
ตำนานประวัติพระแก้วมรกต พระมหามณีรัตนปฏิมากร
พระแก้วมรกต คือ พระพุทธรูปสร้างจากก้อนแก้วมรกต มีความสวยงามศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทยเรา มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจยิ่งทั้งในด้านประวัติศาสตร์จะได้ทราบเรื่องราวระหว่างช่วง พ.ศ.1200 กว่าลงมาจึงถึงปัจจุบัน
ทำให้เราได้รู้ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทยที่อยู่ในดินแดนแหลมทองก่อนยุคสมัยสุโขทัย พ.ศ. ...1800 ที่แผ่นดินผืนนี้ชนชาติไทยได้ตั้งหลักแหล่งอาศัยอยู่ในเมืองต่าง ๆ ในยุคสมัยทราวดีศรีวิชัย
พงศาวดารตำนานต่างๆ ที่องค์พระแก้วมรกตได้ไปโปรดทั่วทุกภาคและประเทศเพื่อนบ้าน ดังนักประวัติศาสตร์โบราณคดีได้สละแรงกาย แรงใจ ค้นคว้า ข้อเท็จจริงต่าง ๆ มาเผยแพร่แก่อนุชนรุ่นหลังให้ได้รับทราบข้อเท็จจริง
ประวัติการสร้างพระแก้วมรกต
สมัยเมื่อพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองในดินแดนภาคใต้ที่นครศรีโพธิ์ (โพธิ์) ไชยา นครตามพรลิงค์ที่นครศรีธรรมราช และนครพานพาน ที่ตำบลเวียงสระปัจจุบัน ระหว่าง พ.ศ. 900-1400 คนไทยที่เขียนตำนานได้ให้พระนามพระมหากษัตริย์ในนครเหล่านี้ว่า “พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช” เหมือนกันหมด เพราะพระองค์ท่านเหล่านี้ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเหมือนอย่างพระเจ้าศรีธรรมโศกราช (อินเดีย) ตำนานไทยจึงเรียกนครของพระศรีธรรมาโศกราชในแดนไทยว่า นครปาตลีบุตร ด้วย ในลายแทงเจดีย์วัดแก้วไชยากล่าวไว้ว่า
“เจดีย์วัดแก้ว ศรีธรรมาโศกสร้างแล้วแลเห็นเรืองรอง สี่เท้าพระบาท เหยียบปากพะเนียงทอง ผู้ใดคิดต้องกินไม่สิ้นเลย” แสดงว่าคนไทยโบราณเรียกกษัตริย์ของตนเองว่า “ศรีธรรมาโศก” ซึ่งครองนครปาตลีบุตรในโคลงยอพระเกียรติพระเจ้าตากสิน กรุงธนบุรีของนายส่วนมหาดเล็กแต่งไว้ ได้กล่าวถึงเมือง “ปาตลีบุตร” มีว่า
ปางปาตลีบุตรเจ้า นัครา
แจ้งพระยศเดชา ปิ่นเกล้า
ทรนงศักดิ์อหังกา เกกเก่ง อยู่แฮ
ยังไป่ประนตเข้า สู่เงื้อมบทมาลย์
เจ้าปาตลีบุตรนั้น อัปรา ชัยเฮย
ไปสถิตเทพาพา พวกแพ้
หนีเข้าพึ่งตนนา ทัพเล่า
ทัพราชรีบรมแหร้ แขกม้วยเมืองทลาย
จะเห็นได้ว่าบทโคลงในสมัยนั้นเรียกเมืองนครศรีธรรมราชว่าเป็น “นครปาตลีบุตร”
จากจดหมายเหตุการณ์ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุอิจิงที่มาแวะพัก จารึกปฏิบัติธรรมที่นครโพธิ์ ซึ่งในภาษาจีนเรียกว่า “ฮุดซี” เมื่อ พ.ศ. 1214-1238 แล้วเดินทางจากเมืองท่ากาจา (ไทรบุรี) ไปอินเดีย เมื่อท่านเดินทางกลับจากอินเดีย พ.ศ. 1232 ปรากฏว่ารัฐต่าง ๆ ในแถบทะเลใต้มีรัฐพานพาน (เวียงสระ) รัฐไฮลิง (ตามพรลิงค์หรือนครศรีธรรมราช) ปองพอง (ปาหัง) กิลันตัน (กลันตัน) ปลึกฟอง (ปาเลมบัง) และรัฐอื่น ๆ อีก 10 รัฐ เข้ารวมกันเป็นประเทศ ซีหลีฮุดซี หรือที่ท่านเซเดส์เรียกว่า “ศรีวิชัย” มีพระอินทรวรมเทวะเป็นประมุข
ในตำนานพระแก้วมรกตของไทย กล่าวถึงพระมหากษัตริย์และพระราชบุตร ที่ร่วมสร้างพระแก้วมรกตถวายพระนาคเสน คือพระอินทร์กับพระวิษณุกรรมเทพบุตร ได้ชวนกันไปหาก้อนแก้วมรกตจากเขาเวบุลบรรพต คนไทยโบราณหมายถึงแดนยูนาน(น่านเจ้า) มาแปลงเป็นพระแก้วมรกตสำเร็จในเวลา 7 วัน นามพระมหากษัตริย์ทั้งสองนี้ เป็นพระนามจริงในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรศรีวิชัย
ตามประวัติศาสตร์อาณาจักรศรีวิชัย กษัตริย์ที่ครองเมืองระหว่าง พ.ศ. 1230-1270 ทรงพระนามว่า พระอินทร์บรมเทพ มีนามเป็นภาษาสันสกฤตว่า ศรีนทรวรมเทวะ พระองค์ได้ส่งพระราชบุตรพระวิษณุไปถวายบังคมพระเจ้ากรุงจีนในปี พ.ศ. 1267 จากพงศาวดารราชวงศ์สูงของจีน บันทึกไว้ว่า
“ปี พ.ศ. 1267 มีพระราชกุมาร (กิวโมโล) มาจากประเทศซีหลีฮุดซีมาถวาย คนเงาะชายสองหญิงหนึ่งคนและนักดนตรีคณะหนึ่งกับนกแก้วห้าสีหลายตัว พระเจ้ากรุงจีนตั้งให้พระราชกุมารเป็นนายพลในกองทัพจีนและพระราชทานผ้าแพรหนึ่งร้อยม้วนและถวายตำแหน่งอ๋องให้แก่เจ้าเมืองซีหลีฮุดซี พระนามว่า เช ลี โตเลปะโม” คำนี้เป็นภาษาจีนคือ ศรีน-ทะระ-วรมะ ในภาษาสันสกฤต
จากศิลาจารึกอาณาจักรศรีวิชัย พ.ศ. 1318 พบที่วัดเวียงไชยา ของพระวิษณุ เสวยราชระหว่าง พ.ศ. 1270-1330 จารึกด้านหน้านามพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่ง ชื่อศรีวิชเยศวรภูบดี ทรงสร้างปราสาทอิฐขึ้น 3 ปราสาท คือ ปราสาทอิฐวัดหลง ปราสาทอิฐวัดแก้ว ปราสาทอิฐวัดเวียง
เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์วัชรปาณี สร้างอุทิศให้แก่พระอัยการผู้สร้างพระนครนี้อยู่ปราสาทองค์ทิศเหนือ
ปราสาทองค์ทิศใต้ ประดิษฐานพระโพธิสัตว์ปัทมปาณี อุทิศให้พระอินทร์พระราชบิดา
ส่วนปราสาทองค์กลาง ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย
ด้านหลังแผ่นศิลาจารึก ลงนามผู้สร้างจารึกนี้นามว่าพระวิษณุ (วิษฺณวาชโย) เป็นประมุขไศเลนทร์วงศ์
จากศิลาจารึกนี้ ทำให้เราทราบถึงอาณาจักรศรีวิชัย และพระวิษณุเป็นกษัตริย์ครองนครโพธิ์องค์ที่ 3 พระองค์ทรงสร้างพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเนื้อสำฤทธิ์ขึ้นสององค์ คือ พระโพธิสัตว์ปัทมาปาณีกับพระโพธิสัตว์วัชรปาณี ซึ่งมีพุทธลักษณะงดงามมาก
องค์ใหญ่มีเครื่องประดับน้อย ซึ่งสร้างก่อนองค์เล็กที่มีเครื่องทรงประดับวิจิตรงดงาม สร้างอุทิศให้พระอัยกาและพระบิดาตามวัฒนธรรมไศเลนทร์ ตามความเชื่อของคนโบราณในการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์สำหรับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
พระมหากษัตริย์องค์ใดที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาทำให้พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเป็นที่ยกย่องของคนทั่วไป เมื่อสวรรคตแล้วจึงมีการสร้างเจดีย์เป็นที่บรรจุอัฐิธาตุของพระนางจามเทวี หรือการสร้างพระพุทธรูปอุทิศถวายเพื่อเป็นความหมายของนิพพานธรรม เช่น พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชสร้างพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช
ในตำนานพระแก้วมรกตและประวัติศาสตร์ศรีวิชัยกล่าวไว้ว่านครโพธิ์เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยพระอินทร์และพระวิษณุในการหล่อพระโพธิสัตว์วัชรปาณีด้วยฝีพระหัตถ์ของพระวิษณุเทพบุตร ซึ่งเป็นกษัตริย์จึงทำตรีเนตรเป็นตุ่มเล็กๆ ระหว่างพระเนตรของพระพุทธรูป อุทิศให้กับพระอินทร์พระราชบิดา ตุ่มนี่จึงเป็นความหมายของท้าวสามตาพระอินทร์
องค์พระแก้วมรกต ที่พระวิษณุกรรมสร้างให้เป็นตัวแทนของพระมหาธรรมรักขิต ซึ่งเป็นพระอรหันต์ก็เป็นตรีเนตรแต่เดิมฝังเพชรเม็ดเล็กไว้ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ได้ถวายเพชรเม็ดใหญ่ เปลี่ยนเพชรตรีเนตรแบบศรีวิชัยออก
เมื่อพระวิษณุสวรรคต มีผู้สร้างพระโพธิสัตว์แทนพระองค์ท่านขึ้นที่เมืองไชยา เป็นพระโพธิสัตว์มี 4 กร ด้วยที่ท่านมีพระนามในศิลาจารึกว่า พระวิษณุ จึงสร้างพระนารายณ์แทนองค์ท่าน แต่ไม่มีเครื่องหมายตรีเนตรเพราะคนสร้างมิได้เป็นกษัตริย์หรือองค์เจ้า
ในปลายรัชกาลพระอินทร์ พระวิษณุราชบุตรได้ร่วมกันสร้างพระแก้วมรกตขึ้น เมื่อประมาณ พ.ศ. 1260-1270 ที่นครโพธิ์ไชยา ส่วนพระภาณุโอรสของพระอินทร์อีกพระองค์หนึ่งได้ไปปกครองเกาะชวา เป็นปฐมวงศ์ของไศเลนทร์วงศ์อีกสาขาหนึ่งที่ได้สร้างเจดีย์บรมพุทโธเจดีย์ปะวน เจดีย์มณฑปในเกาะชะวา เป็นศิลปของพระพุทธศาสนาตราบเท่าทุกวันนี้
ตำนานพระแก้วมรกต กล่าวถึงพระมหากษัตริย์นครปาตลีบุตร ต่อจากพระวิษณุกรรม คือพระราชาธิราชบุนดะละและพระเจ้าดะกะละ (หลานของพระเจ้าบุนดะละ) แล้วถึงพระศิริกิตติกุมาร ในรัชกาลของพระศิริกิตติ เกิดศึกสงครามคนล้มตายเป็นอันมาก พวกข้าปฏิบัติรักษาพระแก้วมรกต เห็นเหตุการณ์ไม่ดี กลัวพระแก้วจะเสียหาย จึงอัญเชิญพระแก้วมรกตขึ้นสู่เรือสำเภาลำหนึ่งพร้อมกับพระธรรมปิฏก พากันหนีไปสู่กัมโพชวิสัย คือ ลังกาทวีปที่นครศรีธรรมราช
ตามตำนานพระแก้ว กษัตริย์ที่ครองนครโพธิ์ รหือนครปาตลีบุตรเป็นลูกหลานกษัตริย์ของพระเจ้ากรุงทวาราวดีที่อู่ทอง พ.ศ. 1100-1200
ในประมาณ พ.ศ. 1180 พระเจ้าอนุรุธกษัตริย์มอญได้ยกกองทัพมาตีกรุงทวาราวดี ลูกหลานของพระเจ้ากรุงทวาราวดีพวกหนึ่งอพยพลงมาตั้งนครโพธิ์ที่ไชยา
อีกพวกหนึ่งไปตั้งนครละโว้ ขึ้นเป็นเมืองหลวง พระเจ้ากรุงละโว้ได้ส่งพระนางจามเทวีไปครองนครหริภุญชัย เมื่อประมาณ พ.ศ.1205
ต่อมาถึง พ.ศ. 1400 พระเจ้าศิริกิตติได้ยกกองทัพไปยึดนครละโว้ (จากตำนานมูลศาสนา ชินกาลมาลีปกรณ์จามเทวีวงศ์ได้กล่าวไว้) ทางนครปาตลีบุตร เกิดการแย่งชิงราชสมบัติขึ้นมีผู้เกรงพระแก้วมรกตจะเสียหายจึงได้ลักลอบพาลงเรือไปนครศรีธรรมราช ซึ่งมีกษัตริย์ไศเลนทร์วงศ์องค์หนึ่งปกครองอยู่พุทธศาสนานครนี้ก็เจริญรุ่งเรือง
จากพงศาวดารเหนือของไทยเขียนไว้ว่า พระเจ้าอนุรุธ กษัตริย์องค์ปฐมวงศ์ของมอญเป็นผู้ตั้งจุลศักราชขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1181 เมืองต่าง ๆ ของคนไทยทางแดนล้านนาตกอยู่ ภายใต้การปกครองของมอญและพม่าเป็นเวลานานมาก จนนิยมใช้จุลศักราช กษัตริย์ในดินแดนล้านนาไปชุมนุมกันทั่วล้านนา ยกเว้นแต่กษัตริย์ที่นครหริภุญชัยและสวรรคโลก
พอตั้งจุลศักราชได้ปีเดียวพระเจ้าอนุรุธก็สวรรคต พระเจ้ากากวรรณดิศราชโอรสพระเจ้าอนุรุธยกทัพมาตีเมืองละโว้ถึง 7 ปี แล้วมาตั้งพระประโทนเจดีย์ที่นครปฐม เมื่อ พ.ศ. 1199
ตำนานไทยโบราณเรียกนามกษัตริย์ทางดินแดนมอญว่าพระเจ้าอนุรุธไปทุกพระองค์หลายยุค เหมือนตำนานไทยเรียกพระเจ้าแผ่นดินทางไชยาเวียงสระนครศรีธรรมราชว่า พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เรียกกษัตริย์ทางกรุงสุโขทัยว่า พระร่วงไปทุกพระองค์ ตำนานพระแก้วมรกตฉบับของ ชินกาลมาลีปกรณ์ กล่าวไว้ว่า พระเจ้าอนุรุธที่ไปชิงพระแก้ว เป็นลูกหลานของพระเจ้าอนุรุธที่ตั้งจุลศักราช
ดินแดนของไทยที่อยู่ตั้งแต่เชียงแสนไปกำแพงเพชรละโว้ อโยธยา ไชยา นครศรีธรรมราช ตลอดเวลาสองพันปีที่คนไทยได้เขียนตำนานเล่าไว้เป็นความจริงทั้งสิ้น แต่เราไปเชื่อประวัติศาสตร์ที่ฝรั่งเขียนไว้ว่า ตำนานที่คนไทยเขียนไว้เป็นนิยายไม่มีความจริงทางประวัติศาสตร์
ดินแดนแห่งนี้มีการรบมุ่งกับพวกมอญทางด้านตะวันตกและเขมรทางดินตะวันออก ผลัดกันแพ้ชนะกันมาหลายยุคหลายสมัย คนไทยโบราณที่อยู่ทางล้านนาเรียกว่าพวกโยนกคนไทยโบราณที่อยู่ทางละโว้ อโยธยา ไชยา นครศรีธรรมราช เรียกว่า พวกกัมโพช (หมายถึงชาวใต้ในสมัยต่อมาเมื่อคนไทยที่มีมารดาเป็นเขมรมีอำนาจมาก ไทยเหนือเลยเรียกไทยใต้ว่า เป็นพวกขอมไปหมด)
ตำนานต่าง ๆ ของไทยและพงศาวดารเหนือ จดเรื่องก่อนสมัยตั้งกรุงอโยธยาที่หนองโสน ล้วนเป็นเรื่องของไทยกัมโพชหรือไทยไศเลนทร์ มาตั้งนครที่สวรรคโลก กำแพงเพชร ละโว้ อโยธยา ไชยา นครศรีธรรมราช
คนไทยที่สร้างพระแก้วมรกตเรียกตัวเองในศิลาจารึกว่า ไศเลนทร์วงศ์ ตำนานพระแก้วมรกตเรียกเมืองนครศรีธรรมราชว่าลังกาทวีปกัมโพชวิสัยปาตลีบุตร
ลังกา หมายถึง เมืองที่มีพระไตรปิฏกของชาวกัมโพช เมืองที่พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างชมพูทวีป คือ เมืองนครศรีธรรมราช
ตามตำนานพระแก้วมรกตว่า พระเจ้าอนุรุธได้ยกกองทัพม้ามาเอาพระแก้วมรกตที่ลังกาทวีป (ตามตำนานจะเป็นเกาะลังกาของชาวสิงห์ไม่ได้ เพราะมาทางบกจากเมืองมอญลงมาทางใต้ต้องเป็นเมืองพระไตรปิฏกที่นครศรีธรรมราช) แล้วนำพระไตรปิฏกกับพระแก้วมรกตลงเรือนำกลับเมืองมอญ แต่เรือสำเภาพระแก้วมรกต พวกไศเลนทร์วงศ์ได้ปลอมปนลงมาบนเรือสำเภาแล้วประหารพวกมอญที่ควบคุมอยู่จากนั้นก็นำเรือสำเภาพระแก้วมรกตเข้าปากน้ำปันทายมาสหนีไปยังนครอินทปัตรได้
นครอินทปัตในตำนานพระแก้วมรกต เป็นนครของไศเลนทร์วงศ์ที่ได้นางเขมรเป็นมเหสี ทางเขมรถึงว่า ถ้ามารดาเป็นเขมร ต้องเป็นเขมร
ต้นราชวงศ์เขมร คือ พราหมณ์กัมพู มาได้นางเขมรเป็นมเหสีลูกหลานของพราหมณ์กัมพูก็ต้องเป็นเขมรที่เรียกกันว่า พวกเจนละ
จนมาถึงสมัยพระอุทัยราช ได้นางนาคเป็นมเหสี เป็นธรรมเนียมของกษัตริย์ไศเลนทร์ที่ปกครองพระนครวัด ต้องมีมเหสีเป็นเขมร มิฉะนั้นพรรคพวกพระยานาคจะก่อการกบฏ พระนางมีโอรสออกมาเป็นฟอง ต้องนำไปทิ้ง พระคงเคราเมืองละโว้ได้เก็บไปเลี้ยงไว้ ภายหลังได้เป็นพระร่วงเมืองละโว้
โอรสของนางนาคอีกพระองค์หนึ่งเป็นมนุษย์ทรงพระนามว่า พระเจ้าปทุมสุริยวงศ์ ครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 5 (นักประวัติศาสตร์ฝรั่งเรียก ยโศวรมเทวะ ระหว่าง พ.ศ. 1432-1453) มีอำนาจมากได้ปราบปรามหัวเมืองใกล้เคียงอยู่ในอำนาจดินแดนไทยเมืองหลายแห่งต้องส่งส่วยให้พระองค์
เมื่อพวกไศเลนทร์จากนครศรีธรรมราช นำเรือสำเภาพระแก้วมรกตเข้ามาถึงนครอินทรปัตในปลายรัชกาลพระเจ้าปทุมสุริยวงศ์ พระองค์ทรงโสมนัสปลื้มปิติในองค์พระแก้วมรกตมาก ทรงถวายพระนครของพระองค์ให้แก่พระแก้วมรกต หลังจากสมโภชแล้วก็ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเป็นการใหญ่ พระองค์ก็ปฏิบัติบูชาพระแก้วมรกตเป็นประจำมิได้ขาด พระพุทธศาสนาก็เจริญรุ่งเรืองไปทั่วสกลทวีป มีชัยเหนือศาสนาพราหมณ์ในทั่วดินแดนพระนครอินทรปัต
เมื่อพระองค์ยกปราสาทราชวังถวายแก่พระแก้วมรกตเป็นพระนครวัดแล้ว พระองค์ก็ไปสร้างพระนครหลวงใหม่ ที่ยโศธร ปุระ โดยเอาภูเขาพนมบาแค็ง (ผาแค็ง) เป็นใจกลางของพระนครหลวง ต่อมาลูกหลานขอมทุกยุคทุกสมัย จึงยกย่องพระองค์เป็นเทพเจ้าประจำยโศธรปุระเมืองพระนครหลวง
ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 พ.ศ.1656-1695 ได้ทรงสร้างปราสาทนครวัดตรงพระนครที่พระปทุมสุริยวงศ์ ถวายแก่พระแก้วมรกตสร้างเป็นปรางค์ขอม มีเก้ายอดเป็นสัญลักษณ์แสดงว่า กษัตริย์ผู้ทำให้ศาสนาเจริญรุ่งเรืองเข้าถึงพระพุทธศาสนาเสมือนผู้บรรลุนิพพานธรรม
ยอดกลางสูงสุดหมายถึงพระนิพพาน ยอดสี่ยอด ยอดอีกสองชั้น แสดงถึงมรกต 4 ผล 4 ยอดปรางค์ ทำเป็นฉัตรหลายชั้น ฉัตรแต่ละชั้นประดับด้วยกลีบบัวเหมือนฝักข้าวโพดยอดปราสาทนครวัดทั้งเก้ายอดปิดทองเหลืองอร่ามไปหมด ตามแบบไศเลนทร์
ปราสาทใหม่ที่พระระเบียงวิหารคดของปราสาทนครวัดสลักเป็นภาพ นรก สวรรค์ ตามคัมภีร์ไตรภูมิ แสดงให้เห็นว่าปราสาทนครวัด เป็นปรางค์ของฝ่ายพระพุทธศาสนามีภาพสลักเป็นเรื่องรามเกียรติ์มหาภารตะ เพื่อยกย่องพระเจ้าปทุมสุริยวงศ์เป็นกษัตริย์ที่ทรงธรรมและมีฤทธิ์อำนาจเหมือนพระนารายณ์ ตอนสมัยท่านมีชีวิตอยู่พระองค์ชอบมานั่งวิปัสสนาในปราส
พระแก้วมรกต คือ พระพุทธรูปสร้างจากก้อนแก้ว
ทำให้เราได้รู้ประวัติศาสตร
พงศาวดารตำนานต่างๆ ที่องค์พระแก้วมรกตได้ไปโปร
ประวัติการสร้างพระแก้วมรกต
สมัยเมื่อพระพุทธศาสนาเจริญ
“เจดีย์วัดแก้ว ศรีธรรมาโศกสร้างแล้วแลเห็น
ปางปาตลีบุตรเจ้า นัครา
แจ้งพระยศเดชา ปิ่นเกล้า
ทรนงศักดิ์อหังกา เกกเก่ง อยู่แฮ
ยังไป่ประนตเข้า สู่เงื้อมบทมาลย์
เจ้าปาตลีบุตรนั้น อัปรา ชัยเฮย
ไปสถิตเทพาพา พวกแพ้
หนีเข้าพึ่งตนนา ทัพเล่า
ทัพราชรีบรมแหร้ แขกม้วยเมืองทลาย
จะเห็นได้ว่าบทโคลงในสมัยนั
จากจดหมายเหตุการณ์ปฏิบัติธ
ในตำนานพระแก้วมรกตของไทย กล่าวถึงพระมหากษัตริย์และพ
ตามประวัติศาสตร์อาณาจักรศร
“ปี พ.ศ. 1267 มีพระราชกุมาร (กิวโมโล) มาจากประเทศซีหลีฮุดซีมาถวา
จากศิลาจารึกอาณาจักรศรีวิช
เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัต
ปราสาทองค์ทิศใต้ ประดิษฐานพระโพธิสัตว์ปัทมป
ส่วนปราสาทองค์กลาง ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารว
ด้านหลังแผ่นศิลาจารึก ลงนามผู้สร้างจารึกนี้นามว่
จากศิลาจารึกนี้ ทำให้เราทราบถึงอาณาจักรศรี
องค์ใหญ่มีเครื่องประดับน้อ
พระมหากษัตริย์องค์ใดที่มีค
ในตำนานพระแก้วมรกตและประวั
องค์พระแก้วมรกต ที่พระวิษณุกรรมสร้างให้เป็
เมื่อพระวิษณุสวรรคต มีผู้สร้างพระโพธิสัตว์แทนพ
ในปลายรัชกาลพระอินทร์ พระวิษณุราชบุตรได้ร่วมกันส
ตำนานพระแก้วมรกต กล่าวถึงพระมหากษัตริย์นครป
ตามตำนานพระแก้ว กษัตริย์ที่ครองนครโพธิ์ รหือนครปาตลีบุตรเป็นลูกหลา
ในประมาณ พ.ศ. 1180 พระเจ้าอนุรุธกษัตริย์มอญได
อีกพวกหนึ่งไปตั้งนครละโว้ ขึ้นเป็นเมืองหลวง พระเจ้ากรุงละโว้ได้ส่งพระน
ต่อมาถึง พ.ศ. 1400 พระเจ้าศิริกิตติได้ยกกองทั
จากพงศาวดารเหนือของไทยเขีย
พอตั้งจุลศักราชได้ปีเดียวพ
ตำนานไทยโบราณเรียกนามกษัตร
ดินแดนของไทยที่อยู่ตั้งแต่
ดินแดนแห่งนี้มีการรบมุ่งกั
ตำนานต่าง ๆ ของไทยและพงศาวดารเหนือ จดเรื่องก่อนสมัยตั้งกรุงอโ
คนไทยที่สร้างพระแก้วมรกตเร
ลังกา หมายถึง เมืองที่มีพระไตรปิฏกของชาว
ตามตำนานพระแก้วมรกตว่า พระเจ้าอนุรุธได้ยกกองทัพม้
นครอินทปัตในตำนานพระแก้วมร
ต้นราชวงศ์เขมร คือ พราหมณ์กัมพู มาได้นางเขมรเป็นมเหสีลูกหล
จนมาถึงสมัยพระอุทัยราช ได้นางนาคเป็นมเหสี เป็นธรรมเนียมของกษัตริย์ไศ
โอรสของนางนาคอีกพระองค์หนึ
เมื่อพวกไศเลนทร์จากนครศรีธ
เมื่อพระองค์ยกปราสาทราชวัง
ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่
ยอดกลางสูงสุดหมายถึงพระนิพ
ปราสาทใหม่ที่พระระเบียงวิห