เสือป่วย'รอวันเลือกตั้ง !!!!!/เรื่องข้าว "ถึงคราว" ทัวร์หนีคุก

เสือป่วย'รอวันเลือกตั้ง !!!!!

คมชัดลึกออนไลน์

'เสือป่วย'รอวันเลือกตั้ง : ขยายปมร้อน โดยศรุติ ศรุตา

บางทีเรามองสิ่งใดเพียงด้านเดียวก็อาจทำให้การคาดการณ์อนาคตผิดพลาดได้ กรณีการวางกรอบ "โรดแม็พ" ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั่นก็เช่นกัน

ต่างชาติที่พยายามบีบให้ คสช.เร่งนำประเทศกลับไปสู่บรรยากาศประชาธิปไตย ให้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะ หัวหน้า คสช. ต้องออกมาเปิดแนวทางที่จะต้องทำก่อนที่จะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

ถึงกับบอกเลยว่า ไม่เกินเดือนตุลาคมปีหน้า ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแน่ๆ

แน่นอนว่า ต่างชาติคงจะสบายใจในระดับหนึ่ง เช่นเดียวกับบรรดานักธุรกิจ ที่เมื่อมีกำหนดที่ชัดเจน แผนธุรกิจก็คงจะจัดเอาไว้ได้ไม่ยากนัก นักการเมืองเองก็รับรู้ด้วยเช่นกันว่า บทบาทของตนเองจะโดดเด่นได้อีกครั้งในช่วงนั้น

แต่คนที่สบายใจที่สุดคงจะเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ถึงกับถ่ายรูปในต่างแดนคู่กับป้ายให้ยืนรอ แปลเป็นไทยว่า "รอได้"

นั่นก็เพราะยังมั่นใจว่า พรรคการเมืองที่สนับสนุนนั้นยังมีฐานเสียงที่หนักแน่น มั่นคง เพียงพอที่จะคว้าชัยชนะจากการเลือกตั้ง

ไม่ว่ากติกาการเลือกตั้งจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบไหน เขตเดียวเบอร์เดียว พวงเล็ก พวงใหญ่ กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบไหน ล้วนไม่ใช่ปัญหาหนักอกสำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ

นั่นเป็นเพราะฐานเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น อยู่ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)

ตลอดเวลาที่น้องสาวดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บรรดาผู้ที่แวะไปเยี่ยมเยือนถึงดูไบ ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้คนที่สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

นับแล้วก็น่าจะร่วมๆ 50 จังหวัด ส่วนใหญ่มาจาก ภาคอีสาน ภาคเหนือ ส่วนภาคกลางก็พอมีบ้าง

ที่สำคัญองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเหล่านั้น ดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจจาก คสช.เท่าใดนัก

ต่างจากคนเสื้อแดง โดยเฉพาะแกนนำ นปช.ที่ดูจะเอาจริงเอาจังเป็นพิเศษ ทำให้แผนในการกลับเข้ามากุมอำนาจรัฐอีกครั้งถูกปรับไปใช้โหมดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปล่อยให้ นปช.อยู่นิ่งๆ ในสายตาของ คสช.ต่อไป

ทุกวันนี้แค่ทำตัวเป็น "เสือป่วย" ไม่ให้ คสช.เขม่น มันไม่ใช่บทที่ลำบากยากเย็นอะไรนัก บางเรื่องยังรอได้เป็นปีๆ ดูจากการขายหุ้นชินคอร์ปให้กลุ่มเทมาเส็กนั่นปะไร กว่าจะจบกันได้ไม่ใช่แค่ปีสองปี

หรือกว่าจะบอกกับ "พี่เหนาะ" ว่า "กกต.เป็นของเราแล้ว" นั่นก็ต้องใช้เวลาหลายปี

เมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ช่วงที่ "ทหาร" มีอำนาจเต็มทั้ง "บริหาร-นิติบัญญัติ" และ "กฎอัยการศึก" ไม่ใช่เรื่องที่จะไปเผยพิรุธของ "เสือป่วย"

เพราะหากมองในอีกมุมหนึ่ง การที่ คสช.ประกาศโรดแม็พออกมาอย่างนั้น ก็เท่ากับเป็นการสร้างกำแพงกักอำนาจของตนเองอยู่แล้ว

ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะไปเร่งเร้าให้ คสช.ฉุกคิดว่า การปฏิรูปประเทศด้วยระยะเวลาเพียงเท่านั้นมันไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่า บ้านเมืองจะไปสู่สังคมในอุดมคติได้

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะโพลล์สำนักไหนสำรวจความเห็นประชาชน ก็ล้วนแต่พึงพอใจกับการออกมาดูแลปัญหาสังคมของทหาร แต่ถ้า "กำปั้นเหล็ก" ยกออกไปเมื่อไหร่ สิ่งที่มันเคยมีอยู่คนเขาก็เชื่อว่า เดี๋ยวมันก็จะกลับมาแน่

ทุกคนรู้ดีว่า บ้านเมืองจะต้องมีการปฏิรูป สิ่งที่จะต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วนนั้น แทบจะบอกไม่ได้ว่าใครก่อนใครหลัง เพราะแต่ละองคาพยพดูจะ "ป่วย" ไปเสียหมด

แต่ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองจริงๆ หน่วยงานด้านความมั่นคงประเมินแล้วชี้ไปที่ ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และระบบการเลือกตั้ง หรือกระบวนการเข้าสู่อำนาจ

ถ้าหากไม่ได้รับการแก้ไข หลังเลือกตั้งก็คงจะมีสภาพไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ ที่มีการชุมนุมขับไล่ของประชาชน ซึ่งก็เท่ากับว่า เวลาที่ผ่านไปนั้นสูญเปล่าอย่างสิ้นเชิง

แม้ว่า คสช.จะตั้งใจดี แต่ก็เหมือนการสร้างตึกสักหลัง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะใช้ซากอาคารเก่าที่โดนทั้งไฟเผา ทุบทำลาย แล้วไปกอบเอาดินทรายนั้นมาสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง



●เปลว สีเงิน

Tuesday, 15 July, 2014 
เรื่องข้าว "ถึงคราว" ทัวร์หนีคุก

ตอนนี้...มีคนเกรงกันอยู่ ๒ เรื่อง
▶เรื่องแรก เกรง "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" จะไม่ยอมเป็นนายกฯ ในรัฐบาล คสช.ที่จะตั้งเดือนหน้า คือเดือนสิงหา

▶เรื่องที่ ๒ ก็เกรงสืบเนื่องจากเรื่องที่ ๑ คือเกรงว่า เมื่อพลเอกประยุทธ์ขึ้นเป็นนายกฯ แล้ว จะไม่ยอมเกษียณอายุราชการตอนสิ้นเดือนกันยา
จะต่ออายุ นั่งควบตำแหน่ง ผบ.ทบ.ด้วย!?

ในความเห็นผม ไม่น่าเกรงทั้ง ๒ เรื่อง ย้อนไปดูแต่แรกที่พลเอกประยุทธ์เข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศก็จะเข้าใจ เพราะท่านพูดชัด
▶"ทหารไม่ได้ต้องการอำนาจ และจะทำทุกอย่างเพื่อคืนสันติสู่คนไทย"

▶ทหารเข้ามาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย เตรียมข้อกฎหมายในเรื่องต่างๆ ทุกเรื่อง เพื่อให้เกิดความถูกต้องในการปฏิบัติงานในทุกมิติ ทั้งปัจจุบัน และเตรียมการสู่อนาคต

▶จัดตั้งองค์กรขึ้นมาดูแลและรับผิดชอบภาคปฏิรูป ในทุกเรื่องที่เป็นปัญหาข้อขัดแย้ง และกระบวนการทางนิติบัญญัติ เพื่อให้สามารถเดินหน้าประเทศไทยไปสู่อนาคตได้ นำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยอย่างสันติวิธี และถาวร ปราศจากความขัดแย้ง

▶งานเร่งด่วน คือแก้ไขปัญหาข้อติดขัดทุกประการที่มีผลเดือดร้อนกับประชาชนทั้งในอดีต-ปัจจุบัน และเตรียมการสำหรับแก้ไขปัญหาในอนาคต
เช่น การแก้ปัญหาเรื่องการจำนำข้าวก่อน โดยจะทำควบคู่กับการระบายข้าวให้ถูกต้อง-เป็นธรรม และรองรับปัญหาในอนาคต จะมีมาตรการช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ไม่ให้เกิดภาระกับประเทศชาติ"

เนี่ย...ทั้งหมดนี้ จะสำเร็จได้ พลเอกประยุทธ์ต้องเป็นทั้งหัวหน้า คสช. และเป็นทั้งนายกรัฐมนตรี
ถ้าตัวนายกฯ ผิดไปจากพลเอกประยุทธ์ ทุกอย่างจะ "เหลว" หมด!

ส่วนเรื่องนั่งควบเก้าอี้ ผบ.ทบ. ผมว่าคนข้างนอก "พูดกันไปเอง" มากกว่า พลเอกประยุทธ์ก็บอกแล้ว "ไม่ได้ต้องการอำนาจ"
แค่เก้าอี้นายกฯ กับเก้าอี้ผู้นำ คสช.ก็ลงตัว "พอดีตูด" แล้ว

จำเป็นอะไรต้องไปเบียดบัง หรือกันที่-กันทาง พวกน้องๆ ในกองทัพอีก
ตัดประเด็น "นั่งควบ" ทิ้งไปได้เลย ชายชาติทหารอย่างพลเอกประยุทธ์ ประเมินว่า ท่านทั้งไม่คิดและไม่ทำแน่
ถ้าทำก็ "เสียคน"!

มาพูดเรื่องงานดีกว่า พลเอกประยุทธ์จัดอันดับ "เรื่องรับจำนำข้าว" เป็นปัญหาที่ต้องแก้เร่งด่วน ได้แก้เรื่องรัฐบาลยิ่งลักษณ์ "ชักดาบ" ค่าจำนำข้าวชาวนากว่าแสนล้านบาทจบไปแล้ว ตอนนี้อยู่ในเรื่อง "ชำระ-สะสาง" การทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และนับวัน ทั้งด้าน ป.ป.ช.และด้าน คสช.ที่มอบให้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกฯ และทหารออกตรวจโกดังข้าวร้อนฉ่า-กลิ่นโกงโฉ่.......!  โชยออกมาจากแต่ละโกดังที่เปิดพิสูจน์ "ความมีอยู่จริง" และ สภาพของข้าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พูด......"มีทั้งข้าวเน่า ข้าวเสื่อมสภาพ ข้าวเหลือง ข้าวป่น มีการยัดไส้

นอกจากเอาปลายข้าวมายัดไส้ใส่ข้าว ๕% แล้ว ยังพบข้าวสารเจ้าปนข้าวเหนียว ข้าวสารปนข้าวหอมมะลิ
ที่เลวร้ายยังพบ 'นั่งร้าน' ยัดไส้กลางกองข้าว และที่สำคัญคือข้าวหาย ซึ่งเกิดขึ้นทุกพื้นที่และทุกภาคทั่วประเทศ"
บางคนร้องว่า...ทำไมช้าจัง โกงชัดแจ้งอย่างนี้ น่าไปลากคอมาเข้าคุกได้แล้ว? "ความรู้สึก" เป็นเรื่องหนึ่ง "สิ่งที่ต้องพิสูจน์" ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การรู้สึกว่าคนนั้น-คนนี้โกง ทุจริตกินข้าว...รู้สึกได้ แต่จะใช้แค่ "ความรู้สึก" ไปบอกต่อศาลให้ตัดสินลงโทษ นายนั้น-นางนี้ ว่าทุจริต-โกงกินในโครงการรับจำนำข้าว ถึงจะจริง...ศาลท่านก็ตัดสินลงโทษไม่ได้ ถ้าไม่มีผลสืบสวน-สอบสวน-ตรวจสอบ พร้อมพยานหลักฐาน-เอกสารต่างๆ

ไปยืนยันให้ประจักษ์!

คสช.กำลังทำอยู่ครับ!! ทำในความหมาย "จับให้มั่น-คั้นให้ตาย" ถึงศาลแล้ว จำเลย ทั้งไอ้-ทั้งอี พูดไม่ออก ได้แต่กลอกหน้า รอรับคำพิพากษาคุกสถานเดียวด้วย...จำนนต่อหลักฐาน! เพราะสุดท้ายแล้ว ทั้งข้อมูลการตรวจสอบของ คสช.และข้อมูลการตรวจสอบของ ป.ป.ช. "ในข้อเท็จจริง" มันก็ต้องบรรจบ "ตรงกัน"  เพราะอยู่ในฐานทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และการขายข้าวทั้ง จีทูจี-เจ๊ทูเจี๊ยะ บนตัวเลขข้าวมูลค่า ๖-๗ แสนล้านเดียวกัน! ใครบ้างที่ "กินอยู่กับปาก-อยากอยู่กับท้อง" ตอนนี้คง กินไม่ได้ นอนไม่หลับ สะดุ้งผวาทั้งหลับและตื่น ก็ไม่รู้นะ...รู้แต่ว่า ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ ชี้มูลความผิดคนเหล่านี้พร้อมแจ้งข้อหาไปแล้วก็มีทั้ง

▶นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว
▶ตามด้วยนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ▶นายภูมิ สาระผล รมว.และ รมช.พาณิชย์ พร้อมด้วยพวกอีก ๑๕ คน
ในกรณี "ขายข้าวจีทูจี" ที่ส่อว่า "เจ๊ทูเจี๊ยะ" มากกว่า! แล้ว ๓-๔ วันมานี้ มีข่าวออกมาว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขออนุญาต คสช.เดินทางออกนอกประเทศด้วยจุดประสงค์พาลูกชายไปเที่ยว และไปงานวันเกิดพี่ชาย "ทักษิณ ชินวัตร" ตอนปลายเดือนกรกฎาคมนี้

ประเด็นนี้ เป็นเรื่องนอกอ้อมแขน ผมตอบแทนใครไม่ได้ และผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ถ้ายิ่งลักษณ์ขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศจริง พลเอกประยุทธ์ จะอนุญาตมั้ย?

ตัวอย่างตามหน่อ-ตามแนวมีมาแล้ว ทักษิณนั่นไง... ขออนุญาตพาเมียไปดูกีฬาโอลิมปิกที่จีน ปรากฏว่า ฉวยโอกาส หนีคดี-หนีศาล-หนีโทษคุกไปอยู่อังกฤษโน่น! แล้วในขณะที่ "คุก-เรื่องข้าว" บีบกระชับเข้ามาทุกขณะ คุณวิชา มหาคุณ ป.ป.ช.บอกว่า จะปิดสำนวนการสอบสวนได้ในราวๆ เดือนสิงหา-กันยา และจะนำส่งฟ้อง "ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง" เลย! แบบนี้...คนร้อยละ ๘๐-๙๐ บอกว่า ถ้าได้ออกไปนอกประเทศแล้ว เรื่องอะไรกูจะกลับมาติดคุกให้โง่!

สมมุติ พลเอกประยุทธ์อนุญาตให้ไปล่ะ.....?
นั่นแสดงว่า พลเอกประยุทธ์ "ยอมตายแทน" ยิ่งลักษณ์ และจะไม่มีเครดิตอะไรเหลือให้คนเชื่อ คนศรัทธา นับญาติเป็น "ลุง" อีกต่อไป สิ่งที่ควรทำนอกจากไม่อนุญาตให้ออกนอกประเทศแล้ว ต้องให้อัยการสอบด้วยซ้ำว่า...รู้ที่พักพิงถาวรของโจรผู้ร้ายแล้ว ทำไมไม่แจ้ง? ต้องเค้นให้ยิ่งลักษณ์บอก แล้วประสาน หรือไปเอง ไปประสานกับประเทศนั้นเพื่อจับเอาตัวทักษิณมาเข้าคุก ๒ ปี ตามที่ศาลพิพากษาไว้แล้ว

เอ...หรือมีแผนจะไปเป็น "นายกฯ รัฐบาลพลัดถิ่น" ให้แก๊งหัวหยิก-ตุ๊ดแดง ที่กำลังตั้งขบวนการโจรกันอยู่แถวๆ ยุโรปตอนนี้? แต่ถ้าผมเป็นยิ่งลักษณ์ มีเงินพันได้รอบโลก ก็ต้องหาทางเผ่นเหมือนกัน.....! เพราะผลตรวจสอบโกดังข้าว ไม่ใช่เน่า-ข้าวหาย อย่างเดียว มันส่อเจตนาโกงโจ่งแจ้ง ยิ่งตรง "ตีโป่ง" โกดัง เอากระสอบข้าวสุมให้เห็นสูงๆ ตบตาไว้ทำนองว่า มีข้าวครบ แต่จริงๆ แล้ว "ตรงกลาง-ข้างใน....กลวงโบ๋" นั่นจะบอกว่า..ไม่รู้..ไม่เห็น ไม่ได้เลย!

เพราะนี่คือ หลักฐานยัน....
๒๓ เม.ย.๕๗ ยิ่งลักษณ์ เรียกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโครงการจำนำข้าวหารือ อาทิ
▶นายนิวัฒน์ธำรง รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์
▶นายกิตติรัตน์ รองนายกฯ และ รมว.คลัง ▶นายชัยเกษม รมว.ยุติธรรม
▶นางเบญจา รมช.คลัง
▶นายยรรยง รมช.พาณิชย์ และ ฯลฯ

เสร็จแล้วให้นายยรรยง ไปยื่นหนังสือ ป.ป.ช.ขอให้ตรวจสอบข้อมูลคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกอีกครั้ง

ก่อนสรุปผลตัดสิน
อ้างว่า...คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ไม่ได้นำข้อมูลข้าวสารจำนวน ๒.๙๗๗ ล้านตัน ที่หายจากสต็อกเข้ามาคำนวณด้วย ทำให้โครงการมีผลขาดทุนสูง ๒-๓ แสนล้านบาท/ปี

นายยรรยงยังให้สัมภาษณ์ด้วยนะ......
“.......จริงๆ ข้าวไม่ได้หายไปไหน ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างนำไปสีแปรสภาพเป็นข้าวสาร เพื่อนำเข้าเก็บไว้ในโกดังกลาง อีกส่วนอยู่ระหว่างส่งมอบให้ผู้ซื้อ และมีบางส่วนขายไปแล้ว พาณิชย์จึงไม่ได้นำตัวเลขข้าวลอตนี้มาลงบันทึกบัญชี"

ยิ่งลักษณ์ ผู้แถลงต่อรัฐสภา "โครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล" และในฐานะ ประธานคณะกรรมการข้าว โพสต์ fb วันเดียวกันว่า....
“.............ข้าวสูญหายไปนั้น ความจริงแล้วไม่ได้สูญหาย จึงต้องถือว่าสต็อกข้าวนั้นมีอยู่ ที่ไม่นำมารวมคำนวณจึงไม่ถูกต้อง และไม่อาจกล่าวอ้างได้ว่าข้าวดังกล่าวสูญหาย

ดังนั้น การตรวจสอบสต็อกให้ถูกต้องย่อมเป็นภารกิจที่สำคัญ และจะทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช.เป็นไปด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม ไม่ได้เชื่อเพียงคำกล่าวอ้างดังที่ปรากฏเป็นข่าวเท่านั้น............"

แล้วไงล่ะ...? ให้เดอะแก๊งกับตำรวจแดงไปตรวจว่าอยู่ดี แล้วตอนนี้ คสช.เขาตรวจเอง ที่ว่าไม่หาย ท้าให้ตรวจสต็อกน่ะ เขาตรวจให้แล้วเกือบทุกโกดัง "ตีโป่ง" จงใจโกง จะจะ..แจ้งๆ อย่างที่เห็น! ยิ่งลักษณ์-ยรรยง นอกจากมีตัวให้แก้แล้ว ยังเหลืออะไรให้แก้อีกมั้ยที่ว่า...ข้าวอยู่ครบน่ะ?  มันไม่ใช่หายแค่ ๒.๙๗๗ ล้านตัน อย่างที่บอก ที่เห็นตำตา มันอาจหายถึง ๕ ล้านตัน ๑๐ ล้านตันเอาน่ะ และที่คำนวณมูลค่าโกงกันว่า ๓-๔ แสนล้านนั้นทำท่าจะไปถึงล้านล้านด้วยซ้ำ!

"เที่ยวเมืองไทย-ติดคุกไทย" สบายกว่า...ยิ่งลักษณ์ แต่ถ้าตั้งใจจะไปเป็น "นายกฯ รัฐบาลพลัดถิ่น"....นั่นก็ดิ้นไปเถอะ!