บิ๊กตู่ ยัน ไม่หลงระเริงอำนาจ แต่ลั่น ไม่กลัวใคร ไม่งั้นมาอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ประกาศจัดการพวกทำลายชาติ ไล่ให้ออกนอกแผ่นดินนี้....จากนี้ไม่เกรงใจใคร นายกฯฮึ่ม! ไล่ พวกทำลายชาติ ไม่ควรอยู่ในแผ่นดินนี้ ต้องใช้ กม.จัดการ ผมทนไม่ได้ที่จะให้ทำลายประเทศต่อไป ในเมื่อไม่เกรงใจผม ผมก็จะไม่เกรงใจใคร เผย ตปท. เห็นบ้านเมืองเราสวยงามแต่ไม่รู้ว่าข้างในเป็นโพรง เรากำลังเติมอิฐทราย แต่มีคนเอาน้ำมาราดตอนยังไม่แห้ง คนพวกนี้ไม่ควรอยู่ในแผ่นดินนี้ "แฉพวกต่อต้าน มีแผล มีเบื้องหลังทั้งนั้น" ผมไม่เคยละเมิดใคร ตั้งแต่ใช้กฏอัยการศึก ม.44 ไม่เคยมีคนตาย เตือนคนใช้อาวุธต่อสู้ จนท. อย่าให้มากเกินไป...ยันไม่หลงระเริงในอำนาจ แต่ผมคิดว่ายิ่งมีอำนาจมาก ยิ่งต้องระวัง แต่ผมจำเป็นต้องมีอำนาจ แล้วแก้ปัญหา จะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ได้บอกว่าต้องดีที่สุด แต่ต้องดีกว่าเดิม...เปรยว่าวันนี้ประเทศชาติเสียหาย เพราะทำงานด้วยปาก มีการเขียนแผน แต่ไม่ลงมือทำจริง รัฐบาลจึงต้องเข้ามาจัดระเบียบ บางคนทนไม่ได้ บอกไม่เป็นประชาธิปไตย...ลั่นวันนี้ผมจะไม่เกรงใจใคร ตราบใดที่ยังมีการพูดให้กองทัพและประเทศเสียหาย เพราะผมต้องรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว...ยันดูแลคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไร ผมไม่สนใจ เพราะเวลาเรามีจำกัด ขอช่วยกันสวดมนต์ให้รัฐบาลใหม่สานต่อ... แฉ มีการล็อบบี้ให้เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล โดยใช้คำว่าประชาธิปไตย "กฎอัยการศึก" คุกคามชีวิต ติงพาดหัว CNN ผมสั่งประหารนักข่าว จะใช้อำนาจเต็มตามมาตรา 44 จะสั่งประหารนักข่าว เลยจะให้สัมภาษณ์น้อยที่สุด เพราะไม่มีอะไรดีขึ้นมา ถ้าผมปรับปรุงตัวคนเดียว แต่คนอื่นไม่ปรับปรุงตัว แล้วก็มาบอกให้ใจเย็นๆ เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง... ขู่ หากคนเหล่านั้นยังมาปรามาส ผมก็จะพูดให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทุกคนมีแผลไม่ควรออกมาพูดในสื่อด้วยซ้ำ...เตือนสมัยผมจะมาชุมนุมยืดเยื้อ 6-7 เดือนไม่ได้ อย่ามาใช้คำว่าประชาธิปไตย ตอนนี้ เราให้อยู่แล้ว มันเดือดร้อนอะไรตรงไหน ห้ามใช้ ปชต.แบ่งพวก ยันเลือกตั้ง มีรัฐธรรมนูญตาม roadmap ไม่เคยเลื่อน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แค่ตอนนี้ก็จะแทบฆ่ากันตายอยู่แล้ว เตือนสื่อ ผมไม่เคยปิดปาก ไม่เคยปิดสักเล่ม ถ้าเขียนไม่ดีก็แค่เรียกมาคุย ต่อไปนี้ขอให้เขียนให้ดี ถ้าเขียนไม่ดีก็จำเป็น ผมไม่กลัวใครอยู่แล้ว ถ้าผมไม่กล้าก็ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้...เผย หลายคนไม่เข้าใจ เกรงกลัวต่ออำนาจทหาร ยันแม้ทหารมีอำนาจสั่งสู้รบ ผู้บังคับบัญชาปกครองคนถืออาวุธกว่า 3แสนคน ยันไม่ทำนอกกรอบ นายกฯ เผย ได้นำหลักสูตรทหารที่เน้นการมองให้ลึกมาใช้ก็ถือว่าเพียงพอในการขับเคลื่อนทุกอย่าง มีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ เชื่อว่าจะดีขึ้นกว่าเดิมระบุหากรัฐบาลไม่มีธรรมาภิบาลก็จะดึงเอากลุ่มชนมาเป็นพวกตัวเองเหมือนที่ผ่านมา วันนี้รัฐบาลแก้ปัญหาทุกอย่าง ถ้ายังไม่แก้ต่อให้เลือกตั้งอีก10 ชาติก็เป็นอยู่แบบนี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวในระหว่างการให้โอวาททหาร ที่ร่วมงานสถาปนาโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ครบ 106 ปี และพิธีเปิดอาคารโรงเรียนเสนาธิการทหารบกแห่งใหม่ ถนนพระรามที่ 5 เขตดุสิต ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษา วันนี้ต้องเดินหน้าปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ รวมทั้งเรื่องอื่นๆ เพราะปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นมีความซับซ้อน มีปัญหาเล็กน้อยซ้อนอยู่หลายชั้นยากต่อการแก้ปัญหา ซึ่งการศึกษาของทหารนั้นเราเน้นความเป็นระเบียบวินัย ทำให้สามารถคิดได้อย่างลึกซึ้ง และรู้จักใช้ข้อมูลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การตัดสินใจในการใช้อำนาจการบังคับบัญชานั้นจำเป็นต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วน และผ่านหลายขั้นตอน ซึ่งผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ในการตัดสินใจ ระหว่างนั้นจะมีการประสานงานและบูรณาการ "วันนี้สิ่งที่ผมได้จำมาใช้เป็นแนวคิดทางการทหารทั้งสิ้นที่เป็นพื้นฐานให้ผมในการมาใช้ในการทำงาน แต่สิ่งที่เรามีปัญหามากที่สุดในการบริหารราชการแผ่นดินคือการประสานงานและบูรณาการ การทำงานร่วมกัน ต่างคนยังต่างทำงานตามภารกิจกระทรวงกันอยู่เหมือนเดิมพันธกิจและภารกิจงบประมาณก็ยังแยกกันอยู่เหมือนเดิมจึงไม่มีอะไรสำเร็จได้ เพราะต่างคนต่างทำออกมาเป็นคนละชิ้น"
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลเข้ามาทำงานแล้ว 6 เดือน ซึ่งระยะแรก 4-5 เดือนแรกทำอะไรไม่ได้มากนัก 6 เดือนเข้ามาวางพื้นฐานแก้ไขปัญหาที่มีความทับซ้อน ต้องใช้เวลาการเดินหน้าตามโรดแม็พที่มีอยู่ วันนี้กระบวนการคิดของแต่ละคนมีหลากหลายไม่เหมือนกัน แต่ควรต้องมีหลักการและเหตุผล ต้องมีความรู้มีการศึกษาเพิ่มเติม ถ้าข้อมูลไม่ครบ ความคิดทุกคนจะไปคนละทิศคนละทางไม่มีจุดมุ่งหมายร่วม ต่างก็คิดที่จะทำงานเฉพาะของตัวเอง ดังนั้นวันนี้ต้องคิดใหม่ เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ต้องคิดว่าประเทศต้องการและยังขาดอะไร ซึ่งมีหลายคนไม่เข้าใจและเกรงกลัวต่ออำนาจทหาร ซึ่งยืนยันว่าทหารมีอำนาจในการสั่งการสู้รบ ช่วยเหลือสงคราม และผู้บังคับบัญชาจะต้องปกครองคน กว่า 3 แสนคน ที่ถืออาวุธอยู่ ยืนยันว่าผู้บังคับบัญชา จะไม่ทำนอกกรอบ แต่จะต้องมีการหารือร่วมกันและหาข้อยุติให้ได้ "วันนี้ ผมนำหลักสูตรทหารที่เน้นการมองให้ลึกมาใช้ ก็ถือว่าเพียงพอในการขับเคลื่อนทุกอย่าง มีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ แต่เชื่อว่าจะดีขึ้นกว่าเดิม" " วันนี้รัฐบาลต้องแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ขับเคลื่อนประเทศ และการปฏิรูปประเทศที่ต้องใช้เวลา ขณะเดียวกันประชาชนจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ ต้องเป็นกลุ่มชน ซึ่งหากรัฐบาลไม่มีธรรมาภิบาลก็จะดึงเอากลุ่มชนเหล่านี้มาเป็นพวกตัวเองเหมือนที่ผ่านมา วันนี้รัฐบาลแก้ปัญหาทุกอย่าง ถ้ายังไม่แก้ปัญหาต่อให้เลือกตั้งอีก 10 ชาติก็คงเป็นอยู่แบบนี้ ขณะนี้เราไม่มีปัญหากับประเทศอื่น เว้นแต่มีปัญหากันเอง ทุกประเทศยังเดินทางมาท่องเที่ยวทุกวัน ไม่ว่าจะยังมีกฎอัยการศึก หรือการประกาศใช้มาตรา 44 ก็ตาม" หลายคนห่วงว่าเราจะหลงระเริงในอำนาจ แต่ผมคิดว่ายิ่งมีอำนาจมาก ยิ่งต้องระวัง คนที่ให้ความสำคัญกับอำนาจส่วนใหญ่เป็นแต่กลุ่มผลประโยชน์ คนที่สนใจแต่มาตราโน้นมาตรานี้ ทำไมไม่มอง ว่าจะทำให้คนสามัคคีกันอย่างไร ตอนนี้เรามองปัญหาไม่เหมือนกัน ผมจำเป็นต้องมีอำนาจ และจะแก้ปัญหาโดยทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ได้บอกว่าต้องดีที่สุด แต่ต้องดีกว่าเดิม จะอาศัยผู้นำ หรือรัฐมนตรีคนเดียวไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อให้ประเทศเดินหน้า" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ประเทศชาติเสียหาย เพราะทำงานด้วยปาก มีการเขียนแผน แต่ไม่ลงมือทำจริง รัฐบาลจึงต้องเข้ามาจัดระเบียบ บางคนทนไม่ได้ บอกไม่เป็นประชาธิปไตย
"วันนี้ผมจะไม่เกรงใจใคร ตราบใดที่ยังมีการพูดให้กองทัพและประเทศเสียหาย เพราะผมต้องรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ขอให้คนไทยช่วยทำความเข้าใจ" ต่างประเทศได้ข้อมูลจากเราทั้งสิ้นทุกเรื่อง จากสื่อเป็นส่วนใหญ่เกิดความเข้าใจผิดจำนวนมากอกถึงขนาดว่าผมจะใช้อำนาจในการประหารชีวิตสื่อ มันอะไรกันนักกันหนา สื่อมีหน้าที่สองอย่างซึ่ง ผมไม่ต้องการไปอะไรมาก เหมือนกับกลุ่มสิทธิมนุษยชนเองก็ต้องทำหน้าที่สองอย่าง คือหน้าที่พันธกรณีที่ทำไว้กับต่างชาติ ผมไม่ได้ไปคัดค้าน หน้าที่คือเพื่อชาติของท่านในการทำงานของสื่อรัฐบาลและ ผมไม่ได้ขอให้ปกปิดสามารถตรวจสอบได้ทุกอย่าง แต่ต้องให้ความเป็นธรรมก่อนเพราะถ้านำเสนอไปแล้วก็จะผิดไปเลย ทุกอย่างต้องมีเหตุและผลในการตัดสินใจใคร่ครวญ เพราะการกล่าวหาใดๆจะต้องมีหลักฐาน อย่าพูดปากเปล่า วันนี้ประเทศชาติเสียหาย เพราะทำงานด้วยปาก มีการเขียนแผนแต่ไม่ลงมือทำจริงหรือทำไม่ถึงครึ่ง รัฐบาลจึงต้องเข้ามาจัดระเบียบวินัย จัดระเบียบบ้านเมือง บางคนทนไม่ได้บอกไม่เป็นประชาธิปไตย
"ผมถามว่าใช่หรือไม่ ว่างๆ ต้องถามมิตรประเทศด้วยว่าเขามีสถานการณ์แบบเราหรือไม่ ทั้งการใช้อาวุธสงครามและการใช้ระเบิดเราต้องอธิบายให้เข้าใจ และจากวันนี้ผมจะไม่เกรงใจตราบใดที่ยังมีการพูดให้กองทัพและประเทศเสียหาย เพราะผมมายืนตรงนี้ผมต้องรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ทุกคนต้องร่วมมือกับผมในการสร้างความเข้าใจ ทุกคนในชาติถ้าเป็นคนไทยต้องช่วยกันเพื่อประเทศไม่ต้องมาช่วยผม การเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้อง คือประชาธิปไตยที่ไม่ละเมิดคนอื่นและไม่ทำให้คนอื่นลำบาก เสียชีวิต รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนไทยทั้งหมดจะเป็นสีไหน พรรคไหน ผมไม่สนใจ
"วันนี้รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนไทยทั้งหมด 60-70 ล้านคนให้ได้ ไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไร ผมไม่สนใจ เพราะเวลาของเรามีจำกัด และต้องช่วยกันสวดมนต์ให้รัฐบาลใหม่สานให้ได้ด้วย ทุกคนต้องทำตามรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ถ้าทำตามความต้องการของตัวเอง ต่อให้มีรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย 300 กว่าฉบับ ก็แก้ไม่ได้ ยิ่งทำก็ยิ่งวุ่น บางประเทศไม่มีรัฐธรรมนูญ แต่ทำตามจารีตประเพณียังดีกว่า เพราะคนเขามีคุณภาพ มีตรรกะ และมีเหตุผล และรับฟังคนอื่น ไม่ใช่ตั้งเข็มทิศอย่างเดียว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการล็อบบี้ให้เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล โดยใช้คำว่าประชาธิปไตย และใช้คำว่ากฎอัยการศึกในการคุกคามชีวิต วันนี้อ่านข่าวพาดหัวของสำนักข่าว CNN ที่ระบุว่าผมใช้อำนาจเต็มตามมาตรา 44 จะสั่งประหารนักข่าว ชึ่งตนอยากให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร และตนก็จะให้สัมภาษณ์น้อยที่สุด เพราะไม่มีอะไรดีขึ้นมา ถ้าตนปรับปรุงตัวคนเดียว แต่คนอื่นไม่ปรับปรุงตัว แล้วก็มาบอกให้ใจเย็นๆ เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หากคนเหล่านั้นยังมาปรามาส ตนก็จะพูดให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทุกคนมีแผลไม่ควรออกมาพูดในสื่อด้วยซ้ำ ที่ผ่านมาผมได้บอกกับต่างประเทศเสมอว่าขอเวลาให้คนไทย แต่พอเริ่มทำก็มีปัญหา เพราะเขาไม่รู้ เห็นเพียงว่าบ้านเมืองเราสวยงาม แต่ไม่รู้ว่าข้างในเป็นโพรงทั้งสิ้น ตอนนี้เรากำลังเติมอิฐเติมทราย แต่ก็มีคนเอาน้ำมาราดตอนที่ยังไม่แห้ง คนพวกนี้ไม่ควรอยู่ในแผ่นดินนี้ ต้องใช้กฎหมายดำเนินการ ผมทนไม่ได้ที่จะให้ทำลายประเทศต่อไป ในเมื่อไม่เกรงใจผม ผมก็จะไม่เกรงใจใคร เพราะผมทำให้ประเทศผม ฉะนั้นคนที่ต่อต้านลองไปดูมีเบื้องหลังทั้งนั้น ผมไม่เคยละเมิดใคร และตั้งแต่ประกาศใช้กฏอัยการศึก หรือมาตรา 44 ก็ไม่เคยมีคนตาย มีแต่คนที่ใช้อาวุธต่อสู้เจ้าหน้าที่ ฉะนั้นอย่าให้มากเกินไป ส่วนสื่อก็ไม่เคยปิดปาก ไม่เคยปิดสักเล่ม ถ้าเขียนไม่ดีก็แค่เรียกมาคุยกัน ฉะนั้นต่อไปนี้ขอให้เขียนให้ดี ถ้าเขียนไม่ดีก็จำเป็น ผมไม่กลัวใครอยู่แล้ว ถ้าผมไม่กล้าก็ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ถ้าคิดว่าผมไม่ดีก็บอกผม ผมไปให้อยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว ที่พูดนี่มีใครสงสัยอะไรไหม พอพูดไปแล้วก็มีอารมณ์นิดหน่อยเพราะวิจารณ์ผมเยอะมาก มาถามเรื่องเศรษฐกิจผมคนเดียวจะรู้ทุกเรื่องไม่ได้ ผมนี่รู้มากกว่าคนเศรษฐกิจอีก อะไรที่เป็นนโยบาย เป็นหลักการก็กำลังทำอยู่ วันนี้คนที่ทำเศรษฐกิจเขาไม่ได้ปกป้องอะไร ถามว่าวันนี้อะไรแพงขึ้นในรัฐบาลทหารถ้าบอกมะนาวแพง เดี๋ยวไปรับที่บ้านผม ถ้าอยากกินมะนาวเยอะๆ วันละสัก 20 ลูกหรือจะเอาไปปลูกก็ใส่กระถางไป นี่เรียกว่าพูดเปรียบเทียบให้ฟังว่าทุกคนต้องช่วยตัวเองได้ ไม่ใช่ตื่นมาก็เป็นพญาธิปากขอ ผมสอนลูกน้องผมแบบนั้น ผมดูแลทั้งเสียงส่วนใหญ่และส่วนน้อย ที่เขาเรียกว่าประชาธิปไตย ให้ได้รับความพึงพอใจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผมดูแลทั้งเสียงส่วนใหญ่และส่วนน้อย แต่จะเอาประชาธิปไตยมาแบ่งพวกกันไม่ได้ การต่อต้านเป็นเรื่องธรรมดาในประชาธิปไตย แต่ในสมัยผมจะมาชุมนุมยืดเยื้อ 6-7 เดือนไม่ได้ อย่ามาใช้คำว่าประชาธิปไตยตอนนี้ เราให้อยู่แล้ว มันเดือดร้อนอะไรตรงไหน สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือการเลือกตั้ง มีรัฐธรรมนูญตามโรดแม็พ ไม่เคยเลื่อน ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ตอนนี้ก็แทบฆ่ากันตายอยู่แล้ว ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเกิดขึ้นต้องเน้นเรื่องปฏิรูปและธรรมาภิบาล ขอให้ส่งเสริมและอย่าทำร้ายกันและกัน ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเกิดขึ้นต้องเน้นเรื่องการปฏิรูปและธรรมาภิบาล ไม่ใช่ใช้แต่จินตนาการเท่านั้น แบบนั้นไม่ได้ อะไรที่เคยเป็นปัญหาในอดีตต้องแก้ได้ อะไรดีๆ ในรัฐธรรมนูญปี 2540-2550 เอามาใส่ถ้าแก้ปัญหาได้ และต้องแก้ไขได้ อะไรที่จะอยู่จนตายมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาเขียนมาไม่เคยได้ใช้เพราะบังคับตัวเองกันไม่ได้ เสียดายโอกาส เวลาการเป็นศูนย์กลางอาเซียนแต่ไม่เคยทำได้ ผมจะทำให้ได้ไม่ได้ลอกใครแต่ปัญหาคือทำจริงหรือเปล่า ไม่ใช่แค่ทำรายงาน 3-4 แผ่นว่าทำไปและจบ อะไรที่ต้องตรวจสอบผมสั่งให้ตรวจทั้งหมด ผิดคือผิด อย่าบอกว่าไม่รู้ไม่ทราบ ทำผิดกฏหมายก็ต้องผิด เงินที่มันผิดกฎหมายก็คือผิดกฎหมาย จะมาบอกว่าคืนแล้วจบไปมันไม่ใช่ ไม่ถูกต้อง หากใครเดือดร้อนก็ส่งเรื่องมาทำเนียบฯ ได้ผมรับหมด ส่วนข้าราชการผมสั่งการไปบางครั้งก็สับสน บางคนชอบก็ดีไปตั้งใจทำงาน ส่วนใครที่ไม่ชอบบอกเป็นรัฐบาลทหารไม่รู้เรื่องอะไร แต่พอไล่เรียงรายละเอียดไปๆ มาๆ ทหารรู้เรื่องกว่าคุณอีก รู้ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดผลไม่ใช่เอาแต่ในตำรา สุดท้ายนักเรียนโรงเรียนเสนาธิการทุกคน ขอช่วยให้ประเทศพัฒนา มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน"
อย่าปล่อยให้ "บิ๊กตู่" เป็นศิลปินเดี่ยว วันชัยวอนผู้กล้าออกโรงช่วย
2 เม.ย.58 นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลในขณะนี้ ว่า ขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ รัฐบาลต้องวางรากฐานบ้านเมืองให้เข้มแข็ง แล้วค่อยนำไปสู่การเลือกตั้ง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ถ้าแก้ไม่ได้จะอยู่ยาก ส่วนข้าราชการ และรัฐมนตรี ต้องทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ กระฉับกระเฉง เร่งเครื่อง อย่าเช้าชามเย็นชาม โดยเรื่องปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยนักการเมือง ปัญหาความมั่นคงต้องแก้ด้วยวิธีการของความมั่นคง เรื่องการทหารต้องแก้ด้วยทหาร
นายวันชัย กล่าวต่อว่า วันนี้มีทั้งปัญหาเรื่องการเมือง และความมั่นคง จึงต้องผสมผสาน ทั้งนักการเมือง และนักการทหาร อย่ามองแต่การทหารอย่างเดียว ที่พูดนั้นหวังดี เพราะเสียของมามากแล้ว คนเก่งคนดีมีมาก แต่ทั้งเก่งและดีแถมกล้าแบบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หายาก ซึ่งถ้าเก่งแล้วเอาตัวรอดไปวันๆ สู้เอานักบวชมาบริหารราชการแผ่นดินดีกว่า จึงถึงเวลาแล้วที่คนกล้า เก่ง และดี จะออกมาแสดงฝีมือ อย่าปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นศิลปินเดี่ยวอยู่คนเดียว