ปี 47หลวงตามหาบัวได้เคยกล่าวถึงสมเด็จเกี่ยวมหาเถรสมาคมในการตั้งเเต่งที่ปรึกษา
เผยแพร่เมื่อ 24 ก.พ. 2015
"สมเด็จเกี่ยวตาประเภทไหน ถึงได้เอาคนชั่วช้าลามกที่เป็นภัยต่อชาติต ่อศาสนาเข้ามาเผาศาสนาอยู่ในเวลานี้ กำลังอยู่ในมหาเถรสมาคม ให้พากันรีบแก้ไข ไม่แก้ไขชาติไทยจม ศาสนาจม เพราะสองสามกษัตริย์นี้แหละที่จะทำลาย กษัตริย์หนึ่งสมเด็จเกี่ยว กษัตริย์ที่สองนายอุดมเสื่อม กษัตริย์ที่สามมหาโจรคือมหาเถรสมาคม ถ้ารับไว้เป็นมหาโจรด้วยกันทั้งสามนี้เลย
เผยแพร่เมื่อ 24 ก.พ. 2015
"สมเด็จเกี่ยวตาประเภทไหน ถึงได้เอาคนชั่วช้าลามกที่เป็นภัยต่อชาติต ่อศาสนาเข้ามาเผาศาสนาอยู่ในเวลานี้ กำลังอยู่ในมหาเถรสมาคม ให้พากันรีบแก้ไข ไม่แก้ไขชาติไทยจม ศาสนาจม เพราะสองสามกษัตริย์นี้แหละที่จะทำลาย กษัตริย์หนึ่งสมเด็จเกี่ยว กษัตริย์ที่สองนายอุดมเสื่อม กษัตริย์ที่สามมหาโจรคือมหาเถรสมาคม ถ้ารับไว้เป็นมหาโจรด้วยกันทั้งสามนี้เลย
“
ไพบูลย์” หนุนสงฆ์แก้ปัญหากันเอง ย้ำพระลิขิตของจริง ฉะโฆษก พศ.อย่าบิดเบือน
ประธาน คกก.ปฏิรูปพุทธศาสนา หนุนตาม “วิษณุ” ให้คณะสงฆ์ตัดสินปัญหากันเอง แต่ยันพระลิขิต 42 “ธัมมชโย” ปาราชิกของจริง จับตา มส.จะทำอย่างไร ลั่นรับปกป้องศาสนา ไร้เจตนาอื่น ฉะโฆษก พศ.ทำตัวเป็นสงฆ์ ตีความพระลิขิตบิดเบือน ลั่นเดินหน้าสอบโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ไปบริจาคธรรมกาย ปลุก มส.ทำบัญชีเรียกความเชื่อมั่นศาสนา
วันนี้ (25 ก.พ.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์ กิจการพระพุทธศาสนา สปช. กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฝ่ายกฎหมายระบุว่า ปัญหาศาสนจักรและพระธัมมชโยเป็นปัญหาที่คณะสงฆ์จะไปตัดสินกันเองว่า ตนเห็นด้วยว่าเป็นเรื่องของมหาเถรสมาคม (มส.) ที่ตนออกมากล่าวถึงก็เพราะมีพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช และมติของ มส.เมื่อปี 2542 ที่รับรองพระลิขิตทั้งหมดว่า เป็นของจริง ขณะนี้จึงยังต้องฟังดูว่า มติของ มส.ในปี 2558 ที่ออกมาและที่ประชุม มส.ชุดปัจจุบันจะดำเนินการอย่างไรต่อมติของ มส.เมื่อปี 2542 และพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชฯ
“พระลิขิตทั้งหมดมี 5 ฉบับแบ่งเป็นฉบับ 1-2 ที่พูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่ไม่มีตราพระนามย่อของพระองค์ท่าน ถือได้ว่าเป็นเอกสารส่วนพระองค์ แต่ฉบับที่ 3-5 เป็นพระลิขิตที่เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการที่ทรงระบุชัดเจนต่อกรณีปัญหานี้ และผมยืนยันว่าการทำงานของกรรมการที่ผมเป็นประธานฯเป็นการศึกษาวิเคราะห์ เพื่อปฏิรูปและปกป้องพระศาสนา ไม่มีเจตนาอื่นใด” นายไพบูลย์กล่าว
เมื่อถามว่า นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักพระพุทธศาสนา (พศ.) ออกมาระบุว่า พระธัมมชโยคืนทรัพย์ให้วัดแล้วไม่มีความผิด เพราะทรัพย์นั้นเป็นชื่อของพระธัมมชโย ไม่ใช่ชื่อวัด แต่พระลิขิตระบุชัดว่าการได้ทรัพย์ขณะที่เป็นพระก็ต้องคืนให้วัด นายไพบูลย์กล่าวว่า เรื่องนี้คงเป็นหน้าที่ของนายวิษณุ และนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักฯ ที่ดูแลสำนักพระพุทธศาสนาจะเป็นผู้ดำเนินการ เพราะพฤติกรรมที่นายสมชายกำลังทำอยู่เหมือนทำตัวเป็นสงฆ์เสียเอง ทั้งที่ควรจะเงียบเสียที และตอบให้ได้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อมติ มส.ปี 2542 ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ หากจะออกมาก็ควรจะมีหลักฐานอ้างอิงไม่ใช่ใช้ดุลพินิจตัวเองตีความพระลิขิต หรือชี้แจงแทนคณะสงฆ์ โดยการแทรกแซงให้ความเห็นที่บิดเบือน และขัดต่อนโยบายของนายวิษณุ
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า ยืนยันว่ากรรมการฯ ชุดตนจะเดินหน้าศึกษาวิเคราะห์กรณีบริจาคเงินทุจริตของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ที่ฉ้อโกงเงินประชาชน และนำไปบริจาคให้วัดและพระสงฆ์ ทั้งนี้ยังคาดหวังว่ากรรมการใน มส.จะใช้โอกาสนี้เพื่อวางมาตรการปกป้องพระพุทธศาสนา เพราะเห็นช่องโหว่แล้ว อยากเห็นพระผู้ใหญ่ใน มส.จะเป็นผู้นำที่กล้าหาญในการทำบัญชีทรัพย์สินของวัดและของพระเถระประกาศให้สังคมให้รับทราบเพื่อเป็นตัวอย่างกับพระที่อยู่ในปกครอง เพื่อความโปร่งใส และเรียกคืนความเชื่อมั่นศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาว่า พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติชอบได้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า คือ ผู้เป็นพระไม่สะสมทรัพย์สมบัติใดๆ ก็จะเป็นเรื่องดี
รายงานพิเศษ - วงในเผยที่มาปฏิรูปพุทธศาสนา ยอมรับ “ธรรมกาย” เป็นเหตุ นายกฯ เปรยหลายครั้ง ธุดงค์ธรรมชัยเป็นจุดเริ่มต้น หวั่นไม่เข้าแก้ปัญหาจะกลายเป็นอันตราย ขณะที่กรรมการในชุดนี้เป็นคนที่รู้จักธรรมกายเป็นอย่างดี ส่วน ดร.มโน เลาหวนิช เผยปฏิรูปพุทธศาสนาทั้งระบบ แจงเป้าแรกที่เลือก “ธรรมกาย” เพราะข้อร้องเรียนมากที่สุด เตรียมเข้าเฝ้าผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชขอกรรมการ 3 คนร่วมกันแก้ปัญหา ชี้ “ไม่ทำในช่วงนี้ถือว่าเสียของ” ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามเดินเครื่องเสนอยุบกรรมการชุดนี้
ประธาน คกก.ปฏิรูปพุทธศาสนา หนุนตาม “วิษณุ” ให้คณะสงฆ์ตัดสินปัญหากันเอง แต่ยันพระลิขิต 42 “ธัมมชโย” ปาราชิกของจริง จับตา มส.จะทำอย่างไร ลั่นรับปกป้องศาสนา ไร้เจตนาอื่น ฉะโฆษก พศ.ทำตัวเป็นสงฆ์ ตีความพระลิขิตบิดเบือน ลั่นเดินหน้าสอบโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ไปบริจาคธรรมกาย ปลุก มส.ทำบัญชีเรียกความเชื่อมั่นศาสนา
วันนี้ (25 ก.พ.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์ กิจการพระพุทธศาสนา สปช. กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฝ่ายกฎหมายระบุว่า ปัญหาศาสนจักรและพระธัมมชโยเป็นปัญหาที่คณะสงฆ์จะไปตัดสินกันเองว่า ตนเห็นด้วยว่าเป็นเรื่องของมหาเถรสมาคม (มส.) ที่ตนออกมากล่าวถึงก็เพราะมีพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช และมติของ มส.เมื่อปี 2542 ที่รับรองพระลิขิตทั้งหมดว่า เป็นของจริง ขณะนี้จึงยังต้องฟังดูว่า มติของ มส.ในปี 2558 ที่ออกมาและที่ประชุม มส.ชุดปัจจุบันจะดำเนินการอย่างไรต่อมติของ มส.เมื่อปี 2542 และพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชฯ
“พระลิขิตทั้งหมดมี 5 ฉบับแบ่งเป็นฉบับ 1-2 ที่พูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่ไม่มีตราพระนามย่อของพระองค์ท่าน ถือได้ว่าเป็นเอกสารส่วนพระองค์ แต่ฉบับที่ 3-5 เป็นพระลิขิตที่เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการที่ทรงระบุชัดเจนต่อกรณีปัญหานี้ และผมยืนยันว่าการทำงานของกรรมการที่ผมเป็นประธานฯเป็นการศึกษาวิเคราะห์ เพื่อปฏิรูปและปกป้องพระศาสนา ไม่มีเจตนาอื่นใด” นายไพบูลย์กล่าว
เมื่อถามว่า นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักพระพุทธศาสนา (พศ.) ออกมาระบุว่า พระธัมมชโยคืนทรัพย์ให้วัดแล้วไม่มีความผิด เพราะทรัพย์นั้นเป็นชื่อของพระธัมมชโย ไม่ใช่ชื่อวัด แต่พระลิขิตระบุชัดว่าการได้ทรัพย์ขณะที่เป็นพระก็ต้องคืนให้วัด นายไพบูลย์กล่าวว่า เรื่องนี้คงเป็นหน้าที่ของนายวิษณุ และนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักฯ ที่ดูแลสำนักพระพุทธศาสนาจะเป็นผู้ดำเนินการ เพราะพฤติกรรมที่นายสมชายกำลังทำอยู่เหมือนทำตัวเป็นสงฆ์เสียเอง ทั้งที่ควรจะเงียบเสียที และตอบให้ได้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อมติ มส.ปี 2542 ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ หากจะออกมาก็ควรจะมีหลักฐานอ้างอิงไม่ใช่ใช้ดุลพินิจตัวเองตีความพระลิขิต หรือชี้แจงแทนคณะสงฆ์ โดยการแทรกแซงให้ความเห็นที่บิดเบือน และขัดต่อนโยบายของนายวิษณุ
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า ยืนยันว่ากรรมการฯ ชุดตนจะเดินหน้าศึกษาวิเคราะห์กรณีบริจาคเงินทุจริตของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ที่ฉ้อโกงเงินประชาชน และนำไปบริจาคให้วัดและพระสงฆ์ ทั้งนี้ยังคาดหวังว่ากรรมการใน มส.จะใช้โอกาสนี้เพื่อวางมาตรการปกป้องพระพุทธศาสนา เพราะเห็นช่องโหว่แล้ว อยากเห็นพระผู้ใหญ่ใน มส.จะเป็นผู้นำที่กล้าหาญในการทำบัญชีทรัพย์สินของวัดและของพระเถระประกาศให้สังคมให้รับทราบเพื่อเป็นตัวอย่างกับพระที่อยู่ในปกครอง เพื่อความโปร่งใส และเรียกคืนความเชื่อมั่นศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาว่า พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติชอบได้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า คือ ผู้เป็นพระไม่สะสมทรัพย์สมบัติใดๆ ก็จะเป็นเรื่องดี
วันนี้ (25 ก.พ.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์ กิจการพระพุทธศาสนา สปช. กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฝ่ายกฎหมายระบุว่า ปัญหาศาสนจักรและพระธัมมชโยเป็นปัญหาที่คณะสงฆ์จะไปตัดสินกันเองว่า ตนเห็นด้วยว่าเป็นเรื่องของมหาเถรสมาคม (มส.) ที่ตนออกมากล่าวถึงก็เพราะมีพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช และมติของ มส.เมื่อปี 2542 ที่รับรองพระลิขิตทั้งหมดว่า เป็นของจริง ขณะนี้จึงยังต้องฟังดูว่า มติของ มส.ในปี 2558 ที่ออกมาและที่ประชุม มส.ชุดปัจจุบันจะดำเนินการอย่างไรต่อมติของ มส.เมื่อปี 2542 และพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชฯ
“พระลิขิตทั้งหมดมี 5 ฉบับแบ่งเป็นฉบับ 1-2 ที่พูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่ไม่มีตราพระนามย่อของพระองค์ท่าน ถือได้ว่าเป็นเอกสารส่วนพระองค์ แต่ฉบับที่ 3-5 เป็นพระลิขิตที่เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการที่ทรงระบุชัดเจนต่อกรณีปัญหานี้ และผมยืนยันว่าการทำงานของกรรมการที่ผมเป็นประธานฯเป็นการศึกษาวิเคราะห์ เพื่อปฏิรูปและปกป้องพระศาสนา ไม่มีเจตนาอื่นใด” นายไพบูลย์กล่าว
เมื่อถามว่า นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักพระพุทธศาสนา (พศ.) ออกมาระบุว่า พระธัมมชโยคืนทรัพย์ให้วัดแล้วไม่มีความผิด เพราะทรัพย์นั้นเป็นชื่อของพระธัมมชโย ไม่ใช่ชื่อวัด แต่พระลิขิตระบุชัดว่าการได้ทรัพย์ขณะที่เป็นพระก็ต้องคืนให้วัด นายไพบูลย์กล่าวว่า เรื่องนี้คงเป็นหน้าที่ของนายวิษณุ และนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักฯ ที่ดูแลสำนักพระพุทธศาสนาจะเป็นผู้ดำเนินการ เพราะพฤติกรรมที่นายสมชายกำลังทำอยู่เหมือนทำตัวเป็นสงฆ์เสียเอง ทั้งที่ควรจะเงียบเสียที และตอบให้ได้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อมติ มส.ปี 2542 ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ หากจะออกมาก็ควรจะมีหลักฐานอ้างอิงไม่ใช่ใช้ดุลพินิจตัวเองตีความพระลิขิต หรือชี้แจงแทนคณะสงฆ์ โดยการแทรกแซงให้ความเห็นที่บิดเบือน และขัดต่อนโยบายของนายวิษณุ
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า ยืนยันว่ากรรมการฯ ชุดตนจะเดินหน้าศึกษาวิเคราะห์กรณีบริจาคเงินทุจริตของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ที่ฉ้อโกงเงินประชาชน และนำไปบริจาคให้วัดและพระสงฆ์ ทั้งนี้ยังคาดหวังว่ากรรมการใน มส.จะใช้โอกาสนี้เพื่อวางมาตรการปกป้องพระพุทธศาสนา เพราะเห็นช่องโหว่แล้ว อยากเห็นพระผู้ใหญ่ใน มส.จะเป็นผู้นำที่กล้าหาญในการทำบัญชีทรัพย์สินของวัดและของพระเถระประกาศให้สังคมให้รับทราบเพื่อเป็นตัวอย่างกับพระที่อยู่ในปกครอง เพื่อความโปร่งใส และเรียกคืนความเชื่อมั่นศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาว่า พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติชอบได้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า คือ ผู้เป็นพระไม่สะสมทรัพย์สมบัติใดๆ ก็จะเป็นเรื่องดี
รายงานพิเศษ - วงในเผยที่มาปฏิรูปพุทธศาสนา ยอมรับ “ธรรมกาย” เป็นเหตุ นายกฯ เปรยหลายครั้ง ธุดงค์ธรรมชัยเป็นจุดเริ่มต้น หวั่นไม่เข้าแก้ปัญหาจะกลายเป็นอันตราย ขณะที่กรรมการในชุดนี้เป็นคนที่รู้จักธรรมกายเป็นอย่างดี ส่วน ดร.มโน เลาหวนิช เผยปฏิรูปพุทธศาสนาทั้งระบบ แจงเป้าแรกที่เลือก “ธรรมกาย” เพราะข้อร้องเรียนมากที่สุด เตรียมเข้าเฝ้าผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชขอกรรมการ 3 คนร่วมกันแก้ปัญหา ชี้ “ไม่ทำในช่วงนี้ถือว่าเสียของ” ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามเดินเครื่องเสนอยุบกรรมการชุดนี้
ธงปฏิรูปศาสนาหวังขจัด “ธรรมกาย” ยึดครองศาสนจักร!?
http://manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000022629
เจาะขุมทรัพย์อดีตผู้ช่วยโต้ง รับเช็คชุดเดียวกับ ธัมมชโย
24 ก.พ. 58 ภายหลังจากที่มีการเปิดเผยเอกสารที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด สั่งจ่ายเช็คจำนวน 11 ใบ มูลค่ากว่า 1.1 พันล้านบาท ไปยังวัดพระธรรมกาย และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ล่าสุด สำนักข่าวอิสรา ได้เปิดเผยข้อมูลทางธุรกิจของ นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเช็ค 2 ใบ วงเงิน 450 ล้านบาทโดยเช็คใบแรกสั่งจ่ายในชื่อ สหกรณ์บริการ รัฐประชา จำกัด วงเงิน 200 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2552 ส่วนเช็คใบที่สองสั่งจ่ายในชื่อ นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ วงเงิน 250 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2552
โดยจากการตรวจสอบ พบว่า นายวัฒน์ชานนท์ มีชื่อปรากฎเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัทเอกชน 8 แห่ง ได้แก่ 1.บริษัท รัฐประชา จำกัด ทุน 10 ล้านบาท 2.บริษัท ไชน่า-ไทย ปิโตรเลียม คอรเปอร์เรชั่น จำกัด ทุน 1,000 ล้านบาท 3.หจก.ต้นตระกูล นวอิสรารักษ์ ทุน 5 ล้านบาท 4.หจก.ไนน์ เรียลเอสเตท ทุน 80 ล้านบาท 5.บริษัท รัฐประชากระดาษคราฟท์ จำกัด ทุน 300 ล้านบาท 6.บริษัท เวิลด์ฟิวเจอร์ เทค จำกัด ทุน 10 ล้านบาท 7.บริษัท สยาม กรีนแกรนิต จำกัด ทุน 4 ล้านบาท 8. หจก.เฮ้าส์ซิ่ง นวกรุ๊ป ทุน 100 ล้านบาท ทุกบริษัทมีนายวัฒน์ชานนท์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยบริษัทส่วนใหญ่แจ้งใช้ที่อยู่เดียวกันในการจดทะเบียนคือ 54 หมู่ 4 ถนนเทพนิมิตร-ลานตากฟ้า ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ปัจจุบันแจ้งปิดกิจการไปแล้ว 2 แห่งคือ หจก.เฮ้าส์ซิ่ง นวกรุ๊ป ทุนจดเทียน 100 ล้านบาท และ หจก.ไนน์เรียลเอสเตท ทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการทางธุรกิจไม่ค่อยดีนัก บางธุรกิจขาดทุน และมีกำไรสูงสุดที่ได้รับอยู่เพียงหลักหมื่นบาทเท่านั้น
แต่จากการตรวจสอบพบสิ่งน่าสนใจ ในปี 2552 บริษัท ไชน่า-ไทย ปิโตรเลียม คอรเปอร์เรชั่น จำกัด จดทะเบียน 20 มิ.ย. 2548 แจ้งประกอบธุรกิจ นำเข้า ส่งออกสินค้าทุกชนิด (น้ำมันดิบ) มีนายวัฒน์ชานนท์ และนายพรศักดิ์ ทิพอุต เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นายพรศักดิ์ ถือหุ่นใหญ่สุด เพิ่งมีการปรับเพิ่มเงินทุนจดทะเบียนจากเดิม 3 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2552 ขณะที่งบดุลปี 52 แจ้งว่า มีเงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน 46,800 บาท มีเงินให้กู้ยืมและเงินลงทุนระยะยาว 999,685,000 บาท
ส่วนบริษัท รัฐประชา จำกัด แจ้งในงบดุลว่า มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 9,900,000 บาท , หจก. ต้นตระกูล นวอิสรารักษ์ แจ้งว่ามีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 4,950,000 บาท บริษัท เวิลด์ฟิวเจอร์ เทค จำกัด แจ้งว่ามีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 9,900,000 บาท บริษัท สยาม กรีนแกรนิต จำกัด แจ้งว่ามีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 3,960,000 บาท รวมวงเงินปล่อยกู้ของ 5 บริษัท 1,028,395,000 บาท
ทั้งนี้ เคยมีการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น อ้างว่าเงินที่จ่ายให้กับ นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ และ สหกรณ์เครดิตยูเนียนรัฐประชา เพื่อนำไปร่วมลงทุนในกิจการต่างๆ ซึ่งน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : หลักฐานเด็ด!!เช็ค11ใบพันล้าน 'ศุภชัย'จ่าย'ธัมมชโย-เครือข่าย'
ขอบคุณ : สำนักข่าวอิศรา
บ้าน 2 หลัง "ศุภชัย" ก่อนเซ็นจ่ายเช็ค 4 ใบ ให้ "ธมมชโย-ธรรมกาย" 316ล้าน
ชื่นชมสำนักข่าวอิศราไล่ตามเกาะติด ข่าวทุจริตของอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ใกล้เข้าไปทุกทีถึงบอสใหญ่ เบื้องหลังศุภชัยผู้มีบ้านเเละเเฟลตเป็นที่พักราคารวมกันไม่น่ากี่ล้านบาท แต่ใจใหญ่ใจถึงยิ่งกว่า มหาเศรษฐีคนใดในประเทศไทย เผลอๆบิลเกตยังอาจเเพ้ใจ กับการบริจาคเงินอันเป็นของคนอื่น(ของผู้ฝากเงินสหกรณ์) ไปทำบุญครั้งละเป็นพันล้านบาท ติดตามค้นหาความจริงจากเเค่จากจุดนี้จุดเดียว รับรองจะพบขบวนการอันน่าพิศวงระดับพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินกันเลยครับ ว่าเเต่ ปปง สตช ดีเอสไอ ต้องวิ่งไล่ตามนักข่าวสืบสวนสอบสวนอิศราให้ได้นะครับ ไม่งั้นเสียชื่อหมด โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ เเละกระทรวงยุติธรรมที่อุตส่าห์มีรองปลัดกระทรวงเอาตำแหน่งเเละเงินเดือนไปประกันตัวผู้ต้องหารายนี้จากศาล
กู้เงินทำบุญ !!! หลายท่านคงงงกันเลยทีเดียว่ามันมีกันด้วยเหรอ มีสิฮะ
สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี ("ประธานสหกรณ์"เดียวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ยักยอกเงิน) ได้ออกโครการ สินเชื่อเพื่อการทำบุญหล่อทองคำรูปเหมือน “ พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ มุ นี ”
โดยให้กู้กับสมาชิกสหกรณ์ที่สะสมหุ้นรายเดือน วงเงินกู้ 15,000-150,000 บาท ผ่อนชำระ 15-30 เดือน
ซึ่งการกู้จะไม่ได้เงิน ???!! แต่ได้คูปอง ???!!! ที่เอาไปทำบุญหล่อพระกับวัดธรรมกายได้อย่างเดียว โดยเสียดอกเบี้ย 12% ต่อปี จะบอกว่า เป็นลูกศิษย์ทำกันเอง ธรรมกายไม่เกี่ยวไม่ได้หรอก เพราะ เมื่อกู้แล้วคนกู้ไม่ได้เงินแต่ได้คูปอง แล้วต้องเอาคูปองไปให้ที่วัด คือปกติเอาคูปองอะไรไม่รู้ไปให้วัดนี่วัดจะรับมั้ย ถ้าวัดไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย
http://manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000022629
เจาะขุมทรัพย์อดีตผู้ช่วยโต้ง รับเช็คชุดเดียวกับ ธัมมชโย
24 ก.พ. 58 ภายหลังจากที่มีการเปิดเผยเอกสารที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด สั่งจ่ายเช็คจำนวน 11 ใบ มูลค่ากว่า 1.1 พันล้านบาท ไปยังวัดพระธรรมกาย และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ล่าสุด สำนักข่าวอิสรา ได้เปิดเผยข้อมูลทางธุรกิจของ นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเช็ค 2 ใบ วงเงิน 450 ล้านบาทโดยเช็คใบแรกสั่งจ่ายในชื่อ สหกรณ์บริการ รัฐประชา จำกัด วงเงิน 200 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2552 ส่วนเช็คใบที่สองสั่งจ่ายในชื่อ นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ วงเงิน 250 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2552
โดยจากการตรวจสอบ พบว่า นายวัฒน์ชานนท์ มีชื่อปรากฎเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัทเอกชน 8 แห่ง ได้แก่ 1.บริษัท รัฐประชา จำกัด ทุน 10 ล้านบาท 2.บริษัท ไชน่า-ไทย ปิโตรเลียม คอรเปอร์เรชั่น จำกัด ทุน 1,000 ล้านบาท 3.หจก.ต้นตระกูล นวอิสรารักษ์ ทุน 5 ล้านบาท 4.หจก.ไนน์ เรียลเอสเตท ทุน 80 ล้านบาท 5.บริษัท รัฐประชากระดาษคราฟท์ จำกัด ทุน 300 ล้านบาท 6.บริษัท เวิลด์ฟิวเจอร์ เทค จำกัด ทุน 10 ล้านบาท 7.บริษัท สยาม กรีนแกรนิต จำกัด ทุน 4 ล้านบาท 8. หจก.เฮ้าส์ซิ่ง นวกรุ๊ป ทุน 100 ล้านบาท ทุกบริษัทมีนายวัฒน์ชานนท์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยบริษัทส่วนใหญ่แจ้งใช้ที่อยู่เดียวกันในการจดทะเบียนคือ 54 หมู่ 4 ถนนเทพนิมิตร-ลานตากฟ้า ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ปัจจุบันแจ้งปิดกิจการไปแล้ว 2 แห่งคือ หจก.เฮ้าส์ซิ่ง นวกรุ๊ป ทุนจดเทียน 100 ล้านบาท และ หจก.ไนน์เรียลเอสเตท ทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการทางธุรกิจไม่ค่อยดีนัก บางธุรกิจขาดทุน และมีกำไรสูงสุดที่ได้รับอยู่เพียงหลักหมื่นบาทเท่านั้น
แต่จากการตรวจสอบพบสิ่งน่าสนใจ ในปี 2552 บริษัท ไชน่า-ไทย ปิโตรเลียม คอรเปอร์เรชั่น จำกัด จดทะเบียน 20 มิ.ย. 2548 แจ้งประกอบธุรกิจ นำเข้า ส่งออกสินค้าทุกชนิด (น้ำมันดิบ) มีนายวัฒน์ชานนท์ และนายพรศักดิ์ ทิพอุต เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นายพรศักดิ์ ถือหุ่นใหญ่สุด เพิ่งมีการปรับเพิ่มเงินทุนจดทะเบียนจากเดิม 3 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2552 ขณะที่งบดุลปี 52 แจ้งว่า มีเงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน 46,800 บาท มีเงินให้กู้ยืมและเงินลงทุนระยะยาว 999,685,000 บาท
ส่วนบริษัท รัฐประชา จำกัด แจ้งในงบดุลว่า มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 9,900,000 บาท , หจก. ต้นตระกูล นวอิสรารักษ์ แจ้งว่ามีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 4,950,000 บาท บริษัท เวิลด์ฟิวเจอร์ เทค จำกัด แจ้งว่ามีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 9,900,000 บาท บริษัท สยาม กรีนแกรนิต จำกัด แจ้งว่ามีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง 3,960,000 บาท รวมวงเงินปล่อยกู้ของ 5 บริษัท 1,028,395,000 บาท
ทั้งนี้ เคยมีการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น อ้างว่าเงินที่จ่ายให้กับ นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ และ สหกรณ์เครดิตยูเนียนรัฐประชา เพื่อนำไปร่วมลงทุนในกิจการต่างๆ ซึ่งน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : หลักฐานเด็ด!!เช็ค11ใบพันล้าน 'ศุภชัย'จ่าย'ธัมมชโย-เครือข่าย'
ขอบคุณ : สำนักข่าวอิศรา
บ้าน 2 หลัง "ศุภชัย" ก่อนเซ็นจ่ายเช็ค 4 ใบ ให้ "ธมมชโย-ธรรมกาย" 316ล้าน
ชื่นชมสำนักข่าวอิศราไล่ตามเกาะติด ข่าวทุจริตของอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ใกล้เข้าไปทุกทีถึงบอสใหญ่ เบื้องหลังศุภชัยผู้มีบ้านเเละเเฟลตเป็นที่พักราคารวมกันไม่น่ากี่ล้านบาท แต่ใจใหญ่ใจถึงยิ่งกว่า มหาเศรษฐีคนใดในประเทศไทย เผลอๆบิลเกตยังอาจเเพ้ใจ กับการบริจาคเงินอันเป็นของคนอื่น(ของผู้ฝากเงินสหกรณ์) ไปทำบุญครั้งละเป็นพันล้านบาท ติดตามค้นหาความจริงจากเเค่จากจุดนี้จุดเดียว รับรองจะพบขบวนการอันน่าพิศวงระดับพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินกันเลยครับ ว่าเเต่ ปปง สตช ดีเอสไอ ต้องวิ่งไล่ตามนักข่าวสืบสวนสอบสวนอิศราให้ได้นะครับ ไม่งั้นเสียชื่อหมด โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ เเละกระทรวงยุติธรรมที่อุตส่าห์มีรองปลัดกระทรวงเอาตำแหน่งเเละเงินเดือนไปประกันตัวผู้ต้องหารายนี้จากศาล
กู้เงินทำบุญ !!! หลายท่านคงงงกันเลยทีเดียว่ามันมีกันด้วยเหรอ มีสิฮะ
สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี ("ประธานสหกรณ์"เดียวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ยักยอกเงิน) ได้ออกโครการ สินเชื่อเพื่อการทำบุญหล่อทองคำรูปเหมือน “ พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ มุ นี ”
โดยให้กู้กับสมาชิกสหกรณ์ที่สะสมหุ้นรายเดือน วงเงินกู้ 15,000-150,000 บาท ผ่อนชำระ 15-30 เดือน
ซึ่งการกู้จะไม่ได้เงิน ???!! แต่ได้คูปอง ???!!! ที่เอาไปทำบุญหล่อพระกับวัดธรรมกายได้อย่างเดียว โดยเสียดอกเบี้ย 12% ต่อปี จะบอกว่า เป็นลูกศิษย์ทำกันเอง ธรรมกายไม่เกี่ยวไม่ได้หรอก เพราะ เมื่อกู้แล้วคนกู้ไม่ได้เงินแต่ได้คูปอง แล้วต้องเอาคูปองไปให้ที่วัด คือปกติเอาคูปองอะไรไม่รู้ไปให้วัดนี่วัดจะรับมั้ย ถ้าวัดไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย
ชื่นชมสำนักข่าวอิศราไล่ตามเกาะติด ข่าวทุจริตของอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ใกล้เข้าไปทุกทีถึงบอสใหญ่ เบื้องหลังศุภชัยผู้มีบ้านเเละเเฟลตเป็นที่พักราคารวมกันไม่น่ากี่ล้านบาท แต่ใจใหญ่ใจถึงยิ่งกว่า มหาเศรษฐีคนใดในประเทศไทย เผลอๆบิลเกตยังอาจเเพ้ใจ กับการบริจาคเงินอันเป็นของคนอื่น(ของผู้ฝากเงินสหกรณ์) ไปทำบุญครั้งละเป็นพันล้านบาท ติดตามค้นหาความจริงจากเเค่จากจุดนี้จุดเดียว รับรองจะพบขบวนการอันน่าพิศวงระดับพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินกันเลยครับ ว่าเเต่ ปปง สตช ดีเอสไอ ต้องวิ่งไล่ตามนักข่าวสืบสวนสอบสวนอิศราให้ได้นะครับ ไม่งั้นเสียชื่อหมด โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ เเละกระทรวงยุติธรรมที่อุตส่าห์มีรองปลัดกระทรวงเอาตำแหน่งเเละเงินเดือนไปประกันตัวผู้ต้องหารายนี้จากศาล
กู้เงินทำบุญ !!! หลายท่านคงงงกันเลยทีเดียว่ามันมีกันด้วยเหรอ มีสิฮะ
สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี ("ประธานสหกรณ์"เดียวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ยักยอกเงิน) ได้ออกโครการ สินเชื่อเพื่อการทำบุญหล่อทองคำรูปเหมือน “ พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ มุ นี ”
โดยให้กู้กับสมาชิกสหกรณ์ที่สะสมหุ้นรายเดือน วงเงินกู้ 15,000-150,000 บาท ผ่อนชำระ 15-30 เดือน
ซึ่งการกู้จะไม่ได้เงิน ???!! แต่ได้คูปอง ???!!! ที่เอาไปทำบุญหล่อพระกับวัดธรรมกายได้อย่างเดียว โดยเสียดอกเบี้ย 12% ต่อปี จะบอกว่า เป็นลูกศิษย์ทำกันเอง ธรรมกายไม่เกี่ยวไม่ได้หรอก เพราะ เมื่อกู้แล้วคนกู้ไม่ได้เงินแต่ได้คูปอง แล้วต้องเอาคูปองไปให้ที่วัด คือปกติเอาคูปองอะไรไม่รู้ไปให้วัดนี่วัดจะรับมั้ย ถ้าวัดไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย
http:www.isranews.org/investigative/invest-slide/item/36753-inves01_36753.html#.VOx9zEI9lAg.facebook
http:www.isranews.org/investigative/invest-slide/item/36753-inves01_36753.html#.VOx9zEI9lAg.facebook