วงเสวนา กปปส.เห็นพ้องปฏิรูปตำรวจ-ย ุติถูกการเมืองแทรกแซง !!!!!
เดลินิวส์ออนไลน์
วงเสนวนา กปปส.ครั้งที่ 4 เห็นพ้องปฏิรูปโครงสร้างตำร วจ กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ให้เป็นอิสระจากฝ่ายการเมือ ง อดีตรอง ผบ.ตร.เสนอให้ ปชช.ร่วมตรวจสอบตำรวจ
...
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่อาคารศูนย์เยาวชนสวนลุมพ ินี กปปส. ได้จัดเวทีระดมความคิดเพื่อ การปฏิรูปประเทศไทย ครั้งที่ 4 เรื่อง “ปฏิรูประบบตำรวจและกระบวนก ารยุติธรรม” โดยมี ปรีชา วัชราภัย อดีตเลขาธิการ ก.พ.เป็นประธานในการเสวนา โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้เดินทางมากล่าวเปิดการเส วนาตอนหนึ่งว่า
การเสวนาวันนี้เป็นเรื่องที ่ประชาชนรอคอยที่จะปฏิรูป เนื่องจากปัญหาของตำรวจและค วามสัมพันธ์ระหว่างตำรวจกับ ประชาชนนั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนคาดหวั ง ทั้งนี้มีการศึกษาแนวทางวิธ ีการไว้มากมาย แต่ยังไม่มีโอกาสที่จะทำให้ สำเร็จอย่างที่ประชาชนหวัง ดังนั้นการที่มวลมหาประชาชน ได้ประกาศให้การปรับโครงสร้ างตำรวจเป็นหนึ่งในการปฏิรู ปประเทศ จึงทำให้คาดหวังว่าการปฏิรู ปตำรวจจะสำเร็จตามที่คาดหวั งได้ แต่มีคนนำการปฏิรูปตำรวจไปบ ิดเบือน และทำให้เกิดความสับสน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าข้อสรุ ปในการเสวนาวันนี้จะทำให้ปร ะชาชนและตำรวจมีความพึงพอใจ ทั้งสองฝ่าย
โดยพล.ต.อ.ไกรสุข สินศุข อดีตรอง ผบ.ตร. กล่าวตอนหนึ่งว่า องค์กรตำรวจเป็นองค์กรหนึ่ง ที่แปลงจากนโยบายรัฐไปปฏิบั ติโดยมีภารกิจหลักในการรักษ ากฎหมาย และการรักษาความปลอดภัยให้ป ระชาชน
ทั้งนี้ระบบตำรวจมีการปฏิรู ปมาแล้วหลายครั้ง แต่การปฏิรูปกรมตำรวจเป็นสำ นักงานตำรวจแห่งชาติ กลับกลายเป็นการรวบอำนาจที่ ส่วนกลาง ไม่มีการกระจายอำนาจไปสู่ท้ องถิ่น ทำให้สายการบังคับบัญชายาว เกิดอุปสรรค์หลายอย่างเป็นร ูปแบบที่ล้าหลัง ดังนั้นการปฏิรูปตำรวจจึงเป ็นการปฏิรูปสินค้าผูกขาดให้ ดีขึ้น
ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่จะ ต้องปฏิรูป ทั้งนี้แนวทางกว้าง ๆ ที่จะปฏิรูปคือ
1.โครงสร้างตำรวจเพื่อให้สอ ดคล้องกับการกระจายอำนาจไปส ู่ท้องถิ่น ควรแยกกองบัญชาการตำรวจภูธร ทั้ง 9 ภาค และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ออกจากส่วนกลาง เพื่อให้สามารถจัดสรรงบประม าณซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อพ ื้นที่นั้น ๆ และให้มีความเป็นนิติบุคคล ซึ่งจะเป็นการลดสายการบังคั บบัญชาให้สั้นลง
2.การบริหารปัจจุบันมีการแท รกแซงในเรื่องการแต่งตั้งตำ รวจ ทำให้เกิดการเบี่ยงเบน สร้างปัญหาในการบริหาร ดังนั้นกฎหมายตำรวจจึงต้องเ ปลี่ยนแปลงเพื่อให้มีความเป ็นอิสระจากฝ่ายการเมือง
3.การทำงาน โดยในการปฏิบัติงานของตำรวจ ที่ยังรวมหน้าที่สืบสวนสอบส วนไว้ด้วยกัน ทั้งจับเอง สอบสวนเอง ทำให้กลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน ดังนั้นควรใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการหาตัวคนร้าย และควรทำตามหลักสากล
4.ควรยกเลิกตำแหน่งที่มีหน่ วยงานอื่นรับผิดชอบอยู่แล้ว อาทิ ตำรวจที่ดิน กรมที่ดิน ก็สามารถทำแทนได้ ตำรวจรถไฟ และตำรวจป่าไม้ เป็นต้น เพื่อเพิ่มกำลังในงานที่สำค ัญ
5.ที่สำคัญคือการได้มาของตำ รวจ ที่แต่เดิมมาจากโรงเรียนรวม เหล่าทหารตำรวจและการสอบเข้ าจากคนที่จบมหาวิทยาลัย ซึ่งในการปฏิรูปควรคิดเรื่อ งนี้ว่าการได้มาของตำรวจควร เป็นอย่างไร เพื่อให้ได้ตำรวจที่ดี และมีประสิทธิภาพ และ
6.การตรวจสอบตำรวจที่ผ่านมา มีคณะกรรมการตำรวจ (กตร.) โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน แต่ก็ไม่ได้ผล ดังนั้นควรมีองค์กรของประชา ชนเข้าร่วมด้วย
ด้านนายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการจากกลุ่มสยามประช าภิวัฒน์ กล่าวว่า ระบบงานตำรวจมีปัญหาเรื่องโ ครงสร้าง ถ้าเรามองดูจะพบว่าการบริกา รงานตำรวจเป็นแบบระบบรวมศูน ย์บริหารอำนาจ อีกทั้งปัญหาเชิงโครงสร้างอ ีก และยังมีปัญหาเรื่องการสอบส วนที่ยังขาดอิสระทั้งจากภาย ในองค์กร และการแทรกแซงจากฝ่ายการเมื อง
นอกจากนั้นยังมีปัญหาอีกมาก ทั้งเรื่องการวิ่งเต้น เรื่องการซื้อตำแหน่ง อีกทั้งตำรวจชั้นประทวนมีคว ามรู้น้อย ไม่สอดคล้องกับพื้นที่ประชา ชน ขอเสนอให้ตำรวจกระจายอำนาจ ทำให้ภูธรมีอำนาจ อาจจะมีอธิบดีภาคเป็นผู้ดูแ ล ส่วนเรื่องระบบตำรวจแบบกึ่ง ทหาร ต้องพิจารณาใหม่ รวมทั้งเรื่องความเป็นมืออา ชีพ ต้องให้ตำรวจเป็นมืออาชีพ ส่วนด้านการผลิตตำรวจนายร้อ ย ผู้สอนบางคนยังมีความรู้ไม่ ตรงส่วน เรื่องนี้ต้องปรับและการผลิ ตตำรวจชั้นประทวนต้องให้มีค วามรู้เทียบเท่าอนุปริญญา
นายภิญโญ ทองชัย อดีตเลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าวว่า เราต้องเข้าใจกระบวนการยุติ ธรรมที่เป้าหมายใหญ่คือการเ อาคนเข้าคุก ซึ่งเราทำมาเป็นร้อยปี และเราพบว่ากฎหมายอาญามีมาก กว่า 350 ฉบับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจ การสอบสวนจึงเน้นไปทางนี้ทั ้งหมด และจากงานวิจัยพบว่ากฎหมายอ าญาเน้นจำคุกมากกว่าปรับ
ขณะที่ในต่างประเทศศึกษาการ ใช้โทษจำคุก เป็นการเพิ่มภาระให้แก่รัฐ ถ้าเป็นโทษปรับรัฐไม่ต้องเส ียอะไรเลย ทั้งนี้ขอเสนอแนวทางในการปฏ ิรูป คือ
1.นำหลักกระบวนการยุติธรรมเ ชิงสมานฉันท์มาใช้ โดยเน้นการไกล่เกลี่ยเพื่อย ุติข้อพิพาทในระดับชุมชนก่อ นคดีขึ้นสู่ศาล
2.ปรับกระบวนการยุติธรรมที่ เน้นปราบเป็นป้องปราม
โดยพิจารณาบทลงโทษให้เหมาะส ม โดยอาจปรับการบริการสังคม และคุมประพฤติเป็นหลักแทนกา รจำคุก ซึ่งจะใช้เป็นมาตรการสุดท้า ย เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับโ ทษที่เหมาะสมและเป็นภาระแก่ รัฐน้อยลง
3.เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนกา รบังคับใช้กฎหมาย โดยปฏิรูปโครงสร้างและระบบง านสืบสวนของตำรวจ และปฏิรูประบบพิจารณากลั่นก รอง และการฟ้องคดีของอัยการ รวมทั้งให้มีการตรวจสอบซ้ำ และ
4.จัดตั้งองค์กร และกลไกให้ความช่วยเหลือประ ชาชนในทางกฎหมายและการฟ้องร ้องคดี โดยกระทรวงยุติธรรมควรจัดอง ค์กรดังกล่าวในทุกองค์กรปกค รองส่วนท้องถิ่น
ร่วมด้วยช่วยแชร์ // อย่าให้พวกมันมีที่ยืนในสังค มไทย
มีเสื้อแดงที่ใหน บ้านเมืองฉิบหายที่นั่น ,พวกมันแดงใจทรามถึงขนาด หมายหัว ท่านอาจารณ์ ว. วชิรเมธี
เดลินิวส์ออนไลน์
วงเสนวนา กปปส.ครั้งที่ 4 เห็นพ้องปฏิรูปโครงสร้างตำร
...
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่อาคารศูนย์เยาวชนสวนลุมพ
การเสวนาวันนี้เป็นเรื่องที
โดยพล.ต.อ.ไกรสุข สินศุข อดีตรอง ผบ.ตร. กล่าวตอนหนึ่งว่า องค์กรตำรวจเป็นองค์กรหนึ่ง
ทั้งนี้ระบบตำรวจมีการปฏิรู
ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่จะ
1.โครงสร้างตำรวจเพื่อให้สอ
2.การบริหารปัจจุบันมีการแท
3.การทำงาน โดยในการปฏิบัติงานของตำรวจ
4.ควรยกเลิกตำแหน่งที่มีหน่
5.ที่สำคัญคือการได้มาของตำ
6.การตรวจสอบตำรวจที่ผ่านมา
ด้านนายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการจากกลุ่มสยามประช
นอกจากนั้นยังมีปัญหาอีกมาก
นายภิญโญ ทองชัย อดีตเลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าวว่า เราต้องเข้าใจกระบวนการยุติ
ขณะที่ในต่างประเทศศึกษาการ
1.นำหลักกระบวนการยุติธรรมเ
2.ปรับกระบวนการยุติธรรมที่
โดยพิจารณาบทลงโทษให้เหมาะส
3.เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนกา
4.จัดตั้งองค์กร และกลไกให้ความช่วยเหลือประ
ร่วมด้วยช่วยแชร์ //
มีเสื้อแดงที่ใหน บ้านเมืองฉิบหายที่นั่น ,พวกมันแดงใจทรามถึงขนาด หมายหัว ท่านอาจารณ์ ว. วชิรเมธี