GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พ่อหลวงทรงผนวช/พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ

พ่อหลวงทรงผนวช พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพุทธศาสนิกชนที่มีพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นที่ยิ่ง เมื่อ พุทธศักราช 2499 มีพระราชประสงค์ที่จะทรงพระผนวชในพระบวรพุทธศาสนาตามโบราณราชประเพณี นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอรับพระราชภาระสนองพระเดชพระคุณในการทรงพระผนวชในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวไทยและได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้แต่งตั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ด้วยความเห็นชอบขอสภาผู้แทนราษฎร ฯ

 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อทรงพระเยาว์


"ขอให้บอกเรานะ อยากให้เราปรับตัวอะไรบ้าง"
บทความเต็มๆ ครับ
คุณอี้ แทนคุณสัมภาษณ์ ท่านอาจารย์ปราโมทย์
“ถึงผมจะไม่ใช่ สื่อมวลชนที่เป็นนักข่าว แต่ผมก็เป็นคนทำงานด้านสื่อในเรื่องการสัมภาษณ์ เวลาที่เกิดปัญหาในเรื่องการบิดเบือนข้อมูล สิ่งหนึ่งที่เราควรจะต้องทำคือไม่หลบหนีความจริง เช่น วาทกรรมเรื่องอำมาตย์ ไพร่ ผมก็ได้มีการหยิบยกขึ้นมาถามอาจารย์ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ปราโมทย์ นาครรทรรพ ผมก็ถามตรงๆ ว่า ชนชั้นพระมหากษัตริย์ทำให้ไม่เกิดความเป็นประชาธิปไตยจริงไหม ที่ต้องถามเพราะว่ามีคนอีกเยอะมาก ที่พร้อมจะเอนเอียงไปทางเขา ถ้าเราไม่เปิดใจกว้างพูดคุยเรื่องนี้ในอนาคตก็อาจจะมีปัญหา”
“ท่าน อาจารย์ปราโมทย์ก็ได้ตอบว่า ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด คำนึงที่ผมยิ่งสะเทือนใจและตอกย้ำว่า เราจะต้องทำหน้าที่ตรงนี้ เราจะต้องทำนะ เราจะต้องสู้ และถ้าจะเอาชีวิตเข้าแลกก็ต้องทำก็คือ ท่านอาจารย์บอกว่า ในหลวงทรงรู้ว่ามีคนที่ ไม่อยากให้มีสถาบัน
ท่าน ก็พยายามบอกผ่านคนทำงานของท่านว่า ขอให้บอกเรานะ อยากให้เราปรับตัวอะไรบ้าง ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือ ให้โอกาสในการที่เราจะปรับตัวด้วย นี่คือสิ่งที่เรา สัมภาษณ์ออกโทรทัศน์กันสดๆ เลย”
“ผมฟังแล้วแบบ.... รู้สึกว่าท่านโดดเดี่ยว และก็รู้สึกว่า ถ้าประชาชนไม่ช่วยกันปกป้องท่าน ท่านก็ไม่มีพระราชอำนาจอะไรที่จะบังคับความรักความศรัทธาของผู้คน ให้รักเรานะ จงรักภักดีกับเรา แต่ตรงกันข้าม พระองค์กลับพยายามบอกว่า มีอะไรให้ปรับตัว ยินดีที่จะช่วยเหลือประชาชนทุกคน ท่าน เป็นในหลวงที่เหนื่อยที่สุดในโลก ทรงงานหนักมาขนาดนี้ แต่กลับถูกคนที่เห็นแก่ตัวไม่กี่คนปลุกระดมคน ฉะนั้นถ้าผมจะทำอะไรได้ จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ยอม”
“นอกจากนั้นแล้ว อาจารย์ก็ยังเชื่อมโยงให้เห็นว่า ที่ประเทศอื่นๆ เขามีสำนักพระราชวัง สำนักราชเลขานุการคอยตอบโต้เวลาที่มีใครโจมตี แต่ในหลวงไม่มี คือในหลวงทรงเสียเปรียบเวลาที่ถูกพาดพิง คนที่ไม่เคยศึกษาไม่เคยรู้ว่าท่านทรงงานทำอะไร ก็จะคล้อยตามสิ่งที่โจมตีท่าน สังคมไทยถ้าเป็นแบบนี้มันน่ากลัว เพราะคำว่าผลประโยชน์ และความไม่รู้”
“ศัตรูของประเทศไทยในวันนี้ไม่ใช่ทักษิณ แต่มันคือความไม่รู้ ทุกวันนี้เรามีสื่อที่ทันสมัยมากมาย แต่วิธีคิดของสื่อที่เจริญแล้วเนี่ยมันแฝงไว้ด้วยอำนาจ ความชิงชัง ความเกลียด อคติ ผลประโยชน์ ผมเรียกว่าเป็นยุค ไอซีทีกาลียุค กาลิกาลี แปลว่า เหลือ 1 ส่วน 4 ความจริงเหลือน้อยลง ก็กลายเป็นว่าความจริงถูกบิดเบือนไป”
***อย่าให้พ่อหลวงเราโดด เดี่ยวอีกเลย นะ ช่วยกันปกป้องท่าน ใครที่คิดร้าย เราจะสู้เพื่อปกป้องพ่อของเรา...ถึงตายก็ยอม****
อาจารย์ปราโมทย์
ขอบคุณข้อมูลจากเว็ปPantip
 

จะตามแก้เเค้น10 ปีไม่สาย"



ประมาทไม่ได้ครับ เสนาธิการฝ่ายระบอบทักษิณ มีทั้งอดีตสหายนำและอดีตทหารตำรวจ. ยังคงใช้ยุทธวิธีผสมผสานในการสู้ กับคสช เเละประเทศชาติอยู่ "เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุดข้าเเหย่ เอ็งเเย่ข้าตี เอ็งหนีข้าตาม และซุ่มซ่อนยาวนาน รอคอยโอกาส"   มีพยานยืนยันชัดเจน ได้ยินกับหู สะใภ้คนหนึ่งในตระกูลชิน ประกาศต่อหน้าเพื่อนร่วมรุ่น หลักสูตรยอดฮิตของไฮโซ ว่าจะตามแก้เเค้น10ปีไม่สาย"

ผมเห็นด้วยกับข้อเขียนของท่านประสงค์อย่างยิ่งครับ สมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา 25มิย57

24 มิ.ย. 2557ประสงค์พูด : ซุ่มซ่อนยาวนาน รอคอยโอกาส (1)

“ปรับทุกข์ผูกมิตร

รับใช้ใกล้ชิด

สะสมกำลัง

ซุ่มซ่อนยาวนาน

รอคอยโอกาส ”

ข้อความดังกล่าวข้างต้น เป็นยุทธวิธีในการต่อสู้ของคอมมิวนิสต์ ซึ่งครั้งหนึ่งเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้นำยุทธวิธีที่ว่านี้มาใช้ดำเนินการในการต่อสู้กับอำนาจรัฐ โดยอาศัยมวลชนเป็นฐานสำคัญในการต่อสู้ภายใต้เงื่อนไขของความยากจน ความไม่เป็นธรรมต่างๆที่ฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐทำขึ้น ซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่งที่มีผู้คนในหมู่บ้านต่างๆในหลายภูมิภาค ได้เข้าร่วมหรือเป็นแนวร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ให้เป็นการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ คือการปกครองในระบอบประธานาธิบดีที่ไม่มีพระมหากษัตริย

นอกจากยุทธวิธีในการต่อสู้ดังกล่าวข้างต้นแล้ว วิธีการหรือยุทธการที่นำออกใช้ในแต่ละครั้งของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในสมัยนั้น ยังควบคู่ไปกับสถานการณ์ในขณะนั้นด้วยว่าเป็นอย่างไร เพื่อมิให้ต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะกำลังของตนน้อย อาจต้องสูญเสียหรือพ่ายแพ้ได้ เพราะฉะนั้นในการต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในสมัยนั้น จึงมีคำกล่าวเสริมพ่วงตามมาในลักษณะของการประเมินสถานการณ์ด้วยว่า “เอ็งมาข้ามุด เอ็งหยุดข้าแหย่ เอ็งแย่ข้าตาม” เป็นหลังการทำงานในการต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในสมัยนั้นด้วย

ในฐานะที่เคยทำงานต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมาก่อน อยากจะบอกผู้รักชาติบ้านเมืองทั้งหลายว่า สถานการณ์บ้านเมืองเราขณะนี้ยังไว้วางใจอะไรไม่ได้ในความสงบเรียบร้อย ปราศจากการต่อสู้ของ ทักษิณ และผู้คนในระบอบทักษิณ ที่อาจตามมาได้ทุกขณะ เพราะระบอบทักษิณซึ่งได้ยึดครองอำนาจรัฐมากว่าสิบปีนั้น ได้ดำเนินการในการบริหารจัดการตามขบวนการจัดตั้งแบบพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งพรรคการเมือง การหาแนวร่วม และการมีกองกำลังติดอาวุธเพื่อใช้เป็นฐานสำคัญในการครองอำนาจ

ต้องไม่ลืมว่าระบอบทักษิณนั้น ได้มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่เคยร่วมงานกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมาก่อน และบางคนหนีเข้าป่าจับอาวุธต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐมาแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้แหละได้เข้ามาเป็นแกนหลักสำคัญในการ

เตรียมการด้านนโยบายและหลักการดำเนินงานของพรรคเมืองของทักษิณ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 เพื่อเตรียมการต่อสู้อำนาจรัฐ วางแผนปกครองประเทศไทย

กลุ่มคนดังกล่าวนี้ยังมีตัวตนและเคลื่อนไหวอยู่อย่างปกปิด หลังจากระบอบทักษิณถูกยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 ที่ผ่านมา ไม่ได้ล้มหายตายจากไปไหน ยังคงหลบซ่อนอยู่ในประเทศและบางคนไปหลบซ่อนอยู่ในประเทศใกล้เคียง ติดต่อถึงกันอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งกับตัวทักษิณ เองก็ไม่ได้หยุดนิ่ง มีพฤติกรรมตามแบบฉบับของคอมมิวนิสต์ทุกอย่างที่บอกว่า “เอ็งมาข้าหยุด” นั่นเอง

ทักษิณเงียบไประยะนี้ก็เพราะเรื่องอย่างนี้

เพียงรอวันที่ “เอ็งหยุด” เมื่อไร “ข้าก็จะออกมาแหย่” เมื่อนั้น และถ้า “เอ็งแย่” วันไหน วันนั้นแหละ “ข้าจะตาม” เอาคืน

เป็นวิธีการของพวกกลุ่มคนที่นิยมในวิธีการของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ซึ่งยังคงมีอยู่ในระบอบทักษิณกำหนดเป็นวิธีการต่อสู้ในขณะนี้ เฉพาะอย่างยิ่ง พวกสมุนบริวารอีกจำนวนไม่น้อย ที่เคยร่วมหัวกันจัดตั้ง “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” หรือที่ใช้ตัวย่อว่า “นปช.” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายปกครองที่ถืออำนาจรัฐอยู่ในขณะนั้น ถ้าใครได้ติดตามพฤติกรรมและการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้มาแต่ต้นจะพบว่า ได้มีการจัดตั้งและยกระดับเป็นองค์กรมวลชนเต็มรูปแบบกระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆของประเทศ มีวัตถุประสงค์สำคัญในการผลักดันให้มีการเปลี่ยนรูปแบบการปกครองของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปเป็นการปกครองในรูปแบบที่ไม่มีพระมหากษัตริย์ หรือถ้าจะมีก็ให้เป็นประมุขในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น

บางพื้นที่ของประเทศโดยเฉพาะในภาคเหนือนั้น ก็คงจะได้ยินและได้เห็นการกระทำดังกล่าวนี้มาบ้างแล้วว่า จะเป็น “สปป.ล้านนา” หรือ “สาธารณรัฐประชาชนล้านนา” นั่นเอง

นี่แหละถึงได้บอกว่า แม้จะยึดอำนาจและขับไล่รัฐบาลในระบอบทักษิณให้พ้นจากอำนาจไปได้ก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าหรือคาดว่าบ้านเมืองจะเกิด

ความสงบสุขเรียบร้อย ทุกสิ่งทุกอย่างจะคืนกลับสู่ความปกตินั้น คงไม่เป็นไปอย่างที่คิดหรืออย่างที่คาดแน่ เพราะยังมีสิ่งตกค้างที่เป็นพิษเป็นภัยยังคงหลงเหลืออยู่ในพื้นที่หลายจังหวัดและหลายหมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้อยู่ในสภาพของการ “ซุ่มซ่อนยาวนาน รอคอยโอกาส” นั่นเอง ถ้าปราศจากการชำระสะสางกันอย่างจริงจังและด้วยวิธีการที่ถูกต้องแล้ว การยึดอำนาจครั้งนี้อาจจะ “เสียของ” อย่างที่ผู้เป็นห่วงหลายคนได้เคยเตือนไว้

จะแก้หรือจะทำกันอย่างไรขอยกไปพูดตอนหน้า

(อ่านต่อวันศุกร์)

- See more at: http://m.naewna.com/view/prasong/13101#1

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ยานวิเศษของระบอบทักษิณ/‘ปิยสวัสดิ์’ เลวตรงไหน?/ทำไมคนต้องการแย่งตำแหน่ง บอร์ด ปตท.



ยานวิเศษของระบอบทักษิณ
โดย สิริอัญญา 
วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2557

ไม่ว่า คสช. จะขับเคลื่อนการปรองดองภายในชาติในขั้นตอนที่ 1 อย่างขะมักเขม้น แต่ก็ไม่วายที่คนไทยทั้งหลายจะวิตกกังวลว่าเมื่อการเลือกตั้งมาถึง ระบอบทักษิณก็จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ก็เห็นทีจะถึงกาลสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์

แม้นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีก็ได้แถลงว่าจำเป็นต้องปิดประเทศสักระยะหนึ่งแต่อย่านานนัก พร้อมทั้งระบุว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว โอกาสสุดท้ายอะไร? ก็คือโอกาสที่จะฟื้นฟูชาติบ้านเมืองและป้องกันไม่ให้ทุนสามานย์กลับมายึดบ้านยึดเมืองนั่นเอง

แล้วอะไรเล่าที่ทำให้สังคมไทยหวาดหวั่นพรั่นพรึง และอะไรเล่าที่ทำให้เครือข่ายของระบอบทักษิณมั่นอกมั่นใจว่าจะกลับมาเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง ดังที่นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้พูดกับสื่อมวลชนที่ไปขอสัมภาษณ์ในวันเกิดว่าเอาไว้คุยกันหลังเลือกตั้ง

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ประกาศว่าการยึดอำนาจจะไม่เสียของเหมือนปี 2549 ในขณะที่เครือข่ายระบอบ
ทัก
ิณก็ประกาศว่าหลังเลือกตั้งค่อยเจอกัน ส่วนประชาชนผู้รักชาติทั้งผองได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า เมื่อถึงวันนั้นยังจะมีเรี่ยวแรงกำลังวังชาออกมาขับไล่รัฐบาลของระบอบทักษิณอีกหรือไม่?

ทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับที่มาของรัฐบาลหลังเลือกตั้ง หรืออาจกล่าวได้ว่ายานวิเศษอันใดที่ระบอบทักษิณจะอาศัยกลับมาเป็นรัฐบาลเล่า? เพราะตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีมานี้ ระบอบทักษิณก็ได้อาศัยยานชนิดนี้แหละในการเข้าสู่อำนาจเป็นรัฐบาลยึดครองประเทศไทย

นั่นคือระบบการเลือกตั้งแบบเส็งเคร็งที่ได้วางเสาเอกไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2540 โดยมีกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง ว่าด้วยการเลือกตั้ง และว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นกลไกสำคัญ

ระบบเลือกตั้งแบบเส็งเคร็งนี่แหละที่เป็นเหตุเป็นปัจจัยหรือเป็นยานวิเศษให้กับระบอบทักษิณในการเป็นรัฐบาลตลอดมา เลือกตั้งครั้งไหนก็ชนะทุกครั้ง บรรดาพรรคการเมืองไม่ว่าเก่าใหม่ไม่มีทางต่อสู้ได้เลย

เพราะการเลือกตั้งระบบเส็งเคร็งนี้ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล การเลือกตั้งเมื่อปี 2537 ทั้งระบบใช้เงินเพียงประมาณ 20,000 ล้านบาท มาถึงปี 2540 ก็ใช้เงินเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 80,000 ล้านบาท และได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมหาศาลทุกครั้ง จนถึงการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ก็มีวงเงินที่ต้องใช้ในการเลือกตั้งเกือบ 200,000 ล้านบาท โดยบางพรรคต้องจ่ายเงินแก่ผู้สมัครถึงคนละ 50 ล้านบาท ในขณะที่บางเขตเลือกตั้งต้องใช้เงินถึง 200 ล้านบาท

และยังประกอบด้วยการใช้อำนาจรัฐทุกชนิด ตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และตำรวจ ซึ่งมีแต่ระบอบทักษิณเท่านั้นที่มีศักยภาพที่จะทำได้ พรรคการเมืองอื่น ๆ ไม่มีขีดความสามารถที่จะต่อสู้ได้เลย ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงการซื้อคนใน กกต. ทั้ง กกต.กลาง กกต.จังหวัด และกกต.เขต ซึ่งจะสังเกตได้ว่าไม่ว่าจะโกงการเลือกตั้งสักเพียงใด ก็จะไม่มีการแจกใบแดงให้แก่ใครเลย

ระบบเลือกตั้งแบบเส็งเคร็งนี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดขึ้นไปอีกในรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นเป็นการเฉพาะ แต่ก็รู้กันว่าเบื้องหลังยังมีคณะร่างรัฐธรรมนูญเจ้าเก่าเป็นผู้ครอบงำบงการอยู่ทั้งสิ้น

การเลือกตั้งแบบระบบเส็งเคร็งปรากฏผลเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าทำให้คน ๆ เดียวเป็นเจ้าของพรรค เป็นเจ้าของรัฐสภา เป็นเจ้าของรัฐบาล และบงการยึดครองประเทศไทยได้อย่างโจ่งแจ้งโจ๋งครึ่ม โดยที่กฎหมายทำอะไรไม่ได้เลย เพราะมือไม้ในการบังคับใช้กฎหมายล้วนเป็นอัมพาตหรือเป็นข้าทาสบริวารไปเกือบหมด กระทั่งแค่จะเอ่ยชื่อคนบางคนก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึง แม้กระทั่งในวันนี้ก็ตาม

เมื่อมีการยึดอำนาจ คสช. ได้ประกาศให้รัฐธรรมนูญปี 2550 สิ้นสุดลง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการรื้อถอนและสร้างใหม่ซึ่งระบบการเลือกตั้งที่จะทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แต่ทว่าในที่สุด กกต.ชุดนี้ก็ประสบความสำเร็จในการนำเสนอให้ คสช. ออกประกาศรื้อฟื้นการเลือกตั้งระบบเส็งเคร็งทั้งหมดทั้งระบบให้กลับฟื้นคืนมาอีกครั้งหนึ่ง

ยานวิเศษสำหรับนำระบอบทักษิณกลับมายึดครองประเทศไทยได้รับการจัดวางไว้เสร็จสิ้นแล้ว คงเหลือแต่การร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องรองรับกันเมื่อใด เมื่อนั้นก็จะมีความพร้อมอย่างสมบูรณ์ที่จะนำระบอบทักษิณกลับมาเป็นรัฐบาล

เพราะเหตุนี้จึงเป็นที่วิตกกังวลต่อบรรดาผู้คนทั้งปวงที่รักบ้านรักเมืองและไม่ต้องการให้ประเทศกลับไปสู่ความขัดแย้งหรือกระทั่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นรัฐไทยใหม่

ดังนั้นถ้าไม่ต้องการให้การยึดอำนาจครั้งนี้เสียของ ก็ต้องทำลายหรือรื้อยานวิเศษดังกล่าวเสีย และจะต้องจับตาให้แม่นมั่นในร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อวางรากฐานให้กับการเลือกตั้งแบบใหม่ที่เป็นรากฐานของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง!

http://www.paisalvision.com/content/88-features/11771----qq-28-57.html




“ไพศาล” เชื่อระบอบทักษิณพลาดอีกครั้งหนึ่ง ที่ให้ “จารุพงศ์” เปิดตัวขบวนการเสรีไทย

นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เปิดเผยเมื่อเช้าวันนี้ว่า การที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์เปิดตัวขบวนการเสรีไทยเป็นความพลาดครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของระบอบทักษิณ ชี้ไม่ต่างกับการเคลื่อนไหวของนายจักรภพ เพ็ญแข 

นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่ากลยุทธ์หลักของระบอบทักษิณในการกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่งคือ การฟื้นคืนระบบเลือกตั้งแบบเส็งเคร็งที่ทำสำเร็จแล้ว การวางค่ายกลให้มีการร่างรัฐธรรมนูญที่จะสวมรองรับกับการเลือกตั้งแบบเส็งเคร็ง และการเร่งกำหนดการเลือกตั้ง ซึ่งทั้งสามกระบวนนี้จะต้องซุ่มซ่อนและเงียบงัน เพื่อให้คนไทยตายใจ และหลงลืมไปกับความสุขที่ได้รับคืนมา ยิ่งประมาทขาดความระมัดระวังก็จะอำนวยประโยชน์ให้แก่ระบอบทักษิณที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลมากขึ้นและเร็วขึ้น การเปิดตัวขบวนการเสรีไทยเป็นการตีฆ้องให้คนไทยตื่น ให้ทหารตื่น ยิ่งกว่าการแหวกหญ้าให้งูตื่นเยอะแยะ ผลแท้จริงคือการทำลายแผนการซุ่มซ่อนยาวนานให้พังพินาศไปทั้งหมด เพราะคาดว่านับแต่นี้ไป คสช. และประชาชนไทยจะเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น จะตื่นตัวจากความประมาทและจะร่วมกันหาทางป้องกันไม่ให้ระบอบทักษิณกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง

นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่าการเปิดตัวขบวนการเสรีไทยมีความผิดพลาดหลายประการคือ

ประการแรก การตั้งธงการเมืองว่าเสรีไทยสวนทางกับความเป็นจริง เพราะที่ผ่านมาประจักษ์ชัดว่าระบอบทักษิณคือการที่ทุนสามานย์เป็นเจ้าของพรรค พรรคเป็นเจ้าของสภาและรัฐบาล รวมทั้งองค์กรมวลชนที่จัดตั้งขึ้น กลายเป็นทุนผูกขาด เป็นเจ้าของประเทศไทย และทำให้คนไทยวงการต่างๆ กลายเป็นทาส ธงการเมืองชนิดนี้จึงไม่มีพลังที่จะปลุกเร้าประชาชนไทยทั่วประเทศให้เข้าร่วมได้

ประการที่สอง การถือฤกษ์ย่ำรุ่งวันที่ 24 มิถุนายน 2557 ซึ่งเลียนแบบการเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎร์ เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เพราะเมื่อครั้งกระโน้นเป็นการรวมตัวกันของประชาชนและเหล่าทัพ รวมทั้งผู้คนทุกสาขาอาชีพ เปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การถือฤกษ์ทำนองเดียวกันจะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นแบบไหน ย่อมทำให้คนไทยนึกถึงรัฐไทยใหม่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยล้านนา หรือการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสาธารณรัฐที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุขอย่างนั้นหรือ? แค่นี้ก็แพ้แล้ว เพราะคนไทยทั้งประเทศ กองทัพทุกเหล่าทัพ ไม่มีใครที่จะยอมรับและเข้าด้วย กลับจะเห็นว่าขบวนการนี้คืออริราชศัตรูที่เป็นกบฏทรยศชาติ ที่สามารถใช้แสนยานุภาพเข้าปราบปรามด้วยซ้ำไป

ประการที่สาม นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นคนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไว้วางใจมาก ตั้งให้เป็นหัวหน้าพรรค และยังเป็นผู้บัญชาการกองกำลังในห้วงเวลาที่ผ่านมาด้วย จึงเท่ากับเป็นการเปิดตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เอง ทำให้ความพยายามที่จะปรองดองพังพินาศหมด และจะพาให้ครอบครัวนักการเมืองทั้งหลายที่เกี่ยวข้องเดือดร้อนตามไปด้วย เพราะอาจถูกยึดทรัพย์และอาจเกี่ยวพันด้วยความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับขบวนการอันเป็นอันตรายต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งคาดว่าคนทั้งหลายจะจับตาดูว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนักการเมืองตระกูลสำคัญต่าง ๆ จะมีท่าทีอย่างไร หรือจะพูดกับประชาชนอย่างไรต่อการเคลื่อนไหวของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ในครั้งนี้

ประการที่สี่ การจะตั้งใครเป็นหัวหน้าองค์กรนำของขบวนการใด ๆ ก็ต้องเป็นคนที่มีลักษณะเป็นผู้นำ เป็นชายชาตรีที่มีความสมบูรณ์พร้อม แต่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เคลื่อนไหวสอดประสานรับกับนายจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งลักษณะการนำจะควรแก่การนำทัพหรือไม่ ย่อมมีความหมายอย่างยิ่ง เหตุแห่งชัยชนะและปราชัยข้อแรกคือขุนพล หากไม่ใช่ขุนพลมานำทัพก็แพ้แต่ต้นมือแล้ว

นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่าถ้าให้ตนเองประเมินผลของการเปิดตัวขบวนการเสรีไทยในครั้งนี้ ก็เชื่อว่าจะมีฐานะไม่ต่างอะไรกับการเคลื่อนไหวของนายจักรภพ เพ็ญแข ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ต่างกันก็แต่ว่านายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ คงไปเคลื่อนไหวแดนไกลไม่ได้ เห็นจะวิ่งไปวิ่งมาอยู่แถว ๆ ลาวและตะเข็บชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และอีกไม่นานก็เชื่อว่า คสช. ซึ่งจะตื่นตัวและประเมินผลการปรองดองที่มุ่งหมายจะให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองว่าใช้ได้กับนักการเมืองและพรรคการเมืองของประเทศไทยหรือไม่ ในขณะเดียวกัน ประชาชนไทยและองค์กรประชาชนต่างๆ ก็จะได้ตื่นตัวว่าภัยอันตรายที่ประชาชนต่อสู้มาสิบปีนั้นไม่ได้สูญหายไปไหน และเตรียมการจะกลับมามีอำนาจใหม่อีกครั้งหนึ่งในทันทีที่เหตุปัจจัยสามประการเกิดขึ้นครบถ้วน.
http://www.paisalvision.com/news/paisal-new/11751-2014-06-24-06-36-27.html


PIC-william-1
 "บิล ไฮเนค":ความจริงวันนี้ ปท.ไทย ที่สื่อต่างชาติ (ปิดปาก) ไม่บอกชาวโลก? 

 “…ประเทศ ไทยไม่เพียงแต่ต้องเผชิญกับความท้าทายทางการเมือง แต่ต้องประสบกับผลของรายงานข่าวของสื่อที่เกินความเป็นจริง ซึ่งสร้างภาพที่บิดเบี้ยวและไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รายงานข่าวเหล่านี้อาจจะทำให้ขายหนังสือพิมพ์และสร้างผู้ชมโทรทัศน์ได้ แต่กลับเป็นการสร้างความตระหนกและก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทำให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ออกคำเตือนและส่งผลเสียร้ายแรงต่อการท่องเที่ยว…”
หมายเหตุ : เป็นข้อความในจดหมายของ วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮน์เน็คกี (William Ellwood Heinecke) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า “บิล ไฮเนค” นักธุรกิจสัญชาติไทย เชื้อสายอเมริกัน ผู้ก่อตั้งเครือบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หนึ่งในกลุ่มบริษัทด้านการบริการที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แปลโดย ดร.วรัชญ์ ครุจิต แห่งสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
ทั้งนี้ ธุรกิจในเครือไมเนอร์ กรุ๊ป มีมากกว่า 30 บริษัทในเครือ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ร้านอาหาร โรงแรม แบรนด์แฟชั่น ฯลฯ เป็นทั้งผู้นำเข้าแบรนด์ดังจากต่างประเทศเข้ามาประเทศไทย รวมไปถึงสร้างแบรนด์สัญชาติไทยขยายออกไปสู่ตลาดอินเตอร์ด้วย โดยปัจจุบันนี้ไมเนอร์ กรุ๊ป มีธุรกิจอยู่ทั่วโลก ดูแลโรงแรมและรีสอร์ตอยู่กว่า 80 แห่ง ร้านอาหารกว่า 1,300 สาขา และร้านค้าอีกกว่า 200 ร้านทั้งในเอเชีย แอฟริกาและออสเตรเลีย 
แบรนด์ ดังๆ ที่อยู่ในการดูแลครอบคลุมไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของคนรุ่นใหม่ ทั้งโรงแรมเครืออนันตรา แบรนด์โรงแรมที่บุกเบิกขึ้นเอง หรือจะเป็นโรงแรมโฟว์ซีซั่นส์, เซนต์ รีจิส, แมริออท ในประเทศไทย, เอลามิส (Elemis), เดอะ พิซซ่า คอมปะนี (The Pizza Company), สเวนเซ่นส์ (Swensen’s), แดรี่ ควีน (Dairy Queen), ซิซซ์เล่อร์ (Sizzler), เบอร์เกอร์ คิง (Burger King), เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club), ไทย เอ็กซ์เพรส (Thai Express), เอสปรี (Esprit), แกป (GAP), บอสซินี (Bossini), ทูมี่ (Tumi), ชาร์ลส แอนด์ คีธ (Charles&Keith), เพโดร (Pedro), เรดเอิร์ธ (Redearth) ฯลฯ (อ้างอิงจาก “วิลเลียม อี.ไฮเนคกี้” ชาวอเมริกันสัญชาติไทยเจ้าของธุรกิจหมื่นล้านแห่งไมเนอร์ กรุ๊ป/manager.co.th/20 ก.พ.57)
นิตยสารฟอร์บส์ไทยแลนด์ (Forbes Thailand) ฉบับเดือนมิถุนายน 2557 จัดอันดับให้ นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค เป็น มหาเศรษฐีเมืองไทยประจำปี 2557 ในอันดับที่  23 มีมูลค่าทรัพย์สิน 35,854.50 ล้านบาท

 

‘ปิยสวัสดิ์’ เลวตรงไหน?
เปลว สีเงิน
Monday, 30 June, 2014 – 00:00
เออ…มันจะอะไรกันนักหนา กะอีแค่ตั้งนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายพรชัย รุจิประภา และนายคุรุจิต นาครทรรพ เข้าสมทบเป็น “บอร์ด ปตท.” เท่านั้นแหละ…..โวยวายกันยังกะประเทศไทย “เสียกรุง” ครั้งที่ ๓!?
เพราะมีพวกหนึ่ง โกรธแค้น จะเอาเป็น-เอาตาย คล้ายปิยสวัสดิ์-พรชัย-คุรุจิตเป็น “นนทก ๒๕๕๗” ได้รับพรจากพระนารายณ์ มีอำนาจสูงสุดเหนือ ปตท. เหนือผู้ถือหุ้น ปตท. เหนือ คสช. เหนือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และเหนือประชาชนคนไทยทั้งบ้าน-ทั้งเมือง มีนิ้วเพชร “ชี้เป็น-ชี้ตาย” ได้ทุกอย่างใน ปตท.?
ผมว่า “มีสติ” กันหน่อย หุงข้าวให้เดือดนั้น ถูกต้อง แต่ปล่อยให้เดือดจนล้นหม้อ-ล้นไหออกมานองเลอะเทอะ อย่างนั้น น้ำจะแห้งหม้อข้าว ลงท้าย ทั้งคน-ทั้งหมา. อดแดก! ที่พูดนี่ ใช่ว่าเห็นนายปิยสวัสดิ์กับคณะดีเหนือใคร หรือเห็นใครกับคณะดีเหนือกว่าปิยสวัสดิ์ เท่าที่ฟัง แต่ละคน-แต่ละฝ่าย มีจุดเหมือนกัน คืออยากเห็นการ “ล้าง ปตท.” เป็นรูปโฉมใหม่….. !   เป็น “พลังงานเพื่อชาติ-เพื่อประชาชน” ด้วยบริหารธรรมาภิบาล มากกว่าพลังงานเพื่อกลุ่มทุน กลุ่มไอ้โม่งผู้ถือหุ้น และกลุ่มการเมืองด้วยโจราภิบาล. แต่ในจุดที่เหมือนกัน มีความเห็น-ความเข้าใจด้วย “ข้อมูล-ข้อเท็จจริง” ที่ต่างกันอยู่มาก
ฝ่ายนายปิยสวัสดิ์ก็มีข้อมูล-ข้อเท็จจริงพลังงานด้านหนึ่ง การแก้ปัญหา ไม่ได้เน้น “ราคาถูก-ราคาแพง” แต่เน้น “ราคาเป็นจริง” ตามกลไกตลาด และมุ่งเน้น “พลังงานเพื่ออนาคต” ประเทศเป็นหลัก!
การทำ “พลังงานเพื่อชาติ” ให้เป็น “พลังงานเพื่อการเมือง” ด้วยการอุ้มราคาให้ชาวบ้านใช้ถูกๆ นานไปก็เหมือน “เด็กติดสะเอว” ปล่อยให้เดินเองไม่ได้ เอะอะก็ร้อง..แม่ อุ้ม..แม่ อุ้ม..!  ไม่เป็นผลดีทั้งภาครัฐ-ภาคประชาชน ผู้ใช้จะเคยตัว ใช้น้ำมันฟุ่มเฟือย ภาครัฐก็จะแบกภาระหนัก สะดุดวิกฤตินิดเดียว พังด้วยหนัก “ดินพอกหางหมู” ทันที!   แต่ “กูรูพลังงาน” อีกฝ่ายหนึ่ง อ้างว่าได้ศึกษาคัมภีร์พลังงานเจนจบ ด้วยเคล็ดลับวิชา เป็นข้อมูล ตัวเลข จากปรมาจารย์สำนักต่างๆ ลงความเห็นว่า “ไทย-ซาอุฯ” มีน้ำมันพอๆ กัน!?  แต่ขุดเอาไปขายต่างประเทศ ครึ่งต่อครึ่ง บ่อน้ำมันก็เอาไปขายสัมปทานให้ต่างชาติ แทนที่คนไทยจะได้ใช้ของถูก กลับต้องใช้น้ำมันแพง อ้างอิงตลาดสิงคโปร์ ตลาดโลกลวงตา
ฉะนั้น ต้องยึด ปตท.กลับมาเป็นของรัฐ ราคาก๊าซ-น้ำมัน จะได้ถูกลง!
นี่…เรื่องพลังงาน มันเป็นเรื่อง ๒ คนยลตามช่องแบบนี้ ถ้าให้ผมสรุป ก็สรุปได้ว่า “ทุกฝ่าย” เจตนาดีเพื่อประโยชน์ชาติ-ประโยชน์ประชาชน  แต่รูปแบบ-วิธีการ-แนวคิด ในการแก้ปัญหา ต่างกันอยู่มาก ทั้งด้านข้อเท็จจริงและด้านอีโก้ แต่ที่แน่ๆ ฝ่ายประชาชน “ฟังทั้ง ๒ ด้าน” แล้ว สิ่งที่อยากเห็น คือ
-การจัดระเบียบ “องค์กรบริหาร ปตท.” ให้เกิดธรรมาภิบาล
-การได้รับทราบ “ข้อมูลพลังงาน” ที่ถูกต้อง-ชัดเจนเป็นหนึ่งเดียว
-เคลียร์ข้อสงสัย ไทยมีแหล่งพลังงานมากมายจริงหรือไม่?
-เคลียร์ข้อเท็จจริงด้านสัมปทาน ราคา รายได้ จะเอายังไงให้ชัด ให้ลงตัว
-สะสางปัญหาคาใจ ปตท.จากเป็นของรัฐ แต่ในสมัยรัฐบาลทักษิณ แปรรูปเป็นบริษัทมหาชนนั้น เบื้องหลังคำว่า “มหาชน” ตัวจริง ที่ครองหุ้นส่วนใหญ่ ทักษิณกับกลุ่มทุนใช่หรือไม่?
-ทำไม ปตท.จะต้องตั้ง “บริษัทลูก” ไว้ใน-นอกประเทศร่วม ๓๐๐ บริษัท โปร่งใส หรือเพื่อ “สอดไส้” ให้เงินไหลออก?
-ทำไมบอร์ดบริษัทเครือ ปตท. ทั้งหลาย จึงตั้งคน “ไขว้กันไป-ไขว้กันมา” จนเป็นอาณาจักรยึดครองของ  “แก๊งค์อำนาจ”  ผูกขาดตลอดกาลของแก๊งค์ใด-แก๊งค์หนึ่ง?  และ -ประชาชนอยากฟังนโยบายแน่นอนว่า ไทยจะเอายังไง-แบบไหนกับพลังงาน ในปัจจุบันและอนาคต?
เนี่ย…ผมว่า เราสนใจประเด็นเหล่านี้ดีกว่า เรื่องตั้งปิยสวัสดิ์-พรชัย-คุรุจิต ไปเป็นบอร์ด ปตท.นั้น พอใจ หรือไม่พอใจ เป็นเรื่องของใจแต่ละคน ไม่ว่ากัน แต่การ  “ทำความเข้าใจ” และการแสดงออกเชิงปฏิปักษ์นั้น โตๆ กันแล้ว น่าจะใคร่ครวญให้รอบคอบ ในความเห็นผม ทั้ง ๓ คนนั้น มีคุณ มากกว่า มีโทษ อย่างที่ขุดมาโจษขานประจานกัน คุณพรชัย ท่านก็เคยเป็นปลัดพลังงานมาก่อน คุณคุรุจิต ก็เคยเป็นอธิบดี เป็นรองปลัดพลังงาน ที่ทำงานด้านพลังงานโดยตรงมาก่อน
ผมก็เคยศึกษางานท่านทั้ง ๓ มาบ้าง ไม่เห็นมีอะไรว่า “เป็นร่างทรง” ของไอ้ตัวแสบคนไหน เข้าไป ปตท. เพื่อสืบสายตระกูลสูบเลือด คุณพรชัยนั้น ถ้าใครไม่รู้ว่าเป็นถึงปลัด เจอตามถนนนึกว่าตาแป๊ะ เป็นคนซื่อสัตย์ สมถะ ไม่โลภ และผมมั่นใจ ท่านไม่ตะกายหาตำแหน่งใดๆ ด้วย  ส่วนคุณคุรุจิต เรียนด้านพลังงานมาโดยตรง เป็นข้าราชการเพื่อข้า-ราชะ-การ เงียบๆ เรียบๆ เฉยๆ   แต่ทำงานมุ่งมั่น-มุ่งหวังสร้างทางอนาคตประเทศด้วยขวนขวาย…จะทำยังไงเมื่อ ประเทศโตใหญ่แล้วไฟฟ้าไม่ขาดแคลน นี่ผมแอบสังเกตจากงานท่านนะครับ
ส่วนคุณปิยสวัสดิ์ ไม่ต้องพูดถึง เอ่ยชื่อ ในโลกพลังงาน ร้อยละ ๙๙ รู้จักชื่อท่าน แต่ในร้อยละ ๙๙ นั้น มีซัก ๑๐ หรือเปล่าก็ไม่รู้  ที่จะรู้ว่า…..ประเทศไทย ที่มีพลังงาน น้ำมัน-ก๊าซ ใช้เป็นระบบถึงวันนี้ และมี ปตท. จนทักษิณนำไปแปรรูปเข้าตลาดหุ้นเมื่อปี ๒๕๔๔ นั้น”ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์” คนที่เข้าไปเป็นดีดีการบินไทยสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ปุ๊บ ก็ถีบหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ลงจากเครื่องบินการบินไทยทั้งหมดทุกเส้นทาง ตราบทุกวันนี้ คนนี้แหละ…..!  ร่วมกับท่านศุลี มหาสันทนะ  รมต.สำนักนายกฯ สมัยรัฐบาลเปรม ๒ ช่วยกันก่อร่างสร้างอนาคตให้ “พลังงานไทย” เกิด ก่อนหน้านั้น พูดได้ว่าประเทศไทย ยังไม่มีหน่วยงาน-องค์กร-นโยบายใดๆ เกี่ยวกับพลังงานเป็นเรื่อง-เป็นราวเลย!
สมัยก่อน ขอโทษ…เบนซินถูกกว่าน้ำล้างเท้า ลิตรละไม่ถึง ๓ บาท ยุคจอมพลถนอมแค่ ๓ บาท จึงไม่มีใครให้ความสนใจด้านพลังงาน  จนกระทั่งเกิดวิกฤติน้ำมันในปี ๒๕๒๐-๒๑ ยุคพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ “นายกฯ แกงเขียวหวานใส่บรั่นดี”  เป็นครั้งแรก น้ำมันขาดแคลนคุยกับแฟนต้องดับไฟ เป็นเรื่องใหญ่โต จนรัฐบาลเกรียงศักดิ์พังไป
“พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” ขึ้นมาเป็นนายกฯ สืบต่อ จึงได้วางรากฐานพลังงาน เท่าที่ผมจำได้ สมัยรัฐบาลเปรม ๒ ปี ๒๕๒๔ ช่วงสภาพัฒน์ที่มี “คุณเสนาะ อูนากูล” เป็นเลขาฯ ป๋าเปรม ใช้สภาพัฒน์เป็น “ดรีมทีมเศรษฐกิจ” ใครเสนอแผนอะไร-โครงการอะไร ป๋าโยนให้สภาพัฒน์ศึกษาก่อน ถ้าสภาพัฒน์โอเคก็โอเค ถ้าไม่โอเค โครงการนั้นแช่ตู้เย็นสภาพัฒน์ไปเรื่อยๆ ด้วยคำว่า…อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด! แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ ๕-๖ ตอนนั้น เน้นเรื่องนโยบายพลังงาน คุณปิยสวัสดิ์ที่เรียนคิดเลขจบจากอังกฤษจนได้เป็นดอกเตอร์ มาเป็นข้าราชการสภาพัฒน์พอดี แล้วคุณปิยสวัสดิ์ จากนั้น…เลือดในตัวก็เปลี่ยนเป็น “สายเลือดน้ำมัน” จากวันนั้น จนถึงวันนี้ ปิยสวัสดิ์อยู่กัพลังงานมา ๓๐ กว่าปีแล้ว!  จากสภาพัฒน์โอนมาเป็นข้าราชการสำนักนายกฯ ทำงานกับ รมต. ศุลี มหาสันทนะ ที่ป๋าเปรมมอบหมายให้วางโครงสร้างพลังงาน จากไม่เป็นหน่วย-เป็นกอง-เป็นกรมอะไรก็ตั้งเป็น “สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ” หรือ สพช. มีฐานะระดับกอง คุณปิยสวัสดิ์ อายุ ๓๐ ได้หรือยังก็ไม่ทราบ เป็น ผอ.คนแรกตอนปี ๒๕๒๙ และยกเป็นระดับกรมในรัฐบาลต่อๆ มา เล่าก็ยาว อีกอย่างก็จำไม่ได้ทั้งหมด ยุคนั้นผมเป็นหัวหน้า จึงอ่านข่าวคุณปิยสวัสดิ์ทำโน่น-ทำนี่เรื่องน้ำมันแทบทุกวัน ก๊าซยังไม่มี มามีตอนหลัง
สรุปคือ พลังงานของไทยทั้งหมด จากทำท้องถึงทำคลอด คุณปิยสวัสดิ์ “ทำทั้งหมด” และวางแผนอนาคตให้ทารกพลังงาน ตั้งแต่คลอดจนเติบใหญ่มูลค่าเป็นล้านล้านๆ ต่อปี จนมาเป็น ปตท.วันนี้ คุณปิยสวัสดิ์ “ทำมากะมือ” เขาเอง!
แล้วมีเหตุอะไร มารังเกียจ มาตั้งแง่ ว่าเข้ามามีแผนไม่ซื่อ มาเป็นร่างทรงฝรั่ง-ไทย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ใช่คนแล้วเป็น “หมา” ก็ยังสูงไปด้วยซ้ำ!
ฉะนั้น กับงานที่สร้างมากับมือเขา ให้โอกาสคุณปิยสวัสดิ์เขาเข้าไปตรวจตรา และแก้ปัญหาพลังงานผ่าน ปตท. ดูซักพักหนึ่งจะเป็นไร  ถ้าไม่ไว้ใจ ก็ยังมีพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง คอยตรวจสอบพฤติกรรมอยู่อีกตั้ง ๒ คน  พ้นจากในบอร์ด ปตท. ออกมายังเจอซูเปอร์บอร์ดคอยเอ๊กซเรย์อีกด่าน พ้นจากด่านซูเปอร์บอร์ดยังต้องเจอด่าน “ซูเปอร์ตู่” จังก้าอยู่อีก ฉะนั้น ลองไว้ใจทีมงานปิยสวัสดิ์สร้างสรรค์ดูซักยก  ถ้าไม่แน่จริง คสช.ไม่กล้าตั้งมาเป็นเดิมพันอนาคตตัวเองหรอกน่า!


 
คำตอบว่า ทำไมคนต้องการแย่งตำแหน่ง บอร์ด ปตท.
และเป็นคำตอบเดียวกับราคาน้ำมันของประเทศด้วย

http://ptt.listedcompany.com/misc/form561/20140401-ptt-form561-th.pdf

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เล่ห์กลอเมริกันกับพลังงานโลก /แอลขุดเจาะแหล่งน้ำมัน รัฐเสียหายหมื่นล้าน






 



น้ำมันบ่อนี้ต้องไม่มีใครรู้แน่นอน.....เจาะได้ปีละ 1 พันล้านลิตร แล้วน้ำมัน มันไปอยู่ที่ไหนวะ
อ้าว..ดูซะให้เต็มตาประเทศไทยได้น้ำมันปีละเท่าไหร่  ถ้ายังไม่รู้ก็จงรู้ไว้   แล้วเป็นไง นักการเมืองมันเคยบอกอะไรให้พวกท่าน ที่ไปหลงรัก และบูชาพวกมันได้รู้บ้างไหมล่ะ ไม่ได้ไม่ดีมันก็บอกว่าตามราคาตลาดโลก...ตลาดโลกพ่องมึงดิ ถ้ารู้และเห็นแบบนี้แล้วยังไม่เชื่อ ก็ขอเชิญให้พวกมึงจงโง่ ไปจนตายห่าก็แล้วกัน.....ลุงตู่....ต้องจัดการให้หมดไอ้พวกโกงชาติโกงแผ่นดิน




วันที่ 27 มิ.ย.57 เปิดโปง..บ่อน้ำมัน เพชรบูรณ์ มีการแอบขุดเจาะจริง จนทหารบุกยึดคืนแล้ว
จากกรณีกรณี บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ได้สัมปทานสำรวจปิโตรเลียมแหล่งวิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ โดยเริ่มผลิตน้ำมันดิบตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2550 ที่ผ่านมานั้น
จนเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.57 เจ้าหน้าที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม และคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อน้ำมันดิบของบริษัท อีโก้ โอเรี้ยนท์ รีซอสเซส ในพื้นที่ ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์
ต่อมา วันที่ 18 มิ.ย.57 ทหารจึงนำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อ พบการกระทำผิดจริง และหลบเลี่ยงการจ่ายภาษีให้ประเทศไทยมากว่า 5 ปีแล้ว เป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท
** ดูคลิปที่ https://www.facebook.com/photo.php?v=640238129385813
และ นายทรงภพ พลจันท์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ได้ออกมาชี้แจงว่าบริษัท อีโค่ โอเรียน รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นสัญชาติฮ่องกง และไม่ได้ลักลอบขุด !! และได้มีการตรวจสอบ บริษัท ขุดน้ำมันเพชรบูรณ์ อีโค่ โอเรียน เอ็นเนอยี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด หุ้นใหญ่เกือบ 100% เป็น สัญชาติเบอร์มิวด้า ไม่ใช่เป็นบริษัทสัญชาติฮ่องกง ตามที่ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน แถแบบข้างๆ คูๆ
** ตามที่เคยแฉที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/posts/247760935413941
ถัดมา น.ส.มนสิชา การุณยฐิติ ผู้จัดการฝ่ายบริหารและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด แถลงว่าบริษัทขุดเจาะ สำรวจและผลิตปิโตรเลียม เฉพาะแปลง L44-V เนื่องจากไม่ได้อยู่เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ส่วนแปลงอื่นได้หยุดการผลิตตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2555 เนื่องจากสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัดเพชรบูรณ์ มีคำสั่งให้บริษัทหยุดตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2555 นั้น เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ เมื่อวานนี้ คณะเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บก.ปทส.บช.ก.)
เข้าตรวจยึดพื้นที่ฐานการผลิตน้ำมันดิบแปลง L44-V/D1 , D2 , D3 , D4 รวม 4 หลุมเจาะ เนื้อที่ 7 ไร่ 58 ตารางวา ของบริษัท อีโค่ โอเรียน รีซอสเซส (ประเทศไทย ) จำกัด หมู่ 4 บ้านหนองบัวขาว ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ หลังตรวจสอบพบว่าที่ดินอยู่ในพื้นที่ป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และยังไม่ขออนุญาตใช้พื้นที่
จากนั้น คณะเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกการตรวจยึด มอบให้นายฉัตรชัย นราวัฒน์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.7 (น้ำร้อน) ในฐานะเจ้าของพื้นที่ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัท ฐานกระทำผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 โดยตั้งฐานขุดเจาะสำรวจและผลิตน้ำมันดิบโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อพนักงานสอบสวน สภ.วิเชียรบุรี
ต่อมา นายนาวิน พรรณธรรม ผู้จัดการฝ่ายบริหารและมวลชนสัมพันธ์ และ น.ส.กรองกมล สันตจิตร เจ้าหน้าที่กฎหมายที่ดินบริษัท อีโค่ โอเรียน รีซอสเซส(ประเทศไทย )จำกัด ได้เข้ายื่นเอกสารแสดงทรัพย์สินของบริษัทกับพนักงานสอบสวน จากนั้นชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า “ เป็นเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย “..อ้าววว..
เพราะก่อนหน้านี้บริษัทได้ทำหนังสือสอบถามไปยัง 8 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้รับคำยืนยันว่าที่ดินแปลงดังกล่าวไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบ จึงอาศัย พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ที่บริษัทได้รับสัมปทานแล้วดำเนินการ  อย่างไรก็ตามเมื่อรับทราบว่าที่ดินแปลงนี้อยู่ในเขตพื้นที่ป่า ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ก็ยินดีจะทำเรื่องขออนุญาตให้ถูกต้อง และเพื่อป้องกันความเสียหาย จึงหยุดการเจาะสำรวจและผลิตน้ำมันดิบในหลุมเจาะ L44-V ทั้ง 4 หลุมเจาะไว้ก่อน จนกว่าจะมีความชัดเจนในข้อกฎหมาย...มันง่ายไปไหมเนี่ย ?  แล้วที่ผ่านมา 5-6 ปี ภาษีที่หลบเลี่ยงจ่ายให้รัฐไปหลายหมื่นล้าน จะจ่ายคืนให้ชาติอย่างไร? และบริษัท นี้หุ้นใหญ่บริษัทขุดเจาะน้ำมัน เพชรบูรณ์ จดทะเบียนที่เกาะฟอกเงิน บริติชเวอร์จิน-เบอร์มิวด้า โน่น..จริงๆ ใครเป็นเจ้าของหุ้นเกือบ 100% จำนวน 16.99 ล้านหุ้นนั้นกันแน่
หลักฐานชัดแอบลักลอบขุดน้ำมันมานานหลายปี ชาติเสียหายยับเยินขนาดนี้..หน่วยงานที่เคยเถียงคอเป็นเอ็น อยู่ไหน? เงินภาษีหลายหมื่นล้านที่เสียไปจะจ่ายคืนเมื่อไร ? และไม่เห็นต้องมีความจำเป็นใดๆ อนุญาตให้บริษัทนี้ขุดน้ำมันต่อ...แย่แล้ว นักการเมืองเลือกตั้งเผาไทย ที่อ้างประชาธิปไตย แอบซ่อนอยู่เบื้องหลังบริษัทนี้ ทำประเทศเจ๊งอีกแล้ว..!! นี่ถ้าไม่มี คสช.เข้ามาและยึดบ่อน้ำมันกลับไปเป็นของชาติ ปลิงต่างชาติ และนักการเมืองเห็บ โลน จะต้องดูดกินทรัพยากรของชาติ โดยหลบเลี่ยงภาษีไปอีกนานเท่าไร  แล้วประชาธิปไตย จากการเลือกตั้งซื้อเสียงแบบนี้..มันให้ประโยชน์อะไรกับคนอำเภอวิเชียรบุรี คนเพชรบูรณ์ และคนไทยทั้งชาติบ้าง? และนักการเมืองแฝงตัวส่งบริษัท แบบนี้อีกกี่บริษัท มาแอบขุดเจาะน้ำมันไปขาย แล้วก็ลบเลี่ยงการจ่ายภาษีให้หลวง
การมีนักแสวงโชคทางการเมือง ที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้งในประเทศไทย มันยังจำเป็นอยู่อีกหรือ ?
@ เสธ น้ำเงิน4
https://www.facebook.com/topsecretthai
หมายเหตุ โปรดงดโพสลิ้งก์ใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหากับผู้อ่าน / ออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบทความตอนนี้ / โพสภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช./ นำข่าวลือจากที่อื่นมาโพส ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อคเข้าเพจนี้



วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557

รัสเซียจับมือจีน ประกาศ “เลิกใช้เงินดอลลาร์” ซื้อขายพลังงาน/ซีรี่ส์ World War 3

เป็นเรื่อง! รัสเซียจับมือจีน ประกาศ “เลิกใช้เงินดอลลาร์” ซื้อขายพลังงาน “ปูติน” ชี้ โลกหันหลังให้ US เพราะทำตัวกร่าง

เป็นเรื่อง! รัสเซียจับมือจีน ประกาศ “เลิกใช้เงินดอลลาร์” ซื้อขายพลังงาน 
“ปูติน” ชี้ โลกหันหลังให้ US เพราะทำตัวกร่าง

    เอ เจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- “ก๊าซปรอม” ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซียประกาศยกเลิกการใช้ “เงินดอลลาร์สหรัฐฯ” ในการซื้อ-ขายพลังงานกับบริษัทของจีน เตรียมจับมือรัฐบาลปักกิ่งใช้เงินสกุล “รูเบิล” และ “เงินหยวน” แทนในตลาดพลังงาน ด้าน “วลาดิมีร์ ปูติน” ผู้นำรัสเซียระบุ ทั่วโลกกำลังหันหลังให้อเมริกา เพราะ “ทำตัวกร่าง”
    
       รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงมอสโกของรัสเซียยืนยันว่า บริษัท “กาโซวายา โปรมีชเลนนอสต์” หรือชื่อย่อที่รู้จักกันทั่วไปว่า “กาซปรอม” ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย ซึ่งครองตำแหน่งผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศในคืนวันพฤหัสบดี (26) ยกเลิกการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในทางบัญชีอย่างสิ้นเชิง โดยจะเริ่ม “นำร่อง” ใช้วิธีการนี้กับกรณีที่มีการติดต่อซื้อขายด้านพลังงานกับรัฐบาลจีน หรือบริษัทเอกชนของจีนก่อน โดยเตรียมหันมาใช้เงินรูเบิลของรัสเซีย และเงินหยวนของจีน เป็นสื่อกลางในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติอย่างเต็มตัว
    
       อังเดร ครูกลอฟ ประธานบริหารฝ่ายการเงินของกาซปรอมออกมาแถลงที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในกรุง มอสโก โดยระบุว่า การตัดสินใจเลิกใช้เงินดอลลาร์ในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติครั้งนี้ผ่านการ พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วจากผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งต่างเชื่อมั่นว่า “การยุติบทบาทของเงินดอลลาร์ในตลาดพลังงาน” จะไม่ส่งผลกระทบทางลบใดๆ ต่อทั้งบริษัท รวมถึงรัฐบาลรัสเซียและจีน โดยคาดว่า การหันมาใช้เงินรูเบิลและเงินหยวนแทนนั้น จะสามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบภายใน 1 ปี หรืออย่างช้าไม่เกิน 2 ปี
    
       ด้าน วิกตอร์ ซุบคอฟ ประธานใหญ่ของกาซปรอมออกมาประกาศว่า การยกเลิกใช้เงินดอลลาร์อเมริกันในการซื้อขายด้านพลังงานถือเป็นเรื่องที่ น่ายินดีที่สุดนับตั้งแต่ที่กาซปรอมก่อตั้งกิจการเมื่อปี 1989 และคาดหวังว่า จะมีการหันไปใช้เงินตราสกุลอื่นๆ เป็นสื่อกลางในตลาดพลังงานโลกมากขึ้นในอนาคต
    
       “นี่คือข่าวที่น่ายินดีที่สุดนับตั้งแต่ที่กาซปรอมเปิดตัวสู่ตลาด พลังงานโลกเมื่อปี 1989 ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า การลดบทบาทของเงินดอลลาร์ ถือเป็นเรื่องที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ และในอนาคต บทบาทของเงินตราสกุลอื่นในตลาดพลังงานมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น” วิกตอร์ ซุบคอฟ ประธานใหญ่ของกาซปรอมกล่าวต่อผู้สื่อข่าว
    
       ขณะที่ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เวลานี้สถานะและความน่าเชื่อถือของสหรัฐอเมริกาในเวทีโลกกำลัง “เสื่อมถอย” ลงอย่างมาก และการเสื่อมถอยที่ว่านี้ เป็นผลพวงโดยตรงจากการที่รัฐบาลอเมริกัน “ทำตัวกร่าง” และมีพฤติกรรมแทรกแซงประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพียงเพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง” พร้อมย้ำว่า การตัดสินใจของกาซปรอมในการเลิกใช้เงินดอลลาร์เป็นสื่อกลางทางบัญชีครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของ “บทเรียนล้ำค่า” อีกหลายบทเรียนที่สหรัฐฯกำลังจะได้รับ และเป็นสัญญาณเตือนว่า ทั่วโลกกำลัง “หันหลังให้อเมริกา”
    
       ก่อนหน้านี้ รัสเซียและจีนเพิ่งบรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ที่มีการลงนามเมื่อ 21 พฤษภาคม โดยตามข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน ดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีขนาดของเศรษฐกิจ “ใหญ่ที่สุดในเอเชีย” และยังเป็นชาติที่มีการ “บริโภคพลังงาน” มากเป็นลำดับต้นๆ ของโลก ตกลงสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในวงเงินมหาศาลคิดเป็นเงินไทยราว “12.95 ล้านล้านบาท”
    
       โดยที่ข้อตกลงดังกล่าวนี้ ครอบคลุมการส่งมอบก๊าซธรรมชาติจากแดนหมีขาวสู่แดนมังกรนานถึง 30 ปีเต็ม และกาซปรอมจะทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับทางไช น่า เนชันแนล ปิโตรเลียม (CNPC) ที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีนในปริมาณ “38,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี”



ซีรี่ส์ World War 3
 
1. บ่อนเจ๊งก่อน หรือจะตะลุมบอนก่อน

รู้กันไปทั่วแล้วว่าบ่อนLas Vegasเจ้งแล้ว ไม่มีใครอยากเข้าไปเล่น แลกชิปแทงรูเร็ท เล่นแบล๊คแจ๊ค โยกเครื่องสล๊อทพอได้กำไรเอาชิปไปแลกเงินดอลล่าร์ แต่กลับได้ชิปพลาสติคที่เจ้าของบ่อนLas Vegasปั๊มออกมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา นี่เจ้าของบ่อนโกงนี่หว่า

แม้แต่หุ้นส่วนLas Vegasอย่างผู้ดีอังกฤษก็ไม่เอาด้วยแล้ว เพราะรู้ดีว่าบ่อนLas Vegasไปไม่รอด จึงได้ชิ่งหนีออกไปตั้งCasino Royaleแทน และได้หันไปร่วมทุนกับบ่อนMacauแทน ไม่รับดอลล่าร์แล้ว รับแต่ปอนด์และหยวนเท่านั้น อย่างนี้บ่อนLas Vegasมีแต่จะเจ้งกับเจ้ง

แล้วจะเจ้งเมื่อใด?

คนชอบถามคำถามนี้ ให้ฟันธงโป๊ะเช๊ะคงยังไม่ได้ แต่รู้ว่าถ้าบ่อนLas Vegasเจ้งแบบต้องปิดบ่อน รับรองมีการตะลุมบอนกันแน่ๆ ไม่มีทางที่เจ้าของบ่อนLas Vegas จะปล่อยให้บ่อนCasino Royale หรือMacauเจริญรุ่งเรือง มันเป็นธรรมดาของสัตว์โลก

แต่ถ้าให้คาดคะเน ก็พอจะทำได้ว่าไม่น่าจะเกินสิ้นปี2014นี้

มาดูฐานะการเงินของบ่อนLas Vegas กันก่อนดีกว่า ความจริงบ่อนนี้เจ้งแล้วตั้งแต่ปี2008 หลังจากการล่มสลายของWall Street ที่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะว่าUS Federal Reserveขี้โกง เล่นกดดอกเบี้ยลงไป0% และพิมพ์เงินเข้าไปช่วยแลกชิปออกมา ปกติธนาคารกลางไม่ทำกันแบบนี้ แต่เนื่องจากเป็นบ่อนใหญ่ เลยคิดว่าจะทำอะไรก็ได้

การพิมพ์เงินของเฟดผ่านการทำquantitative easing (QE)คือการใส่ดอลล่าร์สภาพคล่องเข้าระบบการเงิน เพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาล และmortgage backed securities หรือพันธบัตรอิงอสังหาริมทรัพย์ออกมา สภาพคล่องที่ล้นเหลือกลับไหลเข้าไปในตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในทางอ้อมช่วยพยุงงบดุลของธนาคาร หรือบ่อนLas Vegasนั่นเอง เพราะว่าราคาหุ้น หรือราคาอสังหาฯที่เพิ่มขึ้นทำให้บ่อนลากข้างอยู่ต่อไปได้ ทั้งๆที่ทรัพย์สินส่วนใหญ่เน่าไปแล้ว

ลองมาไล่ย้อนดูเหตุการณ์ที่ผ่านมา เฟดเริ่มการทำQEเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2008 ด้วยการพิมพ์เงิน$500,000เพื่อซื้อmortgage backed securities เสร็จแล้วเฟดอัดสภาพคล่อง$300,000ล้านเข้าไปอีก เพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลUncle Samเจ้าของบ่อนใหญ่ จำนวน$800,000ล้านที่ใส่เข้าไปในระบบการเงินหรือบ่อนยักษ์นี้ให้ผลอย่างที่คาด คือตลาดหุ้นดาวโจรผ่านจุดต่ำ7,000ไปได้ และทะยานสูงขึ้นจากช่วงนั้น จากบ่อนที่เจ้งแล้ว กลายเป็นบ่อนกระทิงที่ปราดเปรีย

ทุกคนรู้ว่าเมื่อเฟดทำQE ทำให้หุ้นขึ้นและทรัพย์สินทางการเงิน รวมทั้งอสังหาฯมีราคาขึ้น แล้วถ้าเฟดหยุดการทำQE จะเกิดอะไรขึ้น? คำตอบคือราคาทรัพย์สินตก หุ้นร่วง เมื่อQE1จบลงเมื่อวันที่ 31มีนาคม 2010 หุ้นร่วงระนาว และอีก3เดือนต่อมา ตลาดS&P 500ตก12.6%

QEรอบ2 มีปริมาณ$600,000ล้าน เฟดอัดสภาพคล่องเข้าไปในบ่อนการเงิน สนุกมือ หลังจากจบQE2 ในวันที่ 30 มิถุนายน ปี2011 ตลาดหุ้นตกภายในไม่กี่วันต่อมา 3เดือนให้หัลงตลาดหุ้นตก16.7% ในทั้ง2กรณี QE1และQE2สวมบทอัศวินม้าขาวมากอบกู้ตลาดหุ้น ในขณะที่หุ้นกำลังร่วงเป็นเปอร์เซ็นต์ตัวเลขสองหลัก แต่การทำQEมีความเสี่ยงจะทำให้เกิดเงินเฟ้อที่เอาไม่อยู่

ตอนนี้QE3กำลังจะจบลงเหมือนกัน ราคาของสินทรัพย์การเงินกำลังเสียศูนย์ หุ้นดาวโจรขยับขึ้นแค่2%ปีนี้ เปรียบเทียบกับ30%เมื่อปีที่แล้ว ราคาทรัพย์สินการเงินอื่นๆไม่ได้ขึ้นอะไรมาก Ben Bernankeประธานเฟดผู้ริ่เริ่มQEเป็นคนประกาศลดการทำQEตั้งแต่เดือนธันวาคม2013ก่อนหมดวาระ ตอนนั้นเฟดพิมพ์เงิน$85,000ล้านต่อเดือน หลังประกาศลด ค่อยๆลดขนาดQEประมาณ$10,000ล้านต่อเดือน จนกระทั่งเดือนกรกฎาคมนี้เหลือแค่$35,000ล้านต่อเดือน

คาดว่าเดือนตุลาคมปีนี้เฟดคงจะปิดโครงการQE เมื่อถึงเวลานั้นจะเกิดอะไรกับตลาดหุ้น รวมทั้งเศรษฐกิจที่มีอาการร่อแร่ เพราะว่าไตรมาสแรกของปี2014 เศรษฐกิจสหรัฐฯติดลบ2.9% แสดงให้เห็นว่าQEทำได้แค่สร้างฟองสบู่การเงิน แต่ไม่ได้ช่วยให้เศรษบกิจที่แท้จริง หรือการจ้างงานดีขึ้น

 
2.  Marc Faberนักลงทุนชื่อดังบอกว่า การทำQEของเฟดเป็นเรื่องหายนะล้วนๆ เพราะว่า QE ซึ่งเป็นการซื้อพันธบัตรเข้ามาในพอร์ตของเฟดทำให้ราคาทรัพย์สินทางการเงินสูงในตลาดขึ้น และทำให้ค่าครองชีพของสหรัฐฯสูงขึ้นเช่นเดียวกัน เมื่อราคาทรัพย์สินขึ้น ค่าครองชีพแพงขึ้น แต่รายได้ของครอบครัวอเมริกันโดยเฉลี่ยไม่ได้เพิ่มขึ้น หรือลดลงเมื่อหักเงินเฟ้อแล้ว หมายความว่าคนอเมริกันมีแต่จะจนลง

Marc Faberบอกต่อไปว่าคนที่มีรายได้น้อย หรือ50%ของคนอเมริกันไม่มีปัญญาซื้อบ้านอีกต่อไป เพราะราคาบ้านแพงเกินไป มีแต่คนรวยเท่านั้นที่ซื้อได้ เพราะเขามีทรัพย์สินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และทรัพย์สินของพวกเขามีแต่ราคาสูงขึ้น เมื่อเฟดพิมพ์เงินมากขึ้น ความไม่เท่าเทียมกันในระบบเศรษฐกิจยิ่งจะเพิ่มมากขึ้น และเมื่อคนส่วนมากจนลง เศรษฐกิจโดยทั่วไปก็จะยิ่งอ่อนแอลง และเมื่อตัวเลขเศรษฐกิจแย่ลง เฟดก็ยิ่งจะหาข้ออ้างเพื่อที่จะพิมพ์เงินเพิ่มขึ้นอีก และยิ่งราคาน้ำมันสูงขึ้น มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เฟดจะอ้างว่าไม่อยากจะลดการทำQEต่อไป และจะดำเนินนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายเพิ่มขึ้นไปอีก และในระยะต่อไปเงินเฟ้อจะเร่งเพิ่มขึ้น ทำให้มาตรฐานการครองชีพของคนอเมริกันส่วนมากแย่ลงไป

เพราะฉะนั้น หลังจากที่เฟดหยุดการทำQEเดือนตุลาคม หุ้นสหรัฐฯ น่าจะร่วงหนัก เพราะว่าหุ้นเหมือนคนติดยา ไม่ได้เสพQEจะลงแดง ราคมทรัพย์สินอื่นๆไปต่อไม่ได้ เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจที่แท้จริงไม่ได้ฟื้น ตอนนั้นเฟดจะเอาข้ออ้างเพื่อกลับมาทำQEใหม่ Marc Faberเชื่อว่าเฟดจะพิมพ์เงินจนบ่อนLas Vegasแตกคามือ เพราะว่าลองได้พิมพ์เงิน หรือเสพยาแล้ว มันหยุดไม่ได้ ต้องทำต่อไปเรื่อยๆ หยุดก็เจ้ง หรือลงแดงตาย

เมื่อถึงตอนนั้น ความเชื่อมั่นในเฟดจะไม่มี เพราะคนจะรู้ไปทั่วว่าเฟดบ่มีไก๊แล้ว พอสิ้นไตรมาสของปี2014 หรือเดือนธันวา เมื่อบ่อนเจ้ง ก็ต้องหาเรื่องตะลุมบอนกันให้เป็นเรื่องเป็นราว โดยมีISISมาเป็นข้ออ้างในการทำสงครามแล้ว รวมทั้งยึดดินแดนภาคใต้ประเทศไทยด้วย
3.  ยังไม่ทันข้ามครึ่งหลังของปี 2014 จีนและรัสเซียประกาศล้มบ่อนLas Vegas รวมทั้งล้มโต๊ะเปโตรดอลล่าร์ “กาซปรอม” ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซียประกาศยกเลิกการใช้ “เงินดอลลาร์สหรัฐฯ” ในการซื้อ-ขายพลังงานกับบริษัทของจีน เตรียมจับมือรัฐบาลปักกิ่งใช้เงินสกุล “รูเบิล” และ “เงินหยวน” แทนในตลาดพลังงาน แทนที่จะใช้ดอลล่าร์

วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียระบุ ทั่วโลกกำลังหันหลังให้อเมริกา เพราะ “ทำตัวกร่าง”

ในขณะเดียวกัน ผู้ช่วย People's Bank of China นายJin Qi และรองประธานธนาคารกลางรัสเซียนายDmitry Skobelkinได้มีการเจรจากันที่เซี่ยงไฮ้เพื่อที่จะร่วมมือกันทางธุรกรรมการเงินที่ไม่เอาดอลล่าร์สหรัฐฯ ความร่วมมือนี้จะเกี่ยวข้องกับการปล่อยกู้โครงการ หรือการค้าโดยใช้หยวนหรือรูเบิ้ล รวมทั้งความร่วมมือทางบัตรธนาคาร ประกันภัย และการกำกับดูแลสถาบันการเงิน

พูดง่ายๆ ธนาคารกลางของจีนและรัสเซียเจรจาการค้าการเงินกันโดยการใช้หยวนและรูเบิ้ลมาแทนดอลล่าร์ ระบบเปโตรดอลล่าร์กำลังจะพังในอีกไม่นาน

และกลางเดือนมิถุนายน 2014ที่ผ่านมา สหรัฐฯต้องช๊อคเมื่ออังกฤษเปิดประตูบ้านต้อนรับนายกรัฐมนตรีของจีนนายหลี เค่อเฉียง เพื่อลงนามการค้าการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศโดยใช้เงินหยวนและเงินปอนด์ในธุรกรรมการเงิน และจะไม่มีเงินดอลล่าร์สหรัฐฯมาเกี่ยวข้อง

พูดง่ายๆ อังกฤษดัมพ์เปโตรดอลล่าร์ทิ้งแล้ว เพราะเห็นว่ายุคของดอลล่าร์กงเต๊กจบไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะอุ้มชูดอลล่าร์อีกต่อไป ปล่อยให้ US Federal Reserveพิมพ์เงินจนดอลล่าร์พังไปเองคามือ

เมื่อมหาอำนาจอย่างจีนจับมือกับมหาอำนาจอย่างรัสเซียล้มบ่อนLas Vegasไม่เอาชิปดอลล่าร์ และเพื่อนรักUncle Samอย่างอังกฤษประกาศถอนหุ้นจากบ่อนLas Vegasไม่เอาชิปดอลล่าร์เหมือนกันเพื่อปกป้องCasino Royaleที่ใช้ปอนด์ แล้วบ่อนLas Vegasจะอยู่ได้อย่างไร?

ถ้าต้องการอย่างนั้นได้เลย สงสัยคงจะตะลุมบอนกัยช่วงท้ายปี เพราะว่าบ่อนLas Vegasเจ้งหมดตัวแล้ว

thanong
28/6/2014




'บริษัทน้ำมัน' แอบเจาะหลุมที่นาชาวบ้านแฉ/"ปิยสวัสดิ์-เมีย อสรพิษร้ายพลังงานไทย/ ใจถึงๆหน่อยบิ๊กตู่

Post by 1,000,000 Clips รวมคลิปเด็ด.

'บริษัทน้ำมัน' แอบเจาะหลุมที่นาชาวบ้าน..!!!


ข้อความ: พนักงานบริษัทน้ำมันทำการเจาะหลุมเพื่อวางระเบิดเพื่อทำแผนที่บ่อน้ำมันใต้ดิน หรือ Seismic Survey ชาวเจ้าของที่ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับผืนนาของตนเอง จนต้องตะโกนถามเจ้าหน้าที่ว่า "ใครอนุญาติให้เจาะ?"

จากยูทูปของคุณ กาญจนา บุญกองชาติ โดยเขียนบรรยายว่า
"หลังจากชาวบ้านบุรีรัมย์ได้ไปยื่นหนังสือใ­ห้ผู้การทหารบกจังหวัดบุรีรัมย์ในวันที่19 เช้า20 บริษัทสำรวจปิโตเลียมแปลง31/50ก็ยังละเมิด­สิทธิ์ชาวบ้านลุยนาข้าวไปเจาะเพื่อวางระเบ­ิดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ ชาวบ้านได้เกกณ์คนออกมาช่วยขับไล่แบบนี้เรื่อยๆ เป็นเรื่องน่าเบื่อมาก" ขอขอบคุณ คุณ กาญจนา บุญกองชาติ ครับ
แปลงปิโตรเลียม L31/50 นี้ รัฐออกในช่วงปี 2550 (รัฐบาลรักษาการ)
พื้นที่จังหวัดบุรีรัมภ์ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ และ มหาสารคาม
ชาวบ้านเจ้าของทรัพยากรก๊าซและน้ำมันตัวจริงไม่เคยรู้เลยว่าในผืนนาตนเองมีทรัพย์ของแผ่นดินมูลค่ามหาศาล ทั้งที่รัฐได้ระบุไว้ในเอกสารสรุปเกี่ยวกับสัมปทานรอบที่ 20 ในแปลงนี้ว่าเป็นพื้นที่นี้มีศักยภาพปิโตรเลียมปทานกลางถึงสูง
ถ้ารัฐมิเคยตระหนักว่า ประชาชนเป็นเจ้าของทรัพยากรที่แท้จริง นโยบายบริหารจัดการเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนย่อมไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้ เพราะรัฐซึ่งแท้ที่จริงเป็นเพียงผู้จัดการมรดกของแผ่นดินก็จะสวมสิทธิ์ของประชาชนเข้ามาจัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ทั้งที่ประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้นสมบัติของแผ่นดินคือสมบัติของประชาชน
การใช้สิทธิ์ขาดในการแจกสัมปทานโดยไม่เคยฟังเสียงอันแท้จริงของราษฎร จึงขัดต่อพระราชปณิธานของรัชการที่ 7 ในการพระราชทานประชาธิปไตย
ดังความว่า “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของ ข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดย สิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของราษฎร”
พระราชปณิธานของพระองค์ยังดังก้องอยู่ในใจของข้าพระพุทธเจ้าเสมอมา ขอพี่น้องคนไทยร่วมกันปฏิรูปทรัพยากรพลังงานไทย คืนประชาธิปไตยที่แท้จริงสู่ปวงชนชาวไทย เพื่อความสงบ ความร่มเย็น และความเจริญที่ยั่งยืนของประเทศไทยตลอดไป...@คุยกับหม่อมกร









หมอนิด กิจจา ทวีกุลกิจ

ใจถึงๆหน่อยบิ๊กตู่
...เอาให้จริง ฟันให้ขาด การที่จะทำงานใหญ่ “ใจต้องกล้า” ยิ่งทำเพื่อประเทศชาติ และประชาชน (ถ้าตั้งใจทำจริง) “บิ๊กตู่” ต้องใจถึงๆหน่อย ที่ผ่านมา นักการเมือง และ ข้าราชการ ตัวไหนที่โกงกิน ทุจริต-คอร์รัปชั่น “บิ๊กตู่” ก็รู้ๆอยู่ ต้องลากตัวมันทุกตัว เอามันมาตัดหัวประจาน เอามันมาติดคุกอย่างน้อย 20 ปีถึงตลอดชีวิต ตามยึดทรัพย์มันให้หมด อย่ามัวแต่หยอดคำหวานโชว์ความเป็นแมนเพียงอย่างเดียว อย่าทำแต่เรื่องบ่อน เรื่องจัดคิว จัดวิน เรื่อง “ขี้ตีน” พวกนี้ แค่นี้ปล่อยให้เด็กๆมันทำไป เพียงยืนดูเด็กๆมันทำก็พอ ถ้าเด็กคนไหนทำไม่ได้ ทำไม่ดี ก็ย้ายมันออกไปเสียก็หมดเรื่อง

บิ๊กตู่ ต้องเล่นของใหญ่ ต้องใจถึงพึ่งได้ (เป็นที่พึ่งของประชาชน) เล็กๆมิต้าไม่ ใหญ่ๆมิต้าทำ...ในยามนี้ บิ๊กตู่ มีอำนาจล้นฟ้า หมายังไม่กล้าหอน คนยังไม่กล้าเห่า แต่ดูเหมือน บิ๊กตู่ เอาแต่ไหว้ครู ไม่ออกหมัดเด็ดสักที....ประชาชนเทใจให้ บิ๊กตู่ ทั้งประเทศ เชียร์บิ๊กตู่กันทั้งแผ่นดิน แต่ไม่เห็นบิ๊กตู่ชักดาบออกมาฟัน พวกทุจริต-คอร์รัปชั่น ให้เห็นสักราย...เจ๊ ด. ตัวแดก ยังเสวยสุข ไม่ร้อน ไม่หนาว...ทั้งๆที่มันแดกเงินทุจริต-คอร์รัปชั่น ทั้งสมัยลำไย มันก็โกงหลายหมื่นล้าน (ป๋าเหนาะ ออกมาแฉเอง) ทั้งโครงการรับจำนำข้าว ทั้งรับใต้โต๊ะทุกโครงการ โครงการละ 30 เปอร์เซ็นต์  บิ๊กตู่ ทำไมจึง ฉี่เงียบ....ไอ้ ธาริดสีดวง มันระยำแค่ไหน คนเขารู้กันทั้งประเทศ บิ๊กตู่ ทำไมมองไม่เห็นความระยำของมัน...ทนายแผ่นดินบางคน ช่วยคนผิด แต่เล่นงานคนบริสุทธิ์ คนอย่างนี้ยังจะเลี้ยงไว้ให้หนักแผ่นดินอีกหรือ?...น่าจะจัดการขั้นเด็ดขาด เอาตัวพวกนี้ยัดคุกให้หมด เพื่อจะได้เป็นเยี่ยงอย่าง ให้คนรุ่นต่อไปไม่กล้าทำผิดอีก...ถ้ามีความจริงใจ-ตั้งใจ ที่จะปราบทุจริต-คอร์รัปชั่น ต้องจัดการพวกนี้ให้เห็นก่อนเป็นอันดับแรก...บิ๊กตู่ ต้องกินดีหมี หัวใจเสือ จึงสามารถจัดการพวกนี้ได้สำเร็จ...บิ๊กตู่ ต้องเลิกกินหอย อย่างเด็ดขาด เพราะหอยเป็นของแสลง


บิ๊กตู่ อย่าคำรามเหมือนท่อไอเสีย เสียงดังแต่วิ่งไม่ออก เสียแรงเปล่า ถ้าทำไม่ได้ หรือ ไม่กล้าทำ...ลองแต่งตั้ง “หมอนิด” มาเป็น “นายก” สักเดือน-สองเดือน หมอนิด จะทำให้ดู จะกวาดพวกเลวๆ-ชั่วๆ ให้เหี้ยน แผ่นดินไทยจะสูงขึ้นทันทีบิ๊กตู่ อย่าใจปลาซิว อย่าให้ประชาชนผิดหวัง เพราะประชาชนคาดหวังไว้เยอะ แต่ไม่เห็น บิ๊กตู่ ลงมือจัดการพวกคนชั่ว คนเลวสักราย หรือจะรอให้พวกมันฟื้นก่อน?

อย่าไปสนไอ้กัน เพราะตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 เป็นต้นมา พรรคไอ้แม้วเป็นรัฐบาลมาตลอด มีพรรคคนรูปหล่อ บ่มิไก๊ เข้ามาเป็นรัฐบาลโหลยโท่ย ประมาณ สองปีเศษ...ไอ้กัน ทำไมไม่ประกาศเรื่องไทย “ค้ามนุษย์”....ดันมาประกาศตอนที่ “บิ๊กตู่” เพิ่งเข้ามาเพียงเดือนเศษ มันหมายความว่ายังไง ถ้าไม่ใช่ไอ้แม้วอยู่เบื้องหลัง...เลิกสัมพันธ์กับไอ้กันไปเหอะ หันไปจับมือกับประเทศจีน และรัสเซีย และประเทศอื่นๆที่ไม่ใช่ยุโรป ดูว่าไอ้กันจะเต้นหรือไม่?...ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ มีทั้งข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน อ้อย มันสำปะหลัง และบ่อน้ำมัน รวมทั้งแร่ทองคำ แร่ชนิดอื่นๆอีกมากมาย...รับรองคนไทยไม่อดตาย ไอ้กันใหญ่เพียง “กระดอ” เท่านั้น แต่ใจมันเท่า “หีมด” ประเทศมันเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอด มันทำกร่างทำใหญ่ไปทั่วโลก ทำตัวเป็นตำรวจโลก ทำตัวเป็นศาลโลก เที่ยวมาตัดสินประเทศอื่น

การเมืองประเทศไทย มีแต่การซื้อตัวนักการเมือง มีการซื้อเสียงทุกครั้ง มีการทุจริต-คอร์รัปชั่นรุนแรง แม้แต่ข้าราชการหลายหน่วยงานก็กินตามน้ำ รับสินบน กินใต้โต๊ะ เล่นเส้นเล่นสาย ทำตัวเป็นขี้ข้านักการเมือง...อบต. อบจ. สก. สท. รวมถึง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนมาก “เหี้ย” มาเกิดทั้งนั้น ใครกล้าสาบานบ้างว่า “ไม่เคยโกง” อาจจะมีบ้างแต่คงไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่โกง....ประเทศไทยต้องปรับจูนใหม่หมด ตั้งแต่หัวยันหาง...หน่วยราชการบางแห่งใครจะขึ้นตำแหน่ง ต้องจ่ายเงินถึงจะสอบติด...ประเทศไทยต้องรื้อโครงสร้างใหม่หมด ระบบอุปถัมภ์ต้องหมดไป คนเก่งคนดีต้องได้ดี ที่ผ่านมา คนเลว คนเหี้ยกลับได้ดี...ข้าราชการผู้หญิงบางคนต้องจำใจพลีร่างเพื่อตำแหน่ง... ข้าราชการใหญ่ (ผู้ชาย) เวลาไปตรวจงานต่างจังหวัด ข้าราชการจังหวัดนั้นๆ จะหา “อีหนู” อาจจะเป็น นิสิต-นักศึกษา ที่หาลำไพ่ ไว้ให้ข้าราชการผู้ใหญ่ “เอา” นี่คือเรื่องจริง สาบานได้ว่าเป็นความจริง / จบภาคที่สาม

หมอนิด กิจจา ทวีกุลกิจ
27 มิ.ย.2557



คืน ปชต.หลังปฏิรูปการเมือง/เราไม่เคยเป็นขี้ข้าต่างชาติ



●ปัดกองทัพวางแผนยึดอำนาจล่วงหน้า คืน ปชต.หลังปฏิรูปการเมือง

พล.ท.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ให้สัมภาษณ์บีบีซี “กองทัพเป็นของคนไทยทุกคน ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง”

บีบีซี สัมภาษณ์ พล.ท.ฉัตรเฉลิม รองเสธ. ทหารบก ยืนยันกองทัพไทยไม่ได้วางแผนทำรัฐประหารเข้ามาคุมอำนาจบริหารประเทศไว้ล่วงหน้า พร้อมชี้แจง คสช.ปฏิบัติต่อบรรดาผู้ถูกเรียกมารายงานตัวเป็นอย่างดี...

เมื่อ 26 มิ.ย. สำนักข่าวบีบีซี สื่อยักษ์ใหญ่ในอังกฤษ รายงานการให้สัมภาษณ์ของพล.ท.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รองเสนาธิการทหารบกของไทย กับโจนาธาน ฮีด ผู้สื่อข่าวบีบีซี เกี่ยวกับข่าวลือและความจำเป็นที่กองทัพไทย นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกทำรัฐประหารเข้ามาคุมอำนาจบริหารประเทศตั้งแต่เมื่อ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา โดย พล.ท.ฉัตรเฉลิมได้ปฏิเสธกรณี
ที่มีข่าวลือออกมาว่า กองทัพได้มีการวางแผนล่วงหน้าที่จะเข้ามายึดอำนาจบริหารประเทศ พร้อมกับกล่าวว่ากองทัพไทยเป็นของประชาชนชาวไทยทุกคน ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

“มาจนถึงวันนี้ เท่าที่ผมรู้ไม่มีการวางแผนทำรัฐประหารไว้ล่วงหน้า”พล.ท. ฉัตรเฉลิม กล่าวยืนยันกับ โจนาธาน ฮีด ผู้สื่ออข่าวบีบีซี พร้อมชี้ว่า ถ้ามีการวางแผนจะกระทำในเรื่องผิดกฏหมาย ทำไมการยึดอำนาจจึงเป็นไปอย่างราบรื่น

ส่วนข้อสงสัยกรณีกองทัพเรียกบรรดาแกนนำหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง จำนวนหลายร้อยคนมารายงานตัว ซึ่งบางคนต้องถูกควบคุมตัวเป็นเวลาหลายวันนั้น พล.ท.ฉัตรเฉลิม ชี้แจงว่า บรรดาคนที่ถูกควบคุมตัวเหล่านั้นได้รับการปฏิบัติอย่างดี ได้พักอยู่ในสถานที่ที่เป็นเหมือนบ้านพักรับรอง ไม่ใช่อยู่ในเรือนจำ หรือมีรั้วลวดหนามไฟฟ้าคอยป้องกันไม่ให้หลบหนี โดยพล.ท.ฉัตรเฉลิม ยังกล่าวว่า ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช.ได้พากลุ่มสิทธิมนุษยชนมาดูสถานที่ควบคุมตัวไปแล้วว่าเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตาม พล.ท.ฉัตรเฉลิม กล่าวถึงอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และตระกูลชินวัตรของเขาที่เป็นต้นเหตุของความขัดแย้งในสังคมไทยว่า สามารถจะหวนกลับมามีอำนาจทางการเมืองในประเทศไทยได้อีก หลังจากคสช.ปฏิรูปการเมืองในประเทศเสร็จเรียบร้อย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวบีบีซี รายงานถึงเหตุผลที่กองทัพยึดอำนาจบริหารประเทศว่า เป็นเพราะต้องการจะทำให้ประเทศไทยกลับมามีเสถียรภาพ หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองและสังคมมานานหลายเดือน โดยให้คำสัญญาว่าจะหวนกลับสู่ประชาธิปไตย เมื่อได้ดำเนินการปฏิรูประบบการเมืองในประเทศเสียก่อน ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่ากองทัพตัดสินใจเข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ในนาทีสุดท้าย เพื่อหยุดยั้งไม่ให้ประเทศชาติเกิดอันตราย และการขัดแย้งทางการเมืองนำไปสู่การเกิดเหตุรุนแรง

ขณะเดียวกัน บีบีซี รายงานด้วยว่า บรรดาผู้สนับสนุนกองทัพไทยทำรัฐประหารนั้น เพราะเห็นว่า อดีตรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกบงการโดยทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเคยเป็นนายกรัฐมนตรี และถูกกองทัพทำรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปี 2549 และต่อมาเขาได้ลี้ภัยไปอยู่ต่างแดน หลังถูกศาลตัดสินกระทำความผิดในคดีคอรัปชั่น

บีบีซี ชี้ว่า ตระกูลชินวัตรได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่ง จากชาวชนบทและประชาชนทางภาคเหนือของประเทศ จึงทำให้ตระกูลชินวัตรชนะในการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา ขณะที่ชนชั้นกลางส่วนใหญ่ และบรรดาคนในเมืองต่อต้านตระกูลชินวัตร เพราะเห็นว่า สามารถชนะการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยมาได้ จากการใช้เงินที่มาจากการทุจริตคอรัปชั่น

# ไทยรัฐ # 26-06-2557


 
การตัดความช่วยเหลือทางการทหาร รวมถึง 'คอบร้าโกลด์' ที่สหรัฐฯขู่จะย้ายไปฝึกที่อื่น หากไม่เร่งคืนประชาธิปไตย หลายคนยังอาจสงสัย การฝึกร่วมทหาร คอบร้าโกลด์คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร

อ่านต่อ http://www.thairath.co.th/content/432196







ถาวร แนะ คสช.อย่าสนใจ สหรัฐฯ ชี้ เราไม่เคยเป็นขี้ข้าต่างชาต!!!!!
MThai News

ถาวร เสนเนียม ระบุ ไทย-สหรัฐ บริบท ประชาธิปไตยต่างกัน ขอ คสช.อย่าไปง้อ-แค่เงินช่วยเหลือเล็กน้อย แลกกับความสงบในประเทศไม่ได้ เชื่อ คนไทยทั้งแผ่นดิน หนุน คสช.แก้ปัญหาชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่ทางการสหรัฐอเมริกา ตัดความช่วยด้านความมั่นคง ต่อกองทัพไทย เป็นจำนวนเงินประมาณ 4.7 ล้าน และพร้อมเล็งย้ายสถานที่ฝึกคอบบร้าโกลด์ ไปประเทศอื่น และจะตัดความช่วยเหลือด้านความ มั่นคงอีก 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 150 ล้านบาท วานนี้ 25 มิ.ย. ว่า ตนขอให้กำลังใจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศ

การที่สหรัฐฯ จะตัดความช่วยเหลือด้านความมั่นคง 150 ล้านบาท ถือเป็นเงินเล็กน้อยหากเทียบกับความสงบสุขที่จะได้คืนมา เราต้องมองในมุมบวกว่าประเทศไทยที่อยู่ได้โดยไม่เป็นขี้้ข้าต่างชาติ ก็เพราะพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ ทหาร และประชาชนคนไทย

ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องไปง้องอนสหรัฐฯ แต่สิ่งสำคัญคือ คสช. ต้องเร่งสร้างความเข้าใจ ในปัญหาที่เราประสบ และประชาธิปไตยแบบไทยกับสหรัฐฯ ที่มีบริบทพื้นฐานสังคมแตกต่างกัน และต้องระบุว่าภารกิจที่ต้องเร่งสะสางปัญหาที่หมักหมมมานานคืออะไร ตนในฐานะนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งยอมรับและเข้าใจได้ และเชื่อว่าประชาชนคนไทยทั้งประเทศ คงจะเห็นด้วยกับการสะสางปัญหา และพักปัดกวาดบ้านช่องในครั้งนี้
 
 

คมชัดลึกออนไลน์

'บวรศักดิ์' แนะจุดเริ่มปฏิรูปให้สำเร็จต้องหาต้นเหตุของปัญหา-นำผลสำรวจเดิมมาพิจารณา ไม่ควรเริ่มต้นจากศูนย์

26 มิ.ย.57 นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวเปิดงานสัมมนา เพื่อนำเสนอประเด็นอภิปราย การปฏิรูปประเทศไทย : ดุลแห่งอำนาจ ตอนหนึ่งว่า กรณีที่ประเทศไทยต้องมาพูดถึงการปฏิรูปประเทศไทยซ้ำซาก เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกเหนื่่อย แม้จะเหนื่อยจำเป็นต้องพูดเพราะปัญหามีอยู่จริง อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าการปฏิรูปควรเริ่มจากการสำรวจความรู้ที่มีอยู่ว่าที่ผ่านมามีการคิดหรือเสนออะไรกันมาบ้างแล้ว ไม่ใช่การคิดจากศูนย์ ดังนั้นกรณีที่จะเสนอเรื่องใดนั้น ต้องหาสาเหตุของปัญหาแล้วแก้ไขที่สาเหตุถึงจะสามารถแก้ไขได้

"ผมได้ยินข้อเสนอที่น่าสนใจคือการเสนอให้เลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรงแต่ถามว่าเรื่่องดังกล่าวเป็นปัญหาของการเมืองไทยหรือไม่ผมจึงถามว่ากรณีเสนอเรื่องนี้เพราะกลัวคนที่มีอำนาจมากเกินไป จนควบคุมไม่ได้ หรือกลัวคนไม่มีอำนาจ ประเด็นของการเลือกนายกฯ โดยตรงเพื่อทำให้เกิดความอ่อนแอลงหรือไม่ ประเด็นปฏิรูปใครจะเสนออะไรก็ได้เพราะเป็นเสรีภาพ แต่คิดว่าการหาสาเหตุของปัญหา ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาได้" นายบวรศักดิ์ กล่าว




คุณกนก ฝากถึง จอห์น แครี่ และ คริสตี้ เคนนีย์

เราเคยบอกนายแล้ว จอห์น แครี่ และ คริสตี้ เคนนีย์ ประเทศคุณมีธงชาติหนึ่งผืน
ประเทศไทยของผมก็มีธงชาติหนึ่งผืน เวลาอันเชิญธง เราก็ต่างเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสาเช่นกัน ธงชาติสหรัฐอเมริกา...ก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าธงชาติอื่น เสาธงของคุณ...ไม่ได้สูงกว่าชาติใดในโลก...แต่เจ็ดเดือนที่ผ่านมาธงชาติไทยต้อง "เปื้อนเลือด" ของวีรชนผู้เรียกร้องความชอบธรรมและประชาธิปไตยที่แท้จริง...ไม่ใช่กลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยบังหน้า แต่ปลุกระดมเพื่อช่วยเหลือนักโทษหนีคดี
ถ้าทหารไม่ออกมาช่วยกำกับทิศทาง ไปสู่การปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง คุณรู้ไหม..? เราจะต้องเสียเลือดเนื้อของคนชนบท คนเมือง นักศึกษา เด็กๆ และชาวนา อีกสักเท่าใหร่  ประเทศไทยจะไม่พบชะตากรรมแบบนี้ ถ้าประเทศอย่าง พวกคุณ ไม่ให้ท้ายนักการเมืองชั่วมีที่ยืน สหรัฐ...ถ้าคุณเป็นเพื่อนของเราจริง คุณหายหัวไปไหนมาตลอดเจ็ดเดือนที่ธงชาติไทยเปื้อนเลือด..?
  
Somkiat Osotsapa
สหภาพยุโรปกับไทย ความลับทีต้องแฉ

ผมไปฮอลิเดย์สามวัน ครับ สดชื่นกลับมา

สหภาพยุโรป หรืออียู บอกว่าจะลดความร่วมมือทางการทหารกับไทยหนื่ง จะไม่เซ็นต์สัญญาที่เรียกว่า Partnership and Cooperation Agreement อีกหนื่ง ผมก็ไม่ได้วิตกอะไร แต่มีหลายคนตกใจแตกตื่น หุ้นตก จะอธิบายให้ฟัง

ความลับที่ไม่ลับของอียู

1.  อียูมีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ ต้องการทำสัญญาเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับอียู อย่างยิ่งยวด เรียกว่าอนาคตทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปจะฟื้นหรือไม่ ขื้นอยู่กับไทย

ถ้ามาแซงค์ชั่นไทย ไทยก็คงไม่เจรจากับอียูเรื่องนี้้ ไทยเป็นเส้นทางระบายสินค้าเข้าสู่ตลาดอาเซียน ไทยเป็นประเทศสำคัญมากๆ ไม่งั้นอียูไม่เอากรุงเทพเป็นฐานหลักดอก เมื่อไม่สามารถทำข้อตกลงการค้าเสรีในเอเซียได้ เศรษฐกิจยุโรปพังยาวแน่นอน

 2.  ทำไมเศรษฐกิจอียูจืงพัง แข่งไม่ได้ ก็เพราะไทย อาเซียนมีข้อตกลงการค้าเสรีกับญี่ปุ่น จีน เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ประเทศเหล่านี้ค้าขายกันด้วยภาษีที่ต่ำมาก ปัจจุบันการค้าไทยกับยุโรปลดลงเหลือแค่ 10% กับอเมริกาก็10%

ประชาคมโลกที่สำคัญในการค้าขายของไทยคือ เอเซียที่กำลังรุ่งเรืองครับ ไทยมีส่วนแบ่งการค้าในตลาดโลกแค่หนื่งเปอร์เซนต์ ไม่มีของขายให้คนทั้งโลก

อียู อเมริกาเข้ามาขายของลำบาก เพราะไม่มีสัญญากับเอเซีย ภาษีสูง ค่าขนส่งแพง ดูรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ผลิตซื้อขายกันเองในเอเซีย

ยุโรปจืงต้องง้อไทย กับอาเซียน ไม่ใช่เราไปเรียกร้องให้เขามาทำข้อตกลง Free Trade Area ด้วย แต่เขามาเอง ไม่ได้ไปง้อ เขา... ขอมาเอง เหมือนเพลงพุ่มพวง ดวงจันทร์เลยล่ะ

สินค้าที่เราซื้อยุโรป คือ ส่งเด็กไปเรียน ไปเที่ยว ซื้อไวน์ ซื้อแอร์บัส พนันบอลข้ามชาติ ซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียลีก ซื้อยา อุปกรณ์การแพทย์ นีกำลังคิดจะซื้อหัวรถจักร ระบบรถไฟ เครื่องจักรมากมาย ธุรกิจที่มาลงทุนแปดแสนล้านก็เหมือนกัน ไม่ขายก็ไม่เป็นไรครับ

 3.  เศรษฐกิจยุโรปพังเที่ยวนี้รุนแรงมาก ยุโรปยี่สิบเจ็ดประเทศ มีคนว่างงานมากมายเป็นประวัติศาสตร์ถืง 26 ล้านคน ว่างงานเฉลี่ย 25% บัณทิตจบใหม่
ว่างงานถืง 40% จนอพยพหนีไปอยู่ประเทศอื่นก็มาก มากรุงเทพก็เยอะ

บัณทิตออกซ์ฟอร์ด เคมบริดจ์ว่างงานถืง 10%

คนยุโรปบอกว่า คนรุ่นใหม่คือ unemployed generation ว่างงานมาก ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ยุโรป

ผมเคยเรียน เคยสอนในยุโรป จืงรู้สืกว่ามันตลกที่อียูมาขู่ประเทศไทย ว่าจะไม่ทำสัญญา partnership and co-operation agreement >> pdc

ทีนี้จะอธิบายว่า ไอ้สัญญาข้างต้นที่อียูจะไม่เซ็นต์กับไทยคืออะไร pdc เนี่ย

คือเมื่อหาทางทำสัญญาการค้าเสรีกับอาเซียนไม่ได้ อียูจืงหาวิธีการเข้าตีทีละประเทศ แยกคุยบอกว่าจะให้ความช่วยเหลือ

มีประเทศยากจนสองประเทศคือเวียดนาม กับอินโดไปเซนต์ด้วย สัญญาที่ยุโรปบอกว่าจะไม่เซนต์กับไทยนี่แหละ

เวียดนามจะได้ความช่วยเหลือปีละเก้าพันล้านบาท อินโดได้ปีละสองพันล้าน ส่วนใหญ่เป็นค่าผู้เชี่ยวชาญ ก็บัณทิตที่จบมาแล้วว่างงานจากยุโรปนั้นแหละ

ผมว่า แค่ประเทศไทยอนุมัติโครงการที่ขอลงทุนแปดแสนล้านบาทให้หมด เงินจะหมุนอีกสี่รอบ รวยกว่าเยอะ

อียูก็จ้องจะขายของอยู่ กำลังวิ่งกันใหญ่ทุกบริษัท เอกชนสำคัญกว่ารัฐบาลครับ ขีดเส้นใต้สามเส้น แบบเตรียมสอบ ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร แม่งมีคู่แปด ทะลื่งมาเกทับสี่คิงได้ไง บ้าชะมัด ไอ้ที่บอกว่าจะไม่ร่วมมือทางการทหาร ระงับการเยือน แล้วยังจะขายเครื่องบิน อะไหล่ อาวุธหรือเปล่า ไม่ขายซื้อจีน รัสเซียก็ได้ ขายแน่นอน

ทูตเขาอ้อมแอ้มบอกว่าการค้า การลงทุนเหมือนเดิม ปีนี้ได้ข่าวว่าเด็กไป
ออสเตรเลียน้อยลง อ้งกฤษชอบมาก อังกฤษฉลาด

ผมไม่คิดว่าเรามีสัญญาร่วมรบกับยุโรปที่จะไปบุกรัสเซียน่ะ มันหนาว กองพลบั้งไฟ หน่วยขีปนาวุธของเราปฎิบัติงานลำบาก จุดดินปืนยาก ขีปนาวุธไทยไม่
ำงานในอากาศหนาวขนาดนั้น มีคนถามมาว่า อเมริกาจะร่วมมือกับยุโรป ออสเตรเลีย เล่นไทยหรือเปล่

ไม่ครับ อเมริกาตั้งใจจะทำเขตการค้าเสรี Trans Pacific Cooperation กับเอเซียให้เสร็จก่อนเดือนมิถุนายนปีหน้า จืงมาเร่งรัดเอากับไทย จะให้เสร็จก่อนอียู จืงแข่งกันอยู่ ข้อมูลนี้ลับมาก  55  ส่วนอียูรู้ว่าถ้าอเมริกาได้ทำสัญญาก่อน ตัวเองจนยาวแน่นอน

ออสเตรเลียไม่ต้องการให้อเมริกา กับยุโรปทำสัญญาสำเร็จ อยู่แบบนี้สบายดี ขายของได้ เพราะทำสัญญาเขตการค้าเสรีไปแล้ว ตอนนี้ท่าทีดีขื้นมันแข่งกันอยู่ ผลประโยชน์ขัดกัน ไทยเล่นไพ่ให้เป็นจะชนะ แต่อย่าปล่อยให้ทูตอเมริกา อียูวิ่งไปคุยกับ คสช. พรรคการเมือง  ต้องเอา กระทรวงต่างประเทศเป็นศูนย์
กลางเข้าไว้

ผมสอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งจุฬา ธรรมศาสตร์ ทั้งตรี โท รู้ว่าน้องๆ กต. เอาอยู่แน่นอน ปลัดก็หน้าตาเอาเรื่อง เคยอยู่เจนีวา

อ้อ มติชนก็อย่าเจ๋อมาก รีบรับซีเนียร์ด้าน IR มาสักห้าคน จะได้ไม่เชย ไอ้คนที่วางแผนเอาอียู เมกามาอัดไทยมันไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจระหว่างประเทศ อย่าเชื่อมันมาก

ทหารอย่าไปเจรจาเป็นอันขาด ผมเคยสอนทหารมาเยอะจืงรู้ว่าไม่รู้อะไร รู้อะไร เก่งด้านไหน ราชสำนักก็ไม่ควรรับการติดต่อครับ จะตกใจกลัว เสียเกมส์

ผมเข้าใจอียูดี ตอนเขียนหลักการของอียู ตอนนั้นรวยมาก ราว สี่สิบปีที่แล้ว

ประเทศที่จะค้ากับฉันต้องเป็นประชาธิปไตย ต้องมีสิทธิมนุษยชน ต้องจ่ายค่ายาแพงเพราะมาดามคูรี่คิดค้นมายาก ต้องบริหารแรงงานให้ได้แบบยุโรป ต้องสะอาดมากๆ ต้องใส่สูท และนับถือท่านอีราสมุส 555 euro centric ยุโรปเป็นศูนย์กลางจักรวาล

ผู้ดียุโรปตอนนี้้คนเขาไม่กล้าคบ ค้าขายด้วย เพราะหลักการชีวิตท่านสูงส่ง ท่านจืงยากจนมาก ของท่านขายไม่ออก ก็ต้องปล่อยให้ลูกหลานท่านว่างงาน อดอยาก ถ้าไม่รู้จักโลกที่เป็นจริง ไม่รู้จักปรับตัว โลกยุคนี้ต้องเป็น realist ไม่ใช่ idealist

เออ ถามจริง เวียดนามที่อียูไปเซนต์สัญญาด้วย เป็นประชาธิปไตยมากกว่าไทยหรือ พม่าที่อียูพยายามเข้าไปจะเลือกตั้งปี  2515 อองซานซูจีลงสมัครไม่ได้ มัน inclusive ตรงไหนกัน

ทำไมหลายมาตรฐาน ไปค้ากับกลุ่มมิดเดิลอีสท์ เขาประชาธิปไตยแบบยุโรปหรือ เลือกตั้งชี้ค อิหม่ามหรือเปล่า แต่ไปคบกับเขาจะเอาน้ำมัน จีนเป็นประชาธิปไตยอย่างไรเข้าไปเพราะจะขายของใช่ไหม รัสเซียเป็นประชาธิปไตยไหม มีนิวเคลียร์ บุกยูเครนด้วย ต้องการแก๊สใช่ไหม

ไทยประชาธิปไตยกว่าเยอะ ดูดัชนีกันได้เลย อย่ากลัว การแซงค์ชั่นจากยุโรปครับ คนยุโรปเข้าใจ ประชาชนเข้าใจ  รัฐบาลประเทศสมาชิกเข้าใจ แต่องค์กรรวมที่เรียกว่าอียูทะลื่งไปเขียนอุดมการณ์ไว้สูงไป  จืงต้องเต้นโขนตามบท เต้นเสร็จต้องถอดหัวโขนมากินข้าวเหมือนชาวบ้านทั่วไปน่ะแหละ   เดือนหน้าจะมีประชุมกับอาเซียนเขาขอร้องให้ไทยไปประชุมให้ได้

คิดถืงทุกคนนะครับ

MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY