนับสนุนให้เอกชนรายหนึ่งอย่างเปิดหน้า
และเอกชนรายนั้นรวบรวมเงินทุนทั้งโครงการได้ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงให้สั่งให้รัฐบาลไปรับรองกับพม่าว่าหากเอกชนหาเงินไม่พอรัฐบาลไทยก็จะรับรองเงินทุนเหล่านี้
พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไปพม่าบ่อยครั้ง เมื่อไปแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็มักจะมีกำหนดการไปเยือนทันทีนัยว่าเพื่อเป็นการเอาชื่อประเทศไทยไปหากิน
ขอเดาว่าโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกที่ทวาย ไม่มีเงินเดินหน้าแล้ว เพราะพม่าฟังข่าวประเทศไทยว่าระบอบทักษิณจะอยู่ไม่ได้แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องยกคณะไปเจรจา
ดังนั้นจึงขอให้เงินทุนที่ขนไปลงทุนที่พม่าเจ๊งหมด และขอท้าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ามาบัญชาการในประเทศไทย เพราะผมจะนำมวลไปตั้งแถวรับอย่างสมเกียรติ ขอให้มาสู้ด้วยตัวเอง” นายสุเทพ กล่าวท้าทาย.