GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

++ ซึ้งจนร้องไห้ ++

หากใครดูถ่ายทอด จะพบว่า ทุกคนยืนปรบมือให้พระสันตะปาปาเป็นเวลานานมากๆ (Standing Ovation) และดูเท่ห์มากๆ ตอนพระสันตะปาปาเดินเข้ามา มีเสียงประกาศว่า "Pope of the Holy See" (พระสันตะปาปาแห่งสันตะสำนัก)
++ ซึ้งจนร้องไห้ ++
เมื่อคืนนี้ หากใครได้ชมการถ่ายทอดสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส กล่าวสุนทรพจน์แก่สมาชิกรัฐสภาและวุฒิสมาชิกของรัฐสภาสหรัฐอเมริกา (คองเกรส) น่าจะพบว่า ส.ส. และ ส.ว. หลายคน "ร้องไห้ออกมาแบบไม่อายใคร" และหนึ่งในนั้นก็คือ "จอห์น เบห์เนอร์" ประธานสภาผู้แทนราษฎร นั่นเอง
สำหรับสิ่งที่พระสันตะปาปาตรัสนั้น มีใจความสำคัญว่า
1) ทรงขอร้องชาวอเมริกันอย่ากลัวผู้อพยพ เพราะชาวอเมริกาส่วนมากก็เป็นลูกหลานผู้อพยพเช่นกัน เราต้องมองเขาเป็นคน ไม่ใช่มองเขาเป็นจำนวนตัวเลข
2) ทรงหวังเห็นสังคมอเมริกันต่อต้านการค้าอาวุธ เพราะนี่คือความร่ำรวยบนกองเลือด
3) ทรงย้ำ ศาสนาแท้จริงไม่นำพระเจ้ามาเป็นข้ออ้างสร้างความรุนแรง
4) ทรงชี้ เยาวชนประสบปัญหามากมาย เพราะความไม่รู้จักโตของผู้ใหญ่หลายคนนั่นเอง

เตือน‘เดวีส์’อย่าจุ้นภายในไทย

"กลิน เดวีส์" ทูตสหรัฐคนใหม่ เริ่มงานในไทยสานต่อภารกิจร่วมระบอบทักษิณ ???





"บิ๊กตู่" อึ้งคนไทยที่สหรัฐฯต้อนรับ-บอกเป็นความหวังครั้งสุดท้าย ตอบกลับติดตลก-ขณะไปถกยูเอ็น
วันที่ 25 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 24 ก.ย. (ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าเวลาประเทศไทย 11 ชั่วโมง) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคเนดี้ นครนิวยอร์ก โดยมีนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และภริยาให้การต้อนรับ จากนั้นนายกฯ และคณะได้เดินทางมายังโรงแรมวัน ยูเอ็น นิวยอร์ก เมื่อมาถึงมีคนไทยในสหรัฐฯ รอให้การต้อนรับ มอบหนังสือให้นายกฯและมอบดอกไม้ให้ภริยานายกฯและกล่าวให้กำลังใจ มีบางคนระบุว่านายกฯ เป็นความหวังครั้งสุดท้าย ซึ่งนายกฯ ถึงกับอึ้ง แต่ก็กล่าวติดตลกว่า "ทำให้ผมรู้สึกกดดัน และขอขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ เพราะทุกคนที่สนับสนุนผมหรือไม่สนับสนุนผม ต่างก็เป็นคนไทยด้วยกัน"

ต่อมานายกฯเป็นประธานการประชุมเพื่อมอบนโยบายให้กับทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ โดยนายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน กล่าวรายงานว่า มีความซาบซึ้งใจที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ ด้วยการเลือกให้นโยบายกับทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ เป็นวาระแรกในงานของนายกฯ เพื่อให้เรามีโอกาสรับฟังรายงานจากนายกฯโดยตรง มั่นใจว่าเมื่อกลับเมืองไทย ก็จะไม่มีโอกาสรับฟังอย่างใกล้ชิดขนาดนี้ ซึ่งทีมประเทศไทยในสหรัฐฯทั้งหมด 82 คน เป็นพลเรือน 65 คน และทหาร 17 คน
พล.ต.วีรชน สุคนธปฎิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยว่า นายพิศาล รายงานถึงความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ และความร่วมมือระหว่างกันว่ามีทิศทางที่ดีขึ้นเป็นสัญญาณทางบวก ดูจากความร่วมมือต่าง ๆ ที่มีมากขึ้นเกือบเท่าระดับปกติ ทั้งความร่วมมือด้านการศึกษา พาณิชย์ ความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคง ซึ่งนายกฯพร้อมจะแก้ข้อขัดข้องต่าง ๆ และให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาทั้งด้านการค้าการลงทุน การศึกษา การเกษตรอุตสาหกรรม รวมทั้งส่งเสริมปัจจัยต่าง ๆ ที่เอื้อต่อความสัมพันธ์ไทยกับสหรัฐฯ
สำหรับการประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำ เพื่อรับรองวาระการพัฒนา ภายหลังปี ค.ศ. 2015 และการประชุมสมัชสหประชาชาติ สมัยสามัญครั้งที่ 70 ในวันที่ 25 ก.ย. เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายกฯจะร่วมรับฟังการกล่าวปราศรัยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ที่ General Assembly Hall สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ จากนั้นเป็นพิธีเปิดการประชุมเต็มคณะ การประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำเพื่อรับรองวาระการพัฒนา ภายหลังปี ค.ศ. 2015
ในช่วงบ่าย นายกฯจะกล่าวถ้อยแถลงในการเสวนา Interactive Dialogue 1 หัวข้อ "Ending Poverty and Hunger" และเยี่ยมชมนิทรรศการเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการไว้ภายในสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ และช่วงค่ำนายกฯ พบปะผู้แทนระดับสูงจากบริษัทต่าง ๆ และจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา.....ที่มา : ข่าวสดออนไลน์

 

ทางสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่านายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศคนใหม่ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยและจะเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการทำให้สถานการณ์การเมืองของไทยตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปจะต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศคนนี้รวมถึงท่าทีของสหรัฐอเมริกาว่าจะเดินหน้าไปในทิศทางไหนอย่างไร?
โดยถ้าหากย้อนกลับไปตรวจสอบพฤติกรรมของเอกอัครราชทูตรวมไปถึงอุปทูตก่อนหน้านี้ก็จะพบว่าล้วนแต่ถูกจัดวางบทบาทของการทำงานสอดประสานกับฝ่ายระบอบทักษิณและพยายามที่จะโจมตีรัฐบาล คสช. มาโดยตลอด  หลังจากที่ นายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ วัย 58 ปี เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว
เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา หลังวุฒิสภาลงมติรับรองนายเดวีส์ เมื่อเดือนก่อน ทำให้การว่างเว้นของตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยมานานกว่า 10 เดือนสิ้นสุดลงนับตั้งแต่นางคริสตี เคนนีย์เอกอัครราชทูตคนก่อนหน้านี้หมดวาระดำรงตำแหน่งไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ขณะที่ ล่าสุด สถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยได้ แจ้งผ่านเฟซบุ๊กว่า"สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยมีความยินดีแจ้งให้ทราบว่า เอกอัครราชทูตกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่ได้เดินทางถึงไทยแล้ว"
โดยประวัติของนายเดวีส์ว่า เป็นนักการทูตอาชีพลำดับชั้นอัครราชทูตที่ปรึกษา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ พ.ศ.2557 จนถึงปัจจุบัน
ซึ่งก่อนหน้านั้น นายเดวีส์เคยเป็นผู้แทนพิเศษด้านนโยบายเกาหลีเหนือระหว่าง พ.ศ.2555-2557 และปฏิบัติราชการในตำแหน่งผู้แทนสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา และทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ระหว่างปี พ.ศ.2552-2555
นายเดวีส์เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มรองผู้ช่วยรัฐมนตรีและเป็นรองผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่าง พ.ศ.2549-2552 ทั้งยังเป็นที่ปรึกษาอาวุโสประจำ Leadership and Management School แห่ง Foreign Service Institute (FSI) เมื่อ พ.ศ.2548-2549 รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและแรงงาน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ.2548 รองผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายกิจการยุโรประหว่างปี พ.ศ.2547-2548 และผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองในวาระที่สหรัฐอเมริกาเป็นประธานกลุ่ม G-8 ระหว่างปี พ.ศ.2546-2547 และช่วงปี พ.ศ.2542-2546 นายเดวีส์รับตำแหน่งอัครราชทูตที่ปรึกษาของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ณ กรุงลอนดอน
นอกจากนี้ ยังเคยเป็นผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระหว่างปี พ.ศ.2540-2542 รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาและรองผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายกิจการสาธารณะระหว่าง พ.ศ.2538-2540 และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ (Operations Center) กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่าง พ.ศ.2535-2537 และเคยถูกส่งไปประจำการในหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และซาอีร์ (ปัจจุบันคือคองโก)
นายเดวีส์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาการต่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ในปี 2522 และปริญญาโทด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ จากมหาวิทยาลัยการป้องกันประเทศ ที่วอชิงตัน ดี.ซี. เขาสมรสกับนางแจ๊กเกอลีน เอ็ม. เดวีส์ซึ่งเป็นทนายความ มีบุตรสาว 2 คน และหลานสาวอีก 3 คน
หลังจากนี้อีกไม่นานนัก เราก็คงจะได้เห็นฝีไม้ลายมือของเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยคนใหม่ ว่าจะทำได้ดีเพียงใดภายใต้สถานการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตกอยู่ในสถานะที่ไม่ค่อยปกติสักเท่าใดนักในปัจจุบัน พิจารณาจากภูมิหลังของเกล็น เดวีส์ เห็นได้ชัดว่า นี่คือนักการทูตระดับลายคราม
นั่นนำไปสู่คำถามที่ต้องควานหาคำตอบกันต่อไปว่า ทำไมสหรัฐอเมริกาส่งมือการทูตระดับนี้มาประจำประเทศไทย
ทั้งนี้นับตั้งแต่ที่นางคริสตี เคนนีย์เอกอัครราชทูตคนเดิมได้พ้นวาระออกไป และก่อนที่นายเดวีส์จะเข้ามาทำหน้าที่แทน ตำแหน่งรักษาการในที่นี้ตกเป็นของนายดับเบิลยู แพทริค เมอร์ฟี อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
ซึ่งก็เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่ายื่นอยู่เคียงข้างระบอบทักษิณและบ่อยครั้งที่มักจะสื่อสารตำหนิคสช.เกี่ยวกับเรื่องการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ
ล่าสุดนายดับเบิลยู แพทริค เมอร์ฟี อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า ยังมีความกังวลต่อข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพในประเทศไทย และข้อจำกัดเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ
ประกอบกับเมื่อวานประชาธิปไตยสากลที่ผ่านมา เครือข่ายคนเสื้อแดงก็ได้ทำการเผยแพร่ภาพอันเป็นที่น่ายินดีของฝ่ายตนเองโดยระบุว่าสถานทูตอเมริกาเผย "รังสิมันต์ โรม" จิบชาสนทนากับอุปทูต พร้อมตัวแทนภาคประชาสังคมเนื่องในวัน ประชาธิปไตยสากล
ทั้งนี้อุปทูต ดับเบิลยู. แพทริค เมอร์ฟี เป็นนักการทูตอาชีพระดับอาวุโสที่ได้เข้ารับตำแหน่งอุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2557 นายเมอร์ฟีปฏิบัติหน้าที่อัครราชทูตที่ปรึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ก่อนเดินทางมาประจำในประเทศไทย นายเมอร์ฟีเคยปฏิบัติหน้าที่รักษาการผู้แทนพิเศษและผู้ประสานงานด้านนโยบายระหว่างสหรัฐฯ กับพม่าระหว่างปี พ.ศ. 2555-2556 
ก่อนหน้านั้น นายเมอร์ฟีเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภาคพื้นทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (พม่า กัมพูชา ลาว ไทย และเวียดนาม) รองผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ในประเทศพม่า หัวหน้าคณะทำงานระหว่างหน่วยงานเพื่อการฟื้นฟูเขตการปกครองนิเนเวห์ (Ninewa Provincial Reconstruction Team) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิรัก อัครราชทูตที่ปรึกษาประจำสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงมาเซรู ราชอาณาจักรเลโซโท และที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองและเศรษฐกิจประจำสถานทูตสหรัฐฯ ในนครย่างกุ้ง  นับตั้งแต่เริ่มรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศเมื่อ พ.ศ. 2535 นายเมอร์ฟียังได้ไปปฏิบัติราชการในจีน กินี และมาลีอีกด้วย
ขณะประจำที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อุปทูต เมอร์ฟีเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายการเมืองของคณะทำงานเพื่อเฮติ (Haiti Working Group) และเจ้าหน้าที่ดูแลกิจการประเทศพม่าและลาว  อีกทั้งเคยเป็นอาสาสมัครหน่วยสันติภาพสหรัฐอเมริกาในประเทศแคเมอรูน 
นายเมอร์ฟีสำเร็จปริญญาโทสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจาก Johns Hopkins University (SAIS) และสาขายุทธศาสตร์ความมั่นคงจากวิทยาลัยป้องกันประเทศด้วยผลการเรียนดีเด่น (เกียรตินิยม)  นายเมอร์ฟีจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์และแคนาดาศึกษาจาก University of Vermont และศึกษาสาขาเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศที่ European Institute ในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส
ก่อนเข้ารับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ อุปทูต เมอร์ฟีเคยเป็นนักเศรษฐศาสตร์ทรัพยากรของกองทุนสัตว์ป่าโลก และเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายของสำนักงานสภาเพื่อการพัฒนาในต่างประเทศ  
นายเมอร์ฟีมีความรู้ภาษาต่างประเทศหลายภาษา ได้แก่ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาสเปน ภาษาจีนกวางตุ้งและภาษาพม่า  อุปทูต เมอร์ฟีสมรสกับนางแคธลีน  ทั้งคู่มีบุตรชายหนึ่งคนชื่อเชมัส และบุตรสาวสองคนชื่อ เมกันและจิลเลียน และเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าการที่สหรัฐอเมริกาเลทอกนายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ มาปฏิบัติหน้าที่ต่อจากนางคริสตี้ เคนนี่ย์ ก็เพื่อเหตุผลทางการเมืองและภารกิจสำคัญบางอย่างในการเผชิญหน้ากับคสช. และรักษาผลประโชยน์ทางการเมืองร่วมกับระบอบทักษิณก็จะได้ย้อยกลับไปพิจารณาจากผลงานของนางคริสตี้ เคนนี่ย์ที่เคยฝากเอาไว้ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามจากรายงานพิเศษชิ้นนี้


วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

ลุงตู่ติดผู้นำที่ได้รับรางวัลการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICTs)



ด่วน.........สดๆจากอเมริกา

Bruce Wayne มหาเศรษฐี ชาวเมือง Gotham City สนับสนุน การชุมนุมของพี่น้องชาว ไทย ที่จะเดินทางไปให้กำลังใจบิ๊กตู่นายกรัฐมนตรี
แห่งราชอาณาจักรไทยที่จะเดินทางมาประชุม ที่สนง. องค์การสหประชาชาติในวันที่ ๒๓ กย. นี้ โดย มหาเศรษฐี บรูซเวย์น ได่ส่งตัวแทนเข้าเจรจาและยื่นหนังสือขออนุญาต ต่อนาย บิล เดอ บลาสิโอ  นายกเทศมนตรี คนที่ 109 แห่ง มหานครกอแธมซิตี เพื่อให้มีคำสั่งอนญาต
ให้คนไทยชุมนุมสนับสนุนนายกรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรไทยบริเวณ หน้า สนง.องค์การสหประชาชาติได้  หลังจากพิจารณาโดยอาศัย กม.ของมหานครกอแธมซิตี้เป็นหลัก แล้ว นายบิล เดอ บลาซิโอก็มีคำสั่งเปนหนังสืออนุญาตให้คนไทยชุมนุมฯได้ที่บริเวณหน้าที่ทำการสำนักงานองค๋การสหประชาชาตืได้ นายบิลกล่าวว่าการชุมนุมของคนไทย ไม่ขัดต่อกฏหมายของเมือง กอแธมซิตี้ และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยฯใดๆ  ตัวแทนนาย บรูซ กล่าวขอบคุณ นายบิลและกล่าวว่า พวกตนพอใจมาก ที่คนไทยได้รับอนุญาตให้ชุมนุมฯได้ พวกตนจะรีบรายงานเรื่องนี้ ต่อ นาย บรุซ เวย์น มหาเศรษฐี แห่งเมือง กอแธม ทราบโดยด่วน ต่อไป
บบ.นิวส์ รายงานจากเอนวายซี แมย์ร ออฟฟิซ
เลขที่ 253 ถนน บรอดเวย์ กอแธม ซีตี



 ลุงตู่ติดผู้นำที่ได้รับรางวัลการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICTs)





ยินดีกับท่านประธานกลุ่ม G 77 ด้วยนะครับ
ท่านได้รับความไว้วางใจจาก 133 ประเทศเลยเชียวนะครับ
เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๘ นายอภิชาติ ชินวรรโณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ในฐานะผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมประชุมการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่ม ๗๗ (G77) ครั้งที่ ๓๙ ในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐเมริกา โดยมีนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ นายโมนส์ เลิคเคทอฟ ประธานสมัชชาสหประชาชาติ ตลอดจนรัฐมนตรีและผู้แทนจากประเทศสมาชิกต่าง ๆ เข้าร่วมผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวขอบคุณประเทศสมาชิกกลุ่ม G77 ในโอกาสที่ประเทศไทยได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่ม G77 สำหรับวาระปี ๒๕๕๙ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ และเป็นการแสดงความพร้อมและบทบาทนำของไทยในการสานต่อความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา

ผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานกลุ่ม G77 ประเทศไทยยึดมั่นในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและประชาธิปไตยของเศรษฐกิจโลก รวมถึงการส่งเสริมผลประโยชน์และผลักดันประเด็นซึ่งกลุ่มให้ความสำคัญ นอกจากนี้ ประเทศไทยจะแสดงบทบาทเป็นสะพานเชื่อม (Bridge-builder) ระหว่างประเทศสมาชิกกลุ่ม และระหว่างกลุ่มกับประเทศและองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งของกลุ่ม G77 ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๐๗ โดยประเทศกำลังพัฒนาจำนวน ๗๗ ประเทศ ปัจจุบันกลุ่ม G77 มีสมาชิก ๑๓๔ ประเทศ แต่ยังคงชื่อเดิมไว้เนื่องจากความสำคัญทางประวัติศาสตร์ กลุ่ม G77 เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลของประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในสหประชาชาติ โดยเป็นเวทีให้ประเทศกำลังพัฒนาส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาร่วมกัน ตลอดจนช่วยส่งเสริมความร่วมมือใต้-ใต้ (South-South Cooperation) ด้วย











เพื่อแม้วยกระดับป่วน สัญญาณก่อนเปิดศึกแตกหัก?


การที่กลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็น “กลุ่มประชาธิปไตยใหม่” ซึ่งความจริงก็คือขบวนการแดงเพื่อแม้วหน้าเดิมๆ จงใจหักดิบออกมาสร้างสถานการณ์ด้วยการแสดงพลังที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเนื่องในวันครบรอบการรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลทักษิณเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ทั้งๆ ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งห้ามถือเป็นการสร้างสถานการณ์ยั่วยุท้าทายให้คสช.จับกุมจนมีการต่อต้านขัดขืนลุกลามบานปลายกลายเป็นชนวนวิกฤติความรุนแรง โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การบ่อนทำลายคสช.และดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ซึ่งกำลังจะเดินทางไปร่วมประชุมเชิญตามคำเชิญของนายบัน คี-มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในวันที่ 23 ก.ย.นี้
แต่คสช. รู้ทันไม่ยอมตกหลุมพรางแผนร้ายแก๊งแดงเพื่อแม้วที่หวังสร้างสถานการณ์ให้ลุกเป็นไฟ จึงยอมทนปล่อยให้มีการชุมนุมยั่วยุท้าทายกฎหมาย แล้วค่อยตามเช็คบิลพวกที่ออกมาชุมนุมภายหลัง
สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ที่ชี้ว่าการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่มีนัยสำคัญมุ่งสร้างสถานการณ์ก่อนที่นายกฯ ลุงตู่จะเดินทางไปเยือนยูเอ็นหวังให้รัฐใช้มาตรการกับผู้ชุนนุมเพื่อเป็นข้ออ้างสร้างข่าวไปทั่วโลกบ่อนทำลายภาพพจน์ของผู้นำรัฐบาลไทยในสายตาชาวโลก พร้อมทั้งเตือนว่าคนที่ออกมาชุมนุมถูกบันทึกเป็นหลักฐานไว้หมดแล้วซึ่งจะต้องดำเนินการตามกฎหมายในภายหลัง
การเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่สอดรับกับขบวนการเพื่อแม้นกลุ่มอื่นๆ ทั้งในและนอกประเทศ และทั้งที่เป็นคนไทยทรยศชาติที่สมคบกับพวกฝรั่งตาน้ำข้าวซึ่งให้ท้ายขบวนการเพื่อแม้วมาตลอด โดยกลุ่มคนหน้าเดิมๆ พวกนี้ทำเป็นขบวนการสอดรับกัน
ที่น่าเกลียดคือการที่ก่อนหน้านี้ นายแพททริค เมอร์ฟี่ อุปทูตมะกันอันตรายประจำประเทศไทย เชิญตัวแทนกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ซึ่งมีทั้งนักวิชาการเสื้อแดง แก๊งค์หมิ่นเจ้า และกลุ่มนักศึกษาเพื่อแม้วไปเลี้ยงข้าวและแลกเปลี่ยนความเห็นจนถูกตั้งข้อสังเกตว่าเหมือนมหาอำนาจมะกันอันตรายต้องการฉีกหน้านายกฯ ลุงตู่และหนุนหลังขบวนการเพื่อแม้วอยู่ในที ซึ่ง นายเมอร์ฟี่ ก็ไม่ต่างอะไรจากทูตมะกันอันตรายคนก่อนคือ นางร้ายคริสตี้ เคนนี่ย์ ที่หนุนแก๊งเสื้อแดงเต็มตัว
ขณะที่แก๊งค์เพื่อแม้วเคลื่อนไหวในประเทศ อีกกลุ่มหนึ่งคือแก๊งค์แดงในสหรัฐซึ่งเที่ยวนี้นำโดย นายปวิณ ชัชวาลพงศ์พันธุ์ นักวิชาการเสื้อแดง เตรียมบุกป่วนประท้วงนายกฯ ลุงตู่ที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในมหานครนิวยอร์ก
แต่ขบวนการแดงเพื่อแม้วแค่หยิบมือกำลังจะเจอดีเมื่อมีรายงานข่าวว่ามวลมหาประชาชนคนไทยผู้รักชาติทั่วสหรัฐซึ่งมีจำนวนมากกำลังนัดรวมพลแสดงพลังเพื่อต่อต้านแก๊งค์แดงเพื่อแม้วและสนับสนุนนายกฯ ลุงตู่
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าวิตกก็คือขบวนการเพื่อแม้วนับวันจะยกระดับป่วนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างกรณีการเคลื่อนไหวยั่วยุท้าทายของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่อย่างไม่เกรงกลัวอำนาจ คสช. ถือเป็นสัญญาณอาการของคนที่เลือดเข้าตาพร้อมที่จะทำศึกแตกหักไม่ว่าบนดินหรือใต้ดิน
ทีมข่าวการเมือง



วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

ศาสตราจารย์ชาวอเมริกัน ได้กล่าวตบหน้า! รัฐบาลสหรัฐฯ ได้อย่างเจ็บแสบ.. .







ศาสตราจารย์ชาวอเมริกัน ได้กล่าวตบหน้า! รัฐบาลสหรัฐฯ 
ได้อย่างเจ็บแสบ..
" ดับเบิลยู สกอตต์ ธอมป์สัน " ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขียนบทความตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิสไทมส์ ตบหน้ารัฐบาลสหรัฐฯที่ประณามการรัฐประหารยึดอำนาจในประเทศไทย 
เมื่อวันที่ 27 พ.ค.57

ในบทความเรื่อง
“Thai coup holds promise of democracy”
(รัฐประหารในไทยให้ความหวังแก่ประชาธิปไตย) ดับเบิลยู สกอตต์ ธอมป์สัน (W Scott Thompson) ศาสตราจารย์กิตติคุณทางด้านการเมืองระหว่าง ประเทศ แห่งวิทยาลัยนิติศาสตร์และการทูตเฟลตเชอร์ (Fletcher School of Law and Diplomacy) มหาวิทยาลัยทัฟต์ส (Tufts University)

#โดยมีเนื้อหาสำคัญที่ได้กล่าวไว้ดังนี้
“ ทักษิณนั้นทำเงินได้เป็นพันๆ หมื่นๆ ล้านในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ และได้เริ่มซื้อเหล่านักหนังสือพิมพ์ตลอดจนนักการเมืองทางภาคเหนือมาเป็นพวก เขาชนะการเลือกตั้งในปี 2001 อย่างถล่มทลาย และก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ของเขา เขาดำเนินการปิดกั้นส่วนต่างๆ ของสื่อมวลชนซึ่งเขายังไม่สามารถควบคุมได้ "
“โดยส่วนตัวแล้ว ผมมีความประหลาดใจว่า นายพลผู้นี้ (พล.อ.ประยุทธ์ )
ได้รอคอยมาเป็นเวลายาวนานถึงขนาดนี้ เขาเดินหมากของเขาด้วยความระมัดระวังมาก ด้วยการประกาศใช้กฎอัยการศึกอย่างเป็นกลางๆ
ในวันหนึ่ง แล้วจึงเข้ายึดอำนาจในอีกวันหนึ่ง กองทัพไทยไม่ได้ผลิตนายพลที่มีความสามารถอันเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางขนาดนี้เลย
ในรอบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา”

ดับเบิลยู สกอตต์ ธอมป์สัน กล่าวในตอนสรุปบทความของเขาว่า
“การเลือกให้ระบอบทักษิณปกครองประเทศต่อไป

ก็คือการรับประกันให้ประชาธิปไตยในไทยตายดับสูญไปภายในอนาคต
อันใกล้ ขณะที่การสนับสนุนการก่อรัฐประหารยึดอำนาจของฝ่ายทหาร
อาจจะ (แค่อาจจะ) เป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะสามารถฟื้นฟูประชาธิปไตยให้กลับคืนมาได้

ความจริงทางประวัติศาสตร์ทั่วๆ ไปนั้นมีอยู่ว่า ระบอบปกครองต่างๆ ที่นำมาซึ่งระเบียบเรียบร้อย อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย ขณะที่แทบไม่ปรากฏเลยว่าระบอบปกครอง
ในทางตรงกันข้ามจะสามารถทำอะไรเช่นนี้ได้
ทั้งนี้ระบอบปกครองที่ปล่อยให้ทำอะไรตามใจนั้น มีความโน้มเอียงที่จะนำไปสู่การปราบปรามอย่างรุนแรง ซึ่งกลายเป็นการสร้างความย่อยยับให้แก่การปกครองอันเรืองปัญญา”
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx







ฤาษีดัง 'พุทธจรัล' เชียงใหม่ ชื่นชม นายกฯ ตู่ !!!!!
ไทยรัฐออนไลน์
ฤาษีดัง 'พุทธจรัล' เชียงใหม่ ชื่นชม นายกฯ ตู่ ตีโจทย์ประเทศแตก แนะเดินถูกทางแล้ว ย้ำ ต้องอย่าให้คนอื่นมายุ่งกับบ้านเรา เราต้องแก้กันเอง แนะเปลี่ยนชื่อเป็นสยามประเทศ ความแตกแยกลดลง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 ก.ย. ที่อาศรมอมราวดี อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ฤาษี ดร.พุทธจรัล พุทธจรัล อายุ 75 ปี ได้ออกมาเผยให้กับบรรดาศิษย์ที่ไปเยี่ยมเยือนว่า บ้านเมืองกำลังเดินไปถูกทางแล้ว ดีใจมาก  และขอชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่ตีโจทย์แตกแล้ว ชอบที่สุดก็คือ ที่ท่านพูดว่า ต้องอย่าให้คนอื่นมายุ่งกับบ้านเรา ที่ผ่านมาประวัติศาสตร์สอนให้เรารู้ว่า คนที่อยากมามีอำนาจเหนือเรายุให้เราแตกแยกกัน หากเราแตกแยกเขาก็จะปกครองเรา ก็เอาคนข้างในนี้แหละเป็นคนชักศึกเข้าบ้าน
นักการเมืองบางคน เขาอาจจะนิยมแนวคิดของตะวันตกเพื่อประชาธิปไตย แต่หารู้ไม่ว่าการที่เขาคิดแบบนั้นเชื่อแบบโดยที่ไม่เห็นสถานการณ์ปัจจุบัน มองข้ามสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องใช้คำว่า ชักศึกเข้าบ้าน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนติดดิน เพราะท่านเห็นว่า ปัจจุบันเราต้องการอะไรชนสยามต้องการอะไร นักประชาธิปไตย เขาเอาความฝันมาป้อนให้ นี่คือเหตุผลที่รัฐบาลที่ผ่านมาทำงานไม่สำเร็จ เพราะไม่เข้าใจชนพื้นรากหญ้าของประเทศ  แต่สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ตนดีใจมากที่ พล.อ.ประยุทธ์เข้าใจจุดนั้นมาก ท่านจึงจะต้องมาทำ และต้องทำให้สำเร็จ แต่ที่ท่านทำในปัจจุบันไม่ได้เท่าที่ควร เพราะที่ผ่านมา ตะวันตก หรือแนวคิดในเชิงประชาธิปไตยจะทำให้คนในระบบอ่อนแอ พออ่อนแอเขาก็จะปกครองจากความกลัว พอคนเกิดความกลัว เขาก็จะสร้างความแตกแยกให้ พอแตกแยกเขาก็จะครอบครองและป้อนข้อมูล ดังนั้นการสร้างประชารัฐเป็นสิ่งที่คิดมานาน ธรรมาภิบาลทำให้เกิดประชารัฐ
ดังนั้นก็ต้องนำธรรมาภิบาล มากำกับให้เกิดผลสำเร็จ ธรรมาภิบาลจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องลดอุณหภูมิน้ำที่กำลังเดือด ให้กลายเป็นน้ำที่เย็น เมื่อเราสามารถลดอุณหภูมิลงได้ คนที่จะมายุ่งในบ้านเมืองเราก็ไม่มีโอกาส อิทธิพลต่างๆ ที่จะทำให้เราแตกแยกกันก็จะเข้ามาอยู่ในบ้านเมืองเรา
ฤาษี ดร.พุทธจรัล ได้บอกชี้แนะวิธีการหนึ่งที่บ้านเมืองจะเกิดความสงบสุขได้ ก็ต้องเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นการลดอุณหภูมิให้กับชาติบ้านเมือง โดยเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นสยามประเทศ เมื่อเปลี่ยนชื่อประเทศความแตกแยกในบ้านเมืองก็จะลดลง ปรองดองจะเป็นผล บ้านเมืองจะเป็นสุข
และอีกข้อหนึ่ง ก็ให้เอานักเรียนทุกโรงเรียนในประเทศนั่งสมาธิภาวนาเช้า-เย็นปรองดอง ก็ต้องเกิดขึ้นในสมองคนก่อน ไม่ใช่จากคำพูด จากความฝัน ใช้สมองเหมือนกับลดอุณหภูมิน้ำกำลังจะเย็น สมองกำลังจัดระเบียบ ปรองดอง จะเกิดขึ้นไม่ได้จากความคิดความเข้าใจ จะต้องเกิดขึ้นจากความรู้สึกที่สงบ และสมองเป็นระเบียบ คลื่นสมอง เริ่มคิดไปในทิศทางเดียวกัน คนก็จะเริ่มสงบเย็นภายใน ปรองดองคือผลเมื่อลดอุณหภูมิให้กับร่างกายและจิตใจสมองจะปรองดอง อารมณ์คนก็จะเริ่มสงบเย็นภายในไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อนั้นแหละ การชักศึกเข้าบ้านก็จะไม่เกิด คนนอกที่จะมายุ่งข้างในก็เป็นไปไม่ได้ ความกลัวก็จะหายเป็นปลิดทิ้งในอารมณ์ของชาวสยาม

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

อุปทูตอเมริกาสนับสนุนกลุ่มคนไทยที่ต่อต้านรัฐบาลไทยอย่างออกนอกหน้า



อุปทูตสหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุนกลุ่มสิ่งมีชีวิตคล้ายคนไทยที่ต่อต้านรัฐบาลไทยอย่างออกนอกหน้า
หน่วยงานของประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมและรัฐบาล ควรพิจารณา
1. ความเหมาะสมกับสถานะของอุปทูตอเมริกา สมควรให้อยู่ทำหน้าที่ในประเทศไทยต่อไปอีกหรือไม่
2. พฤติกรรมที่ต้องการท้าทายอำนาจรัฐของสิ่งมีชีวิตคล้ายคนไทยเหล่านี้สมควรได้รับการประกันตัวให้ทำกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลไทยหรือไม่
3. ศาลและรัฐบาล ต้องพิจารณาและตัดสินใจกระทำอย่างหนึ่งอย่างใด จะรอให้คนเหล่านี้ก่อความเสียหายให้แก่ประเทศไทย หรือจะป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้ทำความเสียหายต่อประเทศไทยมากขึ้นกว่าที่เคยทำมาแล้ว



Cr:ทหารปฏิรูปประเทศไทย
แฉ..แก็งค์เสรีเทยหาคนไทยมาม็อบไม่ได้ ตอนนี้ใช้คนลาวแทนแล้ว

ขึ้นชื่อว่าคนไทยจะอยู่ที่ไหนก็ยังรักประเทศชาติแผ่นดินเกิดของตนเองไม่เสื่อมคลาย ตอนนี้เกิดกระแสรวมตัวกันของคนไทยรักชาติทุกรัฐในอเมริกา เพื่อเป็นเกราะคุ้มกันผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้บิ๊กตู่ นายกฯ และหัวหน้า คสช.ที่จะไปรับรางวัลด้านดิจิตอลที่ UN เป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีของชาติ  เพราะในการไปครั้งนี้คนแดนไกลทุ่มสรรพกำลังคน และเงินเต็มที่มาบัญชาการอยู่ที่บ้านลูกในฮ่องกง โดยมีมือปืนตุ๋ย 10 ล้านกระบอกบินมารับคำสั่ง และท่อน้ำเลี้ยง ส่วนตัวเอ้ๆ แก็งค์อั้งยี่ที่ขอบินไปเลียนายใหญ่นั้น คสช.ไม่อนุญาตเรียบ
แก๊งค์เสรีเทยตอนนี้อาการหนักเพราะระดมคนไทยไปร่วมป่วนนายกฯ ไม่ได้จึงไปขอร้องสมาคมชาวลาวในอเมริกา ที่หน้าตาคล้ายคนไทยส่งคนมาช่วยป่วนหน่อย แล้วจะช่วยก่อกบฎในลาวแยกเป็นอีก สปป. ใหม่   เออ..เสรีเทยหาคนไทยจ้างไม่ได้ ยังหันไปจ้างคนลาวเขาให้วุ่นวายอีก คนไทยรักชาติเสื้อเหลืองที่จะไปให้กำลังใจนายกฯ ให้เช็คเสื้อแดงที่จะมาวันนั้นให้เขาร้องเพลงชาติไทยก่อน เพราะเป็นชาวลาวที่จ้างมาเสียส่วนใหญ่
@เสธ นํ้าเงิน2






คนไทยทั่วประเทศต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาติดตามดูแลความเคลื่อนไหวด้วย เอาภาพมาดูกันบ้างเด้อ
ด่วน""นายกฯสั่งข้าราชการประสานระดับจังหวัดจับตาการลงพื้นที่พบปะคนเสื้อแดงของอุปทูตสหรัฐฯ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง หรือเทียบเท่า ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ข้าราชการ ประสานระดับจังหวัด เพื่อให้จับตาเรื่องของการลงพื้นที่ของอุปทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ที่มีกำหนดการจะลงพื้นที่พบปะคนเสื้อแดง เพื่อรับทราบความเป็นจริงของสถานการณ์ในประเทศไทย และยังได้กำชับให้จับตาความคืบหน้า หลังจากอุปทูตสหรัฐฯ เดินทางลงพื้นที่ต่อไปด้วย



เห็นหรือยัง...ความเป็นอันธพาลสันดานดิบ ของไอ้กัน !!!
มันถึงขั้นบังอาจบุกเข้ามาปลุกระดมประชาชนคนไทยถึงในประเทศไทย
เล่นเปิดหน้าชกกันแบบซึ่งหน้า อย่างหน้าด้านๆอย่างนี้กันแล้ว
วิธีทางการทูต แบบประเทศผู้ดีมีมารยาทเขาทำกัน มันไม่ต้องแล้ว 
ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจกันแล้ว มันอยากได้อะไร มันจะเอาอะไรก็ต้องได้
เพราะมันเห็นประเทศไทยเป็นเมืองขึ้นของมัน เป็นลูกไล่ของมัน

"อุปทูตคนนี้เดินสายพบคนไทยทุกภาค ทุกจังหวัด ทุกวันพุธ
เพื่อปลุกระดมเรื่องประชาธิปไตยมานานแล้ว"
----------------------------------------------
สมชาย แสวงการ
แชร์เปิดโปงกันไปเลยว่า ใครหาเหตุใช้เด็กชุมนุม19 กย. เพื่อล่อให้ถูกจับ
ดูซิผู้ใหญ่บางคนใจดำล้างสมองกันขนาดไหน
ต้องอ่านข้อความนี้ของ พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ ครับ

" ทำไมพวกที่ชอบประชาธิปไตยสีแดงต้องจัดชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร ใน19 ก.ย.นี้ ท้ังๆ คนที่ทำรัฐประหารก็เป็นพวกเดียวกันแล้ว ดูจากเหตุผลดังนี้
(1)  มีคนปวดใจ ที่เป็นนายกในแบบประชาธิปไตย มาก่อนถึง 2-3ครั้ง ไม่เคยได้ไปพูดที่ สหประชาชาติเลย แต่นายกตู่กลับได้ไปพูด ก็เลยอกจะแตกตาย
(2)  ถ้าจัดชุมนุมครั้งนี้ ดราม่าดีๆ กวนตีน ทหารตำรวจมากๆ ให้โกรธจับไป จะได้มีเหตุผลให้พรรคพวกเอาไปอ้าง ไปค้าน นายกตู่ หน้า UN ได้
(3)  ส่วนต่างประเทศก็ให้พวกล้มเจ้าบินมาช่วยกันประท้วง ที่หน้า UN แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วง
(4)  ส่วนในประเทศ นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ เข้าไปจิบชาและสนทนากับอุปทูตสหรัฐฯ พร้อมกับตัวแทนกลุ่มประชาสังคมเนื่องในวัน ปชต.สากล กลุ่มนี้เชิญชวนสมาชิกให้ออกมาร่วมชุมนุมที่ มธ. ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 19 ก.ย. 58 ก็คงมีแต่ นศ.หน้าแก่ๆ ถูกเกณฑ์เข้ามาร่วมมากหน่อย
อุปทูตคนนี้เดินสายพบคนไทยทุกภาค ทุกจังหวัด ทุกวันพุธ เพื่อปลุกระดมเรื่องประชาธิปไตยมานานแล้ว ตอนนี้ทูตตัวจริงกำลังมา เลยเร่งมือสร้างผลงานกันหน่อย ก่อนที่จะหมดอำนาจไป ก็แค่นั้นเอง
เรื่องทั้งหมดก็เพราะคนๆ เดียวเหมือนเดิมเลย งานชุมนุมครั้งนี้ ตำรวจ ทหาร ต้องใจเย็นหน่อย ปล่อยให้บ้ากันไปก่อน ไม่มีใครสนใจก็กลับบ้านไปเอง เพราะพวกนี้ตั้งเป้าหมายให้จับอยู่แล้ว ปล่อยไปก่อน ถ่ายรูปเก็บไว้ รอนายกตู่ กลับจากยูเอ็นก่อนค่อยจับก็ได้ครับ อ้อ น้องๆ อาชีวะทั้งหลายใจเย็นๆ ด้วยครับ "
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ 18 กย. 58




จับตา !!!...วันนี้ ที่ ธรรมศาสตร์...
สร้างแต่ปัญหา...ให้ประเทศชาติ ชิกหายเอ้ย !!!...

ตอนนี้ รายการลุงตู่ไป UN 25-29 กย นี้ กำลังก่อตัวเป็นการต่อสู้ที่สำคัญระหว่างกลุ่มทักษิณกับ คสช. ซึ่งคงต้องดูว่าผลจะเป็นอย่างไร?

ปวินเดินทางจากเกียวโตไปเตรียมประท้วงลุงตู่ที่นิวยอร์ก
สุนัย ผาสุข ร้องให้ ngo. กลุ่มสิทธิเช่น HRW. และ Amnesty Int. เตรียมเล่นงาน Red USA. เตรียมจัดชุมนุมใหญ่
ในเมืองไทย ช่วงก่อนหน้านี้ พิชัย นริพ จาตุรนต์ พากันหาเรื่องพูดยั่วให้จับ เพือสร้างกระแส  ล่าสุด ประชาธิปไตยใหม่ ทำ clip และ sticker นัดชุมนุมวันที่ 19 กย. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อยั่วให้จับอีกเพื่อให้เป็นข่าวออกไปว่าคสช. เป็นเผด็จ การ ริดรอนสิทธิ ยิ่งถ้าจับ ก็จะกลายเป็นนักโทษการเมือง ทำให้สื่อไทยสื่อเทศประโคมข่าวแล้วพวกที่นิวยอร์กจะได้มีเรื่องประท้วงเรียกร้องอย่างน่าเชื่อถือ

เจ้าหน้าที่ฑูตกลุ่มนี้น่าจะเป็นพวกที่ไปเยี่ยมหมู่บ้านเสื้อ แดง ก่อนหน้านี้ วัน ปชต. สากล อุปทูตอเมริกาประจำไทย เชิญกลุ่ม ปชต. ใหม่ไปเลี้ยงข้าวที่ทำเนียบ ไม่อยากคิดว่ามันร่วมมือกัน แต่มันมีผลทำให้ไอ้พวกนี้ฮึกเหิมเกริมขึ้นแน่นอน

ล็อบบี้ยิสต์ที่ทักษิณจ้างไว้ก็เตี๊ยมกับสื่อใหญ่ๆรอไว้เตรียมถล่มลุงตู่เต็มที่ทั้งหมดเพื่อทำลายความชอบธรรมของ รัฐบาลและสร้างความน่าเชื่อถือความชอบธรรมในการ ต่อต้านรัฐบาลของพวกแดงในอนาคตต่อไป เชื่อว่าลุงตู่รู้แผนนี้และคงเตรียมตัวไปอย่างดี คนไทยในอเมริกาทีแรกก็เฉยๆแต่พอรู้ว่าแดงเตรียมการ ใหญ่ก็เริ่มติดต่อนัดกันไปให้กำลังใจลุงตู่บ้างแล้ว
งวดนี้คงต้องจับตาดูดีๆ ถ้าแผนแดงสำเร็จ มันจะนำการต่อต้านกลับเข้ามาในประเทศ โดยอ้างว่าโลกสนับสนุนมัน

war machine ของทักษิณในไทยก็จะเริ่มเดินเครื่องอีก เราก็จะกลับไปสู่ความไม่สงบอีก พอกฏหมายทำงาน คนชั่วเข้าคุก ถูกถอดยศ มันก็ต่อสู้แบบนี้แหละ คราวนี้จะน่ากลัว เพราะมันแพ้อีกไม่ได้แล้ว ถ้ามันแพ้อีกมันอาจจะไม่ฟื้นอีกเลย

สาธุชน ควรมองให้เห็นเกมส์อุบาทว์นี้ให้กระจ่าง และช่วยกันเปิดโปงแผนการชั่วร้ายของมันให้โลกรู้ ให้คนไทยทั้งชาติรู้ และช่วยกันคนละไม้คนละมือ ประคองให้เราฝ่าฟันโจรปีศาจแก๊งนี้ไปให้ได้

ถ้าชนะมันได้คราวนี้ ประเทศเราก็จะมีความหวังแล้ว





ขณะเทวดาประจะเมืองเข้มแข็งสุด (ดูแม่หมอสมัครเล่นตอนล่าสุด)
หลวงพ่อพันเทวาทำพิธีเพ่งดวงอาทิตย์แต่ "เมฆบัง" ดวงยังหนัก...ช่วยไม่ได้..แต่ยังมีช่องทาง..ร้องศาลปกครอง
รัฐบาลสรุปค่าเสียหายจำนำข้าว เรียกเงิน "ยิ่งลักษณ์- บุญทรง-ภูมิ" 5.1 แสนล้าน
คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและกำหนดค่าความเสียหาย และคณะกรรมการว่าด้วยการรับผิดทางแพ่งคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย มูลค่า 5.1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 5 แสนล้านบาท และโครงการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และข้าราชการ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ จะให้กระทรวงการคลังสั่งให้ผู้กระทำผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยใช้อำนาจตามมาตรา 12 พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และข้อ 18 วรรคสอง ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการดังกล่าว นายวิษณุจะเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการฯ ภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ จากนั้นจะส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังดำเนินการต่อไป
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การใช้วิธีการดังกล่าวเป็นการสั่งให้ผู้กระทำผิดชดใช้เงินค่าสินไหมทดแทนโดยตรงแทนการยื่นฟ้องทางแพ่งต่อศาล ซึ่งจะใช้เวลานานและมีขั้นตอนยุ่งยาก หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวก ต้องการอุทธรณ์คำสั่ง ก็ให้ร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากศาลเห็นว่าคำสั่งของกระทรวงการคลังชอบแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกต้องชดใช้ค่าเสียหายในทันที หากไม่นำเงินมาชำระภายในเวลาที่กำหนด ให้เจ้าพนักงานสามารถดำเนินการยึดทรัพย์ได้



อีกภารกิจ!! "คสช." ทวงคืนสมบัติชาติ บี้ TOT เรียกค่าเสียหายแสนล้าน AIS !?
คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หรือ ICT ไปดำเนินการเร่งรัดให้บริษัท ทีโอที จำกัดมหาชนเรียกเงินชดใช้ค่าเสียหายจากบริษัท แอดวานซ์ อิน โฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS กว่าหนึ่งแสนล้านบาท จนเกิดข้อคำถามที่ว่าเรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร? และกระทรวงไอซีทีภายใต้รัฐบาล คชส. นั้นจะทวงคืนสมบัติชาติกว่าหนึ่งแสนล้านบาทสำเร็จหรือไม่
17-09-2015 19:27
http://www.tnews.co.th/html/content/161663/
ดูเล่ห์กลการกินอากาศทักษิณตอนมีอำนาจเอาผลประโยชน์ของชาติกอบโกยมาเป็นของตัวเอง
ในอดีตประชาชนเคยเจ็บช้ำกับการขอหมายเลขโทรศัพท์บ้าน ขอยากเย็นมากในเขต กทม.ต้องเสียเป็นแสนบาทจึงจะได้เบอร์โทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกลที่แสนจะแพงมหาโหด โทรจากกรุงเทพไปเชียงใหม่นาทีละ 18 บาท ทีโอทีไม่ใช่หรือที่สร้างความเจ็บช้ำให้กับพวกเรา
http://www.bloggang.com/viewdiary.php…
คลิปสะท้อนสังคมที่ต้องดูให้ได้ https://www.facebook.com/YouTube2533/videos/902865866422536/?fref=nf

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558

ร่วมต้อนรับ พล อ. ประยุทธ จันทร์โอชา





ขอเชิญชาวไทยผู้รักบ้านเกิดเมืองนอนมืองพุทธศาสนา 
ที่อบรมสั่งสอนตัวเราเอง และลูกหลานเราให้เป็นคนดี  ให้การศึกษา  ให้ความอบอุ่นแด่บรรพบุรุษของเรามา
วันอาทิตย์ ที่ 27 กันยายน 2558 (2015)
พร้อมกัน 10:00 เช้า
47 Street & 1st Avenue, New York City (Manhattan)
ใส่เสื้อเหลือง
ชูธงชาติไทย
ใส่หมวกธงชาติไทย
สวดอิติปิโสภะคะวา
ท่านนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) ที่ นิวยอร์ก และจะขึ้นรับรางวัลบนเวที UN ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ผู้แทนระดับผู้นำประเทศเข้าร่วมประชุมมากที่สุดถึง 193 ประเทศ
จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยในอเมริกาทุกท่าน มาร่วมสนับสนุนและเป็นกำลังใจ ให้ท่านนายกฯ ตามวันเวลาที่ระบุ โดยตำรวจจะให้เข้าทาง 2nd Ave & 47th Street หากเจอตำรวจไม่ให้เข้าให้บอกว่ามา Demonstration กับ กลุ่ม Thai Community   
ในการไปรวมตัวกันครั้งนี้ จะมี "พี่น้องคนไทยด้วยกัน” อีกกลุ่มที่มีความเห็นต่าง จะไปยืนประท้วงและอาจมีคำพูดที่อาจทำให้รู้สึกเหมือนถูกยัวยุหรือสร้างความกดดันบ้าง จึงขอให้พี่น้องคนไทยที่สนับสนุน ท่านนายกฯ ได้รับทราบว่า เราไม่ต้องการเห็น "พี่น้องคนไทยด้วยกัน” มาทะเลาะกันเองนะคะ ใครที่ต้องการไปสนับสนุนท่านนายกฯ ก็ให้ชวนกันไปให้มากๆ เพื่อยืนให้นักข่าวเค้าเห็นจำนวนคนที่สนับสนุนเท่านั้น โดยที่ไม่ต้องมีการโต้ตอบหรือด่าทอใดๆ ไม่ใช้คำหยาบคาย หรือเสียดสีกับพี่น้องคนไทยที่เห็นต่าง เราจะไม่เพิ่มความบาดหมางระหว่างพี่น้องคนไทยด้วยกัน ขอให้ทุกคน อยู่ในความสงบนิ่ง ใช้คำพูดที่สุภาพนะคะ 

ถึงยังไง พวกเราทุกคนก็คือพี่น้องชาวไทยด้วยกันทั้งหมด "พวกเรา" ต้องให้อภัยกัน รักและสามัคคีกันไว้ อย่าให้ใครมาแบ่งแยกหรือยุให้ พวกเราพี่น้องชาวไทยแบ่งแยกกลุ่มกันหรือทะเลาะกันเองได้สำเร็จนะคะ

ขอบคุณทุกคน แล้วเจอกัน









MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY