Menu Bar

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผ่า..ยุทธการพยัคฆ์หักเขี้ยวหมาขี้เรื้อน สู่ “นักรบถุงป๊อบคอร์น “














7 ประจัญบาน  นักรบถุงป๊อบคอร์น




4 ก.พ.57 ผ่า..ยุทธการพยัคฆ์หักเขี้ยวหมาขี้เรื้อน สู่ “นักรบถุงป๊อบคอร์น “

เมื่อแผนการณ์ชั่วต่าง ๆ ของรัฐแดงถูกแฉ หักหน้า และตอบโต้ ครั้งแล้วครั้งเล่า ชนิดไม่เว้นแต่ละวัน ช่างเป็นเสมือนหอกแหลมที่ “ แทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ “ ของระบอบชั่วอั้งยี่รัฐแดง ที่คิดคดทรยศกับพ่อผู้ซึ่งคนไทยเทอดทูน ทั้งยังคิดเข้าข้างพวกเดียวกันเองว่า การชนะเลือกตั้ง (ขี้โกง) คือ ใบอนุญาตให้สัมปทานประเทศ โกงอะไรก็ได้ตามใจ...ปรารถนา

ประชาชนทั่วสารทิศทุกเพศทุกวัย ทุกศาสนา ทุกอาชีพ ไม่เว้นแม่ชาวนา ที่เป็นสันหลังอาชีพของประเทศมานานกว่า 700 ปี มาไล่ ปูเน่าก็กอดเก้าอี้ผุ ๆ ไว้แน่น ไม่ยอมลาออกเพียงเพื่อกอดรักษาอำนาจของตัวเองไว้ให้นานที่สุด

ต่อมาถึงกับใช้ยุทธศาสตร์ “ เช้าขู่ฆ่า – บ่ายฆ่าจริง – ค่ำจุดเทียน –ดึกลอบโจมตี “ จ้างฮาร์ดคอร์ป่วนม็อบประชาชนทั้งหลางวันและกลางคืน โดยอนุมัติค่าจ้างป่วนหลักพันล้าน ให้ชายชุดดำฝ่ายชั่ว ร่วมกับ ลูกสมุนกองโจรแดงตกมันฮาร์คอร์กองกำลังติดอาวุธ ไม่เว้นแม้กระทั่งเอากองกำลังเขมรการ์ดฮุนเซน ที่ลักลอบนำเข้ามา เหมือนนำเข้าเชื้อโรคร้ายเข้าสู่ร่างกาย พร้อมลำเลียงสารพัดอาวุธสงครามร้ายแรง ทั้งหนักและเบานำเข้ากรุงเทพฯ มา โจมตีทำร้ายประชาชนของตนเอง

ทั้งขว้างระเบิดร้ายแรง, ยิง M79, ปาประทัดยักษ์, ลอบยิงด้วยปืน ฯลฯ สร้างความเดือดร้อนไปทั่วกรุงเทพฯ จนมีประชาชนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต จำนวนมาก โดยตั้งอัตราปาระเบิดใส่ประชาชนลูกละแสน , ออกไปยิงป่วนให้ประชาชนจ้างคนละห้าหมื่น , ถ้ามีประชาชนเจ็บ ตาย ชายดูไบจะมีโบนัสก้อนให้อีก...คิดชั่วไม่ถามสังคมโลกจริง ๆ

หวังแล้ว หวังเล่า ให้ชาย 3 สี ( เขียว-ขาว-ฟ้า ) ปฏิวัติยึดอำนาจตัวเอง จะได้ล้มกระดาน Set Zero คดีความตัวเองให้หมดเกลี้ยง แล้วแสร้งก่อสงครามกลางเมือง วางแผนจะเปลี่ยนกรุงเทพฯ จากเมืองแห่งรอยยิ้ม จากเมืองหลวงที่สวยงามของโลก ให้กลายเป็น “ เมืองหลวงแห่งสงคราม “ ดั่ง กรุงเบรุต เลบานอน , กรุงโมกาดิชู โซมาเลีย หรือแบกแดด ของอิรัก เช่นสังเวยความอำมหิตกระหายเลือดของอั้งยี่พรรคแดง

ถ้าชาย 3 สี ปฏิวัติ ก็นำมวลชนฮาร์ดคอร์ พร้อมอาวุธที่สะสมไว้รอบ ๆ กทม.เข้ามาประทะกัน คิดการใหญ่ขนาดถ้าแพ้ก็จะหนีไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น จะแบ่งแยกประเทศนี้ออกเป็นเสี่ยง หวังใช้ยุทธศาสตร์ระยะถัดไป คือ “แบ่งแยกเพื่อปกครอง“ ถึงขนาดที่เรื่องนี้ระแคะระคายล่วงรู้ไปถึงสื่อต่างชาติจีน “ เซาท์ ไชน่า “ ว่าพรรคแดงจะนำ 37 จังหวัด แยกออกจากประเทศไทย ใช้เชียงใหม่เป็นเมืองหลวงของ “ ประเทศไทยใหม่ “ เพื่อกดหัวประชาชนภาคเหนือ และอีสาน ที่รู้ไม่ทันเล่ห์กระเท่ห์ ให้อยู่หมัดด้วยนโยบายประชานิยม และใช้อำนาจรัฐอีกครั้ง

ความนี้ได้ล่วงรู้ และแดงถูก แฉ (อีกครั้ง) ขึ้นมาเสียก่อน ในขณะที่ชาย 3 สีต้องดำเนินการให้อยู่ในขอบเขตของรัฐธรรมนูญ เพราะจะปฏิวัติมันง่าย แต่ 2-3 ปี ประชาชนก็ลืมความดี และถูกตำหนิติเตียนอีก ดังนั้นก่อนที่เมืองหลวงของประเทศของเรา และสถาบันที่คนไทยรัก จะมีความเสี่ยงด้วยเงื้อมมือของบริษัทเผาไทยอั้งยี่ เพราะยิ่งนับวันแก๊งค์แดงก็เหิมเกริมหนักข้อขึ้นทุกวัน หมิ่นสถาบัน ทำร้ายประชาชน เพราะได้แรงหนุนน้ำเลี้ยงดีจากรัฐแดงเอง

จึงเกิดกลุ่มผู้รักชาติและปกป้องราชบัลลังค์ จากคนพาลขึ้น คือ นักรบนิรนามไร้สี หน่วยสังหารโจรดำ และอีกหลายชุด ฯลฯ ที่ผ่านมาทำงานเงียบๆ ปกป้องผู้ชุมนุมมาโดยตลอดตั้งแต่แรก แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวให้สังคมเห็น ยอมปิดทองหลังพระ เพราะหวังว่าสักวันเมื่อทองมันมากพอ ก็จะล้นมาหน้าองค์พระให้คนเห็นเอง

และแล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่ 1 ก.พ.57 เกิดการปะทะที่หลักสี่ขึ้นระหว่างฝ่ายธรรมะ มวลชน กปปส. ถุกลอบยิงและปาระเบิดจากฝ่ายอธรรมแก๊งค์อังยี่โกตี๋ก่อน ชายไร้สีนิรนามจึงต้องยอมเผยโฉมสุ่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรก ยอมเสี่ยงให้เห็นเป็นผู้ร้าย นั่นเพราะข้างหลังพวกเขา คือ พระ ผู้ชุมนุมที่บริสุทธิ์ มีทั้งคนแก่ ผู้หญิง และเด็ก ทั้งในขบวนบนถนน และในวัดหลักสี่ จึงปรากฎภาพของ “ นักรบถุงป๊อบคอน “ ออกมาต่อกรกับกองโจรแดงแบบถึงพริกถึงขิง ตามยุทธการ “ พยัคฆ์หักเขี้ยวหมาขี้เรื้อน “ จนอันธพาลแตกพ่าย เตลิดเปิดเปิงหางจุกตูดเจ็บกันไประนาว

ถ้าวันนั้นไม่มีพวกเขาเหล่านักรบกล้า ประชาชนอาจเสียชีวิต บาดเจ็บ อีกนับไม่ถ้วนจากแผนจงใจสร้างสถานการณ์โจมตีของรัฐอั้งยี่แดง ประชาชนมือเปล่า จะไปสู้อะไรได้กับพวกอันธพาลเกเรพวกนี้ ขอให้ประชาชนรู้ไว้เถิดว่า “ ถึงคนอื่นจะทิ้งคุณไป..แต่ ชาย 3 สี และชายชุดดำไทย ..ฝ่ายดี..ไม่เคยทิ้งคุณ “ เราไม่รังแกใคร ไม่ก่อกวนใครก่อน แต่ถ้าใครรังแกเรา และประชาชน เราจะต้องสู้เพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น

ดังนั้นขอชายไร้สีนิรนาม”ฝ่ายดี” ทั้งหลายไม่ว่าจะสีเขียว สีขาว สีฟ้า สีดำ เดินมาร่วมมือกันกับพวกเราเถิด (ติดต่อที่จุดชุมนุม) ให้การปกป้องสถาบันที่รักและเทิดทูน ปกป้องดูแลประชาชน มือเปล่าให้ปลอดภัย จัดการตอบโต้พวกอันธพาลให้หงายเงิบ..ไม่ต้องเตรียมอะไรมา เพียงใจถึงๆ ถือถุงป๊อบคอนมาคนละใบ..ส่วน BB Gun และเม็ดถั่วเม็ดงา..มาหาเอาข้างหน้า..เราเป็นคนดีเราต้องชนะแน่ !!...มาเป็นนักรบ “ ในดวงใจมวลมหาประชาชน” ด้วยกัน

ชายมีสีทั้งหลายเอ๋ย อันเงินทองภายนอก ยศฐาบรรดาศักดิ์ มันเป็นสิ่งมายา ข้าวปลาจากใจประชาชนสิของจริง ทำให้คนชั่วมันได้ประจักษ์ว่า ข้าวโพดภายในถุงป๊อบคอร์นที่บรรจุด้วยความรักและความภักดีเต็มเปี่ยมนี้ มันมีพลานุภาพฉกาจฉกรรจ์ ทรงฤทธานัก “ เป็นข้าวโพดกู้ชาติ “ ปกป้องประชาชน ไม่ให้เสียน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่า!!

ถ้าคนชั่วมันปล่อยอาวุธมา 1 เราจัด BB Gun สวนไป 10..ไม่ต่อรอง..ไม่อ่อนข้อ..ไม่ลดราคา มีแต่โบนัสแถมให้ !! อร่อยทุกเม็ด กรอบมัน เคี้ยวเพลินเกินห้ามใจ จนลมหายใจเฮือกสุดท้ายทีเดียว

ในระยะต่อไปถ้าโจรอันธพาลยังไม่หยุดทำร้ายประชาชนมือเปล่า บริษัท “นักรบถุงป๊อบคอร์น“ ของเราจะทำการตลาดเชิงรุก ให้บริการไปส่งข้าวโพดให้ถึงหัวกระไดบ้านแกนนำ และเราจะยังมีบริการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว รับจัดงานนอกสถานที่อีกด้วย โดยเสนอผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ “ ฝักข้าวโพดต้ม “ กำจัดอันธพาลตกมัน ให้อิ่มท้องใส้เหวอะหวะกันทั่วถึงที่เดียว !!

กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืน “สยอง” ..ใครไม่กล้าหลบไป “นักรบถุงป๊อบคอร์น“ จะช่วยคุ้มครอง ชาติ ราชบัลลังค์ของพ่อ และประชาชน ให้ระบือลั่นโลกเอง








@เสธ น้ำเงิน


**** ทหารมามือเปล่าๆ แต่.....อ่านกันบ้างห้ามถาม

**** 3 ก.พ.57 ผ่าแผน..ตลบหลังโกตี๋หลักสี่นึกว่ากินหมู แต่ดันเจอสิงห์โตขย้ำจังเบอ...

จากเหตุการณ์ปะทะหลักสี่เมื่อ 1 ก.พ.57 นั้น เพื่อให้เห็นแผนชั่วของแก๊องค์อั้งยี่รัฐแดงกับชายดูใบ จึงจะแฉ ดังนี้

1. ระยะเตรียมการ
- วันที่ 31 ม.ค.57 เวลา 22.30 น.สายส่งกลิ่นมาว่า โกตี๋ได้รับคำสั่งให้ก่อสถานการณ์จงใจให้มีเหตุ เข้าปิดล้อมปะทะกับหลวงปู่พุทธอิสระ ที่ สนง.เขตหลักสี่ กทม. โดยนัดรวมพลแดงปทุม แดงดอนเมือง แดงหลักสี่ แดงสะพานใหม่ และแดงอิสระ และยังมีบังโกวิท นำแดงลาดกระบังร่วมด้วย ณ เวทีหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ 11.00 น.และเคลื่อนพลไปรวมกันอีกจุดที่เคหะทุ่งสองห้องเวลาเที่ยง ทำให้ทีมชายนิรนามไร้สีเตรียมหน่วยจัดหนัก และหน่วยสังหารโจรดำ พร้อม BB Gun ทันที
- วันที่ 1 ก.พ.57 สายลับได้พบชายดูใบ นั่งกินอาหารกับหญิงสาวกิ๊กคนใหม่นั่งกินอาหารที่ศูนย์อาหารแห่งหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณยืนยันทันทีว่าจะเกิดเหตุร้ายเร็ว ๆ นี้

2. ระยะดำเนินการ
- ตามเวลากำหนด 11.00 – 12.00 น. โกตี๋ และ ยิ้มตาสว่าง นำเคลื่อนพลเสื้อแดงและเสื้อขาว มุ่ง สนง.เขตหลักสี่ พร้อมอาวุธและท่อนไม้ติดกระดาษ โดยมีชายชุดดำสวมหมวกโม่ง เป็นกองกำลังคุ้มกัน
- เวลา 11.40 น. แก๊งค์โกตี๋ถึงวัดหลักสี่และขึ้นปราศรัยพูดปลุกเร้ามวลชนมวลชน กุข่าวชายชุดเขียวปฏิวัติ หลอกแดงบ้าคลั่ง วรัญชัย หัววิกโผล่ร่วมปลุกระดมด้วย และมีการผูกริบบิ้นสัญลักษณ์ผ้าสีแดง-ผ้าสีขาว
- แก๊งค์โกตี๋ พร้อมไม้+เหล็กแป๊ป ประมาณ 500 คน เคลื่อนถึงหน้าหลักสี่พลาซ่
- ผู้ชุมนุม กปปส. ปักหลักอยู่รอบสำนักเขตหลักสี่ สนง.เขตหลักสี่สั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้หญิงกลับบ้านเพราะอั้งยี่มาใกล้แล้ว
- โกตี๋ประกาศเคลื่อนพลรบ ขณะทีมงานแจกท่อนไม้ขนาดเหมาะมือติดกระดาษเขียนด้วยมือว่าไปเลือกตั้ง และเยาะเย้ยว่าพุทธอิสระ จีวรปลิวแน่
- ชายชุดดำราว 400 คน ประจำ 3 จุด คือ ซอยแจ้งวัฒนะ 10 , หน้าไอทีสแควร์ จำนวน 100 คน , หน้าวัดหลักสี่จำนวน 100 คน แต่กลับปล่อยมวลชนโกตี๋ผ่านออกมาอย่างสบายๆ
- เวลา 14.30 น. ชายชุดเขียวราบ11 รอ.จำนวน 150 นายได้รับคำสั่งให้มาคุ้มครองพระ ผู้หญิงและมวลชน กปปส.ถึง สนง.เขตหลักสี่
- เวลา 15.17 น. หลวงปู่พุทธอิสระ เรียกผู้หญิงและเด็กขนของอพยพเข้าไปในสำนักงานเขตหลักสี่เพื่อความปลอดภัยจากโจรแด
- เวลาเดียวกันมวลชนแยกลาดพร้าว เคลื่อนสมทบพุทธะอิสระเพื่อช่วยเหลือ และนำรถมา 10 คันโดนแก๊งค์โกตี๋ยิงตัด หลุดเข้ามาได้ 3 คัน
- เวลา 15.55 น. ชายชุดเขียวประกาศย้ำให้ผู้ชุมนุม กปปส. เข้าไปหลบอยู่ในสำนักเขตหลักสี่ แล้วจัดทัพพร้อมรอกลุ่มโกตี
- โกตี๋อยู่บนรถตู้ โดยมีชายชุดดำในเครื่องแบบคุยโทรศัพท์กับอีกคนหนึ่งของพรรคเผาไทย วางแผนแบ่งงานกันโดยชายชุดดำไปบุกชิงอุปกรณ์เลือกตั้งที่ สนง.เขตหลักสี่ ส่วนโกตี๋จะโจมตีประชาชนด้วยอาวุธ ระหว่างชายชุดดำปฏิบัติการ
- ต่อมามีชายชุดดำจำนวนมาก และมวลชนโกตี๋มาล้อมเจรจาขอหีบบัตร
- ชายชุดเขียวตรงเข้ามาขับไล่ชายชุดดำออกไป ลั่น !! “เพราะมีชายชุดดำก็เหมือนไม่มี และชายชุดเขียวกล้าอย่างพวกผมจะคุ้มกันประชาชนเอง” ทำให้ชายชุดดำล่าถอยไป
** ทุกวินาทีของแก๊งค์โจรแดงตั้งแต่เช้า หารู้ไม่ว่าพวกนี้กำลังถูกดมกลิ่นตามทั้งภาพ และพิกัดตลอดเวลา อีกทั้งล็อคเป้า หมายหัว คนที่มีอาวุธปืนของโกตี๋ไว้หมดทุกคน

3. ระยะปฏิบัติการปะทะ
- เวลา 15.40 น. กลุ่มโกตี๋ยิงปืนประมาณ 3 นัดบริเวณถนนแจ้งวัฒนะใส่กลุ่มผู้ชุมนุมลาดพร้าวแต่เนื่องจากอยู่ไกลกันมากจึงไม่มีใครเป็นอันตราย แต่ชายชุดดำในเครื่องแบบบางคนกลับบอกคนอยู่ใกล้ว่าแค่เสียงประทัดอย่าตกใจ
- เวลา16.00 มวลชนโกตี๋เริ่มทุบรถและประชาชนที่มีสัญลักษณ์ธงชาติหน้าห้าง IT แสควร์ที่ห้างนี้มีความเกี่ยวพันกับลูกชายดูไบ
- รุมทุบรถโตโยต้าแคมรี่ โดยหารู้ไม่ว่าภายในเป็นชายชุดเขียวจาก มทบ.12. จังหวะนี้แจ๊ดโทรเข้ามือถือลูกน้อง ให้พาโกตี๋หนีเป็นคนแรกโดยโบกแท็กซี่ให้
- แก๊งค์แดงปาระเบิดลูกหนึ่งจากบนทางด่วน แต่หล่นใส่รถพวกเดียวกันเอง บางคนบาดเจ็บ
- เวลา 16.01 น. ระเบิดลง 4 ลูกที่แยกหลักสี่ และมีคนบาดเจ็บ 4 คน ผู้บาดเจ็บเข้ามาหลบในป้อมจราจรแยกหลักสี่
- แก๊งค์แดงมีการยิงปืน ระเบิดปิงปอง ระเบิดขวด มาจากบนตึก บนสะพานลอย และบนโทลล์เวย์
- แก๊งค์แดงยิงใส่หนังสติ๊กระเบิดปิงปองข้ามสะพานมา แต่พลาดลงด้านหลังรถเครื่องเสียง กปปส.
- ชายชุดดำในเครื่องแบบลงรถตู้แล้วยิงใส่มวลชน กปปส. บางคนระดมยิงปืนลูกโม่ เพื่อช่วยโกตี๋ มีนักข่าวเห็นชัดเจน แล้วแอบอยู่หลังและข้างร้านขาย Pizza หน้าตึก IT Square ส่วนที่เหลือไม่กล้าเข้าไประงับเหตุแค่พูดว่า "กลัวโดนลูกหลง"
- เวลา 16.30 น. ชายไร้สีนิรนาม ( ไม่เกี่ยวกับ กปปส.) ซึ่งเตรียมการมาอย่างดี เข้าจุดที่กำหนดริมทางรถไฟ เกาะกลางถนน จัดวางรูปแบบกำลัง แบบซุ่มโจมตี มีหน่วยชี้เป้าพิกัด หน่วยจรยุทธ์ แล้วระดมยิง BB Gun ในถุงป๊อบคอนสวนไม่ยั้งด้วยความแม่นยำ และชำนาญกว่าจึงโดนแก๊งค์โกตี๋เจ็บราว 4 ราย
- การรัวปืน สลับการปาระเบิด ดังอย่างต่อเนื่อง เสมือนเลบานอน ประชาชนหมอบหลบ ห้างไอทีสแควร์ประกาศปิดห้า
- มีชายเสื้อขาวถูกยิง 2 คนถูกนำส่ง รพ.วิภาวดี และนักข่าวและมวลชนถูกสะเก็ดประทัดยักษ์โกตี๋ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
- เวลา 17.20 น. บนสะพานลอย และด้านล่างห้างฯ มีผู้หลบภัยดงกระสุนนับร้อยหลายคน
และมีผู้หญิงได้รับบาดเจ็บเข้าไปหลบภัยปฐมพยาบาล
- เวลา 17.45 น. ชายชุดดำชั่วมีพร้อมอาวุธปืนแฝงกายเข้ามาเหมือน กปปส.ทุกอย่าง ตรงเข้าทำร้ายหลวงปู่ฯ ระยะ 5 เมตร แต่สารวัตรชายชุดเขียวและการ์ดสามารถบล็อก ระดมสรรพสิ่งจากดนตรีไทยแบบน่วมตั้งหัวจรดเท้า และจับกุมตัวไว้ มีบัตรประจำตัวข้าราชการ มอบให้ชายชุดเขียวควบคุมตัวสืบสวนแบบจำไม่อยากลืมต่อไป
- แก๊งค์โกตี๋หลังโดนตลบหลังขย้ำซะเละไม่มีชิ้นดี ได้ล่าถอยออกมายังหน้าห้างไอทีสแคว์ และเริ่มสลายตัวแบบเสียฟอร์

4. ระยะควบคุมและเก็บรายละเอีย
- เวลา 17.54 น. เหตุการณ์ราว 1-2 ชั่วโมงชายชุดเขียวอาวุธเต็มพิกัดราบ 11 เคลียร์พื้นที่ปิดสะพานข้ามแยกหลักสี่ ไม่ให้รถสัญจรผ่าน โดยนำรถกระจายเสียงออกมาประกาศกันมวลชนออกว่า “ อย่าเข้าไปปะทะ ชายชุดเขียวจะดูแลประชาชนเอง ชายชุดเขียวจะจัดการพวกมันเอง “ และช่วยนักข่าวช่างภาพที่ติดอยู่ในป้อมตำรวจหลักสี่ออกจากจุดยิงปืน
- เวลา 18.45 น. หลวงปู่ฯ และประชาชนปลอดภัย สวดมนต์เย็น ด้านนอกเสียงปืนสงบ ชายชุดเขียวราบ 11 คุมกำลังแน่นหนานอนเป็นเพื่อน
- เวลา 00.00 น. แก๊งโกตี๋ลอบส่งสมุนหมาลอบกัด 2 คน มายิงใส่ผู้หญิงที่เดินผ่านใกล้ สนง.เขตหลักสี่ จนบาดเจ็บ และถูกชายชุดเขียวและการ์ดหลายสิบคนรุมประเคนด้าม BB Gun และสิ่งเทียมไม้ เท้า หมัด ใส่ไม่ยั้งจนสลบเหมือด ถูกจับตัวได้พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว และญาติคงไม่เจอหน้าชายชั่ว 2 คนนี้อีกแล้ว เพราะข่าวว่ามันจะไปเที่ยวทะเลยาว

ต่อมาชายชุดดำรองผู้ ผบ.นครบาล แถลงข่าวเหตุปะทะระหว่างกลุ่ม กปปส. กับคนเสื้อแดงที่บริเวณแยกหลักสี่ ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับโกตี๋ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี...เออ..เอากะมันซิ

ถัดมาโฆษก ชายชุดเขียวสวนบ้างว่ากลุ่มผู้ใช้อาวุธคือโกตี๋ ที่รวมอยู่หน้าห้างไอทีสแควร์ และบริเวณหน้าวัดหลักสี่ เจ้าหน้าที่ระบุชัดเจนว่ามีการใช้อาวุธมาจากทางฝั่งหน้าไอทีสแควร์ จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้ใช้อาวุธตอบโต้กันไปมา ที่เกิดเหตุพบร่อยรอยการใช้อาวุธมีมาจากหลายทิศทาง

ถ้าไม่มีชายไร้สีนิรนาม และหน่วยสังหารโจรดำ ปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ในวันนั้น คงตกเป็นเครื่องมือของชายดูไบ รัฐอั้งยี่แดง ชายชุดดำฝ่ายชั่ว และแก๊งค์โกตี๋ ใช้สร้างสถานการณ์สังเวยให้เกิดการเจ็บและตายจำนวนมาก เป็นข้ออ้างในการปฏิวัติตัวเอง ล้มคดีความ และครองอำนาจต่อ แต่แผนทั้งหมดของโจรชั่วผิดพลาดไปหมด...ไม่มีคนตายเลยสักคน เจ็บแค่ 7 คน

“ ความโง่ของนกกระจอก หรือจะหยั่งรู้ความคิดพญาอินทรีย์ได้ ” ไม่พูดมากแต่เฉียบคม และไม่ชั่วเหมือนพรรคแดงที่เอาเขมรมาฆ่าคนไทยด้วยกันเอ

สมัยโบราณพระพุทธเจ้ายังมีปัญจวัคคีทั้ง 5 ปกป้อง...แล้วทำไมประชาชนจะมีชายไร้สีนิรนามปกป้องบ้างไม่ได้ !!