"หมอมโน"สัมภาษณ์ปมธรรมกายก่อนกักตัว"ยุคล ทีนิวส์"จี้ลบเทป(6-3-58)
ต้องฟังหมอมโนพูดให้ได้ครับ แม้จะพูดได้ไม่ถึงครึ่งโดนขัดเสียก่อน ก็เห็นชัดครับว่าเหตุใดจึงเกิดการทุ่มบุญกันจนคลั่งไคล้ขนาดขายบ้านหมดเนื้อหมดตัวกันเป็นเเถว. ศรัทธาหรือจิตวิทยาหมู่ใช้วิจารณญานกันครับ
"มโน : คือท่านพยายามจะให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดท่านเชื่อว่าท่านเป็นต้นธาตุต้นธรรม ก็คือ ก็อด พระผู้เป็นเจ้า ที่ลงมาเหมือนกับอวตารลงมา มาเป็นมนุษย์ นี้เป็นคำสอนที่พิเศษไปจากทุกวัด ในพุทธศาสนาเราไม่มีพระผู้เป็นเจ้าถูกไหมครับ พระพุทธเจ้าต้องเป็นผู้ตรัสรู้ธรรม ไม่มีพระเจ้าผู้สร้างโลก ทีนี้สมัยหลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านก็เทศน์ไว้ แนวปฏิบัติของวัดปากน้ำคือ เมื่อบวช เมื่อมาบวชผู้บวชจึงทราบว่า พระต้นธาตุใช้ให้มาปราบมาร ถ้าไม่สำเร็จก็ยอมตายที่วัดปากน้ำนี้ คราวนี้พระต้นธาตุนี้คือใคร แล้วก็สมัยโบราณมีความเชื่อที่มีพระต้นธาตุต้นธรรม เป็นพระพุทธเจ้า องค์แรกซึ่งสร้างสรรพสิ่งทุกอย่างทั้งปวงคราวนี้ท่านเองก็ตั้งใจในการปราบมาร คำสอนในวัดปากน้ำจะมีอยู่ 2 ส่วน ส่วหนึ่งเรียกว่า วิชามรรคผล ว่าด้วย 18 กายเข้าถึงเพื่อเป็นพระอรหันต์ อีกอันหนึ่งก็ปราบมาร ในเรื่องนี้วิชาปราบมารเป็นเรื่องที่ท่านทำเองเพื่อปราบมาร ทำยังไงมารจะหมด พอมารหมดนี้ก็โลกทั้งโลก ดวงดาวอะไรก็หายหมดทุกอย่างจะกลายเป็นนิพพาน มดสักตัว ยุงสักตัวก็กลายเป็นพระธรรมกายหมด นั้นสิ้นสุดของวัฏสงสารนั้นคือเป้าหมายที่ท่านจะทำ คราวนี้ท่านก็มรณภาพไป 2502 ในขณะนั้นของวัดธรรมกายโดยเจ้าอาวาสพระธรรมกายท่านธัมมชโย ท่านก็สอนลูกศิษย์ใกล้ชิดท่านว่า ท่านเป็นพระต้นธาตุตัวจริง เป็นคนที่ใช้หลวงพ่อวัดปากน้ำลงมาปราบมาร หลวงพ่อทำไม่สำเร็จท่านเลยต้องลงมา หลวงพ่อวัดปากน้ำเป็นทัพหน้า ท่านเป็นทัพหลวงตัวจริง แล้วก็มาไม่ได้มาคนเดียว มาเป็นล้าน หลายล้าน ธรรมกาย พระพุทธเจ้าฝ่ายปราบเป็นล้าน แล้วมีบารมีแล้วก็แบ่งเป็นทัพ เขาเรียก กองทัพธรรม มีทั้งหมดอยู่ 4 กอง ฝ่ายรบ ฝ่ายเผยแผ่ ฝ่ายปฏิสังขรณ์ แล้วอันสุดท้ายคือกองเสบียง เป็นกองทัพเลย"
http://m.tnews.co.th/news.php?hotID=132368
●●ช่วงช่วง วัดปากน้ำบอก ใช้ทอง 1 ตัน
ช่างหล่อแฉบอก จริงๆแค่ 420 กิโล ใช้จริงไม่ถึง 1 ตัน (ตามโฆษณา)..ใครโกหก?????
นายบุญส่ง นุชน้อมบุญ นายช่างประจำกรศิลปากร ซึ่งเป็นช่างหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อมงคลเทพมุณีหรือหลวงพ่อสด ที่วัดพระธรรมกาย โฆษณาชวนเชื่อว่าสร้างจากทองคำแท้หนักถึง 1 ตัน ให้สัมภาษณ์ว่าได้รับการติดต่อจากวัดเมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมา โดยพระที่ชื่อหลวงพี่หมู กับศิษย์เก่าของวิทยาลัยช่างศิลป์รายหนึ่งซึ่งคุ้นเคยกับตนมาขอคำแนะนำเรื่องเทคนิคการหล่อ แจ้งว่าเจ้าอาวาสต้องการหล่อรูปเหมือนทองคำของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตนจึงแย้งว่าการหล่อรูปเหมือนทองคำขนาดใหญ่นั้นเป็นการสิ้นเปลือง เพราะทองคำมีราคาแพงและใช้จำนวนมาก หลวงพี่หมูกลับตอบว่าไม่ใช่หน้าที่ของตน ทkงวัดขอเพียงความช่วยเหลือและคำแนะนำเท่านั้น ส่วนเรื่องทองคำที่หามานั้นทางวัดจะจัดการเอง ตนจึงตอบตกลงโดยขอหล่อรูปเหมือนจากตะกั่วเพื่อเป็นการทดลองก่อน
“หลังจากตกลงกันแล้ว 2 สัปดาห์ต่อมาทางวัดเชิญผมและทีมงาน ซึ่งมีลูกน้องผมไปด้วยกัน 2 คน ไปตัวเปล่า เพราะเห็นว่าทองคำจำนวนมากจึงไม่เอาของส่วนตัวติดไปเลย เมื่อไปถึงวัดมีช่างของวัดหลายคนมาช่วยกันโดยช่างบางรายเป็นพระ และผู้ปฏิบัติธรรมที่มีความรู้ทั้งทางจิตรกรรม ช่างศิลป์ และวิศวกรรมมาควบคุมการทำงานอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ครั้งแรกผมหล่อด้วยตะกั่วหนัก 400 กิโลกรัม (ก.ก.) เมื่อหล่อรูปเหมือนตะกั่วเสร็จแล้วก็กลัมาอีกครั้งเพื่อหล่อพระทองคำ โดยผมกำหนดใช้ทองคำประมาณ 400 ก.ก. และทางวัดบอกว่ามีทองคำ 99.95% จำนวน 600 ก.ก. เตรียมไว้ ทุกขึ้นตอนจะมีเจ้าหน้าที่ของวัดดูแลอย่างรัดกุม และมีพนักงานรักษาความปลอดภัยคุมเข้มตลอดเวลา” นายบุญส่งกล่าว
นายบุญส่งกล่าวต่อว่า หลังจากตนเบิกทองคำมาแล้วใช้วิธีหลอมทองจำนวน 10 เบ้าหลอม แต่ละเบ้าหลอมมีทองจำนวน 60 ก.ก. ซึ่งใช้ทองไปเพียง 7 เบ้า หรือประมาณ 420 ก.ก. ก็เต็มองค์ ส่วนทองที่เหลืออีก 3 เบ้า ทางวัดตอบว่าจะนำไปหล่อพระพุทธรูปในโอกาสต่อไป หลังจากเสร็จพิธีแททองหล่อพระในวันดังกล่าวตนไม่เคยไปที่วัดนี้อีกเลย และไม่ทราบมาก่อนว่าทางวัดประชาสัมพันธ์ว่าพระองค์ดังกล่าวมีน้ำหนักถึง 1 ตัน ครั้งแรกรู้สึกแปลกใจเพราะเท่าที่สอบถามญาติโยมที่ไปทำบุญ หลายรายดุจะไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมากมาย แต่สามารถบริจาคได้ถึงคนละ 1-2 ก.ก.
https://thaidhammakaya.wordpress.com/2015/03/06/gold/
http://m.tnews.co.th/news.php?hotID=132368

นายบุญส่ง นุชน้อมบุญ นายช่างประจำกรศิลปากร ซึ่งเป็นช่างหล่อรูปเหมือนห
“หลังจากตกลงกันแล้ว 2 สัปดาห์ต่อมาทางวัดเชิญผมแล
นายบุญส่งกล่าวต่อว่า หลังจากตนเบิกทองคำมาแล้วใช
https://