By Paisal Puechmongkol
บทวิเคราะห์ถึงเนื้อในกลวงของระบอบทักษิน
หมื่นทิวา พันราตรี
***ระบอบทักษิณ กำลังมัดคอตัวเอง ... ดาบนั้นคืนสนอง (แพ้ภัยตัวเอง)***
๑.จากภาพของการชุมนุมของกลุ่มพี่น้องเสื้อแดง ที่โคราช พบว่า
๑.๑. ระบบจำนำข้าว “ประชานิยมกลุ่มรากหญ้า” ทำพิษจริงๆ เสียมวลชนมหาศาล พลพรรคเสื้อแดงมาน้อยเกินคาด จนแกนนำต้องประเมินสถานการณ์ใหม่ บทปลุกระดมที่เตรียมไว้ต้องเปลี่ยนโพยกลางอากาศ แต่ลืมแจ้งโพยที่เปลี่ยนให้กับสมาชิกที่ต้องขึ้นมาพูด เลยมีการผิดคิว ผสมเล่นนอกบทให้เห็น (Over Action) สรุป แผนที่จะยกพล เข้ากรุง ต้องยกเลิกไปเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา
๑.๒. กว่า ๙๐ % บอกได้เลยว่าจ้างมา ที่เหลือ ถูกหลอกมา ถูกบังคับ และมาแบบงงๆ ที่มาร่วมเพราะมีอุดมการณ์จริงๆ ไม่ถึง ๑% (ขนาดให้ สส.เผาไทย ทั้งกวาดทั้งต้อนมายังมาได้แค่นี้)
๒.ระบบ คอรัปชั่น กินหัวคิว หรือ ต้องมีผลประโยชน์ ที่เคยปลูกฝังไว้ ย้อนกลับมาหา แม้ว ในทุกๆภาระกิจ
๒.๑. ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมครั้งไหนๆ แกนนำกินหัวคิวเป็นทอดๆ แม้วจ่ายหัวละ ๕๐๐ – ๑,๐๐๐ บาทมาถึงมือผู้รับจริงๆ ไม่ถึง ๓๐๐ บาท หรือน้อยกว่านั้น บางกลุ่มที่เคยมาเพราะเกรงบารมีอิทธิพล ส.ส. โดยไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว การชุมนุมในปัจจุบัน มวลชนส่วนนี้จึงพยายาม “หลบได้ หลบ...หนีได้ หนี”
๒.๒. เพราะระบอบทุนทักษิณ ว่าด้วย “เงินเป็นหลัก” แกนนำหลายคนทำให้เห็นเองว่า... “สู้แล้วรวย”... คนอื่นๆเลยเอาอย่าง เพราะฉะนั้น ไอ้ที่ว่าจะมาด้วยใจ ไม่มีแล้ว สังเกตได้จากการชุมนุมแต่ละครั้ง “มาเร็ว ไปเร็ว” ถ้าจะให้อยู่ต่อต้องจ่าย OT.พูดง่ายๆ...“เงินไม่มา งานไม่เดิน”....ล่าสุด MOB เสื้อแดง ปิด ปปช. ประกาศว่าจะมาเป็นแสน ที่ไหนได้ ๒๐๐ คนยังไม่ถึง (จะเรียกว่าMOB ยังอายปาก) แต่เชื่อเหอะ...ลืมเติมเงินเมื่อไหร่กลับทันที!!...(สังเกตให้ดี ไม่มีแกนนำแถวหน้าให้เห็นในการปิด ปปช. ครั้งนี้...สงสัยค่าตัวไม่ถึง)
๒.๓. เพราะระบอบทุนทักษิณ ว่าด้วยเรื่อง “เงินและผลตอบแทน” ทำให้ กองกำลังติดอาวุธที่แม้วตั้งมา ต้องทบทวนว่า“ค่าจ้างเริ่มไม่คุ้ม” เพราะครั้งนี้ ไม่ได้รบกับทหารเหมือนอย่างปี ๕๓ แต่ปีนี้เจอพี่ๆ Popcorn ที่รบแบบกองโจร(รบนอกแบบ) แม้แต่ตะกวดแท้ๆ ยังเผ่นป่าราบ ณ ราชดำเนินมาแล้ว(เป็นอีกความอัปยศของวงการตะกวดไทย) ครั้งนี้กองโจรติดอาวุธของแม้วมาเจอ ..“กองโจร VS กองโจร”...ที่ไม่มีความเมตตา...ไม่มีเงื่อนไขทางกฎหมาย ไม่เหมือนทหาร(ทหารจะทำอะไรตาต่อตาฟันต่อฟัน ก็ลำบากติดขัดไปหมด) แต่พี่ๆ Popcorn ที่มียุทธวิธีและผ่านการรบนอกแบบมาโดยตรง(ศิษย์มีครู) แถมเป็นฝ่ายตั้งรับในที่ตั้ง วางแนวระวังป้องกันดักซุ่มไว้หลายชั้น ล่าสุดคืนวันที่ ๒๕ก.พ.๕๗ ถูกล่อมาเข้าพื้นที่สังหาร...เจอสอนมวยกลับไป...เลยต้องคิดแล้วคิดอีก จะคุ้มมั๊ยกับค่าจ้าง (ข่าวว่ากำลังเจรจาขึ้นค่าตัวกันอยู่) ดังนั้น กองกำลังติดอาวุธ ที่แกนนำคุยโม้ว่าจะใหญ่โตมโหฬาร จึงเป็นได้แค่เพียง...ฝูงหมาลอบกัด..รังแก“เด็กกับผู้หญิง” ไปวันๆ แถมลดจำนวนลงเรื่อยๆ
๒.๔. เพราะระบอบทุนทักษิณ ว่าด้วย “ระบบอุปถัมภ์” พวกใครพวกมัน เสื้อแดงแต่ละกลุ่มก็มีผู้นำของตัวเอง แข่งกันเอาหน้า ให้เข้าตานายใหญ่ ไม่มีใครมีสิทธิบัญชาการเด็ดขาด ต่างก็คิดว่า กูก็สายตรงนายใหญ่เหมือนกัน จึงเริ่มมีการ ตัดขากันเอง ในทุกๆระดับ จึงเห็นการเดินเกมที่ไม่เป็นเอกภาพ เล่นนอกบท ,ทำเกินสั่ง,
ปิดปากกันเอง ,เปลี่ยนม้ากลางศึก ,เสร็จศึกฆ่าขุนพล ฯลฯ หลายคนเริ่มกลัวจะเป็นอย่างเสธ แดง ที่พลาดเล่นนอกบทคิดว่า นายรัก เป็นสายตรงนายใหญ่ สุดท้ายตาย...ข้อหาห้ามแล้วไม่ฟัง (นึกดูดีๆ ช่วงที่เสธแดงถูกยิงตาย ขณะนั้นไม่มีแกนนำคนไหนอยู่ใกล้ๆ ในขณะเกิดเหตุ ไม่มีแม้แต่การปราศรัยขึ้นเวทีด้วยซ้ำ พูดตรงๆคือรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุกับเสธแดง เลยพากันหลบไปก่อน)
***๒.๕. กระแส แบ่งแยกประเทศ (ข้อนี้สำคัญที่สุด) ทำให้พรรคที่เคยร่วมรัฐบาล และข้าราชการ บิ๊กๆ รู้แล้วว่า นายกำลังจะทิ้งกู เริ่มลังเล…“ประเทศใหม่ของมึง กูจะไปอยู่ตรงไหน”....จับตาดู เมือง“บรรหารบุรี”เสื้อแดงตอนนี้แทบไม่มีบทบาท พรรคไอ้เตี้ย กำลังพยายามหาจุดยืนใหม่ เริ่มเกาะกระแส.. “รักชาวนา” เหมือนนางงามรักเด็ก..(ทั้งๆที่ พรรคไอ้เตี้ย เป็นฝ่ายยกมือสนับสนุนสุดตัว โครงการจำนำข้าว) ดังนั้น กระแสแบ่งแยกประเทศยิ่งแรง แนวร่วมยิ่งลดลง กลุ่มข้าราชการประจำ ไม่เล่นด้วยแน่ ธาริตฯ ,อดุลย์ฯ ,ภาราดรฯ แม้แต่เป็ดเหลิม ก็เริ่มหนาว
ยิ่งกลุ่มธุรกิจไม่ต้องพูดถึง ยังต้องทำมาหากินในเมืองไทยอีกนาน เพราะ แม้วเล่นแรงเกินเหตุ เปิดไพ่เร็วเกินไป ขืนร่วมลงเรือไปด้วย จะพากันไม่มีแผ่นดินจริงๆ ทีนี้แหละ “กบฏ” จริงๆ ไม่มีของปลอม ไม่มีของเทียม
สุดท้ายนี้ นึกถึงคำพูดของ ทักษิณฯ เคยบอกว่า “แพ้ใครไม่เป็น” คงจริง เพราะ ตอนนี้กำลัง “แพ้ภัยตัวเอง”…..เออ กูเริ่มเชื่อมึงแล้ว ไอ้แม้ว
หมื่นทิวา พันราตรี
***ระบอบทักษิณ กำลังมัดคอตัวเอง ... ดาบนั้นคืนสนอง (แพ้ภัยตัวเอง)***
๑.จากภาพของการชุมนุมของกลุ่มพี่น้องเสื้อแดง ที่โคราช พบว่า
๑.๑. ระบบจำนำข้าว “ประชานิยมกลุ่มรากหญ้า” ทำพิษจริงๆ เสียมวลชนมหาศาล พลพรรคเสื้อแดงมาน้อยเกินคาด จนแกนนำต้องประเมินสถานการณ์ใหม่ บทปลุกระดมที่เตรียมไว้ต้องเปลี่ยนโพยกลางอากาศ แต่ลืมแจ้งโพยที่เปลี่ยนให้กับสมาชิกที่ต้องขึ้นมาพูด เลยมีการผิดคิว ผสมเล่นนอกบทให้เห็น (Over Action) สรุป แผนที่จะยกพล เข้ากรุง ต้องยกเลิกไปเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา
๑.๒. กว่า ๙๐ % บอกได้เลยว่าจ้างมา ที่เหลือ ถูกหลอกมา ถูกบังคับ และมาแบบงงๆ ที่มาร่วมเพราะมีอุดมการณ์จริงๆ ไม่ถึง ๑% (ขนาดให้ สส.เผาไทย ทั้งกวาดทั้งต้อนมายังมาได้แค่นี้)
๒.ระบบ คอรัปชั่น กินหัวคิว หรือ ต้องมีผลประโยชน์ ที่เคยปลูกฝังไว้ ย้อนกลับมาหา แม้ว ในทุกๆภาระกิจ
๒.๑. ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมครั้งไหนๆ แกนนำกินหัวคิวเป็นทอดๆ แม้วจ่ายหัวละ ๕๐๐ – ๑,๐๐๐ บาทมาถึงมือผู้รับจริงๆ ไม่ถึง ๓๐๐ บาท หรือน้อยกว่านั้น บางกลุ่มที่เคยมาเพราะเกรงบารมีอิทธิพล ส.ส. โดยไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว การชุมนุมในปัจจุบัน มวลชนส่วนนี้จึงพยายาม “หลบได้ หลบ...หนีได้ หนี”
๒.๒. เพราะระบอบทุนทักษิณ ว่าด้วย “เงินเป็นหลัก” แกนนำหลายคนทำให้เห็นเองว่า... “สู้แล้วรวย”... คนอื่นๆเลยเอาอย่าง เพราะฉะนั้น ไอ้ที่ว่าจะมาด้วยใจ ไม่มีแล้ว สังเกตได้จากการชุมนุมแต่ละครั้ง “มาเร็ว ไปเร็ว” ถ้าจะให้อยู่ต่อต้องจ่าย OT.พูดง่ายๆ...“เงินไม่มา งานไม่เดิน”....ล่าสุด MOB เสื้อแดง ปิด ปปช. ประกาศว่าจะมาเป็นแสน ที่ไหนได้ ๒๐๐ คนยังไม่ถึง (จะเรียกว่าMOB ยังอายปาก) แต่เชื่อเหอะ...ลืมเติมเงินเมื่อไหร่กลับทันที!!...(สังเกตให้ดี ไม่มีแกนนำแถวหน้าให้เห็นในการปิด ปปช. ครั้งนี้...สงสัยค่าตัวไม่ถึง)
๒.๓. เพราะระบอบทุนทักษิณ ว่าด้วยเรื่อง “เงินและผลตอบแทน” ทำให้ กองกำลังติดอาวุธที่แม้วตั้งมา ต้องทบทวนว่า“ค่าจ้างเริ่มไม่คุ้ม” เพราะครั้งนี้ ไม่ได้รบกับทหารเหมือนอย่างปี ๕๓ แต่ปีนี้เจอพี่ๆ Popcorn ที่รบแบบกองโจร(รบนอกแบบ) แม้แต่ตะกวดแท้ๆ ยังเผ่นป่าราบ ณ ราชดำเนินมาแล้ว(เป็นอีกความอัปยศของวงการตะกวดไทย) ครั้งนี้กองโจรติดอาวุธของแม้วมาเจอ ..“กองโจร VS กองโจร”...ที่ไม่มีความเมตตา...ไม่มีเงื่อนไขทางกฎหมาย ไม่เหมือนทหาร(ทหารจะทำอะไรตาต่อตาฟันต่อฟัน ก็ลำบากติดขัดไปหมด) แต่พี่ๆ Popcorn ที่มียุทธวิธีและผ่านการรบนอกแบบมาโดยตรง(ศิษย์มีครู) แถมเป็นฝ่ายตั้งรับในที่ตั้ง วางแนวระวังป้องกันดักซุ่มไว้หลายชั้น ล่าสุดคืนวันที่ ๒๕ก.พ.๕๗ ถูกล่อมาเข้าพื้นที่สังหาร...เจอสอนมวยกลับไป...เลยต้องคิดแล้วคิดอีก จะคุ้มมั๊ยกับค่าจ้าง (ข่าวว่ากำลังเจรจาขึ้นค่าตัวกันอยู่) ดังนั้น กองกำลังติดอาวุธ ที่แกนนำคุยโม้ว่าจะใหญ่โตมโหฬาร จึงเป็นได้แค่เพียง...ฝูงหมาลอบกัด..รังแก“เด็กกับผู้หญิง” ไปวันๆ แถมลดจำนวนลงเรื่อยๆ
๒.๔. เพราะระบอบทุนทักษิณ ว่าด้วย “ระบบอุปถัมภ์” พวกใครพวกมัน เสื้อแดงแต่ละกลุ่มก็มีผู้นำของตัวเอง แข่งกันเอาหน้า ให้เข้าตานายใหญ่ ไม่มีใครมีสิทธิบัญชาการเด็ดขาด ต่างก็คิดว่า กูก็สายตรงนายใหญ่เหมือนกัน จึงเริ่มมีการ ตัดขากันเอง ในทุกๆระดับ จึงเห็นการเดินเกมที่ไม่เป็นเอกภาพ เล่นนอกบท ,ทำเกินสั่ง,
ปิดปากกันเอง ,เปลี่ยนม้ากลางศึก ,เสร็จศึกฆ่าขุนพล ฯลฯ หลายคนเริ่มกลัวจะเป็นอย่างเสธ แดง ที่พลาดเล่นนอกบทคิดว่า นายรัก เป็นสายตรงนายใหญ่ สุดท้ายตาย...ข้อหาห้ามแล้วไม่ฟัง (นึกดูดีๆ ช่วงที่เสธแดงถูกยิงตาย ขณะนั้นไม่มีแกนนำคนไหนอยู่ใกล้ๆ ในขณะเกิดเหตุ ไม่มีแม้แต่การปราศรัยขึ้นเวทีด้วยซ้ำ พูดตรงๆคือรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุกับเสธแดง เลยพากันหลบไปก่อน)
***๒.๕. กระแส แบ่งแยกประเทศ (ข้อนี้สำคัญที่สุด) ทำให้พรรคที่เคยร่วมรัฐบาล และข้าราชการ บิ๊กๆ รู้แล้วว่า นายกำลังจะทิ้งกู เริ่มลังเล…“ประเทศใหม่ของมึง กูจะไปอยู่ตรงไหน”....จับตาดู เมือง“บรรหารบุรี”เสื้อแดงตอนนี้แทบไม่มีบทบาท พรรคไอ้เตี้ย กำลังพยายามหาจุดยืนใหม่ เริ่มเกาะกระแส.. “รักชาวนา” เหมือนนางงามรักเด็ก..(ทั้งๆที่ พรรคไอ้เตี้ย เป็นฝ่ายยกมือสนับสนุนสุดตัว โครงการจำนำข้าว) ดังนั้น กระแสแบ่งแยกประเทศยิ่งแรง แนวร่วมยิ่งลดลง กลุ่มข้าราชการประจำ ไม่เล่นด้วยแน่ ธาริตฯ ,อดุลย์ฯ ,ภาราดรฯ แม้แต่เป็ดเหลิม ก็เริ่มหนาว
ยิ่งกลุ่มธุรกิจไม่ต้องพูดถึง ยังต้องทำมาหากินในเมืองไทยอีกนาน เพราะ แม้วเล่นแรงเกินเหตุ เปิดไพ่เร็วเกินไป ขืนร่วมลงเรือไปด้วย จะพากันไม่มีแผ่นดินจริงๆ ทีนี้แหละ “กบฏ” จริงๆ ไม่มีของปลอม ไม่มีของเทียม
สุดท้ายนี้ นึกถึงคำพูดของ ทักษิณฯ เคยบอกว่า “แพ้ใครไม่เป็น” คงจริง เพราะ ตอนนี้กำลัง “แพ้ภัยตัวเอง”…..เออ กูเริ่มเชื่อมึงแล้ว ไอ้แม้ว
Wassana Nanuam
น้องชาย บิ๊กตู่ ...take action....
แม่ทัพภาค 3 สั่ง จทบ.เชียงใหม่- พะเยาแจ้งความข้ อหากระทำผิดกฎหม ายป.อาญา มาตรา 113, 114 เผย สปป.ล้านนา ตั้งชื่อแบบ รัฐใหม่ จับตาพฤติกรรมกล ุ่ม แยกประเทศ
ทหารก็เข้าใจว่า สปป.ล้านนา คือตัองการ แยกประเทศ ตั้งรัฐใหม่ เป็นสาธารณรัฐฯ ไม่คิดว่า หมายถึง สมัชชาปกป้อง ปชต .ที่นักวิขาการส ายนิติราษฎร์ ตั้งมาตอนรณรงค์ เลือกตั้งก่อนปฏ ืรูป
พลโท ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 เลยให้สัมภาษณ์ว ่า การข่าวของทางกอ งทัพภาคที่ 3 ได้ดำเนินการตรว จสอบมาโดยตลอด เรื่องแนวคิด แบ่งแยกประเทศ และเมื่อเห็นว่า เข้าข่ายรุนแรง จึงได้สั่งการให ้ จังหวัดทหารบกเช ียงใหม่ และจัฃหวัดทหารบ กพะเยา ไปดำเนินการแจ้ง ความตามกฎหมาย ในลักษณะฐานกระท ำความผิด ตามประมวลกฎหมาย อาญา 113
โดย ม.113 ระบุ ว่า ผู้ใดใช้กำลังปร ะทุษร้ายหรือขู่ เข็ญว่าจะใช้กำล ังประทุษร้ายเพื ่อ ล้มล้างหรือเปลี ่ยนแปลงรัฐธรรมน ูญ ล้มล้างอำนาจนิต ิบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลากา รแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจ ดังกล่าวแล้วไม่ ได้ หรือ แบ่งแยกราชอาณาจ ักรหรือยึดอำนาจ ปกครองในส่วนหนึ ่งส่วนใดแห่งราช อาณาจักร ผู้นั้นกระทำผิด ฐานเป็นกบฎ ต้องระวางโทษประ หารชีวิต หรือจำคุกตลอดชี วิต
และ มาตรา 114 ผู้ใดสะสมกำลังพ ลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่ นใด หรือสมคบกัน เพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราฏษร ให้เป็นกบฏ หรือรู้ว่ามีผู้ จะเป็นกบฎ แล้วกระทำการใดอ ันเป็นการช่วยปก ปิดไว้ ต้องระวางโทษจำค ุก ตั้งแต่3ปีหรือ1 5ปี
โดยทาง จังหวัดทหารบกทั ้ง 2 แห่ง ได้เข้าดำเนินคด ีกับกลุ่ม สปป. ล้านนา เมื่อช่วงเช้าที ่ผ่านมา
ขณะเดียวกันเมื่ อวันศุกร์ (28 กพ.57) ที่ผ่านมา ได้ใช้อำนาจผู้อ ำนวยการรักษาควา มมั่นคงภายในกอง ทัพภาคที่ 3 เรียกประชุมผู้ว ่าราชการจังหวัด ภาคเหนือ 17 จังหวัดเข้าประช ุม เพื่อขอความร่วม มือในการช่วยสอด ส่องดูแล และตรวจสอบการดำ เนินการใดๆ อันจะส่งผลกระทบ ต่อความมั่นคงขอ งประเทศ ซึ่งได้รับความร ่วมมือจากผู้ว่า ราชการจังหวัดทั ้ง 17 จังหวัดเป็นอย่า งดี
อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพไม่สาม ารถสั่งการผู้ว่ าราชการจังหวัดไ ด้ เพราะไม่ใช่ผู้บ ังคับบัญชาโดยตร ง เพียงแต่ขอความร ่วมมือจากผู้ว่า ราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยก ารรักษาความมั่น คงภายใน จังหวัด และทางกองทัพภาค ที่ 3 ได้จับตาดูพฤติก รรมและการเคลื่อ นไหวของกลุ่ม สปป. ล้านนา และกลุ่มรักเชีย งใหม่อย่างใกล้ช ิด และจะรายงานความ คืบหน้านี้ให้กั บผู้บัญชาการทหา รบก รับทราบ ในการประชุมหน่ว ยขึ้นตรงกองทัพบ ก ซึ่งจะมีการประช ุมในวันพรุ่งนี้ (3 มี.ค. 57 )
แม่ทัพภาค 3 ยืนยันว่า ทหารทำหน้าที่อย ่างเต็มที่ และไม่เคยเลือกข ้าง และยอมรับการ ในพื้นที่ภาคที่ 3 มีการเคลื่อนไหว ของกลุ่มที่อาจส ร้างความเข้าใจผ ิดกับประชาชน
"โดยเฉพาะกลุ่ม สปป. ล้านนา ที่ มีการตั้งเชื่อค ล้ายกับ การจัดตั้งรัฐให ม่ ซึ่งถือเป็นการก ระทำความผิดตามก ฎหมายอาญา และ รัฐธรรมนูญ
น้องชาย บิ๊กตู่ ...take action....
แม่ทัพภาค 3 สั่ง จทบ.เชียงใหม่- พะเยาแจ้งความข้
ทหารก็เข้าใจว่า
พลโท ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 เลยให้สัมภาษณ์ว
โดย ม.113 ระบุ ว่า ผู้ใดใช้กำลังปร
และ มาตรา 114 ผู้ใดสะสมกำลังพ
โดยทาง จังหวัดทหารบกทั
ขณะเดียวกันเมื่
อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพไม่สาม
แม่ทัพภาค 3 ยืนยันว่า ทหารทำหน้าที่อย
"โดยเฉพาะกลุ่ม สปป. ล้านนา ที่ มีการตั้งเชื่อค