GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ธรรมกายกำลังทำลายศาสนา



เขียนถึงธรรมกายได้ดีมากอยากให้หลายๆ คนได้อ่านว่าธรรมกายกำลังทำลายศาสนาของเรายังไงบ้าง

พระลิขิตพระสังฆราชชี้ชัด "ธัมมชโย" ปาราชิกจี้รัฐจัดการ !!!!!
โพสต์ทูเดย์ออนไลน์
กมธ.ศาสนา สปช. ชี้ธัมมชโยเป็นปาราชิกตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช
คำสั่งลุงตู่ ให้ รมต.ที่รับผิดชอบ กำกับดูแล เรื่องวัด/พระ บิดเบือนคำสอน ของพระพุทธเจ้า และ พระ/วัด ที่ร่ำรวยผิดปกติ ต้องติดตามอย่ากระพริบตา เรื่องนี้ ทำไม่ยาก ใช้แค่ความกล้าหาญ ปัญหาการดำเนินงานของวัดพระธรรมกาย ที่กระทบกระเทือนต่อวงการพระศาสนา คือประเด็นที่เกี่ยวข้อง กับคำสอน ซึ่งบิดเบือนพระธรรมวินัย พระลิขิตซึ่งเป็นพระบรมราชวินิจฉัย ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชมี ความชัดเจน
"ความบิดเบือนพระพุทธธรรมคำสอน โดยกล่าวหาว่า พระไตรปิฎกบกพร่อง เป็นการทำให้สงฆ์ที่หลงเชื่อ คำบิดเบือน แตกแยกออกไปกลายเป็นสอง มีความเข้าใจ ความเชื่อถือพระพุทธศาสนา ตรงกันข้าม เป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ทำสงฆ์ให้แตกแยกเป็น อนันตริยกรรม มีโทษ ทั้งปัจจุบันและอนาคตที่หนัก"
ในประเด็นของคำสอน ที่มีการบิดเบือนพระธรรมวินัย กรณีธรรมกายของพระพรหมคุณากรณ์ (ป.อ. ปยุตโต) ได้แก่ประเด็นดังต่อไปนี้
1. สอนว่านิพพานเป็นอัตตา
2. สอนเรื่องธรรมกายอย่างเป็นภาพนิมิต และให้มีธรรมกาย ที่เป็นตัวตนเป็นอัตตาของพระพุทธเจ้ามากมาย หลายพระองค์ ไปรวมกันอยู่ในอายตนนิพพาน
3. สอนเรื่องอายตนนิพพาน ให้เข้าใจผิดต่อนิพพาน เหมือนเป็นดินแดน ที่จะเข้าสมาธิไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ได้ถึงกับมีพิธีถวายข้าวพระ ที่จะนำข้าวบูชาไปถวาย แด่พระพุทธเจ้าในอายตนนิพพานนั้น
คำสอนเหล่านี้ ทางสำนักสายวัดพระธรรมกาย คิดขึ้นใหม่ แทนที่หลักคำสอนเดิมที่แท้ของพระพุทธศาสนา จ้วงจาบพระธรรมวินัย ชักจูงให้คนเข้าใจผิด สับสน หรือแม้แต่ลบหลู่พระไตรปิฎกบาลี ที่เป็นหลักของพระพุทธศาสนาเถรวาท เช่น ให้เข้าใจว่าพระไตรปิฎกบาลี บันทึกคำสอนไว้ตกหล่น หรือมีฐานะเป็นเพียง ความคิดเห็นอย่างหนึ่ง เชื่อถือหรือใช้เป็นมาตรฐานไม่ได้ ให้นำเอาพระไตรปิฎกฉบับอื่นๆ เช่น พระไตรปิฎกภาษาจีน และคำสอนอื่นๆ ภายนอกมาร่วมวินิจฉัย พระพุทธศาสนาเถรวาท และให้เข้าใจเขวไปว่า หลักการ ของพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องอภิปรัชญา ขึ้นต่อการตีความ และความคิดเห็น ตลอดจนการถกเถียงทางวิชาการ โดยอ้าง คัมภีร์ของมหายาน และทัศนะของนักวิชาการตะวันตก
