GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557

สรุปเหตุการณ์จาก อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา



ยินดี วัชรพงศ์ ต่อสุวรรณ
อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
1 มี.ค. 57

จากสถานการณ์บ้านเมืองที่มีความวุ่นวายตั้งแต่ก่อนยุบสภาเพราะมีการชุมนุมของประชาชนจนกลายมาเป็นมวลมหาประชาชน ก็มีเหตุอันเนื่องมาจากการกระทำของรัฐบาลที่ได้กระทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายนิรโทษกรรม ออกกฎหมายกู้ยืมเงินจำนวนสองล้านล้านบาท ซึ่งผูกพันเป็นภาระหนี้เป็นเวลานานเกินสมควร รวมทั้งนโยบายรับจำนำข้าวซึ่งเป็นโครงการที่รับประกันการขาดทุนตลอดกาล และเป็นโครงการที่เอื้อให้มีการทุจริตคอรัปชั่นได้ทุกขั้นตอนของการรับจำนำข้าว และ ฯลฯ การกระทำดังกล่าวก็โดยอาศัยเสียงข้างมากในรัฐสภาโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นและความต้องการที่แท้จริงของประชาชนโดยรวม ตลอดจนไม่รับผิดชอบต่อเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นผู้ที่จะมีสิทธิและมีส่วนได้เสียในอนาคตของประเทศ จนศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยในกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของสมาชิกวุฒิสภาว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งหมด ( ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาล) เป็นการกระทำเพื่อได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคหนึ่ง ( คำวินิจฉัยที่ 15-18/2556 )

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นรัฐบาลประกาศไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มวลมหาประชาชนได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกเพื่อปฏิรูปประเทศเพื่อให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์และยุติธรรม เพราะอดีตที่ผ่านมาการปกครองประเทศไม่ใช่เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขโดยสมบูรณ์ มีการทุจริตในการเลือกตั้ง มีการใช้อำนาจโดยไม่ชอบและไม่เป็นธรรมและ ฯลฯ

นายกรัฐมนตรีไม่ลาออกแต่ได้ยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ การยุบสภามีผลกับประชาชนโดยนัยสำคัญทางรัฐธรรมนูญคือ อำนาจอธิปไตยกลับคืนมาเป็นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 3 โดยสมบูรณ์และไม่มีเงื่อนไข

การยุบสภามีผลต่อรัฐบาลทางรัฐธรรมนูญคือ “ คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” การดำรงอยู่ในตำแหน่งของคณะรัฐมนตรีจึงไม่ได้ทำหน้าที่โดยเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย แต่ทำหน้าที่โดยอาศัยสิทธิและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ในฐานะ “ คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ” ซึ่งอาจเรียกได้ว่า “ คณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาล ”

เมื่อมวลมหาประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย และมีอำนาจอธิปไตยโดยสมบูรณ์เพราะมีการยุบสภาแล้ว ได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง แต่คณะรัฐมนตรีรักษาการต้องการให้มีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ จึงเกิดข้อขัดแย้งระหว่างมวลมหาประชาชนกับคณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาล กรณีจึงเป็นความขัดแย้งระหว่างเจ้าของอำนาจอธิปไตย กับคณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาล ข้อขัดแย้งดังกล่าวได้นำมาซึ่งการรวมตัวชุมนุมคนเสื้อแดงหรือ นปช. ใช้ชื่อการชุมนุมว่า “ นปช. ลั่นกลองรบ ” ในการชุมนุมได้มีคณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาลได้เข้าร่วมประชุมด้วยอย่างน้อย 2 คนคือ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จากเจตนาในการชุมนุมได้แสดงต่อสาธารณะโดยชัดแจ้งว่า ต้องการจะแบ่งแยกดินแดนภาคเหนือและอีสานออกจากราชอาณาจักรไทย ประกาศวางแผนการต่อสู้ทำสงครามกลางเมืองกับมวลมหาประชาชนที่ชุมนุมในกรุงเทพมหานคร แผนการการกระทำดังกล่าวที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนนั้นเป็นการประกาศทำการรบและเตรียมความพร้อมที่จะทำการรบเพื่อแบ่งแยกประเทศและกระทำการอันเป็นการก่อการร้าย โดยไม่ปรากฏว่าคณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาลคนใดได้ห้ามปรามและแสดงความไม่เห็นด้วย หรือแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด จนผู้บัญชาการทหารบกได้แสดงความหนักใจว่าจะเกิดสงครามกลางเมือง การกระทำดังกล่าวของคณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาลและ นปช. เป็นการกระทำความผิดอาญาที่เข้าข่ายในความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรตามป.อาญา มาตรา 113 , 114 และเป็นความผิดสำเร็จแล้วตามมาตรา 114 เพราะได้มีการสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใดๆอันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงให้ราษฎรเป็นกบฏ หรือรู้ว่ามีผู้จะเป็นกบฏแล้วกระทำการใดๆอันเป็นการช่วยปกปิดไว้

และได้มีการกระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักรตามป.อาญามาตรา 121 ซึ่งบัญญัติว่า “ คนไทยคนใดกระทำการรบต่อประเทศ............. ต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต” ซึ่งการกระทำความผิดอาญาตามมาตรา 121 นั้น การตระเตรียมการ หรือพยายามกระทำความผิด หรือเป็นผู้สนับสนุนก็เป็นการกระทำความผิดสำเร็จ เพราะกฎหมายให้ลงโทษเท่ากับความผิดสำเร็จตามมาตรา 128 , 129 และหลังจากที่ได้มีการชุมนุมประกาศเจตนารมณ์ของคณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาลและนปช.ดังกล่าว ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่มีความรุนแรงต่อการชุมนุมของมวลมหาประชาชนเป็นระยะๆมีคนตายและบาดเจ็บ อันเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการก่อการร้าย มีการปิดล้อมที่ทำการปปช.โดยนายกรัฐมนตรีไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหาของปปช.ตามที่ได้แจ้งนัดหมายไว้แล้วพฤติการณ์ดังกล่าวส่อให้เห็นเจตนาที่มีการกระทำการบต่อประเทศร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงเจตนาชัดแจ้งที่ต้องการอยู่ในตำแหน่งรักษาการรัฐบาลเพื่อรักษาประชาธิปไตยต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอรัฐบาลที่ได้ประกาศในที่ประชุม “ นปช.ลั่นกลองรบ” โดยนายณัฐวุฒิที่ให้นายกฯยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่ลาออกเด็ดขาดไม่ว่าในกรณีใดๆ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อสาธารณะในการประชุม “ นปช.ลั่นกลองรบ” มีข้อสรุปที่เป็นข้อเสนอต่อรัฐบาล 11 ข้อ และมีข้อเสนอต่อนปช. 11 ข้อ ข้อเสนอดังกล่าวได้นำเสนอโดยนายณัฐวุฒิ ซึ่งเป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาล และเป็นแกนนำนปช.เสื้อแดง ข้อเสนอที่ให้ทั้งรัฐบาลและนปช.กระทำนั้น เป็นการให้คนไทยทำการรบต่อประเทศของตน ในขณะที่คณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาลทำหน้าที่เป็นรัฐบาล และมีการเตรียมการวางแผนว่า เมื่อทำการรบต่อประเทศของตนไม่สำเร็จก็ให้ไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น โดยแบ่งแยกประเทศไปตั้งรัฐบาลในภาคเหนือหรืออีสาน

การที่คณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาลได้กระทำความผิดอาญาร้ายแรงในข้อหาความผิดต่อความมั่นคงของรัฐและเป็นความผิดสำเร็จแล้ว จึงหมดสิทธิในการเป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาลในทันทีและจะต้องถูกดำเนินคดี การกระทำความผิดอาญาของคณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาลไม่ใช่เป็นเรื่องการรักษาประชาธิปไตย แต่เป็นเรื่องความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งต้องดำเนินการตามกฎหมายเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด ( Le saiut du people est la supreme loi ) เพราะเป็นเรื่องคนไทยกระทำการรบต่อประเทศของตนเองและแบ่งแยกดินแดนของประเทศตนเอง ซึ่งเป็นมหันตภัยอย่างร้ายแรง มวลมหาประชาชนจะต้องดำเนินการเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประเทศชาติและประชาชน โดยต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดหน้าที่และความรับผิดชอบในทางกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่คือ

1. แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 1 (17) ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยตรง อันมีปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น ให้ทำการสืบสวน สอบสวน จับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิด ซึ่งปรากฏหลักฐานเป็นสาธารณะแล้ว

2. ต้องแจ้งความร้องทุกข์ต่อผู้บัญชาการทหารสูงสุดในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพไทยและกองบัญชาการกองทัพไทย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้ดำเนินคดีกับคณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาลรวมทั้งนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทางทหาร อันเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาที่อยู่ในข่ายเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย และเป็นเรื่องการกระทำความผิดที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐและการก่อการร้าย อันจำเป็นต้องใช้กำลังทหาร ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 มาตรา 8 , 36 , 40เมื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว เจ้าหน้าที่ทางทหารจะต้องรับผิดชอบดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

3. การที่คณะรัฐมนตรีรักษาการรัฐบาลได้ร่วมกับนปช. กระทำความผิดอาญาในความผิดต่อความมั่นคงของรัฐทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักรนั้น เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพการเป็นรัฐมนตรีรักษาการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 จึงเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิใช่เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มวลมหาประชาชนจะต้องร้องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งไม่ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68

4. ในขณะนี้อยู่ในช่วงเวลาการเลือกตั้ง มวลมหาประชาชนจะต้องร้องทุกข์ต่อกล่าวโทษคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ทำการสอบสวนและดำเนินคดี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 9 เพราะได้มีการกระทำของหัวหน้าพรรคการเมืองไปร่วมประชุมกับแกนนำนปช. มีการปลุกระดมประกาศแยกดินแดนออกจากราชอาณาจักรไทยตั้งเป็นประเทศใหม่ ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น อันเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายอื่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งฯ มาตรา 21 คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงมีอำนาจหน้าที่ต้องดำเนินการในการกระทำความผิดต่างๆได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
See More



MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY