วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557
บ.เจ้าหนี้ “กิตติรัตน์”ทำธุรกิจ3 ปี ย้อนหลัง “ขาดทุนยับ”-แต่มีเงินปล่อยกู้ 12 ล.
เจาะงบดุล "บ.คาเธ่ย์ แอสแซท" เจ้าหนี้เงินกู้ปริศนา "กิตติรัตน์" พบทำธุรกิจ 3 ปีย้อนหลัง "ขาดทุนยับ"แต่แจ้งยอดเงินปล่อยกู้บุคคล-กิจการอื่น กว่า 12 ล้าน
kkkttt
หลายคนอาจจะทราบแล้วว่า บริษัท คาเธ่ย์ แอสแซท แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นธุรกิตส่วนตัวของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คนปัจจุบัน
โดยในช่วงก่อนที่นายกิตติรัตน์ จะเข้ารับตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ วันที่ 10 สิงหาคม 2554 ได้โอนหุ้นบริษัทให้ไปอยู่ในความรับผิดชอบของกองทุนส่วนบุคคล นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง โดย บลจ.กรุงศรี จำกัด (รวมถึงหุ้นในส่วนของภรรยา นายกิตติรัตน์)
ขณะที่แจ้งข้อมูลในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า อยู่ในสถานะลูกหนี้ของบริษัท จากการทำสัญญากู้ยืมเงินจำนวน 6 แสนบาท กำหนดระยะเวลาชำระหนี้ 1 ปี คือนับตั้งแต่ วันที่ 5 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 5 เมษายน 2555
ล่าสุดในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ช่วงพ้นตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ครบ 1 ปี ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2556
นายกิตติรัตน์ แจ้งต่อป.ป.ช. ว่า ยังเป็นลูกหนี้เงินกู้ของบริษัท คาเธ่ย์ฯ อยู่ โดย ณ วันที่ 18 มกราคม 2556 มียอดหนี้เหลืออยู่เป็นจำนวนเงิน 384,179.45 บาท (ผ่านพ้นกำหนดวันที่ 5 เมษายน 2555 มานานเกือบ 10 เดือน)
สถานะทางธุรกิจของบริษัท คาเธ่ย์ แอสแซท แมเนจเม้นท์ จำกัด เจ้าหนี้ ของ นายกิตติรัตน์ เป็นอย่างไรบ้าง?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลงบดุลบริษัท คาเธ่ย์ แอสแซท แมเนจเม้นท์ จำกัด ที่แจ้งกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าย้อนหลังไป 5 ปี พบข้อมูลดังนี้
ปี 2551 บริษัทฯ แจ้งว่ามีรายได้รวม 3,906,068.95 บาท แต่มีกำไรแค่ 357,313.42 บาท
ปี 2552 บริษัทฯ แจ้งว่า มีรายได้รวม 3,891,522.14 บาท แต่มีกำไรแค่ 429,704.96 บาท
ปี 2553 บริษัทฯ แจ้งว่ามีรายได้รวม 2,910,785.42 บาท แต่ขาดทุน 662,690.02 บาท
ปี 2554 บริษัทฯ แจ้งว่า มีรายได้รวม 2,104,421.45 บาท แต่ขาดทุน 1,423,288.32 บาท
ปี 2555 บริษัทฯ แจ้งว่า มีรายได้รวม 2,100,615.94 บาท แต่ขาดทุน 956,096.29 บาท
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงการทำธุรกิจ 3 ปีย้อนหลัง บริษัทประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปี 2554 ขาดทุนหลักล้านบาท (นายกิตติรัตน์ เข้ารับตำแหน่งทางการเมืองในช่วงปลายปี 2554)
จากการตรวจสอบข้อมูลงบดุล ปี 2554 และปี 2555 ที่บริษัทฯ นำส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับทราบเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 และ วันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ตามลำดับ (ช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่นายกิตติรัตน์แจ้งว่ากู้เงินจากบริษัทฯ)
บริษัทฯ แจ้งไว้ในหมวดทรัพย์สินไม่หมุนเวียนว่า มีเงินให้กู้ยืมระยะยาวแก่บุคคลหรือกิจการอื่น
โดยงบดุลปี 2554 แจ้งตัวเลขไว้ที่ 12,533,623.13 บาท
ส่วนปี 2555 แจ้งตัวเลขไว้ที่ 12,396,657.27 บาท
คำถามที่น่าสนใจคือ นอกจากเงินจำนวน 6 แสนบาท ที่ปล่อยกู้ให้กับนายกิตติรัตน์ ตามที่แจ้งไว้กับ ป.ป.ช.แล้ว
เงินส่วนที่เหลืออีกกว่า 11 ล้านบาท บริษัทนำไปปล่อยกู้ให้ใคร?
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ได้พยายามติดต่อนายกิตติรัตน์ และผู้บริหารบริษัท คาเธ่ย์ฯ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องการปล่อยเงินกู้ดังกล่าวแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้
อ่านประกอบ:
เปิดสัญญากู้ปริศนา!วัดใจ"คาเธ่ย์ แอสแซท"เชือด"กิตติรัตน์"จ่ายหนี้เกินเวลา?
“กิตติรัตน์"ปล่อยเงินกู้บริษัทตัวเองเข้ากระเป๋า 6แสน-จ่ายหนี้เกินเวลา
ตามรอยหนี้สิน "กิตติรัตน์”ก่อนสวมบท“แม่ทัพ” โร่หาเงินกู้โปะจำนำข้าว!