นอกจากนั้นยังนำคำว่า "บุญ" มาใช้ในลักษณะ ที่ชักจูงประชาชนให้วนเวียน จมอยู่กับการบริจาคทรัพย์ เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ชนิดที่ส่งเสริมความยึดติด ถือมั่นในตัวตนและในตัวบุคคล อันอาจกลายเป็นแนวโน้ม ที่บั่นทอนสังคมไทยในระยะยาว พร้อมทั้งทำพระธรรมวินัยให้ลางเลือนไปด้วย พฤติการณ์ของสำนัก วัดพระธรรมกายอย่างนี้ เป็นการจาบจ้วง ลบหลู่ ย่ำยีพระธรรมวินัย สร้างความ สับสนไขว้เขวและความหลงผิดแก่ประชาชน
คำสอนสุดอุบาทว์ ว่า ระหว่างรวย จน ไม่รวยไม่จน เราก็ต้องเลือกรวยเอาไว้ก่อน เพราะรวยทำให้เราสามารถทำทานบารมี ไปจนถึงที่สุดแห่งธรรมได้ สอนให้ใจไปยึดติดแต่ความสุขจอมปลอม สอนให้ยึดความรวย เป็นเป้าหมาย คำสอนเน้นๆแต่เรื่องให้ทำทาน ยิ่งมากยิ่งบุญเยอะ ให้จิตเกิดปิติแล้วอธิษฐานจิตให้รวย ทุกคนมีเป้าหมายในชีวิต คือต้องรวยมากๆจะได้สามารถ ทำทานบารมีให้เต็มที่ ตายไปต้องได้ไปอยู่ดุสิตบุรีแน่นอน ถ้าไปเกิดอีกก็จะได้เป็นคนรวย



ชาวบ้านนครปฐม เดินม็อบต่อต้านคัดค้านการสร้างวิหารวัดบางปลา ของลัทธิธรรมเก๊ เกย์ เพราะไม่ต้องการให้มนุษย์ต่างดาวมาเพ่นพ่านแถวนั้น ใครอยากรู้ว่าอัตราค่าใช้จ่ายขึ้นสวรรค์แต่ละชั้นนั้น มีค่าใช้จ่าย ที่ลัทธิจานบินเรียกสินบน กับผู้ทำบุญ ในอัตราเท่าไร ดูในภาพที่ 4
ส่วนที่เชียงใหม่ มีคนแสดงออกต่อต้านปูข้าวเน่า นารีขี่ศพชาวนา ดังแนบ แต่ไม่อยากให้ใช้วิธีพ่นสีแบบนี้ เพราะทำให้บ้านเมืองไม่สะอาด น่าจะพิจารณาวิธีต่อต้านปูข้าวเน่า และคนในเครือข่าย ด้วยวิธีอื่นแทน ที่ทำให้บ้านเมืองเป็นระเบียบ
เช่น การใช้เสียง และอาการแสดงการรังเกียจเดียดฉันท์ทางสังคม ไม่มอง ไม่เข้าใกล้ ไม่สนใจ ไม่คบหา ทดแทน
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup
๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘....................
"..........ตอนนี้วัดพระธรรมกายกำลังจะคืนเงินที่ได้รับบริจาคจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน กว่า ๗๐๐ ล้านบาท หลังจำนนต่อหลักฐาน เนื่องจาก ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และพบว่ามีการออกเช็คให้บริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ประกันภัย จำกัด จำนวน ๔ ฉบับ รวมเป็นเงินเกือบ ๔๐๐ ล้านบาท สั่งจ่ายวัดพระธรรมกายจำนวน ๑๕ ฉบับ รวมเป็นเงิน ๗๑๔ ล้านบาท และ............"
อืมมมมม...!ผมอ่านข่าวที่ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาฯ ปปง. แถลงผลตรวจสอบทรัพย์สิน "นายศุภชัย ศรีศุภอักษร" อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ยักยอกเงินสหกรณ์ไปกว่า ๑๒,๔๐๒ ล้าน ด้วยความปลื้ม "ธัมมชโย" ด้วย เมื่อถูกจับได้คาคอ เลยต้องขย้อนคายออก บอก ปปง....จะคืน ๗๐๐ กว่าล้านนั้นให้นะจ๊ะ!  คำว่า "คืน" แสดงถึงจงใจเอาของเขาไปแล้ว เมื่อถูกจับได้ ก็คืนของกลาง ลักษณะนี้ ทางกฎหมายบ้านเมืองกับกฎหมายสงฆ์คือพระวินัย "เหมือนกัน"
ความผิดเกิดขึ้นแล้ว ถึงคืน "ทางกฎหมาย" ก็ติดคุก ทาง "พระวินัย" อาบัติขั้นปาราชิกแล้ว! เกิดจากท้องพ่อ-ท้องแม่ ไม่เคยเห็น "บุญเจ้าเล่ห์" อย่างนายศุภชัย นี่คือการยักยอกโดยสุจริตหรือไฉน ยักยอกได้มาแล้ว แบ่งปันถวายซาตานซุกศาสนาทีละร่วมพันล้าน? ต่อให้อมควายทั้งฝูงมาพูดก็ไม่เชื่อว่า....นี่ไม่ใช่การ "รู้เห็นเป็นใจ" โกงได้มาเท่าไหร่ ก็ใช้คำว่า "บุญ" ฟอกเงินโจร เป็นเงินพระ-เงินวัด? เมื่ออ่านข่าวขบวนการซาตานนี้แล้ว ก็อดนึกย้อนไปเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๙ ไม่ได้...ในสมัยทักษิณ "ศิษย์เอกธรรมกาย" เป็นนายกฯ ตอนนั้น ด้วยคดียักยอกเงินวัดและทรัพย์สินวัดเกือบพันล้าน    ขาข้างหนึ่งของธัมมชโยเข้าไปอยู่ในตะรางแล้ว เหลือสืบพยานแค่ ๒ ปาก ศาลก็จะตัดสิน อีกทั้ง "สมเด็จพระญาณสังวร" มีพระลิขิตเป็นฉบับที่ ๓ ชี้โทษทางวินัยธัมมชโยไว้ชัดแจ้งแล้วว่า..............“ไม่คิดให้มีโทษ เพราะคิดในแง่ยกประโยชน์ให้ ว่าในขั้นต้นอาจมิใช่มีเจตนาถือเอาสมบัติของวัดเป็นของตนจริงๆ แต่เมื่อถึงอย่างไรก็ไม่ยอมมอบคืนสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัด ก็แสดงชัดแจ้งว่า ต้องอาบัติปาราชิก ต้องพ้นจากความเป็นสมณะโดยอัตโนมัติ ต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับผู้ไม่ใช่พระ ปลอมเป็นพระ ด้วยการนำผ้ากาสาวพัสตร์ไปครอง ทำความเศร้าหมองเสื่อมเสียให้เกิดแก่สงฆ์ในพระพุทธศาสนา”  นั่นคือ ทางพระวินัยอันเป็นกฎหมายสงฆ์ ธัมมชโยต้องโทษ "ปาราชิก" สิ้นสภาพความเป็นพระแล้ว ด้วยเอาทรัพย์ผู้อื่นเกิน ๕ มาสก เท่ากับ ๑ บาทขึ้นไป ดังนั้น ไม่ว่าศาลจะตัดสินแบบไหน หรือไม่ตัดสิน ในความเป็นพระสงฆ์ของ "ธัมมชโย" ถือว่าสิ้นสภาพแล้ว! ขณะนี้ ธัมมชโย ด้วยสถานภาพจริงทางพระพุทธศาสนา มีสถานะเป็นฆราวาส เป็น "นายไชยบูลย์ สิทธิผล"ไม่ใช่ "ธัมมชโย ภิกษุ" ดังปลอมแปลงเป็น สถานะขณะนี้ คือซาตาน ซ่อนตัวในคราบเสื้อคลุมเหลือง-หัวโล้น กัดเซาะ-ชอนไช "รากแก้ว-รากแก่น" พระพุทธศาสนา ด้วยบิดเบือนพระธรรมคำสั่งสอนพระพุทธองค์ และทั้งรูปแบบ เช่นดัดแปลงผ้ากาสาวพัสตร์เป็นเสื้อแขนกระบอกย้อมเหลือง สงสัยนุ่งชั้นในด้วยซ้ำ มีวัตรปฏิบัติวิปริตผิดสงฆ์ เบื้องหน้า-และเบื้องหลัง "ซ่อนเล่ห์" ลึกลับ ยากหยั่งถึง!  เอานรก-สวรรค์หลอกขายแลกเงินชาวบ้าน พฤติกรรมเชื่อมขบวนการคาบเกี่ยวกฎหมาย เป็นวิธีการของซาตาน กัดกร่อนหวังเปลี่ยนแก่นธรรมแห่งพุทธะ ไปเป็นลัทธินิกายใหม่เฉพาะตน คล้ายเมื่อครั้งพระบรมศาสดาเจ้าปรินิพพานแล้ว ซาตานนอกศาสนา ก็แปลกปลอมเข้ามาอาสัยคราบพระในพุทธศาสนาหากินบ้าง บิดเบือนคำสอนพระพุทธองค์ไปเป็นของตนบ้าง กระทั่งโค่นทำลาย ยึดศาสนวัตถุ "วัด-ที่ดิน" แล้วแปลงให้เพี้ยน-พิเรนทร์เป็นลัทธิ-นิกายของตนได้ในที่สุด!
แต่ ถึง ณ วันนี้...........!ที่นายไชยบูลย์ยังอาศัยผ้าเหลืองคลุมร่างว่าเป็นพระสงฆ์ เป็นธัมมชโย "ลวงโลก" อยู่ได้
นั่นเพราะด้วย "อภินิหารทักษิณ" เพราะสมัยนั้น ความเป็นนายกฯ ของทักษิณ มีอำนาจปานสยบฟ้า-สยบดิน ดังที่ทราบกันอยู่
ก็ขนาดทำให้อัยการในยุค "นายพชร ยุติธรรมดำรง" ซึ่งเป็นโจทก์ ต้องขอถอนฟ้องคดีธัมมชโยต่อศาลได้นั่นแหละ
สืบพยานไปแล้ว ๗ ปี เหลืออีก ๒ ปาก ก็จะตัดสินวันนี้-วันพรุ่ง ถึงวันที่ ๒๑ สิงหา ๔๙ จู่ๆ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา ๕ ก็ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาล
".................ปรากฏว่าจำเลยที่ ๑ กับพวกได้มอบทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งมีทั้งที่ดินและเงินจำนวน ๙๕๙,๓๐๐,๐๐๐ บาท คืนให้แก่วัดพระธรรมกาย การกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ ๑ กับพวก จึงเป็นการปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ครบถ้วนทุกประการแล้ว
............................ฯลฯ.......................
อัยการสูงสุด (นายพชร ยุติธรรมดำรง) จึงมีคำสั่งให้ถอนคดีนี้ ดังนั้น โจทก์จึงขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีนี้ทุกข้อกล่าวหา ขอศาลโปรดอนุญาต.....ฯลฯ"
จำเลยที่ ๑ คือ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือ พระไชยบูลย์ ธัมมชโย หรือ นายไชยบูลย์ สิทธิผล เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และนายถาวร พรหมถาวร ลูกศิษย์คนสนิท จำเลยที่ ๒
ครับ....รอยเกวียนย่อมทับรอยโค ฉันใด รอยตีนซาตานย่อมทับรอยตีนโจร ฉันนั้น ๒ คดียักยอก มันบอกถึงรอยซ้ำรอย
เอาบุญ-เอาสวรรค์ มาหลอกขาย...โยมจ๊ะ..โยมจ๋า หนึ่งเอ็ม-สองเอ็ม ตามภาษาของเขา เป็นการสะสมทุน ขยายแผนสู่เป้าหมาย ทั้งในและนอกประเทศ ฝ่ายซาตานเหลี่ยม มุ่งตีราชอาณาจักร หวังล้มสถาบัน เปลี่ยนระบอบเป็นแดงทั้งแผ่นดิน
ฝ่ายซาตานเหลือง มุ่งตีพุทธจักร หวังล้มเถรวาทไทย ครอบงำ-ยึดวัดเปลี่ยนเป็นลัทธิแดงธรรมกายทั้งแผ่นดิน!  ประเด็นที่สังคมตื่นรู้ ควรทำความเข้าใจให้ตรงจุด ในการบริหารทุกวันนี้ ประเทศไทยไม่ได้มี ครม.เดียว หากแต่มี ๒ ครม. คือ ครม.รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ทำหน้าที่บริหารประเทศ และ ครม.มหาเถรสมาคม ทำหน้าที่บริหารคณะสงฆ์
จะจัดระเบียบวัดธรรมกาย และซาตานที่ซ่อนอยู่ในร่างธัมมชโย ครม.พลเอกประยุทธ์ จัดการไม่ได้เต็มที่และโดยตรง
ต้อง "ครม.มหาเถรสมาคม" ที่ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์วัดปากน้ำภาษีเจริญ ในฐานะประธานกรรมการมหาเถรสมาคมเท่านั้น จะจัดระเบียบวัดธรรมกายได้  และสั่งการให้ธัมมชโยมีสภาพเป็นไปตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช "สมเด็จพระญาณสังวร" คือ "จับ ธัมมชโยสึก" นั่นแหละ เปลื้องผ้าเหลืองออกไป ไม่ให้ซ่อนคราบนายไชยบูลย์ อยู่ในคราบพระ ซุกวัด ทำสังฆกรรมให้วิบัติอยู่อย่างนี้ก็มาถึงคำถามที่ทุกคนอยากถาม.............! "แล้วทำไมมหาเถรสมาคมปล่อยธัมมชโย-ธรรมกายให้เป็นอยู่ในสภาพทุกวันนี้ได้?" ผมจะไม่เฉลย อยากให้สภาพทุเรศเป็นตัวสะท้อนความ "เก้อยาก" เพียงอยากบอกว่า....รูปแบบที่ทางโลกทำนุบำรุงคนในศาสนาวันนี้ทำนุบำรุงให้ "หนา"จึงหนักบ่า-หนักใจ กับทุกฝ่ายในสังคมชาติ!
และในความเป็นมหาเถรสมาคม ผู้บริหารสงฆ์ทั้งประเทศในยุค "ทุนวัตถุ" วันนี้ สังคมชาวบ้าน "รู้เท่าที่เห็น" นั่นน่ะ...ดีแล้ว
อย่าไปรู้ "ในสิ่งที่เป็น" เลย เชื่อผมเถอะ!
ประเด็นธรรมกายนี้ ถ้ามหาเถรสมาคมเห็นแก่พระพุทธศาสนา "มากกว่า" เห็นแก่ธรรมกายผู้จะแปลง "มหานิกาย-ธรรมยุต" รวมไปเป็น "แดงธรรมกาย" ทั้งแผ่นดิน ขอพระเดชพระคุณเจ้า จงทำหน้าที่ "ครม.สงฆ์" ให้เป็นไปตามพระธรรม-วินัย กำจัดด้วงหนอนที่ชอนไชรากแก้ว-รากแก่นพระพุทธศาสนา ให้สมที่พุทธศาสนิกชนศรัทธา-ปสาทะ ด้วยเถิด ผมไม่อยากได้ยินใครพูดว่า "มหาเถรสมาคมเป็นใจ" หรือกระทั่งว่า "ธรรมกาย-ธัมมชโย เด็กสร้างของมหาเถรสมาคม" พอๆ กับที่ผมไม่อยากได้ยินคำนี้จากปากทักษิณ แต่ก็เคยได้ยินกะหู....."ผมจะทำให้ธรรมกายเหมือนเมกกะ"!

MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY