Menu Bar

วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

คนดีต้องมีที่ยืนบนแผ่นดินไทย




Share ให้ทราบทั่วกันว่า ณ เวลา 01:39 วันที่ 19 เมษายน 2557 ผมได้รับการแจ้งจาก Facebook ว่า ผมได้ละเมิดลิขสิทธิ์ รูปภาพตัวผมเอง เป็นเหตุให้มิสามารถ ใช้รูปเดิม มาเป็นรูป Profileได้ จึงต้องปล่อยว่างไว้ดังที่เห็น โดยผู้แจ้งนั้นปรากฏตามหลักฐานที่ Facebook รายงาน (ตามภาพที่ capture ให้เห็นนั้น) ชื่อ Thaksin Shinawatra หมายเลขการแจ้ง 14906795844848 email taksin@hotmail.com ผมเองไม่อาจเข้าใจได้ ในขณะที่ผมกำลังต่อสู้กับผู้กระทำการหมิ่นพระบรมราชานุภาพ แล้วท่านเดือดร้อนตรงไหน???? ....














"ผมจะรบเพื่อพระเจ้าอยู่หัว"พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา....


บ่ายแก่ๆของวันศุกร์ที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ปรากฏตัวในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด กางเกงบลูยีนส์ ด้วยท่วงท่ากระฉับกระเฉงตื่นตัว แม้ใบหน้าจะมีแววเคร่งเครียดฉายชัด ทว่ายังคงยิ้มแย้มเป็นกันเองต่อสื่อมวลชนหลายสำนักที่มารอทำข่าว ประเด็นร้อนแรงที่สุดที่หลายคนอยากฟังจากปากเจ้าตัว....... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1pkR47C





ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ บอกว่า สมัยที่เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่ได้แสดงตัวเป็นผู้ชุมนุมชัดเจน ไม่ใช่ว่ากลัวที่ตัวเองยังรับราชการทหารอยู่ เพราะเวลาไปเจ้านายก็รู้ว่า เราไปชุมนุม แต่ที่ยังไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นพันธมิตร เพราะว่าไม่ได้ไปร่วมชุมนุมอย่างเต็มตัว

จุดหักเหของการชุมนุมในช่วงนั้นนี่เอง ที่ทำให้เขาเห็นความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่รัฐกระทำกับประชาชน

"พอเห็นแล้วรู้สึกไม่ชอบ เพราะเป็นคนเกลีย...ดความรุนแรง ยิ่งเห็นคนที่อายุเท่าผมมาตาย ("เจนกิจ กลัดสาคร" ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณคอด้านซ้ายทะลุเข้าเส้นเลือดใหญ่ ทำให้เสียชีวิต เมื่อปี 2551) แล้วลูกสาวเขาขึ้นไปยืนพูดบนเวที เห็นภาพนั้นยิ่งรู้สึกว่าจะนั่งเฉยๆ อยู่เฉยๆ ไม่ได้อีกแล้วเพราะรู้สึกละอายใจ"

หลังจากนั้นหมอเหรียญทองก็เริ่มแบกเป้ไปร่วมชุมนุมทุกคืน เรียกว่า กลางวันเป็นผอ.รพ.กลางคืนเป็นหมอข้างถนน

พอมาช่วงที่มีการปิดสนามบิน (ดอนเมือง) ก็มีการจัดรถพยาบาลไปสนับสนุนพันธมิตรฯ ทุกคืน และไปทำหน้าที่หมอรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่นั่น

ก่อนจะย้ำอีกว่า "ช่วงนั้นผมได้ลาออกจากอาชีพการเป็นทหารเรียบร้อยแล้ว"

ยิ่งเมื่อนึกถึง "รณชัย ชัยศรี" เด็กหนุ่มวัย 29 ปี จากจังหวัดสงขลา มาเสียชีวิตที่เมื่อปี 2551 จากเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่สนามบินดอนเมือง นั้น ก่อน 1 วันที่จะมีการยุบสภา (รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช) หมอเหรียญทอง ถึงกับหยุดนิ่งอยู่นาน พูดไม่ออก

"ถึงแม้ในชีวิตผมจะเห็นคนตายมาเป็นจำนวนมาก ครั้งนั้นผมสงสาร จดจำได้เป็นอย่างนี้ อาจเป็นเพราะเราตั้งเป้าไว้สูงว่าจะต้องไม่มีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์การชุมนุมในครั้งนั้น และผมเป็นคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ไม่ได้ จึงรู้สึกเสียใจมากที่สุด"

ดังนั้นวันนี้ถ้าใครแค่มาบอกผมว่า เป็นพันธมิตรฯ "ผมรักหมด การร่วมเป็นร่วมตาย ทำให้รักกันมากอย่างไม่มีเหตุผลด้วย"

นี่คือจุดเริ่มต้นอุดมการณ์ทางการเมืองของคนที่ชื่อว่า "เหรียญทอง แน่นหนา" ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ก่อนที่จะเขาจะเริ่มประกาศตัวชัดเจนว่าวันนี้เห็นด้วยกับกปปส.และพร้อมจะสนับสนุนอย่างเต็มที่

ไม่ว่า กำนันสุเทพเฮไปทางไหน เขาก็จะตามไปทุกที แม้ว่าบางครั้งจะยอมรับว่า เขาก็ "หงุดหงิด"

ตอนต่อไป ตามดูกันว่า ทำไมหมอเหรียญทอง จากคนที่ไม่ชอบสุเทพ วันนี้ถึงเปลี่ยนเป็นรักฉิบหาย!! เป่านกหวีดเมื่อไหร่ เป็นต้องไปร่วมขบวน

(สำนักข่าวอิศรา 19/04/57)







20 เม.ย.57 เวลา 6.36 น. แชร์ให้ทราบทั่วกันว่า มีการสร้าง เพจ ชื่อ พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา ซึ่งเป็นเพจปลอม โดยมีภาพปกเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีรูปประจำตัวเป็นรูปของผมสวมหมวกและเครื่องแบบทหารซึ่งเป็นรูปที่ Facebook ไม่อนุญาตให้ผมใช้ เนื่องจาก ถูก report โดยคน ชื่อ Thaksin Shinawatra หมายเลขการแจ้ง 14906795844848 email taksin@hotmail.com ว่ารูปประจำตัวของผมได้ละเมิดลิขสิทธิ์คุณ Thaks...in Shinawatra ตามที่ Facebook ส่งรายงานมาถึงผมเมื่อ เวลา 1.39 น.ของวันที่ 19 เม.ย.57 ...ดังนั้น ขอให้ทราบโดยทั่วกันว่า เพจที่สร้างขึ้นใหม่ที่มี ชื่อ พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา และมีภาพปกเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีรูปประจำตัวเป็นรูปของผมสวมหมวกและเครื่องแบบทหาร จึงเป็นเพจปลอมครับ..ส่วนเพจจริงไม่มีรูปประจำตัวครับ
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
20 เม.ย.57











Noy Murray's photo.


มังกร ภาคกลาง's photo.


Kaival Varichkaival's photo.





ปธ.ศาลปกครองสูงสุด ชี้หากรัฐไม่ฟังเสียงส่วนน้อย เมินตรวจสอบ ไม่เรียกปกครองตามประชาธิปไตย

ผู้แทนต้องยึดเสียงส่วนใหญ่และคำนึงเสียงส่วนน้อย ถ้าละเลยจะกลายเป็นเผด็จการ ยันต้องตรวจสอบใช้อำนาจได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เรียกว่าประชาธิปไตย

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000044119

































สุริยะใสซัดเพื่อไทยตัวการคุกคามปปช.-ศาลรธน.


สุริยะใสอัดเพื่อไทยตัวการคุกคาม ปปช.-ศาล รธน. ระบุปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เชื่อรู้จุดจบจึงชิงเสนอแนวคิด มาตรา 7 เตรียมร้องศาลยุบเพื่อไทย เมื่อวันที่ 20 เม.ย. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีนและกรรมการ....... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1jls2fM



















Yong Chai's photo.



จับสัญญาณกันให้ดี รัฐบาลกำลังใกล้ม้วย
.
- คงไม่ธรรมดาแล้วสำหรับการส่งสัญญาณของ 3 องค์กรใหญ่ที่ ศอ.รส.ไปพาดพิง ด้วยการออกแถลงการณ์สวนกลับของ ศาล รธน., ปปช., และ เครือข่าย ขรกพ.
- เพราะแต่ละองค์กร แต่ละคน อย่างต่ำ ๆ ซี 10 เรื่องกฎ ระเบียบ วิจารณญาณ ประสบการณ์ วัยวุฒิ คุณวุฒิ ไม่ธรรมดากันทั้งนั้น
....
รัฐบาลแผดเสียงคำรามออกไป ถ้าเป็นเมื่อปี 56 ยังมีคนฟัง
ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปมากแล้ว รัฐบาลกำลังถูกท้าทายอย่างหนัก
.
ใครเป็นกุนซือให้รัฐบาลออกแถลงการณ์ฉบับนี้วะ ผิดหลักการทั้งอำนาจหน้าที่ ผิดทั้งสายคอมมานด์ แบบนี้ ศาล รธน., ปปช., และเครือข่าย ขรกพ. เห็นว่าฟุตบอลมาเข้าทางเลยง้างเท้ารอ แล้วหวดกลับไปเต็มข้อ
.
เห็นว่า ปชป.จะชงเรื่องนี้ เมิงเอ๊ย เจอหวดเต็ม ๆ ตายห่านแน่ ทำไมรัฐบาลมันง่าวจริง ๆ
.
ลิ้งค์แถลงการณ์
ศ.รธน. http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU56Z3lNelk0TWc9PQ%3D%3D&subcatid
ปปช. http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20140417/575974/ปปช.แจงศอ.รส.แถลงการณ์พาดพิง.html
เครือข่าย ขรกพ.
http://news.thaipbs.or.th/content/เครือข่ายขรกพลเรือน-แถลงการณ์ประณาม-ศอรส








เปลว สีเงิน
19 April, 2014

'วุฒิภาวะศาล-องค์กรตาม รธน.'
การศึกษาสูงจากโรงเรียน-มหาวิทยาลัย ไม่ใช่สิ่งรับประกันว่าคนนั้นเป็นดี เพราะสถานศึกษาแค่ให้วิชาความรู้ หากแต่ พ่อ-แม่ ของแต่ละคนตะหาก เป็นผู้ให้ความเป็นคน ด้วยบ่มเพาะให้รู้จัก ชั่ว-ดี, ผิด-ถูก มาเป็นลำดับ จนสามารถแยกแยะความต่างระหว่าง "สัตว์มนุษย์" กับ "สัตว์เดรัจฉาน" ได้ในพฤติกรรม นั่นจึงเป็นสิ่งรับประกันถึงความเป็นคนดีของคนคนนั้น ด้วย "พ่อ...-แม่" สั่งสอน!
"คนเห็นผิดเป็นชอบ" ทรยศบ้าน-ทรยศเมือง รับใช้โจรล่มแผ่นดิน ทำถูกให้เป็นผิด ทำผิดให้เป็นถูก มีอำนาจวาสนาแทนที่จะรับใช้ชาติ กลับเนรคุณชาติ
หรือ...มีพ่อ-แม่ใครสั่งสอนเช่นนี้?
ครับ...ยุค "กระเบื้องเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยถอยจม" ไม่สามารถสรุปคนวันนี้ได้จากตำแหน่งสูง-การศึกษาสูง ก็อดคิดคำนึงด้วยสามัญสำนึกเช่นนี้ไม่ได้
ยิ่งมอง "ความเป็นไป" ของบ้านเมือง ผ่านความเคลื่อนไหวของทั้งคนหลวงและคนราษฎร์ปัจจุบันบางกลุ่ม-บางคนด้วยแล้ว
ต่อให้มียศ มีศักดิ์ มีตำแหน่ง เป็นดอกเตอร์ เป็นครูบาอาจารย์ เป็นข้าราชการ เป็นรัฐมนตรี เป็นมหาเศรษฐี และต่อให้เป็นอภิมหานายกรัฐมนตรีด้วย
"ตำแหน่ง-ฐานะ-ยศถาบรรดาศักดิ์" ใช้เป็นเครื่องรับประกันในการ คิดดี-พูดดี-ทำดี ไม่ได้เลยจริงๆ!
ตัวอย่างเปรียบเทียบชัดๆ อย่าง "ลุงเอี่ยม คัมภิรานนท์" ท่านเป็นคนพิการ นั่งขอทานหน้าโบสถ์หลวงพ่อวัดไร่ขิง ซึ่งถือว่าต่ำต้อย-ด้อยศักดิ์
แต่ท่านนำเงินที่ "ขอทานได้" ถวายวัดปีละ ๑ ล้าน ถวายไปแล้ว ๒ ปี ๒ ล้าน ด้วยจิตสำนึก "คืนสังคม"!
แต่รัฐมนตรีบางคน ไม่เคยประกอบธุรกิจอะไร กินเงินเดือนอย่างเดียว อาศัยขึ้น "ลิฟต์ลับตึกชิน" บ่อย พอมาเป็นนักการเมือง ต้องแจ้งทรัพย์สิน ขนาดมิดเม้นแล้ว ยังปรากฏรวยเป็นร้อยล้าน-พันล้าน
พวกนี้ เป็นพวกจิตคุด "หน้าคน-ใจสัตว์" ที่จะนำเงินทั้ง แจ้งที่มาไม่ได้-แจ้งได้ไปอุดหนุนจุนเจือสังคมบ้างนั้น
เมินซะเถอะ!
การปฏิรูปสังคมและการเมืองเที่ยวนี้ ต้องเรียกคนประเภทนี้มาแจงที่มา-ที่ไปให้กระจ่างเหมือนเงินของลุงเอี่ยม
ทรัพย์สิน-สินทรัพย์ไหน แจงที่มา-ที่ไปไม่ได้ ริบเข้าหลวงให้หมด แล้วจับมันตอน "ตัดไข่-รังไข่" ทิ้งซะ
เพราะพวกนี้มันเข้าตำรา...ยิ่งเรียน-ยิ่งโง่, ยิ่งโต-ยิ่งจัญไร, ยิ่งใหญ่-ยิ่งโกง และ ยิ่งลัก-ยิ่งชักดาบ
กอบเอา โกยเอา ทั้งลับ-ทั้งแจ้ง ได้เงินมากมายขนาดนั้น แค่จะซื้อกระดูกให้หมาข้างถนนแทะซักดุ้น พอเป็นสะพานบุญไม่ต้องไปเกิดเป็นหมาชาติหน้า มันยังขอเป็นหมา ดีกว่าต้องควัก!?
เข้าเรื่อง "หญิงขายชาติ ๒๕๕๗" ต่อจากเมื่อวานดีกว่า ที่ ศอ.รส.โดย "เฉลิม-สุรพงษ์-ชัยเกษม-ธาริต" ออกแถลงการณ์ ดังถูกประณามขรมเมืองขณะนี้
เมื่อวาน (๑๘ เม.ย.๕๗) ศาลรัฐธรรมนูญ-ป.ป.ช.-เครือข่ายข้าราชการพลเรือน ก็แถลงการณ์ชี้แจง ผมจะนำบันทึกไว้ตามลำดับ ดังนี้
แถลงการณ์ของศาลรัฐธรรมนูญ..........
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญขอเรียนว่า การออกแถลงการณ์ หรือการให้ข้อมูลข่าวสารของ ศอ.รส.ซึ่งเป็นศูนย์อำนวยการ หรือเป็นหน่วยงานของฝ่ายบริหาร มีลักษณะเป็นการก้าวก่าย และแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นองค์กรตุลาการ หนึ่งในอำนาจอธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ
โดย ศอ.รส.มีอำนาจหน้าที่หลักรับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไข หรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.๒๕๕๑
การแถลงการณ์ของ ศอ.รส.ดังกล่าวเป็นการคาดการณ์ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในอนาคต และมีลักษณะคุกคาม ก้าวล่วงการใช้ดุลยพินิจของตุลาการและศาล ซึ่งมีผลเป็นการทำลายชื่อเสียง ความเชื่อถือศรัทธาของศาลรัฐธรรมนูญ
จึงเป็นกระทำที่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ที่กำหนดให้ ศอ.รส.เป็นหน่วยงานที่ปฏิบัติเพื่อป้องกันภยันตรายอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศเท่านั้น
ดังนั้น การพิจารณาวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมาย และในพระมหาปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ดังที่รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๙๗ วรรคหนึ่งได้บัญญัติไว้ และต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ก่อนเข้ารับหน้าที่
การปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญย่อมได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย หากการดำเนินการของ ศอ.รส.กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จึงแถลงมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน
คำชี้แจงของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
“ตามที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๗ เรื่องข้อเรียกร้องต่อฝ่ายต่างๆ เพื่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมืองในขณะนี้
และได้มีข้อเรียกร้องถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในการพิจารณาดำเนินคดีและมีคำวินิจฉัยต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในกรณีโครงการรับจำนำข้าวอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโดยไม่เลือกปฏิบัติเป็น ๒ มาตรฐานที่แตกต่างกันระหว่างคนของพรรคฝ่ายค้านกับพรรคฝ่ายรัฐบาล โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะต้องปฏิบัติตามจริยธรรมอันเป็นมาตรฐานสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่ด้วย นั้น
สำนักงาน ป.ป.ช. ขอเรียนชี้แจงข้อมูลในกรณีดังกล่าวดังนี้
๑.การดำเนินการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ย่อมอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญฯ มาตรา ๓ วรรค ๒ ที่ว่า “การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม”
ซึ่งหมายถึงการไม่กระทำตามอำเภอใจ การใช้หลักเหตุผล หลักกฎหมายและหลักความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมายเดียวกัน โดยเคร่งครัดปราศจากอคติ แม้จะถูกข่มขู่ คุกคาม ก้าวร้าวและมีการกระทำรุนแรงจากบุคคลบางกลุ่ม คณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็ไม่เคยท้อถอย และละทิ้งต่อการทำหน้าที่ตามหลักนิติธรรม
๒.การที่ ศอ.รส.ได้ออกแถลงการณ์ดังกล่าว นับว่าเป็นการหมิ่นเหม่ต่อการที่อาจทำให้สาธารณชนเห็นได้ว่า มีการแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.จากฝ่ายบริหาร อันไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม และกดดันให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.วินิจฉัย หรือใช้ดุลพินิจไปในทางที่ฝ่ายบริหารต้องการ ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดีต่อการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ
จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
แถลงการณ์ เครือข่ายข้าราชการพลเรือน: สมาคมข้าราชการพลเรือนแห่งประเทศไทย เครือข่ายกลุ่มข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลุ่มข้าราชการกระทรวงแรงงาน กลุ่มรักกระทรวงพาณิชย์ และเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข
จากการที่ ศอ.รส.ออกหนังสือเชิญประชุมปลัดกระทรวงทุกกระทรวง เพื่อซักซ้อมและกำชับการปฏิบัติของปลัดกระทรวง รวมทั้งผู้บริหารระดับสูง
โดยกล่าวอ้างถึงการที่แกนนำกลุ่ม กปปส.ได้เดินทางไปยังสถานที่ราชการต่างๆ และปลัดกระทรวงยุติธรรมได้นำผู้บริหารระดับสูงลงมาให้การต้อนรับ เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและควรแก่การตำหนิ ซึ่ง ศอ.รส.ได้ออกมาให้ข่าวจนเป็นที่แพร่หลายในลักษณะการข่มขู่ เอาผิดกับข้าราชการที่มีความเห็นต่าง
ทางเครือข่ายข้าราชการพลเรือนมีความเห็นว่า
๑.ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง คือผู้บริหารสูงสุด ทำหน้าที่เป็นตัวแทนข้าราชการประจำ ที่ประกอบคุณงามความดี รับใช้แผ่นดินมายาวนาน มีเกียรติภูมิ มีศักดิ์ศรี และมีวิจารณญาณมากพอที่จะตัดสินใจได้ว่าสิ่งใดควรกระทำและไม่ควรกระทำ
๒.การรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งรุนแรง เป็นสิ่งที่เหมาะสมและพึงกระทำที่สุด เหตุการณ์ที่ไม่ปกติทุกวันนี้ล้วนเกิดจากการไม่เคารพความคิดเห็นต่าง โดยเฉพาะจากผู้มีอำนาจ
๓.ในฐานะข้าราชการประจำ โดยเฉพาะผู้บริหารสูงสุด ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องเป็นหลักและร่วมหาทางออกให้กับบ้านเมือง การกระทำของ ศอ.รส.และผู้มีอำนาจ ถือเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของข้าราชการอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เครือข่ายข้าราชการพลเรือนขอยืนยันว่า เราจักยึดหลักความเป็นกลางทางการเมือง ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ให้บริการแก่ประชาชนทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม ไม่แบ่งแยกว่าเป็นฝ่ายใด สามารถทำงานร่วมกับพรรคการเมืองทุกพรรคที่ได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง
ขณะเดียวกัน ก็ไม่เข้าข้างพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง จะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ชอบด้วยกฎหมายและสอดคล้องกับหลักจริยธรรม
"กลไกราชการเป็นกลไกสำคัญในการบริหารบ้านเมือง ไม่ได้เป็นของพรรคการเมืองใด หรือกลุ่มบุคคลใด ข้าราชการจึงต้องปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดต่อ ประเทศชาติ จึงจะถือว่ามีความเป็นกลางทางการเมืองที่ถูกต้อง และเป็นการแสดงความกตัญญูต่อแผ่นดิน
ถึงเวลาแล้วที่พี่น้องข้าราชการทุกท่านจักต้องร่วมกันธำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของข้าราชการ ยึดมั่นในการกระทำสิ่งที่ถูกต้อง โดยไม่เกรงกลัวต่ออำนาจ คำข่มขู่และคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีเกียรติ สมศักดิ์ศรีของข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"
ครับ...มี ๓ องค์กรออกมาแสดงท่าทีด้วยการโต้ตอบ ศอ.รส. ส่วนบก-เรือ-อากาศ-ความมั่นคง และตำรวจ เท่าที่รอฟังตลอดวาน ปรากฏว่า...........
"เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่มีสัญญาณตอบรับในขณะนี้"!


เราเป็นประชาชน ไม่ใช่อันธพาล จึงต้องปฏิบัติตามคำตัดสินอันเป็นที่สุดของศาล ต้องประพฤติตนตามกติกาของบ้านเมือง

ที่ถามว่าในฐานะประชาชนจะควรเชื่ออย่างไร คำตอบก็คือ เราเป็นประชาชน ไม่ใช่อันธพาล จึงต้องปฏิบัติตามคำตัดสินอันเป็นที่สุดของศาล ต้องประพฤติตนตามกติกาของบ้านเมือง การจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยย่อมทำได้และเป็นของธรรมดา แต่จะปฏิเสธหรือไม่ยอมรับหรือไม่รับรู้ เห็นจะไม่ได้ เพราะถ้าบ้านเมืองไร้ขื่อแป จะมีผลต่อเราโดยตรง ไม่เหมือนคนที่เป็นนักการเมืองที่กอบโกยเงินทองไว้ล้นเหลือ ที่ถึงเวลาเขาก็คงหอบเงินและลูกเมียไปเสวยสุขยังต่างประเทศได้

มีชัย ฤชุพันธุ์
อดีต ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
21 พฤศจิกายน 2556