ถามไถ่กันมากว่า จุดจบของระบอบทักษิณจะเป็นอย่างไร?
ผมไม่ได้เป็นหมอดู แต่พิจารณาด้วยเหตุและผล ด้วยมูลเหตุแห่งปัจจัย ตามหลักกฎแห่งกรรม เห็นว่า มีทางเลือกที่เป็นไปได้ 5 ทางเลือก ได้แก่
1) ทักษิณ ชินวัตร ตาย
แม้ประเทศไทยจะไม่หายป่วยเด็ดขาดทันที ระบอบทักษิณไม่สิ้นสุดลงเฉียบพลัน แต่เมื่อพิจารณาว่าเชื้อร้ายของระบอบทักษิณได้แพร่เชื้อลุกลามออกไปที่ใดบ้างแล้ว ประเมินได้ว่า คงจะมีเหลือติดเชื้อโรคทักษิณอยู่เพียงไม่กี่กลุ่ม อาทิ
กลุ่มแดงล้มเจ้า คงเหลืออยู่ไม่มาก ที่เคยอาศัยน้ำเลี้ยงหรือใช้ทักษิณเป็นพาหะ ก็จะเหี่ยวเฉาลงไป ไม่มีกำลังไปบั่นเซาะสั่นคลอนทำลายสถาบันเบื้องสูงได้ดังเดิม
กลุ่มแดงรับจ้าง สู้แล้วรวย เมื่อนายจ้างหาย ขี้ข้ากลุ่มนี้ก็คงจะหานายใหม่ หรือหาคนว่าจ้างรายใหม่ ซึ่งก็คงจะค่อยๆ เหี่ยวตายลงไป
กลุ่มที่ลุ่มหลงในตัวทักษิณ หลงคิดว่าเก่งกาจไร้เทียมทาน หวังจะให้ทักษิณกลับมาช่วยให้รวย โดยไม่เคยลืมหูลืมตาดูความเป็นจริงว่าทักษิณบริหารเศรษฐกิจผิดพลาดล้มเหลวขนาดไหน คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ก็คงจะค่อยๆ ตาสว่างขึ้นเมื่อขบวนการโฆษณาชวนเชื่อของระบอบทักษิณล่มสลายไปพร้อมๆ กับความตายของทักษิณ
2) ทักษิณกลับไทย กลับใจยอมติดคุก
ทักษิณหนีออกจากประเทศไปก็ด้วยไม่ต้องการติดคุกและรับโทษจากคดีทุจริตของตนเองจำนวนมาก
นอกจากโทษจำคุก 2 ปี คดีที่ดินรัชดา ศาลฎีกาฯ พิพากษาคดีถึงที่สุดแล้วนั้น ก็ยังมีคดีทุจริตโกงกินอีกหลายคดีรอให้กลับมาต่อสู้ในชั้นศาล อาทิ คดีทุจริตเงินกู้เอ็กซิมแบงก์ คดีทุจริตหวยบนดิน คดีทุจริตแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต คดีทุจริตเงินกู้แบงก์กรุงไทย เป็นต้น ยังไม่นับกรณีที่อยู่ในชั้นการพิจารณาของ ป.ป.ช.อีกหลายเรื่องที่สืบเนื่องมาจากคดีร่ำรวยผิดปกติ อาศัยอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์แก่ตนเองโดยมิชอบ ไม่ว่าจะเป็น กรณีดาวเทียม กรณีแก้ไขสัมปทานมือถือ ฯลฯ
หากทักษิณกลับใจ เดินทางกลับไทย ต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศ
คดีใดศาลยกฟ้องก็เชิดหน้ายอมรับคำพิพากษา หรือหากศาลตัดสินว่าผิดก็ยอมรับโทษ
ถ้าเป็นเช่นนี้ เชื่อว่า ทักษิณจะมีโทษติดคุกราวๆ 20-30 ปี (รวมคดีที่ดินรัชดา)
เลิกปลุกระดม เลิกบงการพรรคการเมือง เลิกแนวคิดจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ-แบ่งแยกประเทศ-รัฐไทยใหม่-รัฐบาลพลัดถิ่น ฯลฯ
เชื้อโรคที่กลับใจก็สามารถจะกลายมาเป็น “วัคซีน” ที่มีคุณประโยชน์กับประเทศชาติได้ เช่นเดียวกับ เชื้อพิษสุนัขบ้า พิษงู ฯลฯ ก็สามารถนำมาทำวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันจากเชื้อร้ายในอนาคตได้เช่นกัน
หากเป็นเช่นนี้ ทักษิณจะกลายเป็นบุคคลที่สร้างจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์ของการเมืองไทย ไม่ต่างจากเนลสัน แมนเดลา แห่งแอฟริกาใต้
แต่เงื่อนไขที่จำเป็น คือ ทักษิณจะต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติสั่งการของตนเอง โดยตนอาจจะผิดหรืออาจจะพ้นผิด ขึ้นกับพยานหลักฐานข้อเท็จจริง อาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจ
ประเมินจากนิสัยถาวรของทักษิณแล้ว เชื่อว่ายาก
เพราะเขาเป็นคนที่แสดงออกให้เห็นแล้วว่า เห็นแก่ตัว และคิดเอาแต่ได้ขนาดไหน
3) ถูกปฏิวัติโดยประชาชน
มวลมหาประชาชนในนาม กปปส.ได้ชุมนุมเคลื่อนไหวขับไล่ระบอบทักษิณอย่างต่อเนื่อง สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ของการเมืองไทยว่ามีผู้เข้าร่วมจำนวนหลายล้านคน ยืนหยัดต่อสู้มาจนถึงวันนี้ รัฐบาลรักษาการหมดสิ้นความชอบธรรมทั้งทางการเมืองและทางกฎหมาย กระทำผิดรัฐธรรมนูญร้ายแรง ประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเท่ากับไม่ยอมรับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หมดสภาพความเป็นรัฐบาล ไม่สามารถสั่งการข้าราชการ บริหารราชการแผ่นดิน หรือแม้แต่ตัวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเดินปรากฏตัวในเมืองหลวงก็ไม่สามารถกระทำได้
หากข้าราชการแผ่นดินทั้งหลาย ทั้งข้าราชการพลเรือน ข้าราชการตำรวจ และข้าราชการทหาร ตัดสินใจออกมาประกาศแสดงตัวยืนหยัดอยู่เคียงข้างมวลมหาประชาชนอย่างชัดแจ้ง โดยชี้ชัดว่ารัฐบาลรักษาการชุดนี้หมดสิ้นความชอบธรรมในการปกครองประเทศ ไม่รับคำสั่งจากคนในรัฐบาลอีกต่อไป พร้อมร่วมกันกับประชาชนในการสนับสนุนรัฐบาลชุดใหม่ ตามครรลองแห่งประเพณีการปกครอง ตั้งรัฐบาลคนกลางขึ้นมาปฏิรูปประเทศเพื่อประโยชน์ส่วนรวมก่อนเดินไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ รัฐบาลของระบอบทักษิณก็จะสิ้นอำนาจลงโดยทันที
ไม่ใช่การปฏิวัติโดยทหาร แต่จะเป็นการปฏิวัติโดยประชาชน โดยข้าราชการแผ่นดินทุกหมู่เหล่าได้ยืนหยัดในการทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน พิทักษ์ไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
4) คำพิพากษาของศาลและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
ขณะนี้ รัฐบาลรักษาการของระบอบทักษิณมีคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาชี้ขาดของศาลยุติธรรมและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญหลายคดี
บางคดีปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจน มัดแน่นหนา จำนนด้วยหลักฐาน ฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถแก้ต่างได้เลย
4.1 ศาลรัฐธรรมนูญ
มีเรื่องที่จะต้องชี้ขาดสำคัญๆ เช่นสถานะความเป็นรัฐบาลรักษาการ ควรจะต้องมีการวินิจฉัยชี้ขาดโดยเร็ว เพราะหลังการเลือกตั้ง 30 กว่าวันแล้ว ไม่สามารถเปิดประชุมสภา ล่วงเลยเงื่อนเวลาตามที่กำหนดไว้ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และยังไม่เห็นหนทางที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาอีก 30 วันต่อไปด้วยการจะให้รัฐบาลชุดนี้ตีความเข้าข้างตัวเองว่าตนสามารถจะเป็นรัฐบาลรักษาการต่อไปเรื่อยๆ ชั่วฟ้าดินสลาย ตราบเท่าที่ยังไม่มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่นั้น เป็นการสร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ประเทศชาติ เพราะรัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มที่ ทำให้ประเทศชาติเสียหายและเสียโอกาส ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ ไม่สามารถใช้มาตรการด้านการคลังและการกระตุ้นการลงทุน กู้เงิน สร้างภาระผูกพัน ดำเนินโครงการใหม่ๆ ไม่ได้เลย กระทบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในสถานการณ์ปัจจุบันอย่างรุนแรง
กรณีเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 เป็นโมฆะหรือไม่ ตามคำร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีกรณีกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท (สร้างภาระหนี้ 5 ล้านล้านบาท อย่างน้อย 50 ปี) ที่ปรากฏว่ามีการทุจริตการลงคะแนนในสภา และเป็นการกู้เงินนอกงบประมาณแผ่นดิน ส่อว่ากระทำขัดกฎหมายการเงินแผ่นดิน ละเมิดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติในวันที่ 12 มี.ค. 2557 นี้ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้เสนอโดยคณะรัฐมนตรี หากผิดรัฐธรรมนูญ โดยปกติรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกทั้งคณะ
4.2 ป.ป.ช. มีเรื่องที่จะต้องชี้ขาดสำคัญๆ เช่น
กรณีทุจริตโกงกินในโครงการจำนำข้าว โดยเฉพาะตัวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยให้มีการทุจริตโกงกินในโครงการจำนำข้าว โดยเฉพาะในขั้นตอนการระบายข้าว จีทูจีเก๊ เอื้อประโยชน์แก่พ่อค้าเอกชน ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง ชาวนาไม่ได้รับเงินค่าข้าวจำนวนมาก
กรณีการกระทำผิดจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาและคุณสมบัติของ สว. ที่เป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองโดยวิถีทางมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายนิคม ไวยรัชพานิช นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ก็จะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที
4.3 กกต. กรณีการกระทำผิดกฎหมาย
เลือกตั้ง การใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เฮลิคอปเตอร์ของรัฐไปลงพื้นที่หาเสียง การออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจโฆษณาชวนเชื่อนโยบายจำนำข้าว หรือแม้แต่การกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองโดยมิชอบของพรรคการเมืองรัฐบาล ผ่านการปลุกระดมบนเวทีเสื้อแดง “ลั่นกลองรบ” ข่มขู่ศาลและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ประกาศจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ แบ่งแยกดินแดน เตรียมการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น
เมืองหลวงใหม่ ฯลฯ
4.4 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีความผิดทางอาญาต่างๆ อาทิ การทุจริตจำนำข้าว การโยกย้ายเลขาธิการ สมช.โดยมิชอบ การแก้รัฐธรรมนูญโดยมิชอบ ฯลฯ จะมีการยื่นฟ้องร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อเอาผิดทางอาญาต่อไป
ยังไม่นับกรณีการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลรักษาการ กระทำการละเมิดคำสั่งศาลแพ่ง ก่อให้เกิดการฆาตกรรมในการสลายการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าฯ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ หากฝ่ายรัฐบาลรักษาการระบอบทักษิณจะใช้วิธีการปฏิเสธ ไม่ยอมรับการทำหน้าที่ของศาลและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ก็ยิ่งจะตอกย้ำถึงความเป็นกบฏ เป็นปฏิปักษ์ต่อกฎหมายบ้านเมือง ยิ่งจะเพิ่มความชอบธรรมทั้งในทางกฎหมายและทางการเมืองให้แก่ประชาชน ข้าราชการและกองทัพ ต้องออกมาปกป้องการทำหน้าที่ของฝ่ายตุลาการ พิทักษ์ไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สนับสนุนการปฏิวัติโดยประชาชน
5) ระบอบทักษิณกินชาติ
ทางเลือกสุดท้าย... หากประชาชนคนไทยทำตัวเป็นไทยเฉย ข้าราชการแผ่นดินก้มหัวรับใช้นักการเมืองทุจริตต่อไป กองทัพละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคงของชาติ ส่วนสถาบันศาลยุติธรรมและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญถูกครอบงำยึดครองผ่านอำนาจชั่วร้าย ประเทศไทยก็จะถูกยึดครองโดยระบอบทักษิณแบบเบ็ดเสร็จ
ระบบคุณธรรม ระบบยุติธรรม ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง
ราชอาณาจักรไทยจะถูกแปรสภาพไปเป็น สปป.ชินวัตร ในทางพฤตินัย
ขี้ข้าทักษิณจะได้ดี ข้าราชการแผ่นดินที่ซื่อตรงจะถูกประหัตประหาร พลเมืองดีจะไม่มีที่ยืน
ทักษิณ ชินวัตร จะกลายเป็น “ประธานของประเทศ”
คนไทยจะได้อยู่บนแผ่นดินที่ไม่คุ้นเคยอีกต่อไป!
สุดท้าย...
ขอให้ท่านผู้อ่านช่วยพิจารณาว่า ทางเลือกใดเป็นทางเลือกที่สะใจท่านมากที่สุด?
ทางเลือกใดเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติส่วนรวมมากที่สุด?
และทางเลือกใด คือ ทางเลือกที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด?
ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง/ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